13 แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดคาโกชิมะ (Kagoshima) 2567


จังหวัดคาโกชิมะ(Kagoshima) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้บนเกาะคิวชูของญี่ปุ่น สายวิวทะเลต้องร้องเฮเพราะมาที่เดียวได้สองวิว เนื่องจากขนาบด้วยคาบสมุทรซัตสึมะและคาบสมุทรโอซูมิ พร้อมทั้งยังติดกับอ่าวคาโงชิมะอีกด้วย เรียกได้ว่าวิวทะเลวิวอ่าวนี่กินขาด เนื่องธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆยิ่งไม่ต้องพูดถึง จัดเต็มทั้งแหล่งท่องเที่ยวแบบเกาะๆ จะออนเซ็นนั้นก็มี ส่วนสายวัฒนธรรมก็ไม่ต้องน้อยใจไป นั่นก็เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวสไตล์วัฒนธรรมและที่เด่นๆก็จะมีวิถีซามุไรให้ดูอีกต่างหาก
ขอดีของเด่นที่ถ้ามาต้องโดนนั้นมีทั้งแบบเก๋ๆไปจนถึงสินค้าเกษตรท้องถิ่นเลยนะคะ อย่างที่เป็นที่กล่าวขานมากๆต้องยกให้พวกถ้วยชามดินเผาและเครื่องแก้วคริสตัล โดยเฉพาะเครื่องแก้วนี่เรื่องสีสันยืนหนึ่งในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ จากการก่อตั้งศูนย์วิจัยเพื่อค้นคว้าการแต่งสีเพื่อให้เกิดการพัฒนาเรื่องสีสันอย่างจริงจัง จนสำเร็จกลายเป็นที่แรกที่สามารถทำสีชาดในเครื่องแก้วที่แรกของญี่ปุ่น ส่วนสายของกินนี่ต้องลองมันเทศ หัวไชเท้า และข้าว ที่ดูเผินๆอาจคิดว่ามันไม่น่าจะแตกต่างอะไรจากที่อื่นใช่มั้ยคะ แต่จริงๆแล้วรสชาติและรสสัมผัสถ้าได้ลองแล้วจะรู้เลยค่ะว่ามันต่างจริงๆ ยังค่ะของดีคาโกชิมะยังไม่หมดแค่เท่านั้นเพราะเค้ามีอีกหนึ่งเมนูเด็ดเอาใจคนรักเส้นอย่าง “ราเมงคาโกชิมะ” ที่น้ำซุปจะผสมผสานกันระหว่างกระดูหมูเข้มข้นกับไก่ ทำให้ออกมีรสชติที่ไม่เหมือนใคร ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่สายชิลอยากอินกับธรรมชาติแต่ไม่ขาดด้านวัฒนธรรมควรมาลองซักครั้งเชียวค่ะ

 

แหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจของจังหวัดคาโกชิมะ

1. ซากปราสาทคาโงชิมะ (Kagoshima Castle Ruins)

photos by Sakoppi from commons.wikimedia.org/wiki/File:Kagoshima_Castle_Front_2012.JPG(cc by 3.0)

ปราสาทคาโงชิมะที่อดีตเคยรุ่งเรืองจนถึงขีดสุดจากการเป็นหนึ่งในปราสาทหลักของไดเมียวที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่นในขณะนั้น โดยถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1601 ลองมานับนิ้วนับๆดูแล้วก็มีอายุปาไป 418 เข้าไปแล้ว เนื่องจากเคยถูกเผาทำลายด้วยไฟไหม้มาก่อนมาในปัจจุบันคงเหลือไว้แค่ซากของปราสาทเท่านั้นนะคะ หากก็ยังคงมีบรรยากาศเก่าๆชวนให้ได้อินเมื่อไปถึง ไปเดินชิลๆนี่ก็ได้ฟิลไปอีกแบบค่ะ

 

 

2. เกาะยากุชิมะ (Yakushima Island)


