อัปเดตราคา JR Pass ล่าสุดในปี 2025 เรื่องควรรู้ก่อนเที่ยวญี่ปุ่น

หากในปี 2025 นี้ คุณมีโปรแกรมที่จะเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น อยากให้อ่านบทความนี้โดยด่วน ! เนื่องจากมีการปรับราคาตั๋ว JR Pass หลังจากเพิ่งปรับราคาไปครั้งใหญ่เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ในวันที่ 1 เมษายน 2025 ได้มีการปรับราคาอีกครั้ง แม้อาจจะไม่ได้ปรับขึ้นมากเหมือนกับครั้งก่อนก็ตาม

บทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจกับการปรับราคาครั้งล่าสุดของตั๋ว JR Pass พร้อมเรื่องน่าสนใจที่จะทำให้การท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นของคุณสะดวกมากยิ่งขึ้น

JR Pass คืออะไร ? คำแนะนำสำหรับการเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก

ถ้าการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นครั้งแรกสำหรับคุณ ในระหว่างการหาข้อมูลเพื่อเตรียมจะไปท่องเที่ยว ย่อมมีคำว่า JR Pass โผล่ขึ้นมาเต็มไปหมด จากคำแนะนำของบรรดาเหล่ากูรูสายท่องเที่ยวต่าง ๆ จนอาจทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่า มันคืออะไรกันนะ ?

บางคนอาจจะคิดว่า JR Pass คือชื่อของรถไฟ แต่จริง ๆ แล้วมันคือ “ตั๋วโดยสารรถไฟแบบเหมาจ่าย” สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟจากบริษัทของ Japan Railways (JR Group) ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟเอกชนที่เชื่อมต่อไปทั่วญี่ปุ่น บางสถานีสามารถเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟชินคันเซ็นได้ด้วย หากถามว่าจำเป็นต้องซื้อไหม ? ก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไป แต่รับรองได้ว่า การซื้อ JR Pass ก็จะช่วยให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน เพราะการใช้รถไฟคือวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดในญี่ปุ่น และต่อจากนี้คือเรื่องที่ควรรู้

JR Pass ซื้อได้ที่ไหน ?

เริ่มที่ข้อสงสัยแรก ตั๋ว JR Pass ซื้อที่ไหน ? เราจะขอแบ่งออกเป็น 2 วิธี อย่างแรกคือ “ซื้อล่วงหน้า” จะซื้อผ่านเอเจนซี่ในประเทศไทยก็ได้ หรือซื้อผ่านเว็บไซต์ของ Japan Rail Pass โดยตรง แนะนำว่าซื้อผ่านเอเจนซี่จะสะดวกมากกว่า ยกเว้นคุณเก่งภาษาญี่ปุ่น กรณีนั้นซื้อจากเว็บไซต์โดยตรงเลยก็ได้ อีกช่องทางจะเป็น “ไปซื้อที่ญี่ปุ่น” โดยซื้อที่สถานี JR ที่ญี่ปุ่นได้เลย การซื้อมีขั้นตอนค่อนข้างซับซ้อน ไหนจะเรื่องของการสื่อสาร แถมยังมีราคาที่แพงกว่าซื้อล่วงหน้าอีกด้วย จึงอยากแนะนำตัวเลือกแรกมากกว่า

JR Pass มีให้เลือกกี่แบบ ?

เรื่องต่อมาที่ควรรู้ คือ JR Pass มีกี่แบบ ? หากนับตามการใช้งาน จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ “ตั๋วแบบทั่วประเทศ” จะเป็นตั๋วที่เดินทางไปได้ในเส้นทางรถไฟทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยจะมีการกำหนดระยะเวลาการใช้งานเอาไว้ เช่น 7 วัน , 14 วัน หรือ 21 วัน เป็นต้น อีกรูปแบบก็จะเป็น “ตั๋วแบบภูมิภาค” ความหมายก็ตรงตัว จะใช้ได้เฉพาะกับการเดินทางภายในภูมิภาคนั้น ๆ ที่เราซื้อเอาไว้เท่านั้น เช่น ถ้าซื้อตั๋วในภูมิภาคฮอกไกโด ก็จะเดินทางได้แค่เฉพาะในฮอกไกโด ถ้าออกจากฮอกไกโด ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มนั่นเอง

แลกบัตรโดยสารอย่างไร ?

