8 เส้นทางปั่นจักรยานสุดชิว ชมธรรมชาติทั่วประเทศญี่ปุ่น 2567
photos by cotaro70s from flickr.com/photos/cotaro70s/25066522085/ ( cc by 2.0 )
หากพูดถึงเส้นทางสำหรับปั่นจักรยานที่ดีที่สุดของโลก เชื่อว่าประเทศญี่ปุ่นต้องติดอยู่ในอันดับต้นๆอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นภายในตัวเมืองที่คับคั่ง หรือเขตชนบทห่างไกล เพราะมีการพัฒนาเส้นทางของแต่ละแห่งให้มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะเส้นทางจักรยานท่องเที่ยวพิเศษตามพื้นที่สวยงามต่างๆทั่วประเทศญี่ปุ่น ทำให้นักท่องเที่ยวได้เต็มอิ่มกับความงามทั้งทางธรรมชาติและสถาปัตยกรรมอันมีเอกลักษณ์ ก็นับเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ญี่ปุ่นถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักปั่นทั่วโลกเลยทีเดียว ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 8 เส้นทางปั่นจักรยานสุดพิเศษของประเทศญี่ปุ่นกัน
1. เส้นทางปั่นจักรยานไอมะบาริปละชิมานิ ไคโด Imabari and the Shimanami Kaido Cycling Road
เส้นปั่นจักรยานแห่งแรกของญี่ปุ่นและมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “สวรรค์ของนักปั่นจักรยาน” ซึ่งเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น มีระยะทาง 70 กิโลเมตร มีสะพานเชื่อมต่อเกาะหลักของเกาะฮอนชูไปยังเกาะชิโกะกุผ่านเกาะขนาดเล็กอีก 6 แห่งประกอบด้วยเกาะมุไกชิมะ, อินโนะชิมะ,ไอคุชิจิมะ, โอมิชิมะ,ฮากะตะจิมะ และโอชิมะ เส้นทางเริ่มต้นที่ฮอนชูในเมืองโอโนมิชิและสิ้นสุดที่ชิโกะกุที่เมืองไอมะบาริ โดยสามารถเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลเซะโตะและหมู่เกาะขนาดเล็กต่างๆได้ตลอดทาง
2. เกาะอะวะจิ Awaji Island
เกาะอะวะจิตั้งอยู่ในจังหวัดเฮียวโงะ นับเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของทะเลเซะโตะมีระยะทางประมาณ ประมาณ 150 กิโลเมตร เกาะแห่งนี้ล้อมรอบด้วยช่องแคบอะคาชิและช่องแคบนารุโตะ เชื่อมต่อกับเกาะฮอนชู โดยสะพานอะคาชิ ที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งตอนกลางคืนสะพานจะมีการส่องไฟประดับเจ็ดสี โดยนักปั่นจักรยานสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ทะเล ชายหาดและธรรมชาติ
3. นาสุ ไอตะมุโระ และคุโระอิโสะ Nasu, Itamuro, and Kuroiso
เส้นทางนี้อยู่ที่จังหวัดจังหวัดโทะชิงิ โดยอยู่รอบๆเมืองที่ขึ้นชื่อสียงในด้านการมีรีสอร์ทชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นและน้ำพุร้อนซึ่งตั้งอยู่บนฐานของเทือกเขานาสุ เส้นทางเริ่มต้นที่นาสุและไปสิ้นสุดที่คุโระอิโสะ ซึ่งตลอดเส้นทางจะพบทั้งความเจริญของเมืองไปจนถึงธรรมชาติที่ไร้การปรุงแต่ง อีกทั้งยังมีเส้นทางที่ลาดชันที่ท้าทายความสามารถของนักปั่นในแถบภูเขานาสุทะเกะ
4. ทัวร์เดอโนะโตะ Tour De Noto
เส้นทางที่จะทำให้สัมผัสกับพื้นที่ชนบทของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง เริ่มต้นจากเมืองคานาซาวะและสิ้นสุดที่เมืองโทยะมะ โดยจะเป็นเส้นทางรอบ ๆ คาบสมุทรที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ได้แก่ โนะโตะ ฮานโตะ (Noto Peninsula) ระหว่างทางยังได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพและทิวทัศน์อันสวยงามของจังหวัดอิชิคาวะ แต่ต้องเตรียมร่างกายและจิตใจให้สมบูรณ์ที่สุด เนื่องจากมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 400 กิโลเมตร
5. ทางเหนือของคิวชู Northern Kyushu
เส้นทางนี้อยู่ทางทิศเหนือของเกาะคิวชู ที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของเกาะหลักญี่ปุ่น เริ่มต้นจากเมืองอุสะ ไปยังเมืองเบปปุที่มีชื่อเสียงเรื่องบ่อน้ำพุร้อนอย่างมาก โดยตลอดเส้นทางจะได้สัมผัสไปกับเสน่ห์ของเกาะทางใต้และสามารถแวะชมสถาปัตยกรรมอันงดงามของศาลเจ้าอุสะที่ถือเป็นศาลที่สำคัญอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น มีระยะทางรวมทั้งหมด 40 กิโลเมตร
6. มะสึสุยะมะ และโดะโกะ Matsuyama and Dogo
เส้นทางปั่นจักรยานจากมะสึสุยะมะไปยังโดะโกะ มีระยะทางรวม 46 กิโลเมตร เริ่มต้นจากสถานีไอมะบาริไปยังเมืองโดะโกะที่มีชื่อเสียงเรื่องออนเซ็น เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยจึงมีการปรับปรุงเส้นทางให้ได้มาตรฐานอยู่อย่างสม่ำเสมอและสร้างสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการขี่จักรยาน ระหว่างทางนอกจากจะได้ชมทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติ ยังจะได้เห็นบ้านเรือนที่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นท้องถิ่นไว้อย่างดี
7. เส้นทางซาโอะ Zao Eco Line
เส้นทางแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองซาโอะในจังหวัดมิยางิ มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 26 กิโลเมตร ถนนที่ทอดยาวไปทางตะวันออกเฉียงใต้ผ่านเทือกเขาซาโอะ เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดมิยากิและเมืองยามากาตะช่วงฤดูหนาวเส้นทางบางส่วนจะขนาบสองข้างทางด้วยกำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่ ฤดูร้อนจะเต็มไปด้วยความเขียวขจีของพืชนานาพันธุ์ และฤดูใบไม้ร่วงจะละลานตาไปกับสีสันสดสวยของใบไม้เปลี่ยนสี
8. มิยะโกะจิมะ และ ไอระบุ Miyako-jima and Irabu-jima
เส้นทางที่ตั้งอยู่ในเกาะมิยะโกะไปจนถึงเกาะไอระบุ โดยจะสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ของทะเล เห็นแง่มุมต่างๆ ชายหาด และร้านค้าน่ารักๆที่มีแต่จักรยานเท่านั้นจะสามารถเข้าถึงได้ สามารถข้ามไปยังเกาะต่างๆโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วยสะพานที่ยาวที่สุดของญี่ปุ่น เป็นการสัมผัสการปั่นจักรยานขนาดด้วยทะเลสวยสีฟ้าใสและท้องฟ้าสีคราม