15 จังหวัดนอกสายตาของญี่ปุ่น น่าไป คนน้อย เที่ยวชิลๆ 2567
Photo from https://www.flickr.com/photos/kimon/4128149164
ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีมนตร์ขลังที่ไปครั้งเดียวไม่เคยพอต้องมีครั้งสองสามสี่ตามมาอีกเป็นขบวน ซึ่งจังหวัดยอดฮิตก็คงไม่พ้น โตเกียว โอซาก้า ฮอกไกโด อะไรประมาณนั้น ก็ต้องยอมรับนะคะว่าเมืองที่ว่ามาเค้าฮอตจริงจังทำให้คนเที่ยวพรึบพรับ บางทีไปที่เที่ยวฮิตๆมองไปที่ไหนแทบจะเจอคนไทยไปทุกหนทุกแห่ง แล้วถ้าอยากลองไปเมืองอื่นๆที่นักท่องเที่ยวไม่แน่นเพื่อจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบคนท้องถิ่นแบบเรียลๆบ้างจะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างมั้ยน๊า บอกเลยว่าไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลเรามัดรวม 15 จังหวัดนอกสายตาแต่น่าเที่ยวสุดๆ บอกเลยว่าแต่ละที่มีดีไม่แพ้จังหวัดดังๆเลยนะเออ ว่าแล้วก็เตรียมแพ็คกระเป๋ามาเรามาให้เร็วเลยจ้า
1. โอกายาม่า (Okayama)
จังหวัดโอกายาม่า ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเกาะฮนชู บริเวณภูมิภาคชูโงกุ ทางด้านสถานที่ท่องเที่ยวนั้นด้านธรรมชาติเค้านำโด่งมากๆ ไม่ว่าจะเป็น เกาะสุนัขอินุจิม่า (Inujima Island) เกาะอาร์ตๆบรรยากาศเงียบสงบ เนินเขาฮิรุเซ็น (Hiruzen Kogen Highlands) ย่านแห่งการเลี้ยงวัวเจอร์ซี่อันแสนโด่งดังของญี่ปุ่นที่เหมือนหลุดเข้ามาในโลกของฟาร์มในหนัง ส่วนสายอยากชิลบรรยากาศในเมืองที่เติมไปด้วยกลิ่นอายย้อนยุคต้องมาโดนที่เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Quarter)
ทางด้านของดีของเด็ดต้องขอออกตัวแรงๆว่าสายพีชต้องหลงรักกับพีชขาวที่นุ่มชุ่มฉ่ำอร่อยจนต้องยกให้เป็นที่หนึ่งของญี่ปุ่นกันมาแล้ว ซึ่งถ้าซื้อมาทีละแพ็คมันไม่สาแก่ใจแนะนำให้มาช่วงต้นเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายน เพราะทางฟาร์มนิชิยามะ (Nishiyama Farm)จะมีการเปิดให้เข้ามาเก็บพีชขาวได้แบบบุพเฟ่ต์ ผลไม้ว่าละมุนแล้วสายเนื้อนี่ต้องมาลองเนื้อ Chiyagyuที่ละเลียดทีแทบละลายในปาก รวมทั้งยังมีอาหารทะเลสดเว่อร์วังทั้งปลาอินทรี ปลาหมึกยักษ์ และหอมนางรมให้ได้จัดเต็มกันอย่างจุใจ
2. มิเอะ(Mie)
ทางด้านอาหารการกินก็ไม่น้อยหน้าใครส่งเนื้อวัวมัตสึซากะ เนื้อวัวขั้นเทพที่คุณภาพมาตรฐานโลกที่สายเนื้อไม่มีใครไม่รู้จัก อาหารทะเลนี่ยิ่งแจ่มทั้งกุ้งอิเสะ หอยอาวาบิ หอยนางรม พร้อมทั้งเมนูอาหารทองถิ่นให้ได้ลองลิ้มชิมรสไม่ว่าจะเป็น ฮามากุริ เทโกเนะซูชิ ซันมะซูชิ และเมฮาริซูชิ ซึ่งเมนูแต่ละอย่างไม่ได้หาทานกันได้ง่ายๆนะคะ แต่ถ้ามามิเอะได้ลองทุกอย่างแน่นอน
