รีวิวขับรถเที่ยวทั่วเกาะคิวชู วันที่ 4 เที่ยวช่องเขาทาคาชิโฮะ และภูเขาไฟอะโซะ


รีวิวขับรถเที่ยวญี่ปุ่น ตะลอนทั่วเกาะคิวชู วันที่ 4 วันนี้เราจะไปเที่ยว 2 แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของเกาะคิวชูกัน นั่นก็คือ ช่องเขาทาคาชิโฮะ(Takachiho) และภูเขาไฟอะโซะ(Aso) ที่บอกได้เลยว่าสวยงามสมชื่อจริงๆ

รีวิวขับรถเที่ยวทั่วเกาะคิวชู วันที่ 3 เที่ยวจังหวัดมิยาซากิ เมืองปราสาทโอบิ รูปปั้นโมอาย ศาลเจ้าริมทะเล

เส้นทางการขับรถเที่ยวของเราวันนี้เราออกจากโรงแรมที่กลางเมืองนาเบะโอกะ(Nobeoka)ไปที่จุดหมายแรกของช่องเขาทาคาชิโฮะ(Takachiho) จากนั้นก็จะไปที่สถานีกระเช้าขึ้นปากปล่องภูเขาไฟ จากนั้นก็จะขับรถขึ้นเหนือตัดเข้าเมืองอะโซะไปที่พักบริเวณตอนบนของภูเขาไฟอะโซะ(Aso) นอนโรงแรมบรรยากาศดีๆ ที่ชื่อว่า เอลปาติโอแรนช์ (El Patio Ranch)

เส้นทางขับรถเที่ยวเกาะคิวชู วันที่ 4

 

เริ่มต้นตอนเช้าเราออกจากโรงแรม Wing International Miyakonojo ที่เมืองมิยาโกะโนะโจ(Miyakonojo) ซึ่งก็โอเคนะ เราก็ขับรถมุ่งหน้าขึ้นบนกันต่อ โดยจุดหมายแรกของวันนี้คือ ช่องเขาทาคาชิโฮะ(Takachiho-Gorge) ระหว่างทางที่ขับรถบริเวณเกาะคิวชูนี้มาหลายวัน ถนนดีมาก ส่วนใหญ่จะวิ่งตรงๆ จะไม่ได้ทำถนนแบบคดเคี้ยวไปตามรูปภูเขาแบบบ้านเรา แต่จะตัดถนน ทะลุภูเขาเป็นอุโมงค์หรือข้ามสะพานระหว่างภูเขาแทน  ทำให้การขับรถนั้นง่ายและน่าจะปลอดภัยมาก เพราะจะขับตรงๆ ไม่มีโค้งหักซอกเลย นอกจากจะเป็นถนนเข้าสถานที่ท่องเที่ยว หรือว่านี่จะเป็นตัวบอกความเจริญอีกอย่างหนึ่งหรือเปล่านะ

วิวระหว่างทางที่ขับรถ สะพานข้ามช่องเขาที่สูงมาก

วิวระหว่างทางที่ขับรถ ถ่ายจากใต้สะพานที่ข้ามระหว่างช่องเขาที่สูงมากๆ

เส้นทางถนนที่ญี่ปุ่นตัดภูเขาเป็นอุโมงค์มากมาย

 

จากบริเวณที่จอดรถที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ(Takachiho)จะมีทางแยกไปสองทางคือทางที่เดินลงบันไดไปบริเวณท่าเรือที่จะมีเรือพายให้เช่า และอีกทางสำหรับไปที่ทางเดินเรียบช่องเขา เราตัดสินใจว่าจะไปพายเรือเล่นกันก่อนเพราะกลัวคนจะเยอะ ซึ่งก็ถือว่าตัดสินใจไม่ผิดเพราะเราได้เรือลำสุดท้ายพอดีไม่ต้องรอ แต่ตอนที่เราพายเอามาคืนเห็นคนรอกันอยู่เต็มบริเวณเลย

ที่เช่าเรือจะให้เราพายไปจนสุดธารน้ำซึ่งจะไม่สามารถไปต่อได้ จากนั้นก็วนกลับมาทางเดิม ระยะทางไม่ไกลมากแต่พายเล่นๆเพลิน ถ่ายรูปไปด้วยก็กินเวลาไปเยอะพมสมควรน่าจะเกือบชั่วโมงได้ตอนเอาเรือมาคืน ในธารน้ำจะมีฝูงเป็ดกับอาหารเป็ดขายไว้สำหรับให้อาหารมันด้วย ระหว่างทางที่พายจะผ่านน้ำตกมินาอิโนทาคิ(Minainotaki)ที่สูงมาก คาดว่าถ้ามาในหน้าน้ำเยอะ คงจะเปียกกันแน่ๆ

