35 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น 2567
อัพเดตข้อมูลเพิ่มเติมใหม่กับ 60 ที่เที่ยวฮิตของประเทศญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีการเดินทางที่สะดวก รวดเร็วและปลอดภัยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีเครือข่ายการคมนาคมที่ครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ของประเทศ ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นนั้น สามารถไปได้ไกลกว่าแค่การเที่ยวในเมืองมาก รวมทั้งญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่มีฤดูกาล 4 ฤดูที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนทำให้ มีมนเสน่ห์ในการไปเที่ยวในแต่ละช่วงเวลาของปีนั้นแตกต่างกัน แม้จะเป็นสถานที่เดียวกันก็ตาม ทำให้ประเทศญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้นักเดินทางทั่วโลกเข้าไปค้นพบ
ในบทความนี้เราจึงนำเอา 30 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกแล้วว่าดีที่สุด จากเว็บไซต์ Trip Advisor ซึ่งก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายประเภทเลยทีเดียว ทั้งศิลปะวัฒนธรรม ธรรมชาติ และแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ แต่ทีมงาน TalonJapan.com คิดว่ายังมีสถานที่ที่น่าสนใจมากกว่านี้อีกเยอะ เราจึงเพิ่มสถานที่เที่ยวที่เราชอบแต่ยังไม่ได้อยู่ใน 30 อันดับนี้ ในตอนท้ายให้อีก 5 ที่ด้วยกัน เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าที่เที่ยวเจ๋งๆในประเทศญี่ปุ่นจะมีอะไรบ้าง
30. ย่านช้อปปิ้ง นัมบะ ชินไซบาชิ(Namba Shinsaibashi)
ที่ตั้ง: ตัวเมืองโอซาก้า(Osaka) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)
ย่านช้อปปิ้ง นัมบะ ชินไซบาชิเป็นแหล่งช้อปปิ้งใจขนาดใหญ่กลางเมืองเมืองโอซาก้าที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคคันไซ มีสินค้าขายทุกประเภทสำหรับทุกคน มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขนม เป็นหนึ่งในย่านที่คึกคักที่สุดของเมืองโอซาก้า
ข้อมูลการเที่ยวย่านช้อปปิ้ง นัมบะ ชินไซบาชิ
29. ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market)
ตลาดนิชิกิ–Nishiki-Market | qiqiland.blogspot.com
ที่ตั้ง: ตัวเมืองเกียวโต(Kyoto) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)
ตลาดนิชิกิเป็นตลาดที่รวมเอาอาหารหลากหลายประเภท ทั้งของสด และของหมักดองจนได้ชื่อว่าเป็นครัวหลักของเมืองเกียวโต เป็นตลาดที่คนท้องถิ่นจะมาแวะจับจ่ายใช้สอยกัน จึงอาจจะไม่มีร้านค้าเช่นของฝากของที่ระลึกมากนักแต่จะได้บรรยากาศของตลาดญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
28. พิพิธภัณท์โตโยต้า(Toyota Museums and Factory Tour)
ที่ตั้ง: เมืองนาโกย่า(Nagoya) ภูมิภาคชูบุ(Chubu)
โตโยต้าเป็นบริษัทผลิตรถยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นและของโลกด้วย ที่พิพิธภัณท์โตโยต้าจะมีการจัดแสดงหลากหลายด้านที่เกี่ยวกับรถยนตร์ ตั้งแต่รถยนตร์เก่ากว่าร้อยคัน, ขั้นตอนการผลิต, เทคโนโลยีต่างๆของรถยนตร์ จนถึงการทัวร์โรงงานผลิตรถยนตร์ด้วย
ข้อมูลการเที่ยวพิพิธภัณท์โตโยต้า
