How to จองรถขับเที่ยวญี่ปุ่นแบบละเอียด step by step พร้อมเคล็ดไม่ลับเช่ารถยังไงให้ประหยัด

how-to-car-rental


อัพเดตล่าสุดเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2567

 

การเช่ารถขับเที่ยวในญี่ปุ่นเป็นวิธีการเดินทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถผ่านชนบทที่เงียบสงบ หรือตามถนนในเมืองที่คึกคัก การขับรถจะทำให้เรามีความอิสระในการท่องเที่ยวและไปยังสถานที่ลับๆ ที่ไม่ค่อยมีคนไป หรือห่างไกลจากเมืองใหญ่ๆ เช่น ศาลเจ้าที่ซ่อนตัวอยู่ตามป่า ชายฝั่งทะเลที่สวยงาม หรือหมู่บ้านเล็กๆ ในบทความนี้จะมาช่วยให้การเลือกจองเช่ารถในญี่ปุ่นนั้นง่ายขึ้น แบบละเอียดระดับจับมือทำกันเลย สำหรับมือใหม่ พร้อม Tips เล็กๆน้อยๆทำยังไงให้ประหยัดด้วย

 

 

 

 

 

0. วางแผนเที่ยวให้เสร็จก่อน

ก่อนเราจะเริ่มต้นขั้นตอนการจองรถ แน่นอนเนอะว่าเราต้องวางแผนเที่ยวมาแล้ว ไม่ว่าจะแบบเสร็จสมบูรณ์หรือแบบคร่าวๆ เพราะอย่างน้อยที่สุดเราจะต้องรู้ว่าเราจะต้องการใช้งานรถวันไหน ที่ไหน และจะคืนรถที่ไหน วันไหน เพราะเราสามารถเลือกที่จะคืนรถแบบคนละสถานที่ก็ได้ เช่น เช่าจากแอร์พอร์ต แล้วไปคืนในตัวเมือง หรือคนละเมืองคนละจังหวัดเลยก็ยังได้

 

 

 

1. เลือกสถานที่ และวันเวลาสำหรับการ รับรถและคืนรถ

ขั้นแรกเข้าไปที่เว็บไซต์ เอเจนซี่ที่ให้บริการเช่ารถในญี่ปุ่น เช่น Klook ซึ่งมักจะมีโปรโมชั่นให้เป็นประจำ จากนั้นก็เลือก วันเวลา และสถานที่ในการรับรถและคืนรถของเรา

 

 

 

 

 

2. เลือกรูปแบบรถที่เราต้องการ

ขั้นตอนนี้คือการเลือกรูปแบบรถที่เราต้องการ เช่น รถ compact รถ SUV หรือ รถแวน ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีตัวเลือกและขนาดให้เราเลือกอีกที แต่เวลาเลือกอย่าลืมเผื่อพื้นที่ใส่กระเป๋าเดินทางด้วยนะ โดยเฉพาะถ้าเป็นคนที่สัมพาระเยอะ กระเป๋าใบใหญ่หลายใบ โดยถ้าเดินทาง 4 คนแต่ของไม่เยอะ ก็เลือกรถอะไรก็ได้ แต่ถ้าของเยอะ ควรเลือกเป็นรถ van เพราะจะใส่ของได้มากกว่า

 

 

 

3. เลือกผู้ให้บริการ

ผู้ให้บริการหลายเจ้า บางเจ้าชำระเงิน ออนไลน์ได้เลย บางเจ้าก็ต้องไปจ่ายหน้างานเท่านั้น อีกทั้งถ้าเป็นในเมืองก็ให้ดูด้วยว่ามาสาขาที่เราจะเอารถไปคืนไหม รวมทั้งเวลาเปิดปิดของสาขานั้นๆด้วย รวมทั้ง options ของแต่ละเจ้าก็จะแตกต่างกันไป บางเจ้ามี options เยอะ บางเจ้าก็น้อย และที่สำคัญคือราคาไม่เท่ากัน เวลาเลือกก็ควรเลือกที่มี review เยอะ คะแนนดี ไว้ก่อน หรือเป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียงเรารู้จักดี อย่างเช่นพวก Toyota, Honda, Nippon, Hertz อะไรแบบนี้เป็นต้น แต่ตรงนี้ก็ไม่น่าจะต้องซีเรียสมากเพราะจริงๆ Klook ก็ทำการเลือกผู้ให้บริการมาแล้วส่วนหนึ่ง

 

 

 

4. เลือก Options เสริม

หลังจากนั้นเราก็มาเลือก Options เสริมกัน เริ่มจากตัวเลือกประกันซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไม่เลือกกัน แต่ส่วนตัวเลือกไว้ก็ดี ตามทฤษฏีการเงินเนอะ โอกาสเกิดน้อยมาก แต่ถ้าเกิดขึ้นมาก็แน่นอน ซึ่งสามารถป้องกันได้ตั้งแต่แรกด้วยการซื้อประกันเพิ่มประมาณ 10% ของค่าเช่ารถก็คุ้มครองทั้งหมดแบบสบายใจแล้ว

