9 แหล่งช้อปปิ้ง สายช้อปฟินกระจาย ในฮอกไกโด 2567

photos by Wing1990hk from commons.wikimedia.org/wiki/File:Tanuki_Koji_Shopping_Arcade_Shops_201406.jpg6 (cc by 2.0)

 

เพราะฮอกไกโด(Hokkaido)ไม่ได้มีดีแค่ธรรมชาติที่สวยและอาหารทะเลเท่านั้น แต่ยังมีแหล่งช้อปปิ้งดีๆ ไม่แพ้เมืองใหญ่ๆในภูมิภาคอื่นๆของญี่ปุ่นด้วย ซึ่งจะไปหาซื้อสินค้าเป็นของฝาก หรือจะซื้อฝากตัวเองก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งเสื้อผ้า รองเท้า ร้านขนมต่าง ๆ รวมไปถึงเครื่องสำอางชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นในราคาเบา ๆ ซึ่งหากใครที่อยากช้อปปิ้งแต่ไม่รู้จะไปที่ไหนดี ก็ต้องลองมาที่แหล่งช้อป 9 แห่งนี้กันเลย

 

ย่านช้อปปิ้งทานูคิโคจิ เป็นตลาดเก่าแก่ที่ให้บริการทั้งนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 100 ปี จุดเด่นของย่านนี้คือการสร้างหลังคาที่คลุมทั่วตลาด ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก พายุหิมะเข้า ก็สามารถมาเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ ถ้ามาในช่วงหน้าร้อนเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ก็จะเจอกับช่วงเทศกาลทะนุกิที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามและน่าเที่ยวที่สุด นอกจากนี้ภายในย่านทานูคิโคจิ ก็มีร้านค้ามากถึง 200 ร้าน โดยมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนสินค้าก็มีทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าแบรนด์ดังอย่าง Uniqlo, New Balance, Adidas, Puma เป็นต้น และที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือร้าน Daiso ที่ทุกอย่างราคา 100 เยน (ของเยอะกว่าที่ไทยมาก ๆ) รวมไปถึงร้าน Donki ที่มีขายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไปถึงเครื่องสำอางในราคาที่ถูกจนน่าตกใจ หรือถ้าเดินจนหมดแรง ที่นี่ก็มีร้านอาหารดังๆหลายร้านคอยให้บริการอยู่ด้วย

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่ สถานี Susukino ทางออกที่ 1

 

 

ถนนช้อปปิ้งซาไกมาจิ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคลองโอตารุที่มีนักท่องเที่ยวไปดื่มด่ำกับบรรยากาศที่แสนโรแมนติกมากนัก โดยถนนช้อปปิ้งซาไกมาจิ จะเน้นไปที่เรื่องของการอนุรักษ์ให้เป็นวิถีแบบชาวญี่ปุ่นดั้งเดิม มีทั้งร้านค้า และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ สลับกันตั้งเพื่อให้ได้ทั้งการช้อปปิ้งและความรู้เกี่ยวกับเมืองท่าเล็ก ๆ แห่งนี้ โดยจุดเด่นก็อยู่ที่อาหารทะเลแบบสดๆ และการทำเครื่องแก้วด้วยฝีมือของคุณเอง

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Otaru หรือสถานี Minami Otaru 5

 

 

ย่านซูซูกิโนะ อยู่ไม่ไกลจากย่านทานูคิโคจิมากนัก เรียกได้ว่าช้อปปิ้งจากย่านนั้นก็เดินต่อมาที่ย่านนี้กันได้เลย โดยทั่วไปแล้ว ย่านซูซูกิโนะ มักจะมีชื่อเรียกที่รู้จักกันดีในหมู่คนไทยและนักท่องเที่ยวว่าเป็น “ตรอกราเม็ง” เพราะบริเวณนี้มีร้านราเม็งให้เลือกทานกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มิโสะราเมง ชิโอะราเมง เคอร์รี่ราเม็ง เป็นต้น โดยมีราคาเริ่มต้นเพียงชามละ 750 เยนเท่านั้น ไม่ต้องกังวลว่าจะเลือกร้านอร่อยหรือไม่ เพราะรสชาติดีไม่แพ้กัน และราเม็งที่ทำออกมานั้น เหมือนรูปที่นำมาโฆษณาแบบเป๊ะ ๆ ชอบแบบไหน ก็เดินเข้าร้านนั้นได้เลย

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Susukino / หากเดินทางจากสถานีซัปโปโร ให้นั่ง Nanboku Subway Line ไป 2 สถานี

 

 

มีชื่อไทยว่า โกดังอิฐแดงคาเนะโมริ เหตุที่ได้ชื่อเช่นนั้น เพราะแต่เดิมในสมัยเอโดะ บริเวณแห่งนี้เคยเป็นคลังสินค้าที่ถูกก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงมาก่อน จากนั้นจึงได้รับการปรับปรุงให้กลายมาเป็นโกดังอิฐแดงในปัจจุบัน ซึ่งภายในมีร้านขายของกว่า 50 ร้าน โดยจะเน้นไปที่ของที่ระลึกและของแต่งบ้านเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีร้านอาหารและลานเบียร์สำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจกันอีกด้วย หากเดินทางมาในช่วงเดือนธันวาคม ก็จะพบกับการจัดสถานที่ให้เข้ากับธีมคริสต์มาส ซึ่งจะให้ทั้งความสวยงามและความอบอุ่นไม่แพ้กัน

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่ Jujigai จากนั้นเดินตรงไปทางชายทะเลประมาณ 350 เมตร

 

 