ก่อนจะไปอธิบายในขั้นตอนการแลกตั๋ว JR Pass ก่อนอื่นเรามั่นใจว่า ทุกคนคงตัดสินใจได้ง่าย ๆ ว่าควรจะเลือกซื้อตั๋วล่วงหน้าผ่านเอเจนซี่ของคนไทย ซึ่งหลังจากซื้อเรียบร้อยแล้วคุณจะได้ Exchange Order มา เมื่อลงจากสนามบินให้มองหาป้าย “JR EAST Travel Service Center” หรือ “JR Ticket Office” จากนั้นก็กดบัตรคิว เตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม ขั้นตอนการดำเนินการจะมีพนักงานจัดการให้ ที่สำคัญคือควรเลือกวันเริ่มต้นใช้บัตรให้ตรงกับวันใช้บัตรจริง ๆ ไม่จำเป็นต้งเปิดใช้ทันทีที่เดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน

ทำความเข้าใจกับการปรับราคาครั้งล่าสุดของ JR Pass อัปเดตล่าสุด 2025

JR Pass ไม่ได้เพิ่งมีการปรับราคาครั้งแรก เพราะเมื่อช่วงปี 2023 ที่ผ่านมา JR Group ได้มีการปรับราคาตั๋วการเดินทางครั้งใหญ่ โดยเป็นการปรับราคาขึ้นประมาณ 70% จากเดิม ในช่วงนั้นเป็นกระแสที่ฮือฮากันอยู่พักใหญ่ ๆ เลยทีเดียว จนมาถึงในปี 2025 ก็มีการปรับราคาอีกครั้ง โดยจะเริ่มปรับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป แต่การปรับราคาครั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับครั้งก่อน ถือว่าเป็นการปรับราคาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ได้ปรับในทุกเส้นทาง มีเฉพาะบางเส้นทางเพียงเท่านั้นที่มีการปรับราคา

JR Pass เส้นทางไหนบ้าง ที่มีการปรับราคาในช่วงปี 2025

โดยการปรับราคาของ JR Pass ในวันที่ 1 เมษายน 2025 ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกเส้นทาง โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงในบางภูมิภาคเพียงเท่านั้น ซึ่งจะทำให้การซื้อ “ตั๋วแบบภูมิภาค” มีราคาที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 10% ถึง 15% จากราคาเดิม โดยภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็จะมีดังต่อไปนี้

JR Hokkaido
เส้นทางรถไฟสำหรับผู้ที่ท่องเที่ยวในภูมิภาค “ฮอกไกโด” ไม่ว่าจะเป็น ซับโปโร , โอตารุ , ฮาโกดาเตะ , ฟุราโนะ , อาซาฮิคาวะ หรือ อะบาชิริ เป็นต้น แน่นอนว่ามาที่ฮอกไกโดของอร่อยก็ต้องเป็นอาหารทะเลสด ๆ หรือจะมาในช่วงฤดูหนาวก็สวยงามจับใจ
⚫︎ บัตรโดยสารแบบ 5 วัน ปรับราคาจาก 20,000 เยน เป็น 22,000 เยน
⚫︎ บัตรโดยสารแบบ 7 วัน ปรับราคาจาก 26,000 เยน เป็น 28,000 เยน
⚫︎ บัตรโดยสารแบบ 10 วัน ปรับราคาจาก 32,000 เยน เป็น 37,000 เยน
⚫︎ Sapporo-Noboribetsu Area Pass แบบ 4 วัน ปรับราคาจาก 9,000 เยน เป็น 10,000 เยน
⚫︎ Sapporo-Furano Area Pass แบบ 4 วัน ปรับราคาจาก 10,000 เยน เป็น 11,000 เยน

JR East
เป็นเส้นทางยอดฮิตสำหรับคนมาเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก เพราะใช้เดินทางในเมืองหลวงของญี่ปุ่นอย่าง “โตเกียว” รวมถึงเมืองอื่น ๆ ที่น่าสนใจอย่าง โยโกฮาม่า , นิกโก้ , คารุอิซาวะ , อาโอโมริ และ นากะโนะ เป็นต้น ราคาในเส้นทางนี้จะค่อนข้างแพง แต่ก็มีการปรับขึ้นราคาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
⚫︎ JR East-South Hokkaido Rail Pass แบบ 6 วัน ปรับราคาจาก 35,000 เยน เป็น 35,370 เยน
⚫︎ JR Tohoku-South Hokkaido Rail แบบ 6 วัน ปรับราคาจาก 30,000 เยน เป็น 30,640 เยน