ช่วงที่ไปเป็นฤดูใบไม้แดง ถึงจะยังไม่แดงเต็มที่แต่ก็มีให้เห็นบ้าง ทำให้บรรยากาศที่ช่องเขานี้ยิ่งสวยงามขึ้นไปอีก

เป็ดพุ่งมากินอาหารแบบเต็มสปีด

ฝูงเป็ดรุมกินอาหารกันที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ Takachiho kyo

ฝูงเป็ดรุมกินอาหารกันที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ Takachiho kyo

ฝูงเป็ดรุมกินอาหารกันที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ Takachiho kyo

บรรยากาศ น้ำตกมินาอิโนทาคิ(Minainotaki) ตอนพายเรือที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ Takachiho

บรรยากาศตอนพายเรือที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ Takachiho

บรรยากาศตอนพายเรือที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ Takachiho

บรรยากาศระหว่างพายเรือที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ หยั่งกับในหนัง lord of the ring

บรรยากาศตอนพายเรือที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ Takachiho

 

หลังจากพายเรือกันเสร็จ เราก็เดินกลับขึ้นมาที่บริเวณลานจอดรถใหม่เพื่อจะเดินไปยังทางเดินเรียบช่องเขา ซึ่งจะได้วิวมุมสูง ที่สวยงามแตกต่างกันกับตอนพายเรือเลย ทางเดินนี้จะเดินเรื่อยๆไปจนถึงบริเวณที่เป็นเหมือนสวน มีร้านค้าร้านอาหาร ซึ่งถ้าเดินตามถนนไปต่อจะสามารถเดินไปที่ศาลเจ้าทาคาชิโฮะ(Takachiho Jinja)ได้ด้วย แต่เราหิวกันซะก่อนเลยต้องแวะชิม ที่ร้านบริเวณนี้ ว่าแล้วมาดูวิวและบรรยากาศของทางเดินเรียบช่องเขาทาคาชิโฮะกันบ้างดีกว่า

บรรยากาศระหว่างทางเดินที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ Takachiho

บรรยากาศระหว่างทางเดินที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ Takachiho

บรรยากาศระหว่างทางเดินที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ Takachiho อาคารสีเขียวที่เห็นทางซ้ายล่างคือร้านที่เรากินกัน

บรรยากาศระหว่างทางเดินที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ Takachiho

บรรยากาศระหว่างทางเดินที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ Takachiho

น้ำตกมินาอิโนทาคิ(Minainotaki)ที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ Takachiho-kyo

น้ำตกมินาอิโนทาคิ(Minainotaki)ที่ช่องเขาทาคาชิโฮะ Takachiho-kyo

อาหารกลางวันของเราในวันนี้ ข้าวกับปลาในกระบอกไม้ไผ่

 

ที่สุดทางจะมีร้านบะหมี่ ราเมงเย็น ที่เส้นไหลมาตามกระบอกไม่ไผ่ เป็นอีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อของที่นี่ด้วย ใครมีโอกาสไปก็อย่าไปลองกันได้

ร้านขายราเม็งเย็นไหลลงกระบอกไม้ไผ่ที่ทาคาชิโฮะ Takachiho

ร้านขายราเม็งเย็นไหลลงกระบอกไม้ไผ่ที่ทาคาชิโฮะ Takachiho

 

หลังจากกินอิ่มเราก็เดินกลับเส้นทางเดิม มาที่บริเวณจอดรถแล้วจึงขับรถมุ่งหน้าสู่เทือกภูเขาไฟอะโซะ(Aso)  พอเริ่มขับรถเข้ามาในบริเวณของภูเขาอะโซะก็จะพบว่า จากป่าสนเขียวต้นใหญ่หนาทึบ กลายเป็นทุ่งหญ้าสีเหลืองน้ำตาล โล่งกว้างแทน จุดมุ่งหมายของเราคือนั่งกระเช้าขึ้นไปบนปากปล่องภูเขาไฟ ระหว่างทางที่ขับรถไปถ้ามีจุดให้จอดแวะได้ เราก็จอดลงไปถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ เป็นบรรยากาศที่สวยงามแปลกตากว่าที่ไหนๆที่เราไปกันมา และเนื่องจากบริเวณภูเขาไฟอะโซะแทบทั้งหมดจะเป็นทุ่งหญ้าทำให้ผู้คนนิยมทำฟาร์มเลี้ยงวัวหรือม้ากัน

