10 ที่เที่ยวฟินๆกินเรียบทั้งธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของจังหวัดมิเอะ 2567

จังหวัดมิเอะ (Mie) นั้นตั้งอยู่บนภูมิภาคคันไซบนเกาะฮนชู ขอบอกว่าเป็นเมืองที่ปังมากตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวที่มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่ติดชายฝั่งทะเลแบบว่าจะป่าเขาก็มีทะเลก็มา หรือจะเป็นแนวประวัติศาสตร์เก่าแก่จนถูกยกให้เป็นมรดกโลกที่นี่เค้าก็มีครบนะคะ แถมช่วงเดือนมิถุนายนนี่ถือว่าเป็นช่วงฮอตสุดๆในการเที่ยวเชิงธรรมชาติเลยนะคะ เพราะจะมีทุ่งดอกไฮเดรนเยียหลากสีสันพากันชูช่อให้ได้ชมความงามแห่งสีม่วงหลากหลายแห่งด้วยกัน แค่ที่เที่ยวนี่ว่าเยอะแล้วเรื่องอาหารนี่ยิ่งละลานตาของอร่อยเยอะมากมาย

ด้วยความที่มีพื้นที่ติดชายทะเลดังนั้นอาหารทะเลสดแบบไว้ใจได้ โดยเฉพาะกุ้งอิเสะนี่ดังและปังสุดๆ หรือจะเป็นพวกหอยนี่ก็จัดเต็มนะคะทั้งหอยอาวาบิหรือจะเป็นหอยนางรมก็ขึ้นชื่อ แต่ที่พีคสุดๆต้องเนื้อวัวมัตสึซากะแห่งเมืองมัตสึซากะที่สายเนื้อต้องร้องขอชีวิตไปกับความนุ่มจากเนื้อลายหินอ่อนแทรกจนเป็นเนื้อวัวระดับพรีเมี่ยมติดท๊อปของญี่ปุ่นและยังเป็นหนึ่งในที่สุดของเนื้อวัวในระดับโลกอีกต่างหาก เสน่ห์ของกินของมิเอะยังไม่หมดแค่นี้นะคะยังมีเมนูท้องถิ่นสุดแจ่มที่หาลองได้ที่นี่ที่เดียวอย่างฮามากุริที่เอามาทำได้ทั้งย่าง ทอด ชาบู และอีกหลายๆเมนู เทโกเนะซูชิที่เป็นซูชิสไตล์ประมงที่ลองแล้วจะติดใจ ซันมะซูชิที่ปกติแล้วเค้าจะนิยมกินในช่วงมีงานสำคัญๆ และเมฮาริซูชิมาแปลกด้วยการเอาข้าวกับเครื่องทำเป็นข้าวปั้นแล้วห่อด้วยใบผักกาด เรียกได้ว่าเป็นจังหวัดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ในทุกๆด้านที่ลองมาซักครั้งแล้วจะหลงรักไม่รู้ตัวเชียวค่ะ

 

แหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจของจังหวัดมิเอะ

 

ศาลเจ้าคู่มิเอะมายาวนานกว่า 2,000 ปี จนกลายมาเป็นแลนด์มาร์กอันดับหนึ่งตลอดกาลของเมืองเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยเป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งกาลเวลา เรื่องสถาปัตยกรรมนี่ไม่ต้องพูดถึงสวยคลาสสสิคมากๆ เรียกว่าแขกไปใครมาถ้ามาเยือยังมิเอะแล้วไม่แวะมาสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ศาลเจ้าแห่งนี้เหมือนมาไม่ถึงเมืองมิเอะเลยทีเดียว

 

 

โอคาเกะโยโคะโจ นั้นเป็นย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยอาคารต่างๆที่เป็นสไตล์โบราณชองยุคเอโดะไปจนถึงเมจิ อยากชิม ของชอบ อยากเดินเล่นนี่ต้องมาทางนี้ด่วนๆ ร้านค้าของกิน ของฝาก เรียงรายไปตลอดทั้งสายมากกว่า 50 ร้าน แบบว่ามีได้แวะจนเพลินอ่ะค่ะงานนี้ ใครอยากชิมพวกเมนูเด็ดเฉพาะท้องถิ่นแล้วไม่อยากไปไหนไกลย่านนี้เค้ามีครบค่ะ ย่านนี้มาไม่ยากนะคะเพราะติดกับศาลเจ้าเสะแบบเดินมาสบายๆ

 

 

นะบะนะ โนะ ซาโตะ ตั้งอยู่ภายในเมืองคุวานะ จังหวัดมิเอะ โดยจะเป็นสวนขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่มากถึง 300,000 ตารางเมตร  สำหรับคนที่ชอบชมดอกไม้และธรรมชาตินี่จัดว่าไม่ควรพลาดเชียวค่ะ เพราะเค้าจะมีสวนดอกไม้ให้ชมในทุกๆฤดู ไม่ว่าจะเป็นซากุระในฤดูใบไม้ผลิหรือจะเป็นดอกไฮเดรนเยียช่วงเดือนมิถุนายน แล้วไม่ใช่สวยเฉพาะกลางวันนะคะ อย่างช่วงปลายๆปีก็จะมีการจัดแสดงอิลลูมิเนชั่นที่อลังการจนเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ คิดดูว่าปกติหลายๆที่ว่าสวยแล้วและถ้ามีการการันตีขนาดนี้มันต้องสุดยอดมากแน่ๆ

 

 

สายผจญภัยอยากสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติอย่างค่อยเป็นค่อยไปต้องโดนใจนี่แน่นอน โดยเส้นทางคุมาโนะโคโดเป็นทางเดินที่นำไปศาลเจ้าดังๆหลายที่ทั้ง ศาลเจ้าอิเสะ ศาลเจ้าคุมาโนะฮองงูไทฉะ ศาลเจ้าคุมาโนะฮายาทามะไทฉะ และศาลเจ้าคุมาโนะนาจิไทฉะ บอกเลยว่าไม่ธรรมดานะคะเพราะถึงกับได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย

 

 

เกาะคาชิโกะ ตั้งอยู่ภายในเมืองชิมะ จังหวัดมิเอะ แม้ว่าจะเป็นเกาะขนาดเล็กกะทัดรัดที่อยู่บนอ่าวอาโกะแต่ความงามทะลุขนาดกันไปเลย ถ้าอยากมาให้ท้องท้องน้ำอันกว้างไกลใสๆไหลเย็นเห็นตัวปลา ยิ่งถ้าได้ไปชมที่จุดชมวิวบริเวณอ่าวอาโกะ (Ago Bay)นี่สวยละลายใจมากมาย เพราะเราจะได้ดื่มด่ำไปกับวิวอ่าวงดงามอันกว้างไกลผสมผสานไปกับธรรมชาติอันเนืองแน่น ท่ามกลางความเงียบสงบ มาพักกายพักใจบนเกาะซักหน่อยรับรองฟินกระจาย

 

 

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอันดับ 1 ของญี่ปุ่น เรียกได้ว่าอลังการงานสัตว์น้ำอันไหนว่าแปลกว่าหายากเค้าจัดมาแสดงให้ชมแบบไม่หมกเม็ด ใครอยากเห็นน้องพะยูนแบบไม่ต้องเกยตื้นมาที่นี่รับรองน้องจะเยียวยาทุกสิ่ง แล้วแค่ชมสัตว์น้ำยังไม่สาแก่ใจ เค้าก็มีการแสดงโชว์สุดน่ารักละลายใจทั้งสิงโตทะเลแสนรู้หรือวอลรัสตอมทะเล้นให้ได้เพลิดเพลินไปกับความรู้การรู้งานจนแทบอยากขโมยกลับบ้าน บอกเลยว่ารักสัตว์รักน้ำเทใจให้ที่นี่หมดตัวอ่ะค่ะ

 

 

 

โอะนิกะโจ ตั้งอยู่ภายในเมืองมาโนะ จังหวัดมิเอะ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดจากธรรมชาติล้วนๆ จากการเกิดการกัดกร่อนของหินต่างๆ จากทั้งแผ่นดินไหวจนไปถึงการกัดเซาะของน้ำทะเลที่ซัดมาเข้าโดยอยู่ตลอดๆ จนกลายมาเป็นสิ่งมหัศจรรย์จากฝีมือของธรรมชาติให้เราเห็นอย่างทุกวันนี้ ซึ่งกว่าจะเป็นที่นี่ก็น่าจะใช้ระยะเวลามานานมากๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นความงดงามของที่นี่ก็ได้รับการยอมรับระดับโลก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในที่สุดค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวทะเลที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของมิเอะที่มาแล้วได้อินไปกับบรรยากาศดีๆ พร้อมสูดโอโซนให้เต็มปอด แถมเส้นทางเดินมาก็ได้ผจญภัยเล็กๆ เรียกว่าอยากสัมผัสธรรมชาติที่นี่ไม่ไกลเกินเอื้อม

 

 

หินเมโอโตะอิวะ หรือที่หลายเรียกว่าหินสามี-ภรรยา ตั้งอยู่ในศาลเจ้าฟุตามิโอกิทามะ หินนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่เลยนะคะ เชื่อว่าเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวต้องอยากมาเจิมที่นี่แน่นอน แค่ฟังชื่อก็โรแมนติกแล้ว มาดูของจริงนี่ยิ่งประทับใจ ซึ่งตัวหินเองจะมีลักษณะเป็นคู่รักมีทั้งผู้ชายที่สูงกว่า 9 เมตร และผู้หญิงสูงกว่า 4 เมตร และยังมีเสาโทริอิตั้งอยู่บนหินขนาดใหญ่ อยากมาชมช่วงที่สวยที่สุดแนะนำให้มาเย็นๆใกล้ๆพระอาทิตย์ตกบอกเลยว่าสวยมากเว่อร์

 

 

เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ ตั้งอยู่เกาะเหนืออ่าวโทบะ นับเป็นเกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องแหล่งผลิตไข่มุกคุณภาพในระดับประเทศและยังเป็นที่นี่สามารถเพาะเลี้ยงไข่มุกได้เป็นที่แรกของโลก ไม่ได้หาง่ายๆนะคะที่เราจะได้ชมฟาร์มเพาะเลี้ยงไข่มุกในระดับนี้ในระยะประชิด สาวๆนี่น่าจะต้องตื่นตาตื่นใจกับเครื่องประดับดีไซน์เก๋ๆต่างๆที่มาจากไข่มุก รวมไปถึงผลงานอาร์ตๆที่ทำขึ้นจากไข่มุก แล้วถ้าอยากรู้ลึกรู้จริงเค้าก็มีพิพิธภัณฑ์ไข่มุกที่จัดแสดงทุกๆสิ่งทั้งเรื่องราวกว่าจะเพาะไข่มุกได้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง แล้วถ้าเวลายังเหลือยังสามารถเดินไปชมวิวสวยๆของอ่าวโทบะได้นะคะ เดินแป๊บๆไม่นานก็ถึงแล้วล่ะค่ะ

 

 

เที่ยวมาทั้งวันแล้วอยากจะผ่อนกายสไตล์คนญี่ปุ่นต้องออนเซ็นสิคะ ซึ่งที่นี่นั้นดังมากๆในหมูคนรักการแช่ออนเซ็นเลยนะคะ ด้วยความที่ออนเซ็นบรรยากาศดีมีความธรรมชาติสูงเพราะเปิดแบบโอเพิ่นนั่งแช่ไปดูวิวไปเบาๆ รวมไปถึงคุณสมบัติของน้ำพุร้อนที่สาวๆต้องตาลุกวาว ใครอยากมีผิวสวยใสสไตล์สาวญี่ปุ่นต้องลองมาจัดดูค่ะ ทั้งจากการที่เป็นน้ำพุร้อนจากส่งตรงจากธรรมชาติเน้นๆ รวมทั้งแร่ธาตุต่างๆที่อัดแน่นส่งผลให้แช่แล้วผิวใสสวยวิ้งค์ หรือถ้าอยากลองอะไรแบบถึงใจดูก็สามารถลองเข้าซาวน่าหินร้อนเรียกเหงื่อขับไคลเพื่อกระตุ้นเลือดลมให้ทำงานดีขึ้นก็ได้ด้วยล่ะค่ะ