7 ผลไม้หวานหอม ชุ่มช่ำ ฤดูร้อนของญี่ปุ่น 2567
photos by Emran Kassim from flickr.com/photos/emrank/6985499802( cc by 2.0 )
ช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนสิงหาคม จะเป็นช่วงที่มีผลไม้ออกผลมากกมายหลายชนิดที่สุดของปี โดยผลไม้ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพสูงและรสชาติหอมหวานสดชื่น ที่สำคัญยังมีกิจกรรมเก็บผลไม้ภายในสวนที่ทั้งสนุก สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ และยังได้ลิ้มรสชาติผลไม้สดๆจากต้นในราคาสุดคุ้ม ครั้งนี้เราได้รวบรวมเอาผลไม้ที่ออกผลในหน้าร้อนทั้งหมด 7 ชนิด มาให้เลือกชมกันอย่างจุใจ
1. องุ่น (Grape)
องุ่นมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งจะมีรสชาติ สีสัน และขนาดแตกต่างกับไป โดยสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด คือ องุ่นเคียวโฮมีลูกที่ใหญ่พอๆกับลูกพลัมขนาดย่อมๆ ผิวสีม่วงเข้ม รสชาติหวานฉ่ำ และองุ่นเดลาแวร์ที่ลูกจะมีขนาดเล็กกว่า ไม่มีเมล็ด รสชาติหวานกรอบ ช่วงฤดูร้อนจะมีหลายๆสวนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมและตัดองุ่นสดๆกินกันในสวน โดยคิดราคาประมาณ 1,500 เยนต่อคน(ราคานี้ไม่รวมเอากลับบ้าน เฉพาะกินในสวนเท่านั้น)ราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 400 เยนต่อพวง จังหวัดที่ปลูกองุ่นมากที่สุดของญี่ปุ่น ได้แก่ จังหวัดยามานะชิ และจังหวัดนากาโนะ
2. เชอรี่ (Cherries)
เชอรี่นับว่าเป็นผลไม้ยอดนิยมอีกชนิดในฤดูร้อนของญี่ปุ่น โดยสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด คือ เชอรี่ซาโตะนิชิกิ ผลมีขนาดเล็กเวลาสุกเต็มที่จะมีสีแดงสดรสชาติจะหวานมากๆอมเปรี้ยวนิดๆ และเชอรี่อเมริกันสีแดงอมม่วง รสชาติหวานอมเปรี้ยวกำลังดี ช่วงฤดูร้อนมีการเปิดสวนให้เก็บเชอรี่กันสดๆ เพราะผลไม้ชนิดนี้จะอร่อยสุดคือช่วงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้น โดยคิดราคาประมาณ 1500-2000 เยนต่อคน ส่วนราคาขายเริ่มต้นประมาณ 500 เยนต่อแพ็คและเกรด A อาจมีราคาสูงถึง 10,000 เยนต่อแพ็คเลยทีเดียว จังหวัดที่ปลูกเชอรี่มากที่สุดของญี่ปุ่น ได้แก่ จังหวัดยามางาตะ จังหวัดอาโอโมริ และจังหวัดยามานะชิ
3. ลูกพีช (Peach)
ลูกพีชสายพันธุ์ของญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อเรื่องรสชาติที่ดี ลูกพีชญี่ปุ่นนั้นมักมีขนาดใหญ่ รสชาตินุ่มนวลและมีราคาแพงกว่าลูกพีชตะวันตก โดยสายพันธ์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด คือลูกพีชพันธุ์ฮาคุโฮะที่มีผลอวบสีชมพูอมส้มเนื้อสีขาว รสชาติหวานละมุนอมเปรี้ยวนิดๆ ยิ่งเวลากินสดๆจะได้กลิ่นที่หอมอ่อนๆลอยขึ้นจมูก ผลที่สุกเต็มที่นั้นสามารถปอกเปลือกกินได้ทันที หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายผักและผลไม้ หรือร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วญี่ปุ่น ราคาประมาณ 200 เยนต่อลูก แนะนำให้ซื้อแล้วกินเลยจะให้รสชาติดีที่สุด จังหวัดที่ปลูกเชอรี่มากที่สุดของญี่ปุ่น ได้แก่ จังหวัดยามานะชิ และจังหวัดฟูกูชิม่า