JR Kyushu
เป็นเส้นทางรถไฟที่ “เกาะคิวชู” ดินแดนทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ภูมิภาคที่เต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ของวัฒนธรรม อาหารเลิศรส บ่อออนเซ็น และ ธรรมชาติอันงดงาม แหล่งท่องเที่ยวเด่น ๆ ก็จะมี ฟุกุโอกะ , นางาซากิ , คุมาโมโตะ และ คาโกชิม่า เป็นต้น
⚫︎ บัตรโดยสารแบบ 3 วัน ปรับราคาจาก 12,000 เยน เป็น 15,000 เยน
⚫︎ บัตรโดยสารแบบ 5 วัน ปรับราคาจาก 15,000 เยน เป็น 17,000 เยน
⚫︎ บัตรโดยสารแบบ 10 วัน ปรับราคาจาก 32,000 เยน เป็น 37,000 เยน
⚫︎ All Kyushu Area Pass 3 วัน ปรับราคาจาก 20,000 เยน เป็น 22,000 เยน
⚫︎ All Kyushu Area Pass 5 วัน ปรับราคาจาก 22,500 เยน เป็น 24,000 เยน
⚫︎ All Kyushu Area Pass 7 วัน ปรับราคาจาก 25,000 เยน เป็น 26,000 เยน

5 เรื่องที่ควรรู้ ! สำหรับการเที่ยวญี่ปุ่นโดยใช้ JR Pass เป็นการเดินทางในปี 2025

นอกจากเรื่องของตั๋ว JR Pass ที่มีปรับราคาเพิ่มจากเดิมขึ้นมาในวันที่ 1 เมษายน 2025 ก็ยังมีเรื่องราวน่าสนใจอีกหลายอย่าง สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนว่าจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นและคาดการณ์เอาไว้ว่าจะต้องใช้รถไฟของ JR Group เพื่อการเดินทาง เรามี 5 เรื่องที่น่าสนใจที่เกี่ยวกับ JR Pass มาฝาก มาดูกันเลยว่ามีเรื่องอะไรที่คุณควรรู้ก่อนเดินทางมาที่ญี่ปุ่นกันบ้าง

⚫︎ นอกจากรถไฟของ JR Group ในญี่ปุ่นยังมีผู้ให้บริการรถไฟเอกชนอีกหลายเจ้าให้เลือกใช้บริการ เช่น Tokyo Metro หรือ Keio ซึ่งตั๋ว JR Pass ไม่สามารถใช้ได้กับรถไฟเหล่านั้น

⚫︎ ควรมีการพก IC Card ติดตัวเอาไว้ เพราะเป็นบัตรเติมเงินที่เอาไว้จ่ายค่าโดยสารในรูปแบบอื่น ๆ เช่น รถโดยสาร , รถไฟราง , รถไฟสายท้องถิ่น หรือ รถไฟใต้ดินในเมืองใหญ่ ๆ เป็นต้น

⚫︎ สำหรับเด็กที่มีอายุ 6 ถึง 11 ปี จะได้รับส่วนลด 50% จากราคาบัตรของผู้ใหญ่ และเด็กอายุน้อยกว่า 6 ขวบไม่มีการคิดค่าบริการ แต่จะต้องนั่งตักผู้ปกครอง

⚫︎ แม้จะมีการปรับราคาเพียงใด แต่ตั๋ว JR Pass แบบทั่วประเทศ ก็ยังให้ถือว่าประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะ หากมีการเดินทางจากภูมิภาคไปอีกภูมิภาค เพราะใช้ได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง

⚫︎ รถไฟของ JR Group ขึ้นชื่อมากในเรื่องของการรักษาเวลา จะมีเวลาล่าช้าโดยเฉลี่ยไม่เกิน 1 นาทีในแต่ละเที่ยว เพราะฉะนั้นเมื่อจองตั๋วแล้ว ต้องไปถึงสถานีก่อนเวลา !

บทส่งท้าย
ด้วยราคาที่ปรับขึ้น (อีกแล้ว) ของตั๋ว JR Pass อาจทำให้หลาย ๆ คนเกิดความกังวลว่า “จะคุ้มค่าไหม ?” แน่นอนว่าเราคงไม่สามารถฟันธงคำตอบที่แน่ชัดให้กับคุณได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางของคุณ ถ้าเดินทางข้างเมือง เดินทางบ่อย ๆ ด้วยรถไฟ ไม่ว่ายังไงการซื้อตั๋ว JR Pass ก็ยังคงคุ้มค่า แต่ถ้าไปเที่ยวในเมืองเล็ก ๆ ที่ไม่มีรถไฟของ JR Group และอาศัยการเดินทางรูปแบบอื่น ๆ มากกว่า ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อก็ได้ สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย และ ช่วยให้การไปเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณ