จัดเต็ม 21 สถานที่ท่องเที่ยวฟุกุโอกะ ไปทั้งทีต้องเก็บให้ครบ เที่ยว กิน ช้อป เพลิน

 

มาอัพเดตที่เที่ยว ที่กิน ที่ช้อป ของเมืองใหญ่อันดับ 8 ของญี่ปุ่น หลังจากการกลับมาเปิดประเทศจากโรคโควิด-19 กันเถอะ

ฟุกุโอกะ(Fukuoka) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของญี่ปุ่น เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเกาะคิวชู จนอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคคิวชูเลย อีกทั้งฟูกุโอกะยังเป็นเมืองหน้าด่านเพราะมีสนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของเกาะคิวชูด้วย แต่ถึงแม้เมืองนี้จะเป็นเมืองใหญ่ และมีความเจริญครบครันก็ตาม แต่ก็ยังมีบรรยากาศที่ดูสบายๆไม่อึดอัดเหมือนกับเมืองอื่นๆของญี่ปุ่น ด้วยระบบการขนส่งที่ดี ถนนหนทางที่กว้างขวาง ความสะอาด ปลอดภัยของเมือง และความเป็นมิตรของผู้คนที่นี่ จนทำให้ติดหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่มากที่สุดในโลกด้วย และเนื่องจากนักท่องเที่ยวที่จะมาเกาะคิวชู มักจะลงเครื่องบินที่สนามบินของเมืองนี้ การแวะเที่ยวฟูกุโอกะซักวันสองวันจึงเป็นความคิดที่เข้าท่าไม่น้อย โดยเฉพาะการช้อปปิ้งต่างๆก่อนเดินทางกลับ เราจึงรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวฮิตๆของเมืองฟุกุโอกะเอาไว้ทั้งหมด 7 ที่สำหรับการเที่ยว 2 วันก็สามารถเก็บได้ทั้งหมด

 

 

กันดั้มพาร์คเมืองฟุกุโอกะ  (Gundam Park and Statue) –  สาวกกันดั้มต้องถูกใจสิ่งนี้! เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักกันดั้มที่มาแล้วเพลินจนลืมเวลากันไปเลย โดยจะอยู่ภายในศูนย์การค้า  Mitsui Shopping Park LalaPort Fukuoka ซึ่งที่นี่เค้าจะแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น GUNDAM SIDE-F ที่จัดเต็มกันดั้มรุ่นต่าง ๆ แม้กระทั่งรุ่นลิมิเต็ดหายากไว้ให้ช้อปให้แบบจุก ๆ ตามมาด้วย VS PARK WITH G พื้นที่ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับกันดั้มเน้น ๆ รวมทั้งยังมี Namco บริเวณที่เต็มไปด้วยตู้อาร์เคดพร้อมทั้งตู้เกมส์สุดพิเศษที่มีเฉพาะที่นี่ที่เดียว แล้วยังมีไฮไลท์เด็ดเป็นหุ่นกันดั้มยักษ์ตัวใหม่ล่าสุดสูงถึง 24.8 เมตรไว้ให้รัวรูปกัน

 

 

 

 

 

สวนริมทะเลยูมิโนนะ(Uminonakamichi Seaside Park) ตั้งอยู่บริเวณตัวเมืองฟูกุโอกะ(Fukuoka city) อีกทั้งยังนับเป็นจุดชมซากุระที่ขึ้นชื่ออันดับต้นๆของเมืองฟูกุโอกะ(Fukuoka)เลยทีเดียวล่ะ นั่นก็เพราะภายในสวนจะมีต้นซากุระมากกว่า 1,000 ต้นที่เวลาถึงฤดูใบไม้ผลิทีก็จะพร้อมใจกันบานสะพรั่งอวดโฉมกันแบบไม่มีใครยอมใคร และไฮไลท์ของที่นี่ก็คือช่วงต้นเมษายน ที่ดอกซากุระจะบานพร้อมๆกันดอกเนโมฟีลาสีฟ้า ทำให้เห็นเป็นทุ่งดอกไม้สีฟ้าตัดกับดอกซากุระสีชมพู สวยงามมาก ยิ่งเป็นสวนที่ตั้งอยู่ริมทะเลบอกเลยว่ามันดีต่อใจจริงๆ ถือว่าเป็นการชมซากุระที่มีเสน่ห์ไปอีกแบบ

 

 

 

พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอล TeamLab Forest Fukuoka พื้นที่มหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยการจัดพิพิธภัณฑ์งานศิลปะที่สวยงามมากมายไว้ ณ ที่นี้ เป็นผลงานที่สร้างความตระการตาให้กับนักท่องเที่ยวด้วยงานสร้างของจิตกรชื่อดังจำนวนมาก จัดแสดงไว้หลายโซน งง ผลงานที่นำมาแสดงจะทำขึ้นผลัดเปลี่ยนกันไปแต่ละฤดูกาล ผู้ที่เข้ามาชมจะสัมผัสได้ถึงผลงานที่มีชีวิตชีวา สามารถเคลื่อนไหวได้

 

 

 

อุโมงค์ดอกวิสทีเรียที่สวนคาวาชิฟูจิ(Kawachi Fuji Garden) ตั้งอยู่ภายในเมืองคิตะคิวชู(Kitakyushu)ของจังหวัดฟูกุโอกะ(Fukuoka) ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กแห่งหนึ่งในการท่องเที่ยวเมืองคิตะคิวชูเลย บอกเลยว่าถ้ามาถูกช่วงแล้วล่ะก็ได้ตื่นตาตื่นใจไปกับความอลังการงานสร้างของอุโมงค์ดอกไม้ของที่นี่แน่ๆ ซึ่งอุโมงค์ดอกวิสทีเรียแห่งสวนคาวาชิฟูจินั้นขึ้นชื่อมากๆว่าเป็นจุดชมและถ่ายภาพดอกวิสทีเรีย(Wisteria)ที่สวยตะลึกมากๆ แน่นอนว่าไฮไลท์ของที่นี่ต้องเป็นอุโมงค์ดอกวิสทีเรียนี่เอง โดยช่วงที่เราสามารถมาชมอุโมงค์ได้สวยที่สุดของปีจะอยู่ประมาณช่วงปลายเดือนเมษายน-กลางเดือนพฤษภาคมครับ

 

 

 

 

วัดนันโซอิน(Nanzoin Temple, 南蔵院)เป็นวัดที่นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จักของเมืองซาซะกูริ(Sasaguri) จังหวัดฟูกุโอกะ(Fukuoka)แต่กลับมีอะไรน่าสนใจอยู่ภายในวัดนี้มากมาย เช่น มีพระพุทธรูปทองสำริดขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นหรืออาจจะของโลกเลยทีเดียว และยังมีรูปปั้นและพระพุทธรูปอื่นๆอีกเยอะมากๆในวัดนี้ แต่ที่ทำให้วัดนี้มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ วัดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแสวงบุญที่ชื่อเสียงของเกาะคิวชู

 

 

 

 

 

ตึกราเมงข้อสอบ Ichiran Ramen Tower ที่นี่ถือเป็นต้นกำเนิดของราเมงข้อสอบเลยก็ว่าได้ เพราะสาขาแรกก็เปิดขึ้นที่ฟูกุโอกะ หลายปีผ่านไปตอนนี้มีสาขาไปทั่วประเทศ ซึ่งสำหนักงานใหญ่ของ อิชิรัน ราเมง ก็คือที่นี่นั่นเอง โดยชั้นบนจะเป็นสำนักงาน ส่วนชั้นที่ 2 ของตึก เป็นร้านราเมน ซึ่งเราสามารถนั่งทานได้ที่ชั้นนี้

 

 

 

 

เอาท์เล็ท THE OUTLETS KITAKYUSHU ใหญ่ที่สุดในคิวชู เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ครบครัน เดินทางสะดวกสบาย เป็นลักษณะของห้างเปิดใหม่ที่มีขนาดใหญ่แบ่งสถานที่ต่างๆออกเป็นหลายโซนให้นักท่องเที่ยวได้เดินเที่ยวชมและ Shopping เป็นแหล่งรวมสินค้ามากมาย รวมไปถึงสินค้าแบรนด์ดัง พร้อมทั้งยังมีร้านอาหารแสนอร่อยใน fukuoka ที่ขึ้นชื่อให้นักท่องเที่ยวได้เลือกรับประทานมากมาย

 

 

 

 

ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ (Miyajidake Shrine) เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมามากที่สุดจุดนี้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครหลายคนอยากจะมาดูพระอาทิตย์ตก ซึ่งจะสวยงามเป็นที่น่าจดจำอย่างยิ่งกับวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอลังการ ศาลเจ้ามิยากิดาเกะ เป็นศาลเจ้าของผู้นับถือศาสนาชินโต ณ ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ตั้งศาลเจ้าทั้งหมด 8 แห่ง จุดเด่นอยู่บริเวณศาลหลักจะมีเชือกชิเมะนะวะอันขนาดใหญ่ประดับไว้ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ และนอกจากนี้ทางเดินหินขึ้นมายังศาล เมื่อหันกลับไปจะเป็นวิวพระอาทิตย์ตกซึ่งจะเป็นทางยาวทอดลงไปหาน้ำทะเล เป็นไฮไลท์เด่นที่ตื่นตาตื่นใจไปกับทิวทัศน์อันสวยงาม

 

 

 

 

รถเข็นขายอาหารหรือที่เรียกกันว่ายาไต(Yatai)เป็นหนึ่งในของขึ้นชื่อของเมืองฟุกุโอกะ โดยทั่วๆไปร้านแบบยาไตมักจะมีที่นั่งได้แค่ 6-10 ที่นั่งเท่านั้น ซึ่งมักจะขายอาหารที่สามารถกินได้เร็วๆแต่อยู่ท้อง ทั่วทั้งเมืองฟูกุโอกะจะมีอยู่ประมาณ 150 ร้าน แต่บริเวณที่น่าสนใจที่สุดจนปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของเมืองไปแล้ว ก็คือแถวตอนใต้ของเกาะนาคาสุ(Nakasu Island)ที่อยู่กลางเมืองฟูกุโอกะ เพราะจะมีร้านอาหารแบบยาไตรวมกันอยู่ประมาณ 10 ร้านตลอดทางเดินริมน้ำที่ได้บรรกาศดี

 

 

 

ศาลเจ้าเทนมานกุ(Tenmangu Shrine) ถือว่าเป็นศาลเจ้าเทนมานกุที่มีชื่อเสียงติดหนึ่งในสองจากบรรดาศาลเจ้าเทนมากุนับพันๆแห่งในญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ จะเป็นรองก็เพียงแค่ศาลเจ้าคิตาโน่เทนมานกุ(Kitano Tenmangu)ที่ตั้งอยู่ที่เมืองเกียวโตเท่านั้นเอง โดยศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองดาไซฟุ(Dazaifu) ทั้งยังฮอทฮิตในหมูของนักท่องเที่ยวมากๆเห็นได้จากปริมาณผู้เข้ามาเที่ยวชมแต่ละปีที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งช่วงเทศกาลหรือวันหยุดเนี่ยคนแน่นมากๆทีเดียวเลยค่ะ ยิ่งช่วงปลายเดือนกุมพาพันธ์ถึงกลางเดือนมีนาคามนับว่าเป็นช่วงพีคของปีเลยก็ว่าได้ เพราะต้นบ๊วยที่พากันออกดอกบานสะพรั่งอวดโฉมพร้อมกันกว่า 6000 ต้น จนกลายเป็นจุดชมดอกบ๊วยที่งดงามมากที่สุดของเมืองเลยทีเดียว

 

 

 

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของเกาะคิวชู ถือได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่เรียกได้ว่าเปิดตัวได้น่าสนใจมากๆด้วยคอนเซ็บ “เข้าใจญี่ปุ่นผ่านแนวคิดของเอเชีย” ที่พูดได้เลยว่ามีความเชื่อต่อกันในฐานะที่เป็นเมืองท่าที่แสนจะสำคัญของญี่ปุ่นไปจนถึงระดับเอเชียกันเลยนะคะ แต่ที่ทำให้ได้รับความสนใจจากชาวบ้านท้องถิ่นสุดๆก็คงหนีไม่พ้นการสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลำดับที่ 4 ขนาดใหญ่ยักษ์เมื่อเทียบกับขนาดเมืองที่ตั้งอย่างเมืองดาไซฟุ(Dazaifu)ที่ค่อนข้างจะเล็กมากๆ ยิ่งเปรียบเทียบกับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติก่อนๆที่เปิดก่อนหน้านี้มา 3 แห่งไม่ว่าจะเป็น เกียวโต โตเกียว และนะระ(Nara) ซึ่งถือเป็นเมืองขนาดใหญ่อีกทั้งยังสร้างมานานแล้วถึง 200 ปี โดยพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่นี่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการก็เมื่อปี 2005 นี่เองล่ะค่ะ เรียกว่าห่างกันกับสามอันดับก่อนหน้านี้มากเลยจริงๆ

 

 

 

 

Marine World umino-nakamichi เป็นอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น สถานที่แห่งนี้เป็นจุดรวมปลาสายพันธุ์ต่างๆมากมาย มีพื้นที่จัดแสดงโชว์สัตว์น้ำซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่ มีทั้งสถานที่จัดแสดงภายนอกและภายใน ในแต่ละวันจะมีตารางจัดแสดงสัตว์น้ำให้ชมชัดเจน โดยส่วนใหญ่แล้วศูนย์แสดงสัตว์น้ำกลางแจ้งท่านจะได้ชมความน่ารักของปลาโลมา ปลาวาฬ และแมวน้ำ

 

 

 

 

คาแนลซิตี้ฮากาตะ(Canal City Hakata) นับเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมน้ำภายในตัวเมืองฟูกุโอกะ(Fukuoka city) ที่มีความพีคตรงที่ด้านในนั้นมีการขุดคลองให้ไหลผ่านใจกลางห้างแห่งนี้อีกด้วย บอกเลยว่าเป็นอะไรที่แค่คิดภาพตามก็แลดูน่าจะวิวดีไม่ใช่เล่นๆ แถมยังเก๋ไม่เหมือนใคร ทางด้านร้านค้าก็มีให้เลือกละลานตามากๆเพราะมีมากกว่า 250 ร้านเลย มีทั้งร้านที่มีเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น ไปจนถึงร้านที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ถ้าหิวๆก็มีร้านอาคารทั้งแบบญี่ปุ่นและนานาชาติให้เลือกกันแบบที่ชอบ ที่สำคัญราคาไม่แรงมากด้วยล่ะ

 

 

 

 

สวนโอโฮริเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟูกุโอกะที่มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง โดยจะมีทางเดินรอบๆสระน้ำที่มีระยะทางรวมกันประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของคนท้องถิ่น ผู้คนจะนิยมมาออกกำลังกาย เดินเล่น จูงสุนัข หรือนั่งเล่นรอบๆสระน้ำ และที่สวนแห่งนี้ ยังเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงของเมืองฟุกุโอกะด้วย

 

 

 

 

วัดโชฟูคูจิเป็นวัดเซนแห่งแรกของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1195 โดยพระไออิไซ(Eisai)ที่กลับมาจากเมืองจีน และได้นำศาสนาพุทธนิกายเซนสาขารินไซจากเมืองจีนกลับเข้ามาเผยแพร่ด้วย และได้รับความนิยมอย่างมาในหมู่ซามูไรในสมัยนั้น จนเป็นที่นิยมกันไปทั่วประเทศญี่ปุ่น

 

 

 

สวนสาธารณะริมทะเลโมโมชิ(Momochi Seaside Park)เป็นสวนที่มีพื้นที่เปิดกว้างออกสู่ทะเลฮากาตะ ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้จะตกแต่งเป็นสไตล์โมเดิร์น มีต้นไม้เรียงไปตามทางเดิน และอาคารรูปทรงแปลก ทันสมัยสวยงาม และจะมีส่วนที่เป็นเกาะลอยยื่นออกไปในทะเลเรียกว่า มาริซอน(Marizon) ที่มีมีร้านค้าร้านอาหารเล็กๆตกแต่งและออกแบบอาคารเป็นสไลต์อิตาลีทั้งหมด และที่ด้านฝั่งติดถนนของสวนแห่งนี้จะเป็นหอคอยฟุกุโอกะตึกที่สูงที่สุดของเมืองฟุกุโอกะ มีลานชมวิวแบบ 360 องศาที่ความสูง
123 เมตร ทำให้สามารถชมวิวไปรอบๆ เห็นทะเลฮากาตะและตัวเมืองฟูกุโอกะ

 

 

 

 

ย่านเทนจินอาจจะเป็นย่านที่เรียกว่าเป็นหัวใจของเมืองฟูกุโอกะหรือเกาะคิวชูเลยก็ได้ เป็น downtown area ของเมืองฟูกุโอกะ โดยในบริเวณนี้จะมีร้านรวง ถนนคนเดิน และห้างใหญ่ๆมารวมตัวกันอยู่มากมาย เรียกว่าถ้าตั้งใจจะมาเดินช้อปปิ้งซื้อของกันจริงๆวันเดียวก็ไม่พอ มีสินค้าให้เลือกซื้อแทบทุกชนิด ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า แบรนเนมด์ หนังสือ เครื่องสำอางค์ต่างๆ รวมไปถึงร้านอาหารอีกมากมาย จากสถานีรถไฟเทนจิน ไม่ว่าจะออกที่ทางออกไหนก็จะมีถนนสำหรับเดินเล่น ช้อปปิ้ง ไปได้เรื่อยๆทุกทิศทางกันเลยทีเดียว

ถ้าใครช้อปบนดินแล้วยังไม่พอใจ ย่านเทนจินยังมีส่วนที่เป็นทางเดินใต้ดินขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะคิวชู ที่ตกแต่งทั้งพื้น ผนัง และเพดานสไตล์ยุโรปไว้อย่างสวยงาม เป็นระยะทางเดินยาวมากกว่า 600 เมตร มีร้านค้าและร้านอาหารรวมกันอยู่มากมาย สามารถเดินต่อจากสถานีรถไฟและสถานีรถไฟใต้ดินเทนจินได้เลย

 

 

 

วัดโทโชจิเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ปัจจุบันได้รับดูแลรักษาโดยการเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ของเมืองฟูกุโอกะ ภายในวัดจะมีวิหารที่มีพระพุทธรูปนั่งทำจากไม้แกะสลัก สูงถึง 10.8 เมตร เป็นพระพุทธรูปนั่งทำจากไม้ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นใช้เวลาสร้างนานถึง 4 ปี และเป็นที่รู้จักกันว่า ฟูกุโอกะ ไดบุสสึ(Fukuoka Daibutsu)หรือพระใหญ่แห่งฟูกุโอกะ

 

 

 

ซากของปราสาทฟูกุโอกะตั้งอยู่ตรงใจกลางเมืองภายในสวนมาอิซูรู(ชื่อมาอิซูรูเป็นชื่อจริงๆของตัวปราสาท) ปราสาทนี้สร้างขึ้นในสมัยเอโดะ(Edo)และเคยเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคิวชู ปัจจุบันเหลือเพียงซากของกำแพงและฐานของหอคอยเล็กๆ อยู่ภายในสวนสาธารณะที่มีที่สำหรับเดินเล่น โดยจะมีลานชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองฟูกุโอกะได้ด้วย ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระชื่อดังของเมืองฟุกุโอกะ

 

 

 

 

เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ นอกจากพื้นที่แห่งนี้จะมีทะเลที่สวยงามถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา มีจุดไฮไลท์ซึ่งเป็น หินคู่เมโทอิวะ หรือ หินคู่แต่งงาน ซากุระอิ ฟุตะมิกะอุระ (Sakurai Futamigaura) เป็นโขดหินคู่สามีภรรยาที่แนบชิดติดกัน คนญี่ปุ่นเชื่อว่าหากคนโสดมาขอพรเนื้อคู่จะได้รับความสมหวัง และความสวยงามของที่นี่เมื่อใดที่พระอาทิตย์ตกดวงอาทิตย์จะอยู่ตรงกลางระหว่างหิน ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อเก็บภาพสวยๆกับวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีเสาสีขาวชื่อว่า โทริอิ ตั้งโดดเด่นเมื่อใครเห็นแล้วก็ต้องรู้เลยว่าที่ใด ทุกคนต่างก็อยากเดินทางมาท่องเที่ยว เพื่อที่จะขอพรความรัก และเก็บภาพวิวสวยๆกับไป

 

 

 

 

พิพิธภัณฑ์ฟูกุโอกะ ซิตี้ (Fukuoka City Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น ความเป็นมาของเมืองฟุกุโอกะ ภายนอกเป็นลักษณะตึกสูงตระการตา เมื่อเดินเข้าไปภายในจะถูกแบ่งออกเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ผู้คนได้เข้าไปศึกษาเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นโซนของห้องสมุด ศูนย์ห้องเรียน และส่วนห้องทดลอง

 

 

 

ข้อมูลสถานีที่ท่องเที่ยวของฟุกุโอกะยังมีมากกว่านี้อีกมาก เช่น ที่เที่ยวฟุกุโอกะทั้งหมด, ข้อมุลการเดินทางของเมืองฟุกุโอกะ, ตั๋วและบัตรส่วนลดต่างๆของฟุกุโอกะ รวมไปถึงแหล่งที่พักของเมืองฟุกุโอกะด้วย