เสน่ห์ทางธรรมชาติ 8 ภาคของญี่ปุ่น


เสน่ห์ทางธรรมชาติของญี่ปุ่น สำหรับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเป็นประเทศแห่งหมู่เกาะที่เต็มไปด้วยเทือกเขาแนวยาว มีซากุระเป็นดอกไม้ประจำชาติ และมีภูเขาฟูจิเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของประเทศ นอกจากนั้นยังมีภูเขาไฟที่ยังระอุอยู่จึงทำให้มีแหล่งน้ำพุร้อนตามธรรมชาติมากมาย การระเบิดของภูเขาไฟในอดีตส่งผลให้เกิดเป็นทะเลสาบตามปากปล่อง ส่วนรอยแยกก็แตกเป็นสายน้ำตก และเป็นที่ราบสูงต่างๆ ทั้งหมดถูกจัดเป็นอุทยานแห่งชาติซึ่งมีอยู่ทั้วประเทศ นอกจากนี้ยังมีชายฝั่งทะเลที่ทอดยาวเป็นแนวชมวิวของเกาะน้อยใหญ่ที่เป็นภาพแปลกตาน่าชมนัก ญี่ปุ่นจึงจัดเป็นประเทศที่มีความสมบูรณ์ด้านการท่องเที่ยว เพราะนอกจากภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมแล้ว ภูมิอากาศที่นี่ก็ยังช่วยเสริมให้มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น ทั้งฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว เริ่มจากฤดูใบไม้ผลิที่สะพรั้งไปด้วยดอกซากุระทั่วป่าเขา เมื่อย่างเข้าฤดูร้อนป่าไม้จะเขียว สิ้นฤดูร้อนอากาศเย็นลงจะเป็นฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ตามป่าเขาและอุทยานแห่งชาติจะเริ่มผลัดใบเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นเหลือง ส้ม แสด และแดง โดยเฉพาะต้อนเมเปิ้ล หรือ Momiji จะช่วยแต่งแต้มธรรมชาติให้มีสีสันสวยงามอย่างหาชมได้ยาก เมื่อฤดูหนาวมาเยือน ป่าเขาจะถูกปกคลุม ไปด้วยสีขาวบริสุทธิ์ของหิมะ ส่วนตามที่ราบสูก็จะกลายเป็นลานสกีให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสประสบการณ์ความสนุกสุดเหวี่ยง

ประเทศญี่ปุ่นประกอบด้วย 47 จังหวัด กระจายตามภูมิภาคต่างๆ ทั้งหมด 8 ภูมิภาค ได้แก่ ภูมิภาคฮอกไกโดคือเกาะเหนือสุดของประเทศ รองลงมาเป็นภูมิภาคโทโฮขุคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภูมิภาคคันโตคือภาคตะวันออก ภูมิภาคจูบุคือภาคกลาง ภูมิภาคคันไซคือภาคตะวันตก ภูมิภาคจูโกขุคือภาคตะวันตกสุด ภูมิภาคชิโคขุคือเกาะ ภูมิภาคคิวชูคือภาคใต้ และมีเกาะโอกินาวะเป็นเกาะใต้สุด

1  ภูมิภาค Hokkaido (เกาะเหนือสุด)
มีเมืองซัปโปโรเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าและเศรษฐกิจที่สำคัญ ทางเหนือมีเมืองท่า Abashiri  ที่หันออกทะเลโอฮอค ทางตะวัออกมีเมือง Kushiro และอุทยานแห่งชาติ shiretoko ที่ได้รับเลือกเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติที่อุดมไปด้วยที่ลุ่มชื้น ล้อมรอบด้วยทะเลสาบ อาทิ ทะเลสาบ Akan,Mashu ทางตอนกลางเป็นที่ราบสูงและภูเขา  Daisetsusan ที่มีลานสกี Furano และแหล่งน้ำแร่มากมาย ทางตะวันตกมีเมือง Otaru เป็นเมืองท่ายุคบุกเบิกที่น่าเที่ยว อีกทั้งทุ่งกว้างทำฟาร์มโคนม เช่น เมือง Tokachi ที่เป็นแหล่งผลิตนม และขนมปังที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ทางใต้ของเกาะมีเมือง Hakodate เป็นเมืองท่าที่อุดมด้วยอาหารสดจากทะเล จึงจัดเป็นเกาะสวรรค์อันอุดมสมบูรณ์สำหรับผู้รักธรรมชาติ

2 ภูมิภาค Tohoku (ภาคตะวัออกเฉียงเหนือ)
ประกอดด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ Aomori, Akita, Iwate, fukushima, Yamagata, Miyagi ทางตอนเหนือสุดเป็นพื้นที่ป่าไม้ชื่อ Shirakami ที่ได้รับเลือกเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ครอบคลุมจังหวัด akita และทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัด Aomori ซึ่งมีภูเขาสูง เช่น Mt. Iwate และที่ราบสูง (มาก) ชือ Hachimantai ใกล้ทะเลสาบ Towada และทะเลสาบ Tazawa ทางตะวันออกสุดเป็นชายฝั่งทะเลที่สวยงาม มีเมือง Matsushima ใกล้เมืองSendai เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญ ตอนกลางมีภูเขา Zao ใกล้จังหวัด Yamagata เป็นลานสกีและมีแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติหลายแห่ง ภูมิภาคนี้จึงเหมาะสำหรับการชมใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งสวยสดงดงามมาก

3 ภูมิภาค Kanto (ภาคตะวันออก)
ประกอบด้วย 7 จังหวัดได้แก่ Ibaraki, Tochigi, Gunma, Saitama, chiba, Tokyo และ Kanagawa  มีโตเกียวเป็นศูนย์กลางการค้าทางตะวันออก มี Narita และ Yokohama เป็นเมืองท่าสำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่น คือ ศาลเจ้ามรดกโลก Toshogu น้ำตก Kegon ที่สูงตระหง่านงามสง่าในจังหวัด Tochigi และพุุทธรูป Daibutsu ที่เมืองหลวงเก่า  Kanagawa ในจังหวัด Kanagawa รวมทั้งยังมีโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ และอุทยานแห่งชาติชื่อ  Fuji Hakone ที่ซึ่งมี Outlet สำหรับนักท่องเที่ยวได้จับจ่ายสินค้ามีชื่อนานาชาติ

4 ภูมิภาค Chubu (ภาคกลาง)
ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาบนที่ราบสูงตอนกลางของเกาะ  Honshu เป็นที่ตั้งของ 9 จัวหวัด ได้แก่ Niigata, Ishikawa, Toyama, fukui, Yamanashi, Nagano, Gifu, Shizuoka และ Aichi  มีเมือง  Nagoya เป็นศูนย์กลางสำคัญ ครอบคลุมแหล่งน้ำพุร้อน ภูเขาฟูจิ ลานสกีกว้างใหญ่ รวมทั้งเทือก
เขาแอลป์ เมืองปราสาท  Matsumoto ในจังหวัด Nagano และ หมู่บ้านมรดกดลก Shirakawago ในจังหวัด Gifu และ Gokayama ในจังหวัด Toyama ที่น่าแวะมาเยือน

5 ภูมิภาค  Kansai (ภาคตะวันตก)
มี 7 จังหวัด ได้แก่ Kyoto และ Nara Nijo ซึ่งเป็นเมืองเก่าที่มีปราสาทและโบราณสถานที่ได้รับการคัดเลือกเป็นมรดกโลกหลาย
แห่ง อาทิ ปราสาท Nijo วัด Kinnkakuji และศาลเจ้า Kasuga Osaka เป้นศูนย์กลางการค้าและเศรษฐกิจที่สำคัญ Hyogo มีเมืองท่า Kobe และปราสาท  Himeji Wakayama มีผืนป่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกชื่อ Kumanokodo Mie เป็นที่ตั้งของต้นกำเนิดนินจา lgaryu และเกาะไข่มุก Mikimoto มีศาลเจ้าโบราณ Jingu และ shiga มีทะเลสาบ Biwa ที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาแต่โบราณ

6. ภูมิภาค Chugoku (ภาคตะวันตกสุด)
แบ่งเป็น 2 เขต คือ เขตซันอินที่ติดทะเลญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของ 2 จัวหวัด ได้แก่ Tottori ที่มีทะเลทรายแปลก และ shimane ซึ่งมีศาลเจ้าโบราณ lzumo ส่วนเขตซันโยที่ติดทะเลใน Seto ประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่  Hiroshima ที่มีศาลเจ้ามรดกโลกบนเกาะ Miyajima Okayama มีสวนลูกท้อขาวที่มีชื่อเสียง และที่ Tamaguchi มีเมืองปราสาท Hagi และถ้ำสวยชื่อ  Akiyoshido ซึ่งทั้ง  5 จังหวัด ล้วนติดชายฝั่งทะเล จึงอุดมไปด้วยอาหารทะเลและสวนผลไม้

7. ภูมิภาค Shikoku (เกาะตะวันตกสุด)
ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ Ehime, Kagawa, Kochi และ Tokushima ภูมิภาคนี้มีแหล่งประวัติศาสตร์ อาทิ ปราสาท matsuyama น้ำพุร้อนแห่งแรกของญี่ปุ่นชื่อ Dogo และ เมืองเก่ายุคเอโดะชื่อ Uchiko ในจังหวัด Ehime, ศาลเจ้า Konpira ในจังหวัด Kagawa และจังหวัด Kochi และ Tokushima ซึ่งมีชายฝั่งสามารถชมปลาวาฬได้

8. ภูมิภาค Kyushu  (เกาะใต้)
ภูมิภาคนี้มีอากาศอบอุ่นตลอดปี อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารทะเล และบ่อน้ำแร่ธรรมชาติ เป็นที่ตั้งของ 8 จัวหวัด ได้แก่
Fukuoka เป็นเมืองศูนย์การค้าที่สำคัญ, Saga เมืองแห่งเครื่องปั้นดินเผาที่เรียกว่า Aritayaki, Nagasaki เป็นเมืองท่ายุคแรกที่ติดต่อกับต่างประเทศ,  Kumanoto ที่ตั้งของภูเขาไฟ, Aso Oita เมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อน, Miyazaki เป็นที่ตั้งของน้ำตก Takachiho , lbusuki มีทรายร้อนตามชายทะเล เหมาะสำหรับอบทรายร้อนเพื่อสุขภาพและ kagoshima มีภูเขาไฟที่ยังระอุอยู่บนเกาะ Sakurajima เกาะใต้สุด Okinawa เป็นดินแดนสวรรค์สำหรับผู้รักทะเล เพราะมีชายทะเลอันบริสุทธิ์สวยงามมาก

ญี่ปุ่นมีการสร้างทางหลวงและสะพานแขวนสำหรับรถยนต์ อีกทั้งยังมีเส้นทางรถไฟตั้งแต่เหนือจรดใต้ ทำให้การคมนาคมสะดวกรวดเร็วเชื่อมโยงทั่วถึงทุกภูมิภาคของประเทศ จึงสามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจและปลอดภัยที่สำคัญญี่ปุ่นมีเสน่ห์ชวนมาเยือนได้ตลอดทั้งปี ส่วนกิจกรรมการท่องเที่ยวก็มีหลากหลาย อาทิ การชมดอกไม้ ไต่เขา เดินป่า ล่องแก่ง ล่องเรื่อชมทิวทัศน์ นั่งรถชมใบไม้แดง เล่นสกีบนที่ราบสูงตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ และแช่น้ำแร่ในบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ ตลอดทั้งยังมีสินค้าน่าใช้ให้ท่านได้ซื้อเป็นของฝากจากญี่ปุ่นด้วย


ขอบคุณรูปสวยๆจาก:
แหล่งที่มา: องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น, "ประเทศญี่ปุ่น จุดร่วมทางของอดีตและอนาคต"

Exit mobile version