ตะลอนเที่ยวตามรอยหนังรักสุดโรแมนติก “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว”

ตะลอนเที่ยวตามรอยหนังรักสุดโรแมนติก "แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว"

ตะลอนเที่ยวตามรอยหนังรักสุดโรแมนติก “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว”


“แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” ภาพยนตร์เรื่องแรกของ GDH  เรื่องราวของ เด่นชัย หนุ่มไอทีสุดเนิร์ด ที่แอบชอบ นุ้ย มาร์เก็ตติ้งสาวสุดสวย และเมื่อมีเหตุการณ์ที่ทำให้นุ้ยนั้นความจำเสื่อมที่จะมีอาการอยู่เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น เด่นชัยจึงตัดสินใจใช้ช่วงเวลานี้ในการเป็นแฟนกับนุ้ย เพื่อเก็บความทรงจำที่ดีกับเธอในฐานะ.. “แฟนกันแค่วันเดียว”

และเนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ยกกองไปถ่ายทำกันไกลถึงฮอกไกโดในช่วงหน้าหนาว ซึ่งเป็นหนึ่งในช่วงท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของฮอกไกโด จึงได้เห็นโลเคชั่นสวยๆและจุดท่องเที่ยวยอดฮิตที่ใช้เป็นฉากของหนัง ตะลอนเจแปนจึงได้รวมรวบเอาที่เที่ยวต่างๆที่ได้เห็นกันในหนังมาไว้ให้ได้ชมกัน จะมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ตามมาดูกันได้เลย

 

 

จุดที่ 1: คิโรโระ สกีรีสอร์ท – Kiroro Skiresort
จุดเริ่มต้นของความรักสุดโรแมนติคของเด่นชัยกับนุ้ย เป็นที่ที่เด่นชัยมาสั่นระฆังแห่งความรัก เพื่อขอพรให้ได้เป็นแฟนกับนุ้ยแค่วันเดียวก็ยังดี จึงเป็นที่มาของเรื่อง “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” นั่นเอง

สั่นกระดิ่งที่หอระฆังแห่งรัก

 

ฉากนี้ถ่ายทำกันที่ คิโรโระสกีรีสอร์ท (Kiroro Ski Resort)  ใกล้เมืองโอตารุ สามาถเดินทางจากเมืองซัปโปโรไปได้อย่างสะดวกด้วยรถไฟ ในฤดูหนาวพื้นที่รอบๆรีสอร์ทจะเป็นสถานที่เล่นสกีที่มีหิมะคุณภาพดี เป็นสีขาวละเอียดเหมือนแป้งฝุ่น ล้อมรอบด้วยทัศนียภาพอันงดงามของภูเขา

 

 

จุดที่ 2: หอนาฬิกาไอน้ำ – Otaru Steam Clock Tower
เด่นชัยเลียนแบบศัตรูหัวใจหนุ่มที่นุ้ยปลื้มซึ่งก็คือพี่ท้อป เคยลองเล่นมุขว่าเขามีเวทมนตร์เสกให้มีไอน้ำออกมาจากนาฬิกาได้ ทำให้นุ้ยปลื้มกับเหตุการณ์ แต่เมื่อเด่นชัยล่องทำดูบ้างผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม นุ้ยไม่ชอปอย่างที่คิด

หอนาฬิกาไอน้ำ

หอนาฬิกาไอน้ำนี้ ตั้งอยู่บริเวณริมคลองโอตารุ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดไฮไลท์ที่สำคัญของฮอกไกโด

หอนาฬิกาไอน้ำโอตารุ จะมีพ่นไอน้ำและส่งเสียงดนตรีออกมาทุกๆ 15 นาที

บรรยากาศตอนกลางวันก็สวยไม่แพ้กัน

 

 

จุดที่ 3: พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี – Music Box Museum
เป็นสถาที่แรกที่เด่นชัยพานุ้ยไปออกเดท แต่แล้วเด่นชัยก็โชว์ความเปิ่นให้นุ้ยเห็นเพราะว่ากระเป๋าของเขาได้ไปเกี่ยวเอาผ้าคลุมโต๊ะ ทำให้กล่องดนตรีที่ตั้งอยู่หล่นลงมาแตกกระจายเต็มพื้นหมดเลย

พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี

ภายในพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีเมืองโอตารุ

 

 

จุดที่ 4: เนินชมวิวฮาจิมันซากะ Hachiman-Zaka Slope
ฉากที่ทั้ง 2 คนเดินจีบกันกระหนุงกระหนิง ท่ามกลางอุโมงค์ต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดทางเดิน

เนินชมวิวฮาจิมันซากะ

จะเป็นเนินเขาที่ลาดตัวลงไปจนถึงทะเลที่ด้านล่าง ซึ่งหากยีนจากที่จุดนี้จะเป็นแนวต้นไม้สองข้างทางยาวตลอดแนว และเบื้องหน้าจะเป็นวิวของท่าเรือฮาโกดาเตะ,ท้องทะเลและภูเขาที่อยู่ทางฝั่งตรงข้ามนั่นเอง

 

 

จุดที่ 5: ภูเขาฮาโกดาเตะ Mount Hakodate

เด่นชัยพานุ้ยขึ้นกระเช้าไปชมวิวที่สวยงามของเมือง ซึ่งอยู่บนภูเขาฮาโกดาเตะ นับเป็นจุดชมวิวติดอันดัน 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว เมื่อมองลงมาจะเห็นวิวของเมืองที่ขนาบข้างด้วยทะเลทั้งสองข้าง

ด้านบนจุดชมวิวฮาโกดาเตะ

 

จุดที่ 6: โกดังอิฐแดงริมน้ำ Red Brick Warehouses
ได้ปรับปรุงมาจากคลังสินค้าอิฐสีแดงที่เคยใช้ค้าขายในปลายสมัยเอโดะ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำของอ่าวฮาโกดาเตะ ศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานบันเทิงที่ให้บรรยากาศเก่าๆ เป็นฉากกุ๊กกิ้กที่ทั้งคู่ทานไอศกรีม เล่นตอบคำถามแข่งกัน และก็ปาหิมะเล่นกัน

ฉากสวีทของทั้ง 2 คน ทานไอศกรีม เล่นตอบคำถาม และปาหิมะใส่กัน

photos by MIKI Yoshihito from flickr.com/photos/mujitra/3955771956(cc by 2.0 )

 

จุดที่ 7: หุบเขานรกจิโงคุดานิ Jigokudani

ฉากจ้องตาสุดจิ้น ที่ดูแล้วต้องฟิน

หุบเขานรกจิโงคุดานิ Jigokudani

 

จุดที่ 8: ย่านช้อปปิ้งทานุกิโคจิ Tanuki Koji

ฉากนี้เด่นชัยพานุ้ยมาหมุนไข่ กาชอปอง เพื่อหาตัวซีเคร็ตที่ซ่อนอยู่

หมุนไข่กาชาปอง หาตัวซีเคร็ต

ทานุกิโคจิ เป็นย่านช้อปปิ้ง โดยสร้างหลังคาคลุมยาวตามแนวถนน ยาว 1 กิโลเมตร(ประมาณ 7-8 บล็อก) จนถึงแม่น้ำ Sosei สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 200 ร้าน ขายของที่ระลึก ขนม ของเล่น เครื่องสำอาง ช็อคโกแลต เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และร้านอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย

 


- ที่เที่ยวแนะนำ - จุดชมซากุระ - จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี - เป็นมรกดโลก
Exit mobile version