เกาะยากุชิมะ หรือที่หลายคนๆอาจจะคุ้นหูว่าชื่อ เกาะยากุ บอกเลยว่าใครทาอยากมาดื่มด่ำกับธรรมชาติแบบเน้นๆปักหมุดไว้ได้เลยค่ะ เพราะที่นั้นได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางด้านทางธรรมชาติ ฉะนั้นเรื่องความอุดมสมบรูณ์ของป่าเขาลำเนาไพรหายห่วงมาเต็มแน่นอน โดยไฮไลท์ที่เด็ดสุดต้องยกให้ เกาะคือต้นไม้ Cryptomeria อันนี้ต้นไม้อายุเป็นพันปีอย่างเยอะ ยิ่งต้นโจมนซูงิที่อายุกว่า 3,000 ปีอันนี้ห้ามพลาดเลยนะคะ

 

 

3. ศาลเจ้าเทรุคุนิ (Terukuni Shrine)

Photo by そらみみ from commons.wikimedia.org/wiki/File:Haiden_of_Terukuni_Shrine.JPG [CCSA2.0]

ศาลเจ้าชินโตที่สำคัญของเมืองมีอายุร้อยกว่าปี เรียกว่างานมีงานสำคัญๆเมื่อไหร่มักจะจัดที่นี่อยู่เสมอๆ โดยเฉพาะเทศกาลสำคัญอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองที่ชื่อว่า “เทศกาลโรคุงาซึโด” ซึ่งถือว่าเป็นเทศกาลต้องรับฤดูร้อนชื่อดังระดับภูมิภาคเชียวนะคะ ภายในศาลเจ้าจะมีการประดับประดาด้วยโคมไฟจำนวนมากเรียงรายไปทั่วทั้งบริเวณก่อให้เกิดเป็นภาพที่สวยเกินบรรยายจริงๆ ถ้าอยากมาอินกับโคมไฟสวยๆนี่ถ้าเลยค่ะช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปีได้เจอแน่นอน

 

 

4. ศาลเจ้าคิริชิมะจิงงู (Kirishima Shrine )


ศาลเจ้าคิริชิมะจิงงูนั้นเป็นศาลเจ้าของศาสนาชินโตที่ทั้งเก่าแก่และใหญ่ที่สุดของภูมิภาคคิวชู โดยตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้ทำให้สุดแสนจะร่มรื่น ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1715 เพื่อบูชาเทพนินิกิ(Ninigi no Mikoto) ทำให้เป็นที่เคารพบูชาของผู้คนแถบนี้เป็นอย่างจนมีผู้คนเข้ามาเยือนไม่ขาดสาย ที่สำคัญยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมด้วยล่ะค่ะ

 

 

5. จุดชมวิวชิโรยามะ(Shiroyama Observation Point)


จุดชมวิวที่ตั้งอยู่บริเวณสวนชิโรยามะ (Shiroyama Park) นับว่าเป็นจุดชมวิวที่รวมไฮไลท์ของจังหวัดคาโกชิมะทั้งเขาไฟซากุระจิมะและอ่าวคิงโคไว้ในที่เดียวกันแบบไม้ต้องไปแวะหลายที่ให้เหนื่อยเลยนะคะ ด้วยความที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีความสูงพอตัวทำให้สามารถเห็นทุกสิ่งได้แบบสบายๆ ยิ่งช่วงกลางคืนนี่ได้เห็นวิวเมืองท่ามกลางแสงระยิบระยับอันนี้สวยพีคมากค่ะ

 

 

6. หอดูดาวและอวกาศอุจิโนะอุระ (JAXA Uchinoura Space Center)

Photo by Σ64 from commons.wikimedia.org/wiki/File:Haiden_of_Terukuni_Shrine.JPG [CCSA2.0]

