20 แลนด์มาร์ค ที่ญี่ปุ่น ถ่ายรูปสวย ปั๋วปังอลังทุกท่าโพสต์ 2567
เพราะญี่ปุ่น…ไปกี่ครั้งก็ไม่เคยพอ จึงไม่แปลกใจเลยที่ญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยที่นิยมแวะเวียนมาเยี่ยมเยียน เที่ยว ชิม ช้อปที่ญี่ปุ่น แต่ ๆ จะเที่ยวญี่ปุ่นให้ครบรสทั้งเสพย์วัฒนธรรมดั้งเดิม เมืองโบราณ ศิลปกรรม อาหารการกิน ไปจนถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย และสีสันของเมืองอันเจริญรุ่งเรือง แบบนี้ไม่ว่าจะเป็นนักเที่ยวแนวไหน ไปปีละหลาย ๆ รอบก็ยังคงฟินกันต่อไม่มีเลิกรา
ว่าแล้ว ใครที่กำลังมีแพลนมุ่งหน้าสู่แดนปลาดิบ ไม่ว่าจะครั้งแรกไม่รู้จะเริ่มไหนดี หรือไปมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว แต่ยังคงเก็บทีเด็ดที่เที่ยวไม่หมด รีบมาทางนี้เลย กับ 20 แลนด์มาร์ค ถ่ายรูปสวย ปั๋วปังอลังการมาก สำหรับผู้ที่เดินทางสู่ญี่ปุ่นครั้งแรก ที่ไหนใจบอกว่าใช่ไปเก็บแลนด์มาร์คที่นั่นกันก่อนเลย ส่วนขาประจำที่ยังเก็บเช็คลิสต์แลนด์มาร์คไม่ครบ แล้วจะรออะไร … ก็ต้องไปต่อกันให้สุด ตะลุยเก็บแลนด์มาร์คให้ครบทั่วญี่ปุ่นกันเลย
ส่วนเรื่องการเดินทางนั้น หมดกังวลกันไปได้เลย เพราะเพียงแค่จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นกับ Traveloka ที่ไม่ว่าปลายทางจะเป็นเมืองใดในญี่ปุ่น Traveloka ก็มีตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ พร้อมทั้งส่วนลดและโปรโมชั่นโค้ดไว้ให้เลือกลดเพิ่มเติมแบบ on top อีกมากมายช่วยให้ประหยัดค่าเดินทางไปได้สบาย ๆ หายห่วง จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นกับ Traveloka คลิกที่นี่
1. ภูเขาไฟฟูจิ
แลนด์มาร์คยอฮิตอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ก็คงหนีไม่พ้น “ฟูจิซัง” กับความปั๋วปังอลังการของภูเขาที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น ที่ระดับความสูง 3,776 เมตร ในพื้นที่จังหวัดชิซุโอกะ(Shizuoka) และจังหวัดยามานาชิ(Yamanashi) ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว ท่ามกลางทัศนียภาพทางธรรมชาติอันสวยงาม มีโอกาสมาเยื่อนแดนปลาดิบทั้งที ถ้าไม่ได้โพสต์ท่าถ่ายรูปกับฟูจิซัง ถือว่ามาไม่ถึงญี่ปุ่นนะบอกเลย
พิกัด : Mount Fuji
2. Tokyo Tower
อีกหนึ่งแลนด์มาร์คอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นที่ตั้งเด่นเป็นสง่ากลางเมืองหลวงอย่างกรุงโตเกียว หอส่งสัณญาณโทรทัศน์และวิทยุความสูง 333 เมตร อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโตเกียว นอกจากจะโพสต์ท่าถ่ายรูปสวย ๆ เก๋ กับ Tokyo Tower จากด้านล่างแล้ว ยังสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองมุมสูงแบบ 360 องศาและถ่ายรูปกับวิวอลังการที่ความสูง 150 และ 250 เมตรได้อีกด้วย
พิกัด : Tokyo Tower
3. Tokyo Sky Tree
อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองโตเกียว ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดอาซากุสะ (Asakusa) กับแลนด์มาร์คอันโดดเด่นอย่างหอส่งสัณญาณโทรทัศน์แห่งใหม่ความสูงถึง 634 เมตร โดยมีไฮไลท์เด็ดอยู่ที่ Tembo Deck จุดชมวิวพาโนราม่าลอยฟ้าบนความสูงถึง 350 เมตร และ TEMBO GALLERIA ที่ความสูง 450 เมตร ซึ่งจัดเป็น Skywalk ที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย
พิกัด : Tokyo Sky Tree
4. ทางเข้าห้างโตคิวพลาซ่า โอโมเตซันโดะ ฮาราจูกุ (Tokyu Plaza Omotesando Harajuku)