27. บาร์วีดีโอเกมส์ Space Station
ที่ตั้ง: ย่านอะเมะริกามูระ(Americamura) ตัวเมืองโอซาก้า(Osaka) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)
ใช่แล้ว เป็นบาร์สำหรับเกมส์เมอร์รุ่นใหญ่โดยแท้ ช่างเป็นอะไรที่ญี่ปุ่นซะจริงๆ ภายในเป็นบรรยากาศแบบบาร์ทั่วไปสไตล์ Retro พร้อมกับหน้าจอและเครื่องเกมส์ยุคแฟนฉันที่มากันครบทุกเครื่องเลย ตั้งแต่ NES Super, NES Famocom, Super Famicom, Saga จนถึง Wii เป็นอะไรที่แปลกจนหลายคนอยากจะไปลองซักครั้ง ร้านจะอยู่ที่ชั้น 2 โดยจะมีป้ายเล็กๆชี้ไปที่บันไดเล็กๆขึ้นข้างบน
พิกัด: 34.670039, 135.498002
26. พิพิธภัณท์สัตว์น้ำ โอซาก้า(Kaiyukan Osaka Aquarium)
ที่ตั้ง: เมืองโอซาก้า(Osaka) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)
พิพิธภัณท์สัตว์น้ำ โอซาก้าเป็นหนึ่งในสวนสัตว์น้ำที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่นเหมาะกับการใช้เวลาดูสัตว์น้ำที่นี่ซักครึ่งวัน มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่หลายอย่างโดยเฉพาะแท้งค์ยักษ์ที่มีฉลามวาฬอาศัยอยู่
ข้อมูลการเที่ยวพิพิธภัณท์สัตว์น้ำ โอซาก้า
25. วัดเซนโซจิ หรือ วัดอาสากุซะ หรือวัดโคมแดง
วัดเซนโซจิ – Sensoji Temple
ที่ตั้ง: เมืองโตเกียว(Tokyo) ภูมิภาคคันโต(Kanto)
วัดเซนโซจิเป็นวัดชื่อดังที่สุดของเมืองโตเกียว อยู่ที่ย่านอาสากุซะ มีสัญญลักษณ์เป็นโคมสีแดงขนาดใหญ่ที่ประตูทางเข้า มีถนนด้านหน้าวัดที่เต็มไปด้วยร้านรวงขายขนมและของที่ระลึก
ข้อมูลการเที่ยววัดเซนโซจิ หรือ วัดอาสากุซะ หรือวัดโคมแดง
24. ถนนเซ็นเตอร์ไก (Center gai)
บรรยากาศที่ถนนเซ็นเตอร์ไก ยามค่ำคืน Center Gai
ที่ตั้ง: ย่านชิบูย่า(Shibuya) เมืองโตเกียว(Tokyo) ภูมิภาคคันโต(Kanto)
ถนนเซ็นเตอร์ไกเป็นถนนคนเดินสายแฟชั่นของวัยรุ่นอยู่ติดกับห้าแยกชิบูย่า ว่ากันว่าถนนสายนี้เป็นต้นกำเนิดของแบรนด์แฟชั่นญี่ปุ่นหลายแบรนด์ คล้ายกับสยามบ้านเรา เป็นหนึ่งในแหล่งแฮงค์เอ้าหลักของวัยรุ่นโตเกียว มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านปาจิงโกะ ร้านคาราโอเกะ และอื่นๆอีกมากมาย
ข้อมูลการเที่ยวถนนเซ็นเตอร์ไก (Center Gai)
23. ศาลเจ้าเมจิ จิงกู (Meiji-jingu Shrine)
ที่ตั้ง: ย่านฮาราจูกุ(Harajuku) เมืองโตเกียว(Tokyo) ภูมิภาคคันโต(Kanto)
ศาลเจ้าเมจิ จิงกูเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ และมีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองโตเกียว อยู่ติดกับสถานีรถไฟฮาราจูกุ มีพื้นที่สวนล้อมรอบขนาดใหญ่เหมือนกับเป็นป่าใจกลางเมือง ว่ากันว่าภายในมีต้นไม้อยู่มากกว่า 1 แสนต้น ชาวเมืองโตเกียวจะนิยมมาไหว้พระขอพรกันที่ศาลเจ้าแห่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆเช่น วันปีใหม่
ข้อมูลการเที่ยวศาลเจ้าเมจิ จิงกู
22. วัดซันจูซันเก็นโด หรือวัดเจ้าแม่กวนอิมพันมือ (Sanjusangendo Temple)
ที่ตั้ง: เมืองเกียวโต(Kyoto) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)
วัดซันจูซันเก็นโดเป็นวัดเก่าแก่อายุกว่าพันปีของ อยู่ทางตะวันออกของเกียวโต ที่ภายในวัดมีพระพุทธรูปของเจ้าแม่กวนอิมพันมือ ขนาดเท่าคนจริง จำนวนมากถึง 1001 องค์ตั้งวางเรียงรายอยู่ภายในวิหารที่เป็นอาคารไม้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น
