ศาลเจ้าคาซะมะ อินาริ (Kasama Inari Shrine)

Kasama Inari Shrine

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Kasama_Inari_Shrine_05.jpg


อัพเดตล่าสุดเมื่อ 28 มกราคม 2566

 

ศาลเจ้าคาซะมะ อินาริ(Kasama Inari) หรือคาซะมะ จินจะ(Kasama Jinja) ตั้งอยู่ในเมืองคาซามะของจังหวัดอิบารากิ ถือเป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ทั้งยังได้รับรางวัล Senior First Rank ซึ่งเป็นอันดับขั้นสูงสุดของการจัดลำดับสำหรับศาลเจ้า ทำให้ได้รับความนิยมในการมาเคารพสัการะบูชาจากชาวญี่ปุ่นรวมถึงนักท่องเที่ยวอย่างมาก เห็นได้จากจำนวนคนที่มาสักการะมีมากถึง 3 ล้าน 5 แสนคนต่อปี โดยเฉพาะช่วงมีปีใหม่ที่มีจะมีนักท่องเที่ยวจำมากมากมาเพื่อสักการะขอพรให้เกิดโชคดีเข้ามาตลอดทั้งปี อีกทั้งช่วงเดือนพฤษภาคมก็ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับความงดงามของดอกวิสเตอร์เรียสีม่วงหลากหลายสายพันธุ์ที่จะบานสะพรั่งไปทั่วทั้งบริเวณ

ศาลเจ้าแห่งนี้มีเทพเจ้าอุคาโนะมิทามะ (Ukanomitama-no-mikoto) ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเทพเจ้าลำดับขั้นสูงสุด ถูกเคารพบูชาในฐานะเทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว โชคลาภ การค้าขาย และการประมง

Photo by On-chan from commons.wikimedia.org/wiki/File:Haiden_of_Kasama_Inari_Shrine01.jpg [CC by 3.0]

Photo by Dinakarr from commons.wikimedia.org/wiki/File:Kasama-RD-2Feb2010.JPG [CC by 3.0]

 

ตามข้อมูลกล่าวว่าศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติศาสตร์กว่า1,400ปี ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่เทพเจ้าอุคาโนะมิทามะ (Ukanomitama-no-mikoto)ในปี ค.ศ. 661 โดยเชื่อว่าเทพเจ้าองค์นี้ถือเป็นจิตวิญญาณเหนือธัญพืชทั้งห้า อีกทั้งมีพลังอำนาจเหนือสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย แปลตรงตัวคำว่า Uka หมายความตรงตัวว่า จิตวิญญาณลึกลับที่อาศัยอยู่ในเมล็ดพืช จึงทำให้กลายเป็นที่เคารพนับถือและมักมีผู้มาขอพระอยู่อย่างสม่ำเสมอ ศาลเจ้าคาซะมะ อินาริ มีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับในช่วงรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิโคโตะกุ ซึ่งเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิองค์ที่ 36 แห่งญี่ปุ่น ในสมัยศักดินาสมัยงาวะวะศาลเจ้าแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องอย่างสูงให้เป็นสถานที่บูชาสำหรับขุนนางชั้นนำของอาณาจักรคาซามะ แล้วขยายไปจนถึงสิบสามศตวรรษที่อยู่ในช่วงยุคเอะโดะ ภายหลังยังได้รับการอุปถัมภ์ค้