3. คาโกชิม่า (Kagoshima)
จังหวัดคาโกชิม่า ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้บนเกาะคิวชูของญี่ปุ่น แหบ่งท่องเที่ยวเค้าเองก็น่าสนใจไม่แพ้ที่ไหนๆมีทั้งแนววัฒนธรรมอย่าง ศาลเจ้าเทรุคุนิ (Terukuni Shrine) ที่เป็นสถานที่จัดของเทศกาลโรคุงาซึโด ศาลเจ้าคิริชิมะจิงงู (Kirishima Shrine )ศาลเจ้าของศาสนาชินโตที่ทั้งเก่าแก่และใหญ่ที่สุดของภูมิภาคคิวชูสวนเซนกังเอ็น (Senganen Garden) สวนสวยทุกฤดูกาลที่ความงดงามของทุ่งดอกไม้เลื่องชื่อสุดๆ ยากุชิมะ (Yakushima Island) หรือที่เรียกสั้นว่าเกาะยากุ ธรรมชาติเนืองแน่นจนได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางด้านทางธรรมชาติ สุนะมุชิ ออนเซ็น (Sunamusi Onsen)ออนเซ็นบนหาดทรายน้ำพุร้อน ที่น่าจะถูกใจคนขี้อาย เพราะเค้าให้แช่ทั้งชุดยูกาตะนะเออ
เรื่องของขึ้นชื่อของเมืองต้องยกให้พวกถ้วยชามดินเผาและเครื่องแก้วคริสตัล มาแล้วไม่มีผิดหวังกับเครื่องดินเผางานดีและเครื่องแก้วคริสตัลหลากสีสัน บอกเลยว่าทั้งรูปแบบดีไซน์มาเหนือจริงๆ ทางด้านอาหารการกินก็อุดมสมบูรณ์ยิ่งสายมันเทศรับรองว่าเต็มอิ่มมันฟินอย่างแรงเนื้ออย่างเนียนเผาแล้วหวานหอมละมุนอย่างกับขนม ส่วนเมนูคาวๆต้องราเมงคาโกชิม่าเลยค่ะน้ำซุปเค้ามีเอกลักษณ์มากๆมีความเข้มข้นกำลังพอดี เส้นที่เหนียวนุ่ม ทานคู่กันแล้วยื่งติดใจชามเดียวไม่เคยพอ
4. โอกินาวะ (Okinawa)
จังหวัดโอกินาวะ ตั้งอยู่บริเวณใต้สุดของภูมิภาคคิวชู นับว่าเป็นจังหวัดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งภาษาและวัฒนธรรมที่เราจะได้เห็นได้สัมผัสที่นี่เท่านั้นนะคะ ด้วยจากการได้รับอิทธิพลจากชาติต่าง ๆ ที่เคยทำการค้าด้วยกันมาแต่ในอดีตโน้น จนทำให้กลายมาเป็นวัฒนธรรมโอกินาวะที่ไม่เหมือนใครในญี่ปุ่น หลายๆคนอาจจะคุ้นเคยกับกีฬาประจำชาติอย่างคาราเต้ของญี่ปุ่นใช่มั้ยคะ บอกเลยว่าต้นกำเนิดกีฬานี้ก็มาจากที่นี่นั่นเองค่ะ เรื่องอากาศก็ถือว่าเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนญี่ปุ่นหรือเกาหลี เพราะอากาศจะไม่หนาวไม่ร้อนตลอดปี ฮอตจนจนได้รับฉายาว่า “ฮาวายแห่งญี่ปุ่น”มาครอบครองออย่างเป็นเอกฉันท์
ถ้าพูดถึงว่ามาโอกินาว่าแล้วกินไรดี ลองมันม่วงเลยค่ะของเค้าดีจริงไรจริงมีทั้งขนมและแบบเผาเป็นลูกก็มี ส่วนอีกอย่างต้องเป็นเบียร์โอไรอ้อน (Orion beer) ที่หาลองที่อื่นยากๆเรียกว่าเป็นเบียร์ท้องถิ่นของโอกินาว่าก็ไม่ผิดนักค่ะ แถมจิบๆไปแล้วดันติดใจอยากรู้กรรมวิธีการผลิตนี่เค้าก็เปิดโรงงานให้สามารถเข้าทัวร์ชมได้ด้วย เบียร์มาแล้วเหล้าท้องถิ่นเค้าก็มีนะเออ เรียกว่า “โอกินาว่า อะวาโมริ” ที่ยังคงใช้ขั้นตอนการทำแบบดั้งเดิมเป๊ะ โดยข้าวนี่เค้าจะนำเข้าจากประเทศไทย ด้านแหล่งท่องเที่ยวนี่ก็หลากหลายอยู่นะคะ ไม่ว่าจะเป็น ปราสาทชูริ (Shuri Castle) ปราสาทสีแดงสดที่อาจจะได้มีปราสาทให้ได้ชมกันแล้ว แต่พอถึงทางเข้านี่ก็กระแทกตามด้วยสีแดงแล้วล่ะค่ะ ที่สำคัญยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย เกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island) หาดทรายขาวเนียน ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าเข้มใสๆ ที่สามารถดำน้ำตื้นๆชมแนวปะการังได้สบายๆ เกาะทาเคโตมิ (Taketomi Island) เกาะแห่งวัฒนธรรมดั้งเดิมที่มีหมู่บ้านริวกิว ซึ่งยังคงทั้งบ้านเรือนและวิถีชีวิตแบบโบราณไว้ ตบท้ายด้วยมาเดินช็อปปิ้งซื้อของฝากได้ที่ถนนโคคุไซโดริ (Kokusai Dori) บอกเลยของฝากเค้าแนวมากๆ ส่วนใหญ่จะเป็นของที่ระลึกที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมของโอกินาว่า เรียกได้ว่าคนรับได้อินกันยาวๆ
5. ชิงะ (Shiga)
จังหวัดชิงะ ตั้งอยู่บริเวณภาคคันไซ ด้วยความที่พื้นที่ทางทิศตะวันตกติดกับเกียวโต ถ้ามาเที่ยวเกียวโตแล้วยังอยากจะลองหาเมืองเงียบสงบๆบรรยากาศชนบทต้องที่นี่เลยค่ะ สินค้าชื่อดังของที่นี่มีทั้งข้าว ชาเขียว และปลาในทะเลสาบบิวะ สายซูชิที่อยากลองอะไรแปลกๆใหม่ต้องลองซูชิปลาไนหมัก ส่วนสายเนื้อร่างกายต้องการเนื้อดีๆก็มีเนื้อโอมิอันเลื่องชื่อ ของดองๆอย่างรากผักดองอันนี้ก็น่าลองนะคะท่าทางจะรสชาติไม่เหมือนใครดี ส่วนเมนูท้องถิ่นของชิงะก็มีทั้งโซเม็งปลาแมกเคอเรลย่าง ฮิโกเนะ และบะหมี่จัมปง เรียกได้ว่าไปร้านไหนๆในแถบนี้มักจะมีเมนูเหล่านี้ให้เลือกชิมเกือบทุกร้านเลยล่ะค่ะ
ด้านสถานที่ท่องเที่ยวนี่ก็มีทั้งแนววัฒนธรรมอย่างบ้านนินจาในเมืองโคกะ โรงละครหุ่นบุนรากุในเมืองนางาฮามะ หรือจะไปเดินชมวิวที่สวนนะงิสะ (Nagisa) เพื่อชมทะเลสาบบิวะ (Biwa) ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในช่วงกลางวัน แล้วช่วงเย็นก็มาชมการแสดงโชว์น้ำพุเต้นระบำพร้อมกับประดับไฟ แต่ถ้าชอบวิวมุมสูงสวยๆแนะนำให้ไปที่ภูเขาฮิเอ (Hieizan)ที่เมืองซาคาโมโตะเลยค่ะแจ่มมาก ยิ่งถ้ามาช่วงพีคอย่างฤดูใบไม้ผลิหรือใบไม้เปลี่ยนสีแล้วหาจุดชมสวยๆมาที่สวนเก็นคิวเอน (Genkyuen)รับรองว่าอย่างงาม แล้วที่พลาดไม่ได้เด็ดๆอย่าง ปราสาทฮิโกะเนะ (Hikone Castle) ที่เป็นเพียง 1 ใน 12 ที่ยังคงเป็นปราสาทดั้งเดิมที่ไม่ถูทำลาย รวมทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกด้วยล่ะค่ะ