หอดูดาวและอวกาศอุจิโนะอุระ ตั้งอยู่ภายในเมืองคิมโทสุกิของจังหวัดคาโกชิมะ น่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแบบจังๆ เพราะเป็นแหล่งความรู้ชั้นยอดเกี่ยวกับนวัตกรรมเทคโนโลยีและความก้าวหน้าของจรวดและดาวเทียม ไม่ว่าจะประวัตศาสตร์เรื่องราวความเป็นมา โมเดลดาวเทียมวิทยาศาสตร์ และจรวด อีกทั้งยังสามารถชมวิวของเทือกเขาที่รายล้อมให้ชุ่มปอดได้ในเวลาเดียวกัน

 

 

7. สุนะมุชิ ออนเซ็น (Sunamusi Onsen)

สุนะมุชิ ออนเซ็น ตั้งอยู่ภายในเมืองอิบุสุกิ จังหวัดคาโกชิมะ แหวกทุกแนวของออกเซ็นที่กระจายอยู่เยอะแยะมากมายของเมืองนี้ เพราะเค้าไม่ได้มาแช่ออนเซ็นแบบที่เราคุ้นเคยกันนะคะ ที่นี่เค้ามาแปลกด้วยการแช่ออนเซ็นทรายบนหาดทรายน้ำพุร้อนแบบโอเพ่นแอร์ชิมวิวทะเลแบบเหนือๆไปเลย บอกเลยว่าประโยชน์ที่จะได้รับจากการแช่ออนเซ็นทรายนั้นไม่ได้น้อยกว่าน้ำพุร้อนแม้เพียงน้อย มีทั้งด้วยเรื่องผิวพรรณให้สดใสปิ๊งปั๊ง ความปวดเมื่อยอันนี้ก็เด่น และที่สำคัญช่วยเรื่องดีท๊อกซ์ร่างกายได้ดีมากเว่อร์ เหมาะมากถ้าใครอยากลองอะไรแปลกๆใหม่ๆพร้อมชมวิวทะเลสวยๆจัดไปค่ะ

 

 

8. สวนเซนกังเอ็น (Senganen Garden)


สวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นอายุหลายร้อยปีสุดอลังการด้วยความที่ครอบคลุมพื้นที่ค่อนข้างกว้างมาก เรียกว่าถ้าอยากเดินแบบทุกวอกทุกมุมเผื่อเวลาไว้เยอะๆหน่อยก็ดีค่ะ ประวัติความเป็นมาไม่ธรรมดานะคะเพราะรับแขกบ้านแขกเมืองระดับราชวงศ์ทั้งในญี่ปุ่นเองไปจนถึงจากต่างประเทศมาแล้ว ถ้าชอบบรรยากาศหวานๆหน่อยก็สามารถมาได้ช่วงฤดูใบไม้ผลิเพื่อชมดอกซากุระ หรือจะเป็นช่วงฤดูร้อนเพื่อชมดอกอายาเมะ ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นสวนหากก็ไม่ได้มีแค่ดอกไม้ต้นไม้นานาพันธ์นะเออ เนื่องจากเค้ายังมีหอแสดงฝีมือที่จัดแสดงเครื่องแก้วพื้นเมืองที่หาดูได้เฉพาะที่นี่ให้ได้ชมอีกด้วย

 

 

9. สวนอิชิบาชิ (Ishibashi Park)

สวนสาธารณะบรรยากาศร่มรื่นที่โดดเด่นจากการมีสะพานหินโบราณข้ามแม่น้ำน้ำโคสึกิอายุเป็นร้อยปี โดยจะมีสะพานนิชิดะบาชิที่แขกไปใครมาก็มักจะมาแวะปักหมุดกัน เพราะทั้งแลดูสวยแบบโบราณๆพอบวกกับวิวธรรมชาติก็กลายเป็นอีกมุมนึงที่น่าถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไม่น้อยทีเดียว และถ้าใครมาแล้วอยากจะเรียนรู้ประวัติศาสตร์ก็ยังสามารถเข้าไปชมกันได้ที่พิพิธภัณฑ์อิชิบาชิซึ่งตั้งอยู่ภายในสวนแห่งนี้ได้

 

 

10. สวนคาโนยะบาระ (Kanoya Bara Park )