ข้อมูลการเที่ยววัดซันจูซันเก็นโด
21. หมู่บ้านหลังคาโบราณ ชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go)
ที่ตั้ง: เมืองโทยาม่า(Toyama) ภูมิภาคชุบุ(Chubu)
หมู่บ้านหลังคาโบราณ ชิราคาวะโกะเป็นหมู่บ้านมรดก ที่มีชื่อเสียงด้านความสวยงามแปลกตาของหลังคนบ้าน แบบญี่ปุ่นโบราณ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่จะมีงานเทศกาลเปิดไฟส่องที่บ้านแต่ละหลังให้ยิ่งสวยงามมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลการเที่ยวหมู่บ้านหลังคาโบราณ ชิราคาวะโกะ
20. ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
ที่ตั้ง: เมืองโอซาก้า(Osaka) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)
เป็นย่านกลางคืนที่คึกคักมากของเมืองโอซาก้า อยู่ใกล้ๆกับย่านช้อปปิ้ง นัมบะ ชินไซบาชิ ที่อันดับ 30 มีสัญญลักษณ์คือป้ายปูยักษณ์ และป้ายนักวิ่งกูลิโกะ โดยจะมีแม่น้ำอยู่ตรงกลาง
ข้อมูลเที่ยวย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
19. สวนกวางนารา(Nara Park)
ที่ตั้ง: เมืองนารา(Nara) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)
เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของในตัวเมืองนาราที่รวมเอาแหล่งท่องเที่ยวหลักๆของเมืองมาอยู่ในบริเวณเดียวกันนี้ด้วย แต่ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือเหล่ากวางน้อยที่เดินกันอยู่เต็มสวนเลยทีเดียว จนมีร้านขายอาหารสำหรับเลี้ยงกวางที่จะเดินตามมากินอาหารของเราด้วย
18. สวนลิงจิโกคุดานิ(Jigokudani Yaen Park)
ที่ตั้ง: เมืองนากาโน่(Nagano) ภูมิภาคชูบุ(Chubu)
ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาจิโกคุดานิ มีบ่อน้ำที่สร้างขึ้นสำหรับเจ้าลิงทั้งหลาย ซึ่งจากประตูทางเข้าสวนเดินเข้าไปเพียง 5 นาที นักท่องเที่ยวจะพบเห็นลิงตลอดเส้นทางที่ไปยังสระน้ำ โดยพวกมันจะจับกลุ่มกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ มีความคุ้นเคยกับมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตามห้ามเข้าไปจับหรือให้อาหารโดยเด็ดขาด
17. ย่านมินาโตะ มิเรอิ (Minato Mirai)
ที่ตั้ง: เมืองโยโกฮาม่า(ํYogohama) ภูมิภาคคันโต(Kanto)
ย่านมินาโตะ มิเรอิ เป็นย่านริมทะเลของเมืองโยโกฮาม่าซึ่งเป็นเมืองท่าหลักที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงโตเกียว ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็น landmark หลักของเมืองโยโกฮาม่าไปแล้ว ด้วยตึกสุงรูปทรงสวย ที่ตั้งตระหง่านริมทะเลอยู่มากมาย
ข้อมูลเที่ยวย่านริมทะเล มินาโตะ มิเรอิ (Minato Mirai)
16. ปราสาทมัตสึโมโตะ(Matsumoto Castle)
ที่ตั้ง: เมืองมัตซุโมโต้(Matsumoto) จังหวัดนากาโน่(Nagano) ภูมิภาคชูบุ(Chubu)
ปราสาทมัตสึโมโตะเป็นปราสาทที่มีความสวยงามมาก และยังเป็นปราสาทหลังดั้งเดิมที่ยังไม่เคยถูกทำลายมาก่อน มีอายุมากกว่า 400 ปีแล้ว สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1600 มีการใช้สีดำเพื่อให้ดูขลัง มีอาคารหอคอย 2 อาคารที่สร้างเชื่อมต่อกัน มีความสูง 6 ชั้น รอบๆปราสาทจะมีสวนต้นซากุระที่จะออกดอกสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
15. พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ(Nagasaki Atomic Bomb Museum)
ที่ตั้ง: จังหวัดนางาซากิ(Nagasaki) ภูมิภาคคิวชู(Kyushu)
พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ และรูปถ่ายของสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนและหลังการถูกทิ้งระเบิดปรมาณู ด้วยความที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่เคยถูกทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ทำให้เป็นที่สนใจของคนทั่วโลกไปด้วย
ข้อมูลเที่ยวพิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ
14. ปราสาทนิโจ(Nijo Castle)
ที่ตั้ง: เมืองเกียวโต(Kyoto) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)
ปราสาทนิโจเป็นปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่จริงน่าจะเรียกว่าพระราชวังมากกว่า เพราะไม่ได้เป็นหอคอยแบบปราสาทอื่นๆของประเทศญี่ปุ่น อยู่ที่ใจกลางของเมืองเกียวโต ภายในมีการจัดแสดงห้องต่างๆของจักรพรรดิญี่ปุ่น รวมทั้งสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่สวยงามด้วย
ข้อมูลเที่ยวพิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ
13. สวนเค็นโรคุเอ็น(Kenrokuen Garden)
ที่ตั้ง: เมืองคานาซาวะ(Kanazawa) จังหวัดอิชิคาว่า(Ishikawa) ภูมิภาคชูบุ(Chubu)
สวนเค็นโรคุเอ็นเป็นสวนที่มีความสวยงามติดหนึ่งใน 3 สวนสวยของประเทศญี่ปุ่น เป็นสวนขนาดใหญ่ที่ภายในมีการจัดแต่งสวนแบ่งออกเป็น 6 แบบด้วยกัน มีการใช้เทคนิคมากของสวนสไตล์เซนในการจัดแต่งสวนนี้ รวมทั้งสวนนี้จะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะเห็นต้นไม้สีแดงภายในสวนที่ถูกเลือกในตำแหน่งที่ลงตัวมากด้วย
ข้อมูลเที่ยวพิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ
12. เมืองชนบท อาราชิยาม่า(Arashiyama)
ที่ตั้ง: เมืองเกียวโต(Kyoto) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)
เมืองชนบทอาราชิยาม่าเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองเกียวโต ที่มีเสน่ห์อยู่ที่ความลงตัวระหว่างความสวยงามทางธรรมชาติและบ้านเมืองชนบทของญี่ปุ่น มีแหล่งท่องเที่ยวฮิตๆคือ ป่าไผ่ สวนลิง และการนั่งรถไฟชมวิวในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่เรียกกันว่า Sagano Romantic Train
ข้อมูลการเที่ยวเมืองอาราชิยาม่า
11. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ(Churaumi Aquarium)
ที่ตั้ง: เกาะโอกินาว่า
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณท์สัตว์น้ำที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีแท้งค์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ภายในนอกจากจะมีปลาทะเลหายากมากมายแล้ว ยังมีปลาฉลามวาฬอยู่ถึง 3 ตัวด้วยกัน
ข้อมูลเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ
ผ่านไปแล้วกับสุดยอดที่เที่ยวอันดับที่ 11-30 เรามาดูกันต่อเลยดีกว่าว่า 10 สุดยอดอันดับที่เที่ยวของประเทศญี่ปุ่นนั้นจะมีที่ไหนน่าสนใจให้เราไปเที่ยวกันอีกบ้าง
10. วัดนาริตะซัง ชินโชจิ Naritasan Shinshoji Temple
ที่ตั้ง: เมืองนาริตะ(Narita) ภูมิภาคคันโต(Kanto)
วัดนาริตะซัง ชินโชจิ เป็นวัดเก่าแก่ขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมากของเมืองนาริตะ อยู่ใกล้ๆกับสนามบินนาริตะ ที่สามารถมองเห็นเครื่องบินได้ชัดเจนจากที่วัด มีอาคารวิหารขนาดใหญ่และเจดีย์อีกหลายอาคาร มีสวนแบบญี่ปุ่นและถนนขายของฝากที่อยู่บริเวณทางเข้าวัด
ข้อมูลเที่ยววัดนาริตะซัง ชินโชจิ
9. ภูเขาไฟฟูจิ Mt. Fuji (Shizuoka/Yamanashi)
ที่ตั้ง: จังหวัดชิซุโอกะ(Shizuoka) และจังหวัดยามานาชิ(Yamanashi)
ภูเขาไฟฟูจิเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กหลักของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นภูเขาที่สูงที่สุดด้วย มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้จากระยะทางไกลหลายร้อยกิโลเมตร ทำให้การเที่ยวภูเขาไฟฟูจิแบบที่ต้องการวิวฟูจิ จึงกินอาณาบริเวณกว้างมาก แต่แหล่งท่องเที่ยวหลักๆจะอยู่ที่ทะเลสาบทั้ง 5 ของภูเขาไฟฟูจิ(Fuji Kawagushiko) และทะเลสาบเมืองฮาโกเน่(Hakone Lake) หรือไม่งั้นก็จะเป็นกิจกรรมการปีนภูเขาไฟฟูจิที่เป็นที่นิยมมากเช่นกัน
ข้อมูลการเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ
8.สวนชินจูกุเงียวเอน(Shinjuku Gyoen)
ที่ตั้ง: เมืองโตเกียว(Tokyo) ภูมิภาคคันโต(Kanto)
สวนชินจูกุเงียวเอนเป็นสวนสาธารณะที่มีขนาดใหญ่ที่ของเมืองโตเกียวตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านชินจูกุ มีชื่อเสียงที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะมีดอกซากุระบานสะพรั่งเต็มสวน กลายเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระยอดนิยมของชาวโตเกียว
ข้อมูลเที่ยวสวนชินจูกุเงียวเอน
7. วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส(Kiyomizu-dera)
ที่ตั้ง: เมืองเกียวโต(Kyoto) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)
วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใสเป็นหนึ่งในวัดที่ดังที่สุดของเมืองเกียวโต ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มีอาคารไม้ขนาดใหญ่ที่สร้างอยู่ริมภูเขาสูงจากพื้นถึง 13 โดยไม่ใช้ตะปูในการสร้างเลย โดยจะมีระเบียงที่ยื่นออกไปสำหรับชมวิวเมืองโตเกียวได้ นอกจากนี้ที่บริเวณทางเข้าของวัดยังมีถนนคนเดินที่มีบรรยากาศเมืองเก่าของโตเกียวให้เดินเล่นด้วย
ข้อมูลเที่ยววัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส
6. ปราสาทฮิเมจิ(Himeji Castle)
ที่ตั้ง: เมืองฮิเมจิ(Himeji) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)
ปราสาทฮิเมจิเป็นหนึ่งในปราสาทที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เป็น 1 ใน 4 ปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ มีอาณาบริเวณกว้างขวางรวมทั้งสวนที่มีต้นซากุระที่สวยงามมากด้วย
ข้อมูลเที่ยวปราสาทฮิเมจิ(Himeji Castle)
5. วัดโทไดจิ(Todaiji)
ที่ตั้ง: เมืองนารา(Nara) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)