6. ยามากูจิ (Yamaguchi)
7. เอฮิเมะ (Ehime)
8. อาโอโมริ (Aomori)
จังหวัดอาโอโมริ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดของเกาะฮอนชู ในภูมิภาคโทโฮกุ มาอาโอมิริไม่ลองแอปเปิ้ลถือว่าผิด เพราะแอปเปิ้ลที่นี่ถือว่าหนึ่งในแหล่งผลิตแอปเปิ้ลชั้นเยี่ยมของญี่ปุ่นเลยทีเดียว ยิ่งถ้าลองเก็บแอปเปิ้ลสดๆจากต้นพร้อมซื้อผลิตภัณ์แอปเปิ้งแปรรูปดิ่งไปเมืองฮิโระซะกิรับรองว่าสุดๆไปค่ะคุณ ส่วนแหล่งท่องเที่ยวนั้นก็มีทั้งชมธรรมชาติอย่างสวนสาธารณะฮิโระซะกิ (Hirosaki Park)ที่ช่วงใบไม้ร่วงนี่สวยพีคมาก หรือจะเป็นเทือกเขาชิระคะมิซันจิ (Shirakami-sanchi Mountain Range) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็รมรดกโลกทางธรรมชา ฉะนั้นเรื่องแมกไม้ป่าเขาเค้ามาเต็มเหนี่ยว แล้วไม่ได้มีเฉพาะธรรมชาตินะคะที่เที่ยวสไตล์วัฒนธรรมเค้าก็แจ่มนะเออ อย่างพิพิธภัณฑ์บ้านเนบุตะ วารัสเซ่ (Nebuta Museum) นับว่าเป็นตัวจี๊ดจากการที่นำเอาโคมไฟรูปร่างต่างๆและอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ใช้ในเทศกาลเนบุตะ (Nebuta Festival) รวมทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์โคมไฟ ทะชิเนปุตะ (Tachineputa no Yakata) ที่จัดแสดงรถลากประดับโคมไฟขนาดใหญ่ยักษ์ที่ใช้ในเทศกาลทะชิเนปุตะ (Tachineputa Festival)
9. โออิตะ (Oita)
จังหวัดโออิตะ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะคิวชู ในภูมิภาคคิวชูของประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำพุร้อนระดับประเทศเชียวนะคะ จากการที่มีปริมาณน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ผุดขึ้นมามากที่สุดของญี่ปุ่น อย่างเมืองที่ดังๆยอดนิยมฮอตในหมูนักท่องเที่ยวก็จะมี เบปปุ และยูฟุอิน ซึ่งเค้าไม่ได้มีเฉพาะแค่แช่น้ำพุร้อนชมวิวแบบที่เราคุ้นเคยนะคะ เพราะยังจะมีรูปแบบอื่นๆให้ได้เลือกลองทั้ง บ่ออบทรายร้อนที่เบปปุไคเซ็น สุนะยุ บ่อโคลนที่เบปปุออนเซ็น โฮโยแลนด์ บ่ออบไอน้ำที่คันนาวะ มุชิยุุ และไม่ใช่แค่สองเมืองนี้ที่มีน้ำพุร้อนนะคะเรียกได้ว่าทั่งทั้งจังหวัดโออิตะมีน้ำพุร้อนให้เลือกแช่ตามใจชอบอีกเพียบเลยค่ะ
นอกจากน้ำพุร้อนแล้วนั้นที่จังหวัดนี้เค้าก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดอิชชินจิ (Isshinji Temple) ที่จะสวยมากเป็นพิเศษช่วงฤดูใบไม้ผลิ ศาลเจ้าอุสะ (Usa Jingu)ศาลเจ้าเก่าแก่ที่คลาสสสิคสุดๆ ถนนยุโนะซึโบะ ไคโด (Yufuin) เดินไปชิลไปกับบรรยากาศบ้านเรือนน่ารักๆสวนดอกไม้คุจู (Kuju Hana Koen) งานดอกไม้อลังการทั้ง 4 ฤดูกาล ปิดท้ายด้วยบุนโก ฟุตะมิกะอุระ (Futamigaura New Year Sunrise) หรือเรียกง่ายๆว่าหินตายาย บอกเลยว่ามาช่วงพระอาทิตย์ตกนี่งานดีขั้นเทพ