Photo by Sanjo from commons.wikimedia.org/wiki/File:Kanoya_Rose_Garden_001.JPG [CCSA2.0]

สวนคาโนยะบาระ หรือ สวนคาโนยะ โรสการ์เดน (Kanoya Rose Garden) ตั้งอยู่ใกล้ๆกับอ่าวคาโกชิม่า ถือได้ว่าเป็นสวนกุหลาบที่เป็นที่สุดของญี่ปุ่นเชียวค่ะ สายกุหลาบนี่ต้องตื่นตาตื่นใจไปกับกุหลาบหลากหลายสายพันธ์กว่า 35,000 ดอก ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่นั่นก็คือ กุหลาบสายพันธ์พริ๊นซ์คาโนยะ ซึ่งเป็นกุหลาบที่มีถิ่นกำเนิดเป็นเมืองแห่งนี้นี่เองค่ะโดยเค้าจะแบ่งออกเป็น 2 โซนให้เลือกเดินกัน นั่นคือ โซนสวนแห่งกลิ่นหอม และสวนเทพนิยาย บอกเลยว่าอยากชมกุหลาบแบบสวยอลังการท่ามกลางวิวเทือกเขาไม้ควรพลาดเด็ดๆ

 

 

11. พิพิธภัณฑ์โชโก๊ะ ซูเซอิคัง (Shoko Shuseikan Museum)

บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์โชโกะ-ซุเซยกะ Shoko Shuseikan

พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทางอุตสาหกรรมในยุคเมจิ โดยได้มีการรวบรวมเรื่องราวของตระกูลชิมาซึ (Shimazu) ซึ่งทรงอิทธิพลมากๆในยุคก่อนโน้น อีกทั้งยังมีโซนจัดแสดงสิ่งต่างๆที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปเมจิ เครื่องจักรโบราณ โมเดลเรือ โมเดลหุ่นจำลองบุคคลสำคัญ รวมไปถึงยังจะมีนิทรรศการพิเศษๆแตกต่างกันตามฤดูกาลให้ได้ลองมาชมกัน

 

 

12. ถนนช็อปปิ้งเท็มมงคัง(Tenmonkan Shopping Street)

Photo by Sanjo from commons.wikimedia.org/wiki/File:Tenmonkan_Street_2011.JPG [CC by 2.0]

ย่านช็อปปิ้งที่เต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคักของการจับจ่าย ถ้าอยากมาช็อปปิ้งเดินหาของดีของเด็ดเมืองคาโกชิมะนี่ต้องมาตำดูค่ะ แล้วถ้าเกิดหิวขึ้นมาก็สามารถแวะร้านอาหารหรือคาเฟ่เก๋ๆที่เรียงรายอยู่อย่างสบายๆ ส่วนถ้าใครอยากหาที่กินดื่มช่วงกลางคืนนี่ก็แจ่มนะคะ ร้านอาหารสไตล์กลางคืนของถนนนี้ก็เลื่องชื่อไม่เบา ทั้งกลางวัน กลางคืน บอกเลยว่ายืนหนึ่งเรื่องกินดื่มจริงจัง

 

 

13. อ่าวคาโกชิม่า (Kagoshima Bay)

Photo by そらみみ from commons.wikimedia.org/wiki/File:Kagoshima_Bay_near_Sakurajima_Lava_Beach_Park_3.jpg [CCSA2.0]

อ่าวชื่อดังที่เป็นเสมือนแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองคาโกชิมะ ถ้ามาที่นี่แนะนำให้ขึ้นเรือเฟอร์รี่นะคะ เพราะจะได้ชิวิวทิวทัศน์ของอ่าวที่คั่นกลางระหว่างแหลมสัทซึมะและแหลมโอสึมิได้แบบเต็มๆตา วันไหนโชคดีก็อาจจะได้ยลโฉมโลมากระโดดทักทายให้ได้ฟินไปกับความน่ารักอีกต่างหาก
Exit mobile version