วัดโทไดจิหรือวัดพระใหญ่แห่งเมืองนารา เป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองนารา มีอายุมากกว่า 1300 ปีมาแล้ว อาคารวิหารหลักเป็นอาคารไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย ซึ่งภายในยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากนี้ที่ด้านหน้าประตูทางเข้าวัดจะมีกวางน้อยมารอกินอาหารอีกฝูงใหญ่เลยทีเดียว
4. วัดคินคะคุจิหรือวัดทอง(Kinkakuji)
ที่ตั้ง: เมืองเกียวโต(Kyoto) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)
วัดคินคะคุจิหรือวัดทองเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองเกียวโต เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น มีอาคารไม้ที่ทาสีทองอยู่ริมบึงน้ำ ที่โดดเด่นและสวยงามกว่าที่ไหนๆในญี่ปุ่น ภายในวัดยังมีสวนสไตล์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่สวยงามให้เดินชมกันด้วย
ข้อมูลเที่ยววัดคินคะคุจิหรือวัดทอง
3. ศาลเจ้าอิสึกุชิมะแห่งเกาะมิยาจิมะ(Miyajima Itsukushima Shrine)
ที่ตั้ง: เมืองฮิโรชิม่า(Hiroshima) ภูมิภาค ชูโกกุ(Chugoku)
ศาลเจ้าอิสึกุชิมะแห่งเกาะมิยาจิมะเป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากศาลเจ้าและประตูโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางทะเล จนดูเหมือนลอยอยู่ในน้ำในช่วงที่น้ำขึ้น ในส่วนของศาลเจ้าจะประกอบไปด้วยหลายอาคาร เช่น อาคารภาวนา อาคารหลัก และโรงละครโนะ ซึ่งจะเชื่อมต่อกันด้วยทางระเบียงทางเดินที่มีเสาด้านล่างอยู่ในทะเลเพื่อรับน้ำหนัก
2. สวนและพิพิธภัณท์สันติภาพฮิโรชิม่า Hiroshima Peace Park
ที่ตั้ง: เมืองฮิโรชิม่า(Hiroshima) ภูมิภาค ชูโกกุ(Chugoku)
เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่กินพื้นที่ประมาณ 120,00 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮิโรชิม่า(Hiroshima)ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศเป็นอนุสรณ์สถานให้กับการทิ้งระเบิดปรมาณูเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 และพิพิธภัณฑ์ซึ่งประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลักๆคือส่วนที่จะจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองฮิโรชิม่า และอีกส่วนจะเกี่ยวกับการถูกทิ้งระเบิด ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เกิดขึ้นกับมนุษ์โดยละเอียด จนเป็นที่สนใจคนผู้คนทั่วโลกที่เดินทางมาที่ประเทศญี่ปุ่น
ข้อมูลเที่ยวสวนและพิพิธภัณท์สันติภาพฮิโรชิม่า Hiroshima Peace Park
1. ศาลเจ้าจิ้งจอกแดง(Fushimi Inari Shrine)
ที่ตั้ง: เมืองเกียวโต(Kyoto) ภูมิภาคคันไซ(Kansai)
ศาลเจ้าจิ้งจอกแดงเป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริทำให้เป็นภาพที่แปลกตาจนได้รับการโหวตให้เป็นสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น
ครบแล้วกับ 30 อันดับที่เที่ยวจากเว็บไซต์ท่องเที่ยวที่ได้รับการโหวตจากคนทั่วโลก แต่จริงๆแล้วประเทศญี่ปุ่นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากกว่านี้อีกเยอะเลย เราจึงเพิ่มให้อีก 5 สถานที่เที่ยวของประเทศญี่ปุ่นที่ทีมงาน TalonJapan.com ชื่อชอบ และยังไม่มีอยู่ใน 30 อันดับนี้
1. ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm)