10. อิชิกาวะ (Ishikawa)
ทางด้านของฝากน่าซื้อก็เพียบนะคะทั้ง ขนม Kingyokukan ทำจากวุ้นและน้ำตาลอารมณ์วุ้นกรอบบ้านเราเบาๆ แต่เค้าทำออกมาได้น่ารักมากจริงๆ ขนม Rakugan จะเป็นขนมที่มีส่วนผสมหลักเป็นแป้งและน้ำตาลพิเศษด้วยเติมน้ำตาลผลึก ขนม Jiro-ame ทำจากข้าวเจ้าและข้าวบาร์เล่หวานแบบธรรมชาติเน้นๆ เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี อันนี้เป็นแค่เรียกน้ำย่อยนะคะบอกเลยว่าถ้าไปจริงๆของน่าช็อปน่าชิมมีอีกเยอะ
11. ยามากาตะ (Yamagata)
ในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวก็ไม่เป็นรองใครทั้งธรรมชาติและออนเซ็น ไม่ว่าจะเป็นวัดริชชะคุจิ (Risshakuji Temple) วัดสวยรวมธรรมชาติบนเนินเขาสูงกว่า 1,015 ขั้น เดินอาจจะนานนิดหน่อย แต่ถ้าขึ้นไปถึงรับรองเต็มร้อยเรื่องวิว สามารถแวะชมวิวตามจุดแวะพักได้เรื่อยๆนะคะ เดินไปชิลไปเดี๋ยวก็ถึง ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนี่การันตีความฟินไปเลยจ้า ส่วนสายหนาวอยากเจอหิมะเน้นก็สามารถนั่งกระเช้า Zao Ski – Zao Ropeway เพื่อไปเล่นสกีและชมปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่าง Snow monster ได้อีกด้วย เหนื่อยมาทั้งวันมาพักทางนี้ที่ Ginzan onsen เพื่อแช่ออนเซ็นให้ร่างกายได้ผ่อนคลายใจสบาย ไปกับออนเซ็นที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับพันปี
12. มิยาซากิ (Miyazaki)
จังหวัดมิยาซากิ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะคิวชู บริเวณชายฝั่งทางทิศตะวันออกติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก นับว่าเป็นอีกแห่งที่จะเที่ยวทะเลก็ดี ป่าเขาก็ได้ วัฒนธรรมก็ยังไหว ท่ามกลางบรรยากาศง่ายๆสบายๆนักท่องเที่ยวไม่หนาแน่น แหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจก็มีทั้ง ศาลเจ้าอูโดะ นับเป็นศาลเจ้าที่มีความแปลกอยู่ที่จะซ่อนตัวอยู่ในถ้ำริมผาติดชายฝั่ง ซึ่งหายากมากๆจนได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรม จะขอพรเรื่องความรักหรือลูกก็ได้ หรือจะเดินชิลดูวิวอันนี้ก็เพลิน สวนรูปปั้นโมอาย หรือที่เรียกว่า “Sun Messe Nichinan” ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาด้านหลังเป็นทะเล ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ล่าสุดของที่นี่เลยนะคะ นอกจากจะสามารถชมวิวได้แบบพาโนราม่าแล้ว ยังมีร้านค้าและกิจกรรมนิดๆหน่อยให้ได้ทำไปชิลๆ เขาคิริชิมะถือว่าเป็นจุดหมายทางของนักผจญภัยที่ชื่นชอบการเดินป่าเดินเขา