วิวบริเวณเทือกเขาของภูเขาไฟอาโซะ Aso Moutain

วิวบริเวณเทือกเขาของภูเขาไฟอาโซะ Aso Moutain

วิวบริเวณเทือกเขาของภูเขาไฟอาโซะ Aso Moutain

วิวบริเวณเทือกเขาของภูเขาไฟอาโซะ Aso Moutain

วิวบริเวณเทือกเขาของภูเขาไฟอาโซะ Aso Moutain

วิวบริเวณเทือกเขาของภูเขาไฟอาโซะ Aso Moutain

วิวบริเวณเทือกเขาของภูเขาไฟอาโซะ Aso Moutain

วิวบริเวณเทือกเขาของภูเขาไฟอาโซะ Aso Moutain

วิวบริเวณเทือกเขาของภูเขาไฟอาโซะ Aso Moutain

แรคคูนบริเวณทุ่งหญ้าที่ภูเขาไฟอะโซะ Aso

จอดรถซื้อปลาหมึกย่างกิน อร่อยเวอร์ ที่บริเวณที่ขี้ม้า ทุ่งหญ้าคุซะเซนริ(Kusasenri)

 

พอไปถึงบริเวณสถานีขึ้นกระเช้า ก็ปรากฏว่า เค้าปิดไม่ให้ขึ้น ปิดมานานหลายเดือนแล้ว ยังไม่เปิดเลย ก็เลยเดินเล่นกันบริเวณสถานีนี้แทน ก็จะมีพวกร้านขายอาหาร ขายขนม ขายของที่ระลึก แล้วก็มีโรงภาพยนตร์ที่จะจำลองสภาพบนปากปล่องให้เราดูแต่ต้องเสียเงินเพิ่ม ที่จอดรถที่นี่เป็นลานขนาดใหญ่ มากๆ คาดว่าในช่วงวันหยุดคน คงจะมากันเยอะสุดๆเลยทีเดียว เที่ยวถ่ายรูปกันจนมืดเลยกว่าจะไปถึงที่พักของคืนนี้ก็มืดสนิทซะแล้ว โดยโรงแรมที่เราจะค้างคืนกันนี้จะเป็นที่พักสไตล์ คาวบอย ที่อยู่บริเวณเชิงเขา ไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองเหมือนวันอื่นๆ กว่าจะไปถึงก็มืดสนิทมองอะไรไม่เห็นเลย พอไปถึงกะว่าจะกินข้าวเย็นกันที่โรงแรม ก็เกือบแห้วเพราะเค้าไม่ได้เตรียมตัวไว้ แถมคืนนี้มีมีคนเข้าพักแค่ 2 กลุ่มเท่านั้นเอง ทำให้เค้าต้องไปเอาแกงกะหรี่แบบซองมาอุ่นเทลงข้าวให้เรากินกัน รสชาติก็ถือว่าพอไหวนะ ดีกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีก

แล้วก็จบไปหนึ่งวัน ที่มีฝนตกช่วงอยู่ที่ภูเขาอะโซะ ท้องฟ้าครึ้มๆเกือบตลอดทั้งวัน แล้วก็ตกอีกทีตอนกลางคืน อากาศเย็นมาก แต่ได้แช่ออนเซนของที่พัก ซึ่งมีคนพักกันแค่ 2 กลุ่ม ก็ถือว่าส่วนตัวดี ห้องพักก็สวยน่ารัก ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศ ที่นอนโรงแรมตึกสูงมาเป็นเหมือนบ้านคาวบอยที่มีวิวเปิดโล่งกว้างๆกันบ้าง ซึ่งเป็นการดัดแปลงฟาร์มม้าบางส่วนมาเป็นโรงแรมสไตล์แคริบเบียน แบบบ้านดิน โรงแรมสวย วิวสวย แต่ไม่มีรูป ใครสนใจก็ลองเข้าไปดูกันได้ ชื่อว่า เอลปาติโอแรนช์ (El Patio Ranch)

บรรยากาศบริเวณโรงแรม เอลปาติโอ แรนช์ (El Patio Ranch)

ฟาร์มม้าและคอกขี่ม้าของโรงแรม เอลปาติโอ แรนช์ (El Patio Ranch)

 

วันนี้อาจจะไม่ได้เขียนอะไรมากเน้นรูปเยอะๆให้ดูบรรยากาศกัน เพราะสวยงามมากทั้ง 2 ที่เลย ถึงแม้จะไม่ได้ขึ้นกระเช้าที่ภูเขาไฟอะโซะ แต่บอกเลยว่าคุ้มมากที่ได้ไป แล้วอันที่จริงบริเวณภูเขาไปอะโซะยังมีจุดชมวิวให้ไป ซึ่งสวยงามมากกว่านี้อีก เช่น จุดชมวิว เส้นทางสู่ขอบฟ้า(Road to Laputa) และ จุดชมวิว ยอดเขาไดคันโบ (Daikanbo) แต่ว่าเราไม่ได้ไปกัน ใครได้ขับรถไปก็ลองจัดเวลาไปชมกันดูนะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่าน หวังว่าจะชอบกันนะครับ ติดตาม รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นอื่นๆได้ที่นี่


- ที่เที่ยวแนะนำ - จุดชมซากุระ - จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี - เป็นมรกดโลก
Exit mobile version