เมืองซามูไรในอดีตกาล Hagi Castle Town
เมืองฮากิ(Hagi) ตั้งอยู่ภายในจังหวัดยามากูจิ(Yamaguchi) โดยเป็นเมืองที่ได้รับฉายานามว่าเมืองแห่งซามุไร ซึ่งเมืองแห่งนี้อยู่ในยุครุ่งเรืองในสมัยเอโดะประมาณปี ค.ศ. 1603-1867 ถือว่าเป็นเป็นเมืองหลวงของตระกูลโมริ(Mori Clan) หนึ่งในตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเวลานั้นเลยล่ะค่ะ โดยในตอนนั้นขุนนางโมริปกครองเมืองยามากูจิ(Yamaguchi)มานานกว่า 250 ปี เมื่อก่อนไม่ได้ชื่อนี้นะคะหากมีชื่อเรียกว่า “เมือง Choshu)” บอกเลยว่ามีบทบาทสำคัญในยุคการฟื้นฟูเมจิ ประมาณปี ค.ศ.1868มากๆ สมัยนั้นในตัวปราสาทไม่ได้มีเฉพาะแค่สมาชิกครอบครัวขงขุนนางเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีผู้ติดตามอีกจำนวนหนึ่งอยู่ด้วย ส่วนในแถบทิศตะวันตกของเมืองจะเป็นแหล่งอาศัยและทำกินของทั้งซามูไร ช่างฝีมือ และพ่อค้า
เมืองแห่งนี้ถือว่าเป็นเพียงหนึ่งในเมืองที่รอดพ้นจากภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งสำคัญตั้งแต่สมัยเอโดะ จึงทำให้ผังเมืองปัจจุบันที่เราเห็นๆกันอยู่จะเป็นผังเมืองแบบดั้งเดิมตั้งแต่ยุคอดีตเลยล่ะค่ะ ถนนบางส่วนในย่านใจกลางเมืองยังมีผนังสีขาวจากคฤหาสน์ของอดีตซามูไรและพ่อค้าเรียงรายอย่างสวยงาม คิดดูว่าขนาดซากปรักหักพังของปราสาทก็ยังรักษาให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ที่สำคัญตัวเมืองนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจเพียบที่เปิดให้เข้าชมกัน ไม่ว่าจะเป็น คฤหาสน์คิคูยะ (Kikuya Residence) คฤหาสน์คูโบตะ (Kubota Residence)คฤหาสน์คิโด-ตะคะโยชิ (Kido Takayoshi Residence) พิพิธภัณฑ์ฮากิ (Hagi Museum) พิพิธภัณฑ์ศิลปะคุมาย่า (Kumaya Art Museum) พิพิธภัณฑ์ฮากิ-อูระกะมิ (Hagi Uragami Museum) พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาฮากิยากิ (Hakiyaki Pottery Museum) และอื่นๆอีกมากมาย แบบว่ามาเที่ยวค้างคืนเที่ยวให้ชุ่มปอดได้อย่างสบายๆทีเดียวเชียวค่ะ
รายละเอียดแหล่งท่องเที่ยวต่างๆของเมืองฮากิ
คฤหาสน์
- คฤหาสน์คิคูยะ (Kikuya Residence) *
คฤหาสน์คิคูยะแห่งนี้ มีครอบครัวคิคูยะเจ้าของคฤหาสน์ ซึ่งเดิมทีเป็นซามูไรหากภายหลังได้หันมาทำธุรกิจการค้า ที่ได้รับการยกย่องจากประชาชน คฤหาสน์คิคูยะมีสิ่งโดดเด่นที่สุดในบรรดาที่อยู่อาศัยเก่าในเมืองนี้ ซึ่งมีการออกแบบอาคารและการตกแต่งที่สวยงาม ทั้งยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 350 ปี อย่างทีเห็นได้ชัดๆก็เป็นห้องพักที่เมื่อเลื่อนบานประตูแล้วก็ออกไปยังสวนด้านนอกได้ทันที
การเข้าชม
ค่าเข้าชม 520 เยน
เวลาเปิด-ปิด 8:30-17:30 (เปิดให้เข้าถึงเวลา 17:15 เท่านั้น)
วันปิดทำการ วันที่ 31 ธันวาคม
2.คฤหาสน์คูโบตะ (Kubota Residence)
คฤหาสน์คูโบตะมีเจ้าของเป็นของครอบครัวที่ทำธุรกิจชุดกิโมโนและเหล้าสาเก ถือได้ว่าเป็นคฤหาสน์ที่มีความเก่าแก่เป็นอันดับสามของเมือง จากกการที่มีอายุราวๆ 200 ปี ภายในบ้านกว้างขวาง มีห้องครัวขนาดใหญ่ และมีห้องที่ปูด้วยเสื่อทาทามิหลายห้องด้วยกันทำให้ได้บรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมมากๆ ซึ่งแต่ละห้องคั่นด้วยประตูบานเลื่อนที่สามารถเปิดปิดเชื่อมกันได้หากต้องการรวมพื้นที่ที่เป็นห้องขนาดใหญ่ แถมภายในยังจัดแสดงเครื่องมือเก่าแก่ โคมไฟจากสมัยเอโดะตอนปลาย ประมาณปี ค.ศ.1603-1867 ถึง ต้นสมัยเมจิ ประมาณ ปีค.ศ. 1868-1912