4. เมล่อน (Melon)
เมล่อนญี่ปุ่นจะมีขายตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงฤดูร้อน รสชาติชาติหวาน สีของเนื้อจะมีทั้ง สีส้ม สีเขียว และออกสีขาว ซึ่งจะทำการปลูกในเรือนกระจกเพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพให้ได้ตามมาตรฐาน โดยเมล่อนมีหลายราคาแบ่งตามคุณภาพของสายพันธุ์ “อาทิ อันเดะสึเมล่อน ราคาประมาณ 1,000 เยน ปริ้นซ์เมล่อน ราคาประมาณประมาณ 500 เยน และยูบาริเมล่อน ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาเมล่อนแห่งฮอกไกโด มีรสชาติ หอมหวาน และรูปทรงที่สวยงาม ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ10,000 เยน ไปจนถึง 50,000 เยน บางลูกที่เกรดสูงมากๆราคาอาจถึงล้านเยน” จังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องเมล่อนคุณภาพดีเยี่ยมที่สุดของญี่ปุ่น เมืองยูบาริในเกาะฮอกไกโด ซึ่งเป็นแหล่งปลูกสำคัญของยูบาริเมล่อน จังหวัดที่ปลูกเมล่อนมากที่สุดของญี่ปุ่น ได้แก่ จังหวัดวากายามะ จังหวัดชิซุโอกะ และจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งในช่วงฤดูร้อนจะมีการเปิดสวนให้เก็บเมล่อนในสวน ราคาเริ่มต้นที่ 1,800 – 3,600 เยนต่อคน
5. แตงโม (Watermelon)
แตงโมถือว่าเป็นผลไม้ที่เหมาะสมกับหน้าร้อนสุดๆ จากการที่น้ำเยอะและรสชาติหวานฉ่ำ ยิ่งเอาไปแช่เย็นยิ่งทำให้รสชาติดียิ่งขึ้น ประเทศญี่ปุ่นมีการพัฒนาสายพันธุ์แตงโมมากมาย โดยเฉพาะรูปทรงที่ “อาทิทรงกลม ทรงรี รูปหัวใจ เปลือกสีดำ มีหรือไม่มีลายทาง และมีเนื้อสีแดง เหลือง หรือส้ม” การขายจะมีทั้งแบ่งขายเป็นเสี้ยว ราคาประมาณ 500 เยนต่อชิ้น หรือขายแบบทั้งลูก ราคาประมาณ 1,000-2,000 เยนต่อลูก ญี่ปุ่นมีสายพันธ์แตงโมที่แพงที่สุดในโลกอย่าง “เดนสุเกะ” ที่มีเปลือกสีดำสนิท รสหวานจัด เนื้อเยอะ ปลูกเฉพาะที่ฮอกไกโดเท่านั้น ที่สำคัญไม่มีวางขายทั่วไปจะต้องทำการประมูลเท่านั้น มีราคาสูงสุดถึง 350,000 เยนต่อลูกเลยทีเดียว
6. ส้มคาโบสุ (Kabosu)
ส้มคาโบสุ หรือส้มเขียวหวานญี่ปุ่น มีเปลือกสีเขียว รสชาติหวานๆเปรี้ยวๆส่วนมากไม่นิยมกินผลสด มักจะนำมาแปรรูปเป็นน้ำผลไม้มากกว่า เพราะจะให้รสชาติที่ดีและสดชื่น ผลไม้ชนิดนี้ไม่ได้มีอยู่ทั่วไป แต่จะปลูกส่วนมากในจังหวัดโออิตะ เป็นของขึ้นชื่อประจำจังหวัด
7. สาลี่ (Pear)
สาลี่เป็นผลไม้ที่อยู่ระหว่างปลายฤดูร้อน (เดือนสิงหาคม)ไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วง (เดือนตุลาคม) สาลี่ของญี่ปุ่นจะมีผลขนาดใหญ่ รสชาติหวานกรอบฉ่ำน้ำ โดยสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด คือ สาลี่นิจุสเซกิ เนื้อเรียบ น้ำเยอะ รสชาติหวานกรอบมีเปรี้ยวนิดๆ และสาลี่โฮซุยุ เปลือกสีน้ำตาลอมแดง มีรสชาติหวานมากๆ จะมีการเปิดสวนให้นักท่องเที่ยวได้เก็บสาลี่ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ราคาเริ่มต้นที่ 500 เยนต่อคน จังหวัดที่ปลูกสาลี่มากที่สุดของญี่ปุ่น ได้แก่ จังหวัดชิบะ จังหวัดอิบารากิ และจังหวัดทตโตะริ