8 ฟาร์มเสตอเบอรี่ลูกโตๆ เก็บสดๆ เดินทางสบายไม่ไกลจากโตเกียว 2567
Photo: Republic of Korea [CC BY-SA 2.0] from flickr.com/photos/koreanet/16484815747
อีกประสบการณ์หนึ่งที่คนรักสตอเบอรี่ต้องอยากลองซักครั้งเมื่อมายังญี่ปุ่นก็เห็นจะเป็นการเก็บสตอเบอรี่นี่แหล่ะ แต่ถ้าไปท่องเที่ยงเมืองใหญ่อย่างโตเกียว แต่อีกใจนึงก็อยากไปลองเก็บสตอเบอรี่ด้วยแล้วละก็ ไม่ต้องเลือกอีกต่อไปค่ะ เพราะเราได้รวบรวมเอาฟาร์มที่เปิดให้เก็บสตรอเบอรี่ที่ทั้งอยู่ในโตเกียวไปจนถึงจังหวัดใกล้เคียงที่เดินทางแป๊บเดียวก็ถึงแล้วมาด้วยกัน 8 แห่ง รับรองว่าแต่ละที่เดินทางอึดใจเดียวก็ถึงกันแล้ว แถมสตรอเบอรี่ลูกโตๆฉ่ำๆทั้งนั้น แบบนี้พลาดไม่ได้แล้วล่ะค่ะ
1. Niikura Noen
ถือเป็นฟาร์มที่สะดวกสุดแล้วเพราะตั้งอยู่ในเมืองทามะของโตเกียวนี่เอง ฟาร์มสตรอเบอรี่แห่งนี้ปลูกด้วยวิธีแบบออแกนิกทำให้สบายใจได้ว่าเด็ดปุ๊บเข้าปากได้ปั๊บ แต่จะไม่เหมือนที่อื่นๆตรงไม่ได้เปิดให้กินกันแบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งจะฟรีค่าเข้าเวลาเก็บมาก็ให้ชั่งน้ำหนักแล้วจ่ายตามน้ำหนักเอา ราคาจะอยู่ที่ 100 กรัม 324 เยน เรียกได้ว่าเหมาะกับคนที่ต้องมาเน้นชมบรรยากาศฟาร์มและมีกำไลในการชิมแบบสดๆแบบเบาๆบางๆ
ระยะเวลาการเปิดให้เก็บ : กลางเดือนกุมภาพันธ์ – ต้นเดือนพฤษภาคม
ฟรีค่าเข้าชม คิดค่าสตรอบเบอรี่ตามน้ำหนัก 100 กรัม 324 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keio Line ลงสถานี Seiseki Sakuragaoka ต่อด้วยรถบัสหมายเลข 9 ลงที่ป้าย Ochikawa เดินอีกประมาณ 1 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.niikuranoen.com/
2. Dragon Farm
ฟาร์มสุดฮิตที่ดังมากๆในหมู่คนนักท่องเที่ยวชาวไทย ตั้งอยู่จังหวัดชิบะเดินทางจากโตเกียวประมาณ 1 ชั่วโมงได้ เรียกได้ว่าถ้านึกถึงการเก็บสตรอเบอรี่แล้วฟาร์มนี้ถือเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งได้เลย โดยที่นี่จะปลูกสตรอเบอรี่มากถึง 20 สายพันธุ์ เด็ดทานกันได้อย่างจุใจ 30 นาทีเต็ม หากชื่นชอบความหวานเป็นพิเศษเค้าก็จะมีน้ำข้นหวานหรือช็อกโกแลตเป็นดิปไว้ให้จิ้มฟรีๆเต็มไม่อั้นอีกด้วย แถมยังมีมันเผาร้อนๆให้ทานกันอีกต่างหาก ที่สำคัญไม่ต้องโทรไปจองล่วงหน้าสามารถไปได้เลยแต่ถ้าไปกันไปกลุ่มๆนี่โทรไปจองดีที่สุด เพียงแต่ไปเช้าๆจะดีที่สุดไม่งั้นอาจหมดอดกันได้ง่ายๆ
ระยะเวลาการเปิดให้เก็บ : ต้นเดือนมกราคม – ต้นเดือนพฤษภาคม
ราคา : (ขึ้นอยู่กับเดือน)
- เด็กอายุ 2-3 ปี 500 เยน
- เด็กชั้นอนุบาล 4 – 6 ปี 1,200 เยน
- เด็กชั้นประถม 1,700 เยน
- ผู้ใหญ่ 2,000 เยน (เดือนเมษายน – ต้นพฤษภาคม 1,700 เยน)
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Chiba Monorail ลงสถานี Chishirodai-kita เดินประมาณ 20 นาที หรือนั่งรถแท็กซี่ประมาณ 10 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.dragon-farm.com/
3. Kondo ichigo-en
ฟาร์มสตรอเบอรี่ที่มีสายพันธุ์มากถึง 20 ชนิด ที่สำคัญยังมีสตรอเบอรี่ขาวที่แพงแสนแพงและขึ้นชื่อว่ารสชาติหวานมากๆ กลิ่นงี้หอมสุดๆ อย่าง Awayuki ให้ได้ลองลิ้มชิมรสกันด้วย นับเป็นเวลา 30 นาทีที่สุดจะมีค่าที่ไม่มาสุดจะน่าเสียดาย