แลนด์มาร์คเอาใจสายฮิปสไตล์ฮิปสเตอร์ในย่านแฟชั่นของวัย Teen ในเมืองโตเกียวอย่างฮาราจูกุ หนีไม่พ้นต้องเป็นสถานที่ชิค ๆ เก๋ ๆ ไม่เหมือนใครโดนใจวัยรุ่น กับดีไซน์การออกแบบทางเข้าห้างโตคิวพลาซ่า โอโมเตซันโดะ ฮาราจูกุ (Tokyu Plaza Omotesando Harajuku) ด้วยกระจกนับร้อยบานที่วางตัวทำมุมกันจนให้ภาพสะท้อนสุดอลังการ ที่กลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่โดยใจฮิปสเตอร์กลางย่านชอปปิ้งของเมืองโตเกียวไปแล้ว
พิกัด : Tokyu Plaza Omotesando Harajuku
5. รูปปั้นแมงมุมยักษ์หน้ารปปงงิฮิลส์ (Maman spider sculpture at Roppongi Hills tower)
ยังคงอยู่ต่อกับแลนด์มาร์คในเมืองหลวงอย่างกรุงโตเกียว แต่ย้ายมาเอาใจสาย Monster ที่ชอบเที่ยวแนว Street กันบ้าง กับ งานศิลปะรูปแมงมุยักษ์ “มาม็อง” รูปปั้นแมงมุมยักษ์ความสูงกว่า 10 เมตรบริเวณหน้าอาคาร อันโดดเด่น แปลกตา จนทำให้กลายเป็นทั้งจุดเช็คอินแวะถ่ายรูปของนักท่องเที่ยวอันสัญลักษณ์ใหม่ของย่านรปปงงิไปแล้ว
พิกัด : Maman spider sculpture at Roppongi Hills tower
6. Tokyo Disneyland และ Tokyo Disney SEA
แลนมาร์คโดน ๆ ของคนรักสวนสนุก ซึ่งก็คงหนีไม้พ้นที่กรุงโตเกียว ที่มี Theme Park ของดิสนีย์ถึง 2 แห่งบนพื้นที่เดียวกันในเมืองเดียว โดยเฉพาะทีเด็ดอย่าง Tokyo Disney SEA สวนสนุก Theme ทะเลเพียงแห่งเดียวในโลกของดิสนีย์ โดยทั้งสองแห่งมีโซนความสนุกและเครื่องเล่นมากถึง 7 โซนด้วยกัน
พิกัด : Tokyo Disneyland และ Tokyo Diney SEA
7. Universal Studio Japan
สวนสนุกขนาดใหญ่ยอดฮิตชื่อดังระดับโลกในเมืองโอซาก้า ที่กลายแลนด์มาร์คตัวท็อปอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นโดยเฉพาะไฮไลท์ทีเด็ดของ Theme Park แห่งนี้อย่าง Harry Potter and the Forbidden Journey ที่สาวกพ่อมดน้อยชาวไทยทั้งหลายต่างแห่กันมาเช็คอิน ถ่ายรูปสุดฟินกับบรรยากาศที่เหมือนเข้าไปอยู่ในโลกของนิยายเรื่องนี้จริง ๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นสุดสนุกชวนหวาดเสียวตามแบบฉบับ Universal Studio อีกหลายอย่างให้ได้ลองทดสอบความกล้ากันอีกด้วย
พิกัด : Universal Studio Japan
8. Gulico Man Neon Billboard
จะมาให้ถึงโอซาก้าต้องที่แลนด์มาร์คนี้เลย ป้ายไฟนีออน billboard กูลิโกะที่สะพานอิบิซึบาชิ (Ebisubashi Bridge) บริเวณริมแม่น้ำโดตมโบริ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 สัญลักษณ์แห่งเมือง Osaka โดยเฉพาะวัยรุ่นแนว ๆ สายแฟชั่นต้องไม่พลาดโพสต์ท่าชิค ๆ ถ่ายรูปปั๋วปังกับป้ายไฟนีออน billboard กูลิโกะในย่านนัมบะแห่งนี้เลย
พิกัด : Gullico Man Neon Billboard
9. Umeda Sky Building
อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองใหญ่แถบคันไซอย่างโอซาก้า กับตึกสูงหน้าตาคล้ายหุ่นยนต์ที่ทั้งเท่เก๋ไก๋ไม่เหมือนใครกับตึก Umeda Sky Building ซึ่งมีถึง 40 ชั้น ที่ความสูงถึง 173 เมตร โดดชั้นดาดฟ้าเปิดให้เป็นจุดชมวิวเมืองมุมสูง cityscape แบบพาโนราม่าของเมืองโอซาก้า (Floating Garden Observatory Deck) ที่สามารถมองวิวได้ไกลถึงเกาะอาวาจิ (Awaji Island) ซึ่งห่างออกไปกว่า 50 กิโลเมตรทีเดียว มาโพสต์ท่าถ่ายรูปไฮโซปั๋วปังบนตึก Umeda Sky Building รับรองได้รูปชิค ๆ กับไปแน่นอน
พิกัด : Umeda Sky Building
10. Fushimi Inari Shrine