ย่าน JR เป็นย่านที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากติดอยู่กับสถานีรถไฟฟ้าและรถประจำทางเลย ซึ่งบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำของญี่ปุ่น อย่างห้างไดมารู ที่รวมร้านขายของและร้านอาหารชื่อดังของซัปโปโรไว้ เช่น ร้านซูชิ Nemuro Hanamaru ร้านหมูทอดทงคัตสึ Tadumura Tonkatsu ห้างสเตลล่า เพลส ที่เน้นขายเสื้อผ้าแฟชั่นของชาวญี่ปุ่นในราคาไม่แพงนัก ห้าง ESTA ที่มีทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า รองเท้าแบรนด์เนม ไปจนถึงของเล่นเด็กและเครื่องสำอาง เป็นต้น

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่ สถานีซัปโปโร และออกทางประตูทิศใต้

 

 

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ เป็นตลาดที่ขายอาหารทะเลแบบสด ๆ เป็นหลัก เหมาะสำหรับจะนำไปประกอบอาหารด้วยตัวเองเป็นอย่างยิ่ง โดยบริเวณตลาดแห่งนี้ จะมีพื้นที่ไม่กว้างขวางมากนัก (แต่ก็ยังเป็นตลาดเช้าที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด) เริ่มขายตั้งแต่ 05.00 – 12.00 น. ซึ่งจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบมากที่สุดของตลาดแห่งนี้ ก็คือการตกหมึกเพื่อนำมาประกอบอาหารกันแบบสด ๆ นั่นเอง หรือจะลองเดินหาร้านอาหารทะเลอร่อย ๆ ราคาไม่แพง ก็มีให้เลือกมากมายเช่นกัน

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Hakodate เดินไปทางขวาแล้วข้ามถนน ก็จะเจอกับตลาด

 

 

ซัปโปโรแฟคตอรี่ เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในตัวเมืองซัปโปโร ที่เน้นในเรื่องของความหรูหราโอ่อ่าเป็นพิเศษ เนื่องจากก่อนหน้าที่กลายมาเป็นห้างสรรพสินค้าสุดโด่งดัง บริเวณแห่งนี้เคยเป็นโรงงานที่ผลิตเบียร์มาก่อน แล้วต่อมาจึงถูกนำมาดัดแปลงให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังในเมืองซัปโปโร ซึ่งความโดดเด่นก็อยู่ที่โถงของห้างที่มีลักษณะเป็นเรือนกระจกขนาดใหญ่เหมาะแก่การถ่ายรูป ส่วนร้านค้าทั่ว ๆ ไปจะเน้นไปที่ของแต่งบ้าน สินค้าเบ็ดเตล็ด คาเฟ่กาแฟและเบียร์ให้คุณได้นั่งพักผ่อนระหว่างรอคนอื่นช้อปปิ้งกัน

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Odori หรืออาจนั่งรถไฟมาลงสถานีซัปโปโร และต่อด้วยรถประจำทางสายชูโอ (88)

 

 

เรร่าเอาท์เล็ทมอลล์ เป็นเอาท์เล็ทที่ใหญ่ที่สุดในเกาะฮอกไกโด ที่อยู่ห่างจากเมืองซัปโปโรแค่ระยะเวลานั่งรถเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ขึ้นชื่อว่าเอาท์เล็ท หลายคนก็คงพอจะรู้คร่าว ๆ แล้วว่าที่นี่มีอะไรวางจำหน่ายบ้าง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแบรนด์เนมในราคาไม่แพงอย่าง Gucci, Coach, Adidas, Saiko, Gap เป็นต้น หรือถ้าหากต้องการเวชสำอางหรือวิตามินบำรุงบางชนิด ก็สามารถมาหาซื้อที่นี่ได้เช่นกัน

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ไปที่สถานี Minami Chitose หรือนั่งรถ Shuttle bus จากสนามบิน

 

 

มิตซุย เอาท์เล็ท ก็เป็นเอาท์เล็ทอีกที่หนึ่งที่มีของแบรนด์เนมมากมาย ไม่แพ้ที่เรร่าเลย จึงไม่แปลกที่เราจะพบเพื่อนร่วมชาติ และชาวจีนมาช้อปปิ้งที่นี่เยอะผิดปกติ เพราะมีทั้งเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ๆ และรองเท้าเกือบทุกยี่ห้อ โดยเฉพาะยี่ห้อ Onitsuka Tiger ที่ราคาถูกมากกว่าที่อื่น โดยข้อดีของการมาเดินเอาท์เล็ทแห่งนี้ คือสินค้าลดสูงสุดถึง 70% หากหมดโปรแล้ว ก็ยังมีโปรอื่น ๆ มาสับเปลี่ยนหมุนเวียนเรื่อย ๆ อีกด้วย

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Fukuzumi ต่อรถประจำทางไปลงที่ Inter-Village Omagari / นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Oyachi แล้วต่อรถประจำทางไปลงที่ Mitsui Outlet Park

 

 

ใครที่ตั้งใจมาหาของฝาก หรือมีเงินเยนเหลือเยอะๆ แต่ขี้เกียจกลับไปแลกที่ไทย ก็ลองหาเวลาไปเที่ยวสถานที่ช้อปปิ้งเหล่านี้ได้เลย จะซื้อฝากหรือซื้อให้ตัวเองก็คุ้มค่าทั้งนั้น สินค้าก็มีให้เลือกหลากหลาย หรือถ้ามีเวลาเหลือจะแค่แวะมาเดินเล่นก็ยังได้

 

▌เรื่องฮิตอื่นๆของฮอกไกโด