ระยะเวลาการเปิดให้เก็บ : กลางเดือนธันวาคม – ต้นเดือนพฤษภาคม
ราคา (ขึ้นอยู่กับเดือน)
- เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี 600 – 1,100 เยน
- เด็กอายุ 4 – 6 ปี 900 – 1,700 เยน
- เด็กอายุ 7 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่ 1,100 – 2,000 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Sotobo Line ลงสถานี Kazusa Ichinomiya เดินอีกประมาณ 15 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.kondo-ichigo.com/
4. Kawatsura Strawberry Farm
ฟาร์มสตรอเบอรี่ที่เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆเพราะเก็บได้แบบไม่อั้นไม่มีเวลาจำกัด กับสตรอเบอรี่สายพันธ์ุสตรอเบอรี่ญี่ปุ่นที่มีให้เลือกประมาณ 6-7 ชนิด ที่เด่นๆคนไทยน่าจะชอบก็น่าจะเป็น Fusanoka, Moikko และ Akihime ที่ลูกโต เนื้อฉ่ำหวาน คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ระยะเวลาเปิดให้เก็บ : กลางเดือนธันวาคม – ต้นเดือนพฤษภาคม
ราคา (ขึ้นอยู่กับเดือน)
- เด็กชั้นประถมขึ้นไป 1,100 – 2,000 เยน,
- เด็กอายุ 4 – 6 ปี 700 – 1,500 เยน,
- เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี 300 – 500 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Limited Express Shiosai ลงที่สถานี Naruto จะมีรถบัสให้นั่งฟรีไปยังฟาร์มใช้เวลาประมาณ 7 – 10 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.kawatsura15.com/e/index.html
5. Aihaichigo-en
ฟาร์มสตรอเบอรี่ตั้งอยู่ในจังหวัดชิบะ ใกล้ๆกับสนามบินนาริตะ เรียกว่าถ้าถึงญี่ปุ่นปุ๊บ อยากมาเก็บสตรอเบอรี่ใกล้ๆละต้องที่นี่เลย โดยมีสตรอเบอร์รี่ประมาณ 16 ชนิดรวมทั้งพันธุ์ที่หายากที่หลายๆที่ไม่มีอีกด้วย ซึ่งจะมีการหมุนเวียนสายพันธุ์เก็บทีละ 6-8 ชนิด ทำให้การมาแต่ละช่วงอาจจะได้ชิมสตรอเบอรี่แตกต่างกันไปตามฤดูกาล มีเวลากินแบบบุฟเฟ่ต์ได้นานถึง 40 นาทีเต็มๆ หากยังไม่จุใจก็ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสตรอเบอรี่ในสวนให้กลับไปฟินกันต่อไม่ว่าจะเป็น ไดฟุกุสตรอเบอรี่สด(จำกัดจำนวนเพียง 100 ชิ้นต่อวัน) พุดดิ้งนมสตรอเบอรี่ และสตรอเบอรี่ชีสเค้ก เป็นต้น
ระยะเวลาเปิดให้เก็บ : กลางเดือนธันวาคม – กลางเดือนพฤษภาคม
ราคา (ขึ้นอยู่กับเดือน)
- เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี 300 – 500 เยน
- เด็กอายุ 4 – 6 ปี 700 – 1,500 เยน
- เด็กอายุ 7 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่ 1,100 – 2,000 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR มาลงสถานี Naruto แล้วจะมีรถบัสของฟาร์มมารับ (ต้องทำการจองล่วงหน้าเท่านั้น)
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://aiba-15.com/index.html
6. Hoyano Ichigo-En
ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ตั้งอยู่ในจังหวัดคานากาว่า จากโตเกียวมาที่นี่ก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว โดยฟาร์มแห่งนี้จะมีสตรอเบอรี่ให้เก็บ 2 สายพันธ์นั่นคือ Akihime ที่ได้รับฉายาว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งสตรอเบอรี่เพราะทั้งลูกโต รสสัมผัสแน่นๆฉ่ำๆเป็นไปตามที่ต้องการทุกอย่าง รสชาติก็ทั้งหวานทั้งหอม และ Benihoppe เป็นพันธุ์ที่หวานมากๆมีความเปรี้ยวแฝงมาอย่างกลมกล่อม ส่วนมากจะปลูกแถวๆโตเกียว สามารถกินได้แบบไม่อั้นภายในเวลา 30 นาที ใครที่ชอบจิ้มกับน้ำข้นหวานที่นี่ก็มีให้เติมแบบจุใจ
ระยะเวลาเปิดให้เก็บ : ต้นเดือนมกราคม – ต้นเดือนพฤษภาคม
ราคา (ขึ้นอยู่กับเดือน)
- เด็ก 800 – 1,100 เยน
- ผู้ใหญ่ 1,300 – 1,800 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Tokaido Line ลงสถานี Hiratsuka ต่อด้วยรถบัส Kanachu ลงป้าย Shimojima แล้วเดินอีกประมาณ 3 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.ichigogali.com/index.html
7. Nikko Ichigo Strawberry Park
ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในจังหวัดโทะชิงิ เนื่องจากสถานที่ตั้งที่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆหลายแห่ง ไปก็ไม่ยากเดินทางสะดวก สตรอเบอรี่ที่จะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์กินไม่อั้น 30 นาที พร้อมด้วยนมข้นหวานให้จิ้มฟรีๆภายในเวลาที่จำกัดไว้
ระยะเวลาเปิดให้เก็บ : ต้นเดือนธันวาคม – สิ้นเดือนมีนาคม
ราคา (ขึ้นอยู่กับเดือน)
- ผู้ใหญ่ 1,500 – 1,700 เยน
- เด็ก 1,000 – 1,200 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Tobu line ลงสถานี Shimo-imaichi นั่งรถแท็กซีต่อประมาณ 12 นาที เดินประมาณ 38 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.nikkoichigo.com/
8. Farm Square Tanzawa no Mori
ฟาร์มสตรอเบอรี่ตั้งอยู่ในจังหวัดคานากาว่า ถ้าให้เร็วสุดต้องเดินทางด้วยรถไฟ Tokaido-Sanyo Shinkansenที่จะใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง หรือรถไฟทั่วๆไปก็จะประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ถือเป็นฟาร์มที่บรรยากาศนี่เรียกว่าชนะเลิศ เพราะล้อมรอบภูเขาและทิวทัศน์อันสวยงามของ Tanzawa สตรอเบอรี่ที่นี่จะปลูกในเรือนกระจกขนาดใหญ่เดินสบายสุดๆ สายพันธุ์สตรอเบอรี่หลักๆที่เปิดให้ได้เก็บกันจะเป็น akihime, benihoppec และ kaorino เรียกได้ว่าถ้าอยากเก็บสตรอเบอรี่ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ดีๆต้องมาที่นี่เลย
ระยะเวลาเปิดให้เก็บ : ต้นเดือนมกราคม – ต้นเดือนมิถุนายน
ราคา (ขึ้นอยู่กับเดือน)
- ผู้ใหญ่ (อายุต่ำกว่า 18 ปี) 1700-1000 เยน
- เด็ก (อายุ 3 ปี – นักเรียนชั้นประถม) 1300-800 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Odakyu Railways ลงที่สถานี Shibusawa ทางออก north exit ต่อด้วยรถบัส Okura ลงที่ป้าย Hachiman Jinja เดินอีกประมาณ 3 นาที
แถมท้ายสำหรับฤดูที่เหมาะกับการเก็บสตอเบอรี่คือช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคมแล้วแต่พื้นที่ ส่วนใครที่ไปเที่ยวแต่ไม่ได้ไปเก็บช่วงนี้เป็นก็เป็นช่วงที่ควรจะชิมสตอเบอรี่ที่ญี่ปุ่นนะ เพราะเพิ่งออกสดใหม่หอมหวานที่สุดในรอบปีแล้วครับ
เรื่องต้องรู้ของคนเที่ยวโตเกียว
>>> แนะนำ โรงแรมที่พัก โตเกียว อัพเดตล่าสุด <<<
>>> รวมที่เที่ยวโตเกียว สุดฮิต ห้ามพลาด <<<