ที่ตั้ง: เมืองฟูราโน่(Furano) ภูมิภาคฮอกไกโด(Hokkaido)
ที่ภูมิภาคฮอกไกโด นิยมปลูกดอกไม้ โดยเฉพาะลาเวนเดอร์กันมานานเกือบ 100 ปีแล้ว และจุดชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดของฮอกไกโดคือที่ ฟาร์มโทมิตะ(Farm Tomita) ซึ่งมีวิวทิวทัศที่สวยงามจากฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ(Tokachi mountain) ซึ่งเปิดให้เข้าชมฟรีอย่างอิสระ ใกล้ๆกับทุ่งดอกไม้ยังมีร้านกาแฟ ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์อีกด้วย
ข้อมูลเที่ยวทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ ฟาร์มโทมิตะ
2. เทือกภูเขาไฟอะโซะ(Aso Mountain)
ที่ตั้ง: จังหวัดคุมาโมโต้(Kumamoto) และจังหวัดโออิตะ(Oita) ภูมิภาคคิวชู(Kyushu)
เทือกภูเขาไฟอะโซะ(Aso Mountain)เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าตื่นตามากอีกแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ที่มีสภาพเป็นเนินเขา ทุ่งหญ้า กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ทำให้มีจุดชมวิวที่สวยงามอยู่มากมาย ที่บริเวณตอนกลางของภูเขาอะโซะจะมีปากปล่องที่ยังไม่ดับ จะมีน้ำอยู่ภายในที่มีไอเดือดอยู่ตลอดเวลา สามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปชมได้
3. โตเกียว ดิสนีย์แลนด์(Tokyo Disneyland)
ที่ตั้ง: เมืองชิบะ(Chiba)ที่อยู่ติดกับโตเกียว ภูมิภาคคันโต(Kanto)
โตเกียวดิสนีย์แลนด์ เป็นสวนสนุกที่มีปริมาณนักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ในปี 2013 มีจำนวนมากถึง 17.3 ล้านคน มากเป็นอันดับ 2 ของโลก จึงเป็นตัวการันตีถึงความเจ๋งของที่นี่ได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์
4. กำแพงหิมะทาเทยาม่า คุโรเบะ(Tateyama Kurobe Alpine)
ที่ตั้ง: เมืองโทยาม่า(Toyama) ภูมิภาคชูบุ(Chubu)
กำแพงหิมะทาเทยาม่า คุโรเบะ จะเกิดจากการทับถมของหิมะที่สูงมากถึง 20 เมตรเลยทีเดียว โดยจะเกิดปรากฏการณ์นี้เฉพาะในฤดูใบไม้ผลิช่วงประมาณกลางเดือนเมษายน-กลางเดือนมิถุนายนของทุกปี ส่วนในฤดูอื่นๆก็สวยงามเช่นกัน เช่นการชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และการชมทุ่งดอกไม้ในฤดูร้อน
ข้อมูลเที่ยวกำแพงหิมะทาเทยาม่า คุโรเบะ
5. ตลาดปลาซึกิจิ(Tsukiji Fish Market)
ที่ตั้ง: เมืองโตเกียว(Tokyo) ภูมิภาคคันโต(Kanto)
ตลาดปลาซึกิจิ เป็นตลาดค้าส่งปลา,ผักและผลไม้ขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโตเกียว ในบรรดาตลาดค้าส่งที่กระจายอยู่ในโตเกียวนั้น ตลาดปลาแห่งนี้นับเป็นที่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย เนื่องจากมีการซื้อขายสินค้าทะเลกว่า 2000 ตันต่อวัน และยังมีการประมูลปลาทูน่าที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ด้วย
เป็นยังไงกันบ้าง หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คนที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นพอจะเห็นภาพกันได้บ้างว่าสถานที่ท่องเที่ยวฮิตๆของประเทศญี่ปุ่นมีอะไรกันบ้าง และอยู่ที่ไหนบ้าง
ใครเคยไปที่ไหนแล้ว อยากเพิ่มเข้าไปในลิสน์นี้ คอมเม้นมาแชร์กันได้เลย
อัพเดตข้อมูลเพิ่มเติมใหม่กับ 40 ที่เที่ยวฮิตของประเทศญี่ปุ่น