ขยับตัวออกจากเมืองใหญ่ออกมาสักหน่อย เบนเข็มมาสู่แลนด์มาร์คทางวัฒนธรรมกันบ้าง กับศาลเจ้าชินโตเก่าแก่แห่งเมืองเกียวโต ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ประตูโทริอิ (Torii Gate) ตั้งเป็นแถวเรียงรายกับนับหมื่นต้น ทั่วภูเขาอินาริ อย่างศาลเจ้า Fushimi Inari Taisha หรือศาลเจ้าแห่งจิ้งจอก ที่นอกเหนือจากความสวยงามของมนต์เสน่ห์สุดขลังของศาลเจ้าแห่งนี้แล้ว เสาโทริอิสีแดงที่เรียงรายตลอดแนวทางเดินนี่เองที่ช่วยให้จะโพสต์ท่าไหน ก็ได้รูปสวยปังไปซะทุกท่าโพสต์
พิกัด : Fushimi Inari Shrine
11. Arashiyama (ป่าไผ่อาราชิยาม่า)
อยู่ต่อกันที่กรุงเกียวโต แต่ย้ายมาที่แลนด์มารคสำหรับสายธรรมชาติใกล้ๆ เมืองหลวงที่เมืองอาราชิยาม่า ในกรุงเกียวโตกันบ้าง ด้วยทัศนียภาพอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครของแนวทิวป่าไผ่สูงเสียดฟ้าความสูงนับ 10 เมตรที่เรียงรายเป็นแนวทิวแถวตลอดสองข้างทาง ราวกับกำแพงธรรมชาติอันสวยงาม ร่มรื่น เขียวขจี ที่สำคัญคือถ่ายรูปออกมาสวยปังอลังการมาก ๆ
พิกัด : Arashiyama
12. ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchiko)
ทัศนียภาพอันสวยปังอลังการกับทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของทะเลสาบทั้ง 5 แห่งรอบภูเขาไฟฟูจิ ที่นอกจากจะเป็นแลนด์มาร์คของการชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยติดอันดับในการถ่ายภาพวิวภูเขาไฟฟูจิแล้ว ยังเป็นทะเลสาบที่เดินทางมาถึงได้ง่ายที่สุดอีกด้วย ทะเลสาบคาวากุจิตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติฟูจิฮาโกเนอิซุ ในตำบลฟูจิกาวางูจิโกะ ของเมืองยามานาชิ ก็วิวสวยเว่อร์วังเบอร์นี้แค่นั่งเฉย ๆ ไม่ต้องโพสต์ท่า ถ่ายรูปออกมายังสวยเลยรับรอง
พิกัด : Lake Kawaguchiko
13. ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine)
ย้ายออกมาไกลจากเมืองหลวงกันสักหน่อย สู่เมืองท่าสำคัญอันเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย อย่างเมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima) กับศาลเจ้าที่เป็นแลนด์มาร์คของเมืองฮิโรชิม่า ศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ที่มีลักษณะเหมือนแพลอยน้ำอายุนับศตวรรษบนเกาะมิยาจิม่า ที่มีความโดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครอยู่ที่ ประตูโทริอิกลางน้ำ ที่มาเมืองฮิโรชิม่าแล้วไม่ว่าใครก็ต้องมาเช็คอิน โพสต์ท่าถ่ายรูปปัง ๆ ที่เสาโทริอิลอนย้ำแห่งนี้
พิกัด : Itsukushima Shrine
14. Yokohama Red Brick Warehouse
มาต่อกันที่อีกหนึ่งเมืองท่า กับห้างสรรพสินค้าสไตล์วินเทจโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ฉบับย้อนยุคอย่างโกดังอิฐสีแดงริมท่าเรือ ที่กลายเป็นแลนด์มาร์คชิค ๆ แห่งใหม่ของเมืองโยโกฮาม่า มาเมืองท่าของญี่ปุ่นทั้งที ถ่ายรูปสวย ๆ โดยมีแลนด์มาร์คอย่าง Yokohama Red Brick Warehouse หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Akarenga soko” (ห้างสรรพสินค้าอะคาเรนกะโซโกะ) เป็นฉากหลังรับรองว่าได้รูปปัง ๆ แน่นอน
พิกัด : Yokohama Red Brick Warehouse
15. Hitachi Seaside Park
กลับสู่ธรรมชาติกันต่อกับทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปี กับสวนริมชายฝั่งทะเลแบฟิซิกขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ที่ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนก็มีดอกไม้บานสะพรั่งทั่วบริเวณพื้นที่ของสวนริมทะเลฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) ไม่ว่าจะเป็น ทุ่งดอกนาร์ซิสซัส(Narcissus) ทุ่งดอกทิวลิป(Tulip) ทุ่งดอกเนโมฟีเลีย(Nemophila) และทุ่งดอกโคเชีย(Kochia) ที่กลายเป็นแลนด์มาร์คเด็ดของการโพสต์ท่าถ่ายภาพกลางทุ่งดอกไม้สุดอลังการของญี่ปุ่นไปแล้ว
พิกัด : Hitachi Seaside Park
16. ทุ่งลาเวนเดอร์เมืองฟูกาโนะ (Furano Lavender Farm)
ยังอยู่ต่อกับทุ่งดอกไม้กว้างขวางสุดสายตาอันสวยปังอลังการ ที่เมื่อมาญี่ปุ่นแล้วคงหนีไม่พ้นแลนด์มาร์คอันโด่งดังของภูมิภาคฮอกไกโดที่เมืองฟูกาโนะแห่งนี้ กับทุ่งลาเวนเดอร์ Lavender Farm เมืองฟูกาโนะ ที่จะช่วยรังสรรค์ฉากหลังอันอ่อนนุ่มละมุนสีม่วงพาสเทล จัดเป็นแลนด์มาร์คที่ไม่ว่าจะขยับตัวท่าไหนก็ได้ภาพสวยเว่อร์กันเลยทีเดียว แถมมุมเผลอ ๆ ก็ยังสวยเอาอยู่พูดเลย
พิกัด : Furano Lavender Farm
17. กำแพงหิมะทาเทยาม่า คุโรเบะ(Tateyama Kurobe Alpine)
อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของญี่ปุ่นในเมืองทาเทยาม่าที่จัดเป็นไฮไลท์เฉพาะตัว กับเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น กำแพงหิมะสีขาวโพนความสูงกว่า 20 เมตรที่โอบล้อมทั้งสองข้างทางตลอดระยะทางกว่า 1 กิโลเมตรที่จัดเป็นเสมือนหลังคาของญี่ปุ่น บนระดับความสูง 2,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่แค่หยิบเสื้อหนาวสีเจ็บ ๆ ก็ออกไปโพสต์ท่าถ่ายรูปชิค ๆ กันได้แล้ว
พิกัด : Tateyama Kurobe Alpine
18. หมู่บ้านหลังคาโบราณ ชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go)
หมู่บ้านประวัติศาสตร์อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ที่มีชื่อเสียงด้านความสวยงามแปลกตาของหลังคาบ้านทรงญี่ปุ่นโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี หรือที่เรียกกันว่ากัสโชซุคุริ (Gassho-Zukuri) อันเป็นจุดเด่นของหมู่บ้านแห่งนี้ ทำให้แลนด์มาร์คแห่งนี้สวยราวกับอยู่ในนิทานญี่ปุ่นย้อยยุคที่มีอยู่จริงในปัจจุบัน เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องบอกแล้วว่าถ่ายรูปออกมาจะปังเบอร์ไหน
พิกัด : Shirakawa-go
19. คลองโอตารุ (Otaru Canal)
แลนด์มาร์คแสนโรแมนติกสุดน่ารักในภูมิภาคฮอกไกโด กับคลองโอตารุอันมีชื่อเสียงในเรื่องเสน่ห์สุดคลาสสิคและความสวยงามของเมือง ในสไตล์ฮิป ๆ อาร์ต ๆ ที่ยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่ดังเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ท่ามกลางบรรยากาศสุดคูล ที่จะทำให้โพสต์ท่าถ่ายรูปท่าไหนก็ทั้งชิคทั้งูลสุด ๆ
พิกัด : Otaru Canal
20. วัดโฮริวจิ (Horyu-ji Temple)
ปิดท้ายกันด้วยแลนด์มาร์คที่สุดท้าย กับสถาปัตยกรรมที่ทำด้วยไม้ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ทั้งยังเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองนารา สร้างขึ้นในปี 607 อันจัดเป็นแลนด์มาร์คที่มีความโดดเด่นทั้งสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
พิกัด : Horyu-ji Temple
ญี่ปุ่นมีแลนด์มาร์คสวย ๆ เด็ด ๆ อีกเยอะ 20 แลนด์มาร์ค ที่เราบอกเป็นเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น ญี่ปุ่น ถ่ายรูปสวย ปั๋วปัง มีอีกเยอะ ว่าแล้วก็เตรียมตัวเก็บกระเป๋าแล้วพร้อมออกเดินทางมุ่งหน้าไปญี่ปุ่นกันเลย …
จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นกับ Traveloka คลิกที่นี่