นอกจากประกันแล้วก็ยังมีพวก Car seat สำหรับเด็ก ซึ่งมักจะมีให้เลือกแบบ เด็กเล็ก เด็กโต, ETC card ซึ่งเดี่ยวนี้ก็มีกันหมดแล้ว เป็นบัตรขึ้นทางด่วนแบบใช้เท่าไหร่ ก็ไปสรุปจ่ายทีเดียวตอนคืนรถได้เลย รวมทั้ง GPS ซึ่งไม่จำเป็นเลยเพราะใช้งาน Google Map ได้มั่นยำแล้ว

 

 

 

5. กรอกข้อมูลผู้ขับขี่

หลังจากเลือกรถเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ก็ให้กรอกข้อมูลของผู้ขับขี่หลักคนเดียวก็พอแม้ว่าเราอาจจะสลับกันขับหลายคน

 

 

 

6. โค้ดส่วนลด

Klook มักจะมี code ส่วนลดให้ มากบ้างน้อยบาง โดยเฉพาะลูกค้าใหม่ก็อย่าลืมใช้กันด้วยนะ

 

 

 

7. เสร็จสิ้น ตรวจสอบข้อมูล และอีเมล

แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เราตรวจสอบข้อมูล เช่น วันเวลา สถานที่ รถ ราคา และอื่นๆ ว่าถูกต้องไหม รวมทั้งได้รับอีเมลยืนยันไหมด้วย

 

 

 

▌ดูรีวิวและราคาโปรโมชั่น ใครสนใจลองเข้าไปเช็คราคาเช่ารถได้ที่นี่

 

 

 

10 เคล็ดลับการขับรถเที่ยวญี่ปุ่นให้ประยัด

  1. จองล่วงหน้า: การจองรถเช่าล่วงหน้าช่วยให้คุณได้รับอัตราค่าบริการที่ดีกว่าและมั่นใจได้ว่ามีรถและอุปกรณ์เสริมพร้อมใช้งาน โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาก
  2. เปรียบเทียบราคา: ใช้เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาเพื่อดูอัตราค่าบริการจากบริษัทเช่ารถต่าง ๆ เช่น Klook และ ToCoo! Car Rental ซึ่งช่วยให้คุณพบข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุด
  3. เลือกประเภทของรถที่เหมาะสม: เลือกรถที่ตรงกับความต้องการ รถขนาดเล็กมักประหยัดน้ำมันและมีค่าเช่าต่ำกว่า เช่น รถขนาดกะทัดรัดที่นั่งได้ 4 คน ราคาประมาณ 7,000 เยนต่อการเช่า 24 ชั่วโมง
  4. มองหาส่วนลดและคูปอง: ค้นหาส่วนลดหรือโปรโมชั่นพิเศษ จาก Agency หรือ ผู้ให้บริการเช่ารถต่างๆ
  5. พิจารณารับรถนอกสนามบิน: บางครั้งการเช่ารถจากสถานที่ที่ไม่ใช่สนามบินอาจมีราคาถูกกว่า เนื่องจากความต้องการน้อยกว่าและค่าธรรมเนียมสถานที่ต่ำกว่า
  6. หลีกเลี่ยงการเพิ่มบริการที่ไม่จำเป็น: บริการเสริม เช่น GPS หรือประกันภัยเพิ่มเติม อาจเพิ่มค่าใช้จ่าย หากคุณมีอุปกรณ์นำทางของตนเองหรือมีประกันภัยอยู่แล้ว ก็อาจไม่จำเป็นต้องเลือกบริการเสริมเหล่านี้
  7. คืนรถด้วยน้ำมันเต็มถัง: การคืนรถพร้อมน้ำมันเต็มถังมักจะประหยัดกว่าการจ่ายค่าบริการเติมน้ำมันเพิ่มเติม
  8. ตรวจสอบระยะทางที่รวมในสัญญา: ส่วนใหญ่แล้วจะไม่จำกัดระยะทาง แต่ก็ควรไว้ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  9. ใช้ส่วนลดจากการเป็นสมาชิก: หากคุณเป็นสมาชิกขององค์กรเช่น AAA หรือ AARP อาจมีส่วนลดสำหรับการเช่ารถ ควรตรวจสอบสิทธิประโยชน์ที่คุณมี
  10. ขับรถอย่างประหยัดน้ำมัน: การขับรถอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น รักษาความเร็วที่สม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องอย่างรวดเร็ว จะช่วยลดการใช้น้ำมันและประหยัดค่าใช้จ่าย

 

 

 

 

 

 

 

>>> รีวิว 8 วัน เช่ารถขับเที่ยวฮอกไกโด เจาะลึก <<<

 

 

 

 

 

ดูข้อมูล สัญญลักษณ์และป้ายจราจรต่างๆที่ควรรู้ของประเทศญี่ปุ่น

 


Exit mobile version