ในส่วนอาหารการกินเค้าก็เพียบพร้อมนะคะ ใครที่ไปเที่ยวแล้วชอบจะลองเมนูท้องถิ่นนี่ยิ่งน่าจะโดน เพราะเค้ามีหลากหลายเมนูให้เลือกชิมมากมายทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น เมนูไก่บ้าน ที่รสสัมผัสจะมีเอกลักษณ์ต่างจากไก่ทั่วไป สามารถเอามาทำได้ทั้งย่างหรือยำ หรือจะเป็น Ogura Chicken Namban ของร้าน Ogura อารมณ์คล้ายๆไก่คาราเกะ แต่ต่างกันตรงซอส เมนู Hiyashiru ที่จะเป็นซุปผสมระหว่าง เนื้อปลาบด มันฝรั่ง และมิโซะ ทีว่ากันว่าเมนูนี้เป็นเมนูยอดนิยมของเหล่าเกษตรเลยนะคะ แลดูง่ายๆหน้าตาธรรมดาแต่ลองแล้วสดชื่นมากๆ ส่วนสายเนื้อต้องลองเนื้อ Miyazaki ที่แค่เอามาย่างเฉยๆไม่ต้องปรุงอะไรมากก็อร่อยแล้วล่ะค่ะ
13. โทยามะ (Toyama)
ทางด้านอาหารการกินของขึ้นชื่อของโทยามะที่มาแรงแซงทุกโค้งต้องยกให้ ปลาหมึกหึ่งห้อย ที่เค้าเรียกกันว่า “โฮตารุอิกะ (Hotaru-ika)” ซึ่งก็ตามชื่อเลยนะคะว่าจะเป็นปลาหมึกขนาดเล็กส่องแสงวิบวับๆในทะเลอันมืดมิด นอกจากสวยแล้วเค้ายังรสชาติอร่อยเว่อร์วัง ยิ่งเอามาทำซาชิมิสดๆนี่ทั้งสดและนุ่มมากๆ หรือจะทำมาชุบแป้งทอดกรอบอันนี้ก็เด็ดดวงนะคะ
14. อากิตะ (Akita)
จังหวัดอากิตะ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะฮอนชูของภูมิภาคโทโฮกุ แหล่งท่องเที่ยวก็ดีหรือจะเป็นงานเทศกาลก็เด่น แหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจก็มีทั้ง หมู่บ้านซามุไรคาคุโนะดาเตะ( Kakunodate) ตั้งอยู่ที่เมืองคะคุโนะดาเตะที่เรารู้จักกันในชื่อ ลิตเติ้ลเกียวโตแห่งภูมิภาคโทโฮคุนั่นเองค่ะ เรียกได้วายืนหนึ่งเรื่องบรรยากาศย้อนยุคเหมือนหลุดมาสมัยโบราณอย่างไรอย่างนั้น อาคารบ้านเรือนสไตล์โบราณตามวิถีซามุไรดั้งเดิมที่สุดแสนคลาสสิครายล้อมด้วยธรรมชาติ ยิ่งช่วงฤดูใบไม้ผลิได้เดินไปชมบ้านเรือนไปพร้อมซากุระที่เรียงรายตามถนนตลอดสายฟินอย่าบอกใคร ต่อด้วยมาเรียนรู้ประวัติของสุนัขอากิตะอันเลื่องชื่อที่ พิพิธภัณฑ์สุนัขอากิตะ (Akita Dog Museum) แล้วมาชมวิวทะเลสาบทาซาวะได้ที่ศาลเจ้าโกซะโนอิชิ(Goza no Ishi Shrine) ผ่อนคลายไปกับการแช่ออนเซ็นน้ำนมได้ที่นิวโตะออนเซ็น (Nyuto Onsen)
แล้วถ้ามามาสัมผัสเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ที่ดังไกลระดับประเทศอย่าง เทศกาลอาคิตะคันโตมัตสึริ (Akita Kanto Matsuri) ซึ่งเป็นเทศกาลแห่โคมไฟที่ติด 1 ในเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ของภูมิภาคโทโฮคุ แนะนำให้มาช่วงต้นๆเดือนสิงหาคมของทุกปีนะคะ ส่วนสายหนาวของได้บรรยากาศโรแมนติกๆต้องมาลอง “เทศกาลโยโตเตะ คามากุระ (Yokote Kamakura Festival) ที่จัดขึ้นมาหลายร้อยปีเพื่อเป็นการเคารพบูชาเทพเจ้าแห่งน้ำ อันนี้จะมีช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีค่ะ ในส่วนของดีขึ้นชื่อที่ไม่พูดถึงเลยไม่ได้นี่ต้อง ปลาปักเป้าคุณภาพที่รสชาติดีเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่น รวมทั้งที่ผลิตจากข้าวที่ปลูกในจังหวัดอากิตะที่ว่ากันว่าถ้าได้ลองรับรองจะหลงรักไปเลยเชียว
15. คางาวะ (Kagawa)
จังหวัดคางาวะ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะชิโกกุ มีพื้นที่ทางด้านทิศตะวันตกติดกับทะเลเซโตะ แม้จะเป็นจังหวัดเล็กๆที่มีพื้นที่เล็กที่สุดของญี่ปุ่น หากบอกเลยว่าเล็กแค่ขนาดแต่คุณภาพคับแก้วค่ะงานนี้ เพราะทั้งสถานที่ท่องเที่ยว และอาหารการกินอย่างแน่น โดยสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดอยากแนะนำก็จะมีทั้ง เรโอมะ รีสอร์ท (Reoma Resort) ที่จะมีสวนดอกไม้ตลอดทั้ง 4 ฤดูที่อลังการงานสร้างมากที่สุดของชิโกกุ เรียกได้ว่ามาช่วงไหนก็ได้เพลิดเพลินได้กับดอกไม้ตามฤดูกาลในเวลานั้นๆกันให้ฉ่ำปอด แล้วไม่ได้จบแค่สวนดอกไม้เท่านั้นนะคะ เพราะที่นี่เค้ายังมีหลายโซนน่าสนใจทั้งสนุก NEW Reoma World อันเต็มไปด้วยเครื่องเล่นมากมาย และโซน Oriental Trip ที่จะมีสถาปัตยกรรมจำลองสถานที่ท่องเที่ยวฮิตๆเด่นๆของแถบเอเชียตะวันออก หรือถ้าชอบแนวเกาะๆหน่อยก็สามารถมาเที่ยวได้ที่เมืองทาคามัตสึ ซึ่งจะมีที่เที่ยวน่าสนใจทั้งปราสาททาคามัตสึ (Takamatsu Castle) ปราสาทติดทะเลเซโตะ ที่แม้จะพังทลายไปหลายส่วนหากสิ่งที่คงเหลือก็ยังคงงดงามน่าค้นหา หรือจะมาต่อที่ สวนริทสึริน (Ritsurin Garden) เพื่อมาชมสวยสวยสไตล์ญี่ปุ่นที่ดีงามจนได้ระดับ 3 ดาวของไกด์บุ๊คท่องเที่ยวมิชลินมาแล้ว
ทางด้านอาหารแน่นอนว่ามาคางาวะทั้งทีจะพลาดอุด้งได้ยังไงล่ะค่ะ บอกเลยว่าเรื่องอุด้งต้องยกให้เค้าจริงๆ โดยเฉพาะเมนู “ซานูกิอุด้ง” มองดูแค่ข้างนอกอาจจะดูเรียบๆ แต่รสชาตินี่ละมุนละไมเหลือใจ ยิ่งถ้ากินจนอินอยากรู้ลึกรู้จริงหรืออยากได้มีโอกาสได้ลองทำอุด้งแบบคางาวะดูซักครั้งก็สามารถไปได้ที่ โรงเรียนสอนทำอุด้งนากาโนะ” (Nakano Udon School) เพื่อเรียนรู้ทุกขั้นตอนการทำอุด้ง พร้อมลองชิมฝีมือของตัวเองว่าจะอร่อยแค่ไหนได้ด้วยล่ะค่ะ