การเข้าชม
ค่าเข้าชม 100 เยน สำหรับคฤหาสน์คูโบตะ
300 เยน ตั๋วรวมสำหรับชมคฤหาสน์อื่นๆอีก 8 แห่ง
เวลาเปิด-ปิด 9:00-17:00
วันปิดทำการ เปิดทุกวัน
3.คฤหาสน์คิโด-ตะคะโยชิ (Kido Takayoshi Residence)
คฤหาสน์คิโด-ตะคะโยชินั้นนับเป็นคฤหาสน์บ้านเกิดของ Kido Takayoshi รัฐบุรุษที่มีอิทธิพลของญี่ปุ่นที่ช่วยเหลือประเทศในยุคการฟื้นฟูเมจิในปี ค.ศ.1868 จึงเรียกได้ว่าคฤหาสน์แห่งนี้มีความสำคัญมากเลยล่ะค่ะ โดยเมื่อจัดอันดับกันแล้วจะอยู่ที่สองเมืองด้วยอายุที่นับๆได้ประมาณ 250 ปี ภายในสวนขนาดเล็กของคฤหาสน์มีไฮไลต์อยู่ที่ต้นสนเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี
การเข้าชม
ค่าเข้าชม 100 เยน สำหรับคฤหาสน์คูโบตะ
300 เยน ตั๋วรวมสำหรับชมคฤหาสน์อื่นๆอีก 8 แห่ง
เวลาเปิด-ปิด 9:00-17:00
วันปิดทำการ เปิดทุกวัน
พิพิธภัณฑ์
1.พิพิธภัณฑ์ฮากิ (Hagi Museum)*
พิพิธภัณฑ์ฮากินับว่าเป็นแลนด์มาร์กของเมืองเลยก็ว่าได้นะคะ เพราะว่าตัวพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ออกแบบมาเป็นอย่างดีเยี่ยม ภายในนั้นมีการจัดแสดงผังเมืองสามมิติของเมืองฮากิทั้งในอดีตและปัจจุบันที่ทำได้แบบน่าชมมากๆ พร้อมทั้งเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของบุคคลในท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง อย่าง Yoshida Shoin นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการเกี่ยวกับการเกษตรของภูมิภาคนี้ สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล และสภาพทางภูมิศาสตร์ ที่สำคัญมีการอำนวยความสะดวกสำหรับเหล่านักท่องเที่ยวด้วยการมีคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษให้อีกด้วย
การเข้าชม
ค่าเข้าชม 510 เยน
เวลาเปิด-ปิด 9:00-17:00 (เปิดให้เข้าถึงเวลา 16:30 เท่านั้น)
วันปิดทำการ เปิดทุกวัน (ยกเว้นช่วงต้นเดือนกันยายน ซึ่งไม่มีวันที่แน่นอน)
2.พิพิธภัณฑ์ศิลปะคุมาย่า (Kumaya Art Museum)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะคุมาย่านับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ไม่ได้ใหญ่โตมาก ต่ด้านในบอกเลยว่ารวมศิลปะแขนงต่างๆไว้อย่างแน่น ด้านในมีการตกแต่งด้วยยุ้งฉางเก่า ที่ชวนให้คิดถึงบรรยากาศในยุคโบราณ รวมทั้งยังมีนิทรรศการภาพวาดน้ำหมึกและการประดิษฐ์ตัวอักษร ถ้วยชา ของเก่า เหรียญเก่าๆ และเปียโนหลังเดียวที่นำเข้าญี่ปุ่นในช่วงสมัยเอโดะ บอกเลยว่าอย่างคลาสสิกค่ะที่นี่
การเข้าชม
ค่าเข้าชม 700 เยน
เวลาเปิด-ปิด 9:00-17:00
วันปิดทำการ ปิดทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการจะปิดวันอังคารแทน) และวันหยุดในช่วงขึ้นปีใหม่
3.พิพิธภัณฑ์ฮากิ-อูระกะมิ (Hagi Uragami Museum)
พิพิธภัณฑ์ฮากิ-อูระกะมิถือได้ว่าเป็นแหล่งรวบรวมผลงานศิลปะชิ้นเอกไว้หลากหลายอย่าง ภายในมีการจัดแสดงที่โชว์ผลงานศิลปะร่วมสมัยที่น่าสนใจ รวมไปถึงเครื่องปั้นดินเผาฮากิยากิ( Hagiyaki Pottery) ของขึ้นชื่อของท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง รวมไปถึงภาพอุคิโยเอะ(ukiyo-e) ซึ่งก็คือภาพที่มาจากการแกะสลักไม้ลงสีแล้วปั๊มลงบนกระดาษนั่นเองค่ะ โดยถ้าไปแล้วโคดีอาจจะมีนิทรรศการชั่วคราวที่มาจัดแสดงตามโอกาสต่างๆอีกด้วยนะคะ
การเข้าชม
ค่าเข้าชม 300 เยน(ไม่รวมกับนิทรรศการชั่วคราวที่จัดขึ้นตามโอกาส)
เวลาเปิด-ปิด 9:00-17:00 (เปิดให้เข้าถึงเวลา 16:30 เท่านั้น)
วันปิดทำการ ปิดทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการจะปิดวันอังคารแทน) และวันหยุดในช่วงขึ้นปีใหม่
4.พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาฮากิยากิ (Hakiyaki Pottery Museum)
พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาฮากิยากิ นั้นถือเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กแห่งนี้ตั้งอยู่ ณ ประตูทางเข้าของซากปราสาทฮากิ(Hagi Castle) ด้านบนชั้นสองของร้านขายเครื่องปั้นดินเผาที่ระลึก ภายในได้รวบรวมเอาผลงานเครื่องปั้นดินเผาฮากิยากิอันทรงคุณค่าส่วนใหญ่มาจากช่วงปี ค.ศ.1600 มาจัดแสดงให้ผู้ที่สนใจได้ชมกันแบบจุใจ
การเข้าชม
ค่าเข้าชม 500 เยน
เวลาเปิด-ปิด 9:00-17:00 (เปิดให้เข้าถึงเวลา 16:30 เท่านั้น)
วันปิดทำการ เปิดทุกวัน
แหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอื่นๆ
1.ซากปราสาทฮากิ (Hagi Castle Ruins)
ซากปรักหักพังของปราสาทฮากิในอดีต ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสวนสาธารณะซึซูกิ (Shizuki Park) ในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ปลายทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง ซากปราสาทที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบันมีไม่มากนัก ซึ่งมีเพียงแค่บางส่วน อย่าง คูเมือง กำแพงปราสาท และฐานหินของปราสาท แต่บอกเลยว่าเป็นจุดชมซากุระที่สวยมากๆในฤดูใบไม้ผลิที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียวค่ะ
การเข้าชม
ค่าเข้าชม 210 เยน
เวลาเปิด-ปิด 8:00-18:00 (เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์เปิด 8:00-16:30, เดือนมีนาคมเปิด 8:30-18:00)
วันปิดทำการ เปิดทุกวัน
2.วัดเอ็นเซยจิ (Enseiji Temple)
วัดเอ็นเซยจิที่บอกเลยว่าเป็นวัดที่มีเอกลักษณ์มากๆรวมทั้งหาได้ยากในปัจจุบันเลยนะคะ จากการที่ภายในอาณาเขตของวัดมีทั้งตัววัดและศาลเจ้ารวมอยู่ในที่เดียวกัน ซึ่งรูปแบบวัดประเภทนี้ในสมัยก่อนมีอยู่โดยทั่วไป จนกระทั่ง ศาสนาชินโตและพุทธศาสนาถูกแยกออกจากกันในช่วงสมัยเมจิ รูปแบบของวัดก็เปลี่ยนไป ทำให้วัดแหงนี้ถือได้ว่าเหลือให้ได้ดูได้ชมกันในจำนวนน้อยนิดของญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ ถ้าเดินเข้ามาด้านในวัดจะมีโคมไฟหินขนาดใหญ่ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้เพื่อทนทานต่อการเกิดแผ่นดินไหว นายกรัฐมนตรีคนแรกของญี่ปุ่นอิโตะ ฮิโรบูมิ (Ito Hirobumi) ได้รับศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่แห่งนี้ในสมัยที่เขายังเป็นเด็ก
การเข้าชม
ค่าเข้าชม 200 เยน
เวลาเปิด-ปิด 8:00-17:00
วันปิดทำการ เปิดทุกวัน
3.หาดคิคูกาฮามะ (Kikugahama Beach)
หาดคิคูกาฮามะนับว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดที่นิยมที่หลายๆคนที่มาเมืองนี้มักจะแวะไปกัน โดยหาดทรายที่สวยงามแห่งนี้ตั้งอยู่ ณ สุดปลายทางของซากปราสาทฮากิ(Hagi Castle) ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับวิวของทะเลและชายหาด ห่างออกไป 143 เมตรจะเป็นที่ตั้งของภูเขาซึซูกิ (Mount Shizuki) บอกเลยว่าวิวดีบรรยากาศเยี่ยม
วิธีการเดินทาง
เมืองซามูไรอยู่ห่างจากสถานีฮิกาชิ-ฮากิ (Higashi-Hagi Station) ออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร
เมื่อเดินทางมาถึงสถานีแล้วปั่นจักรยานต่ออีก 10 นาที หรือเดินเท้าไป 30 นาที ก็จะถึงย่านซามูไร หรืออาจจะใช้บริการรถบัส Maru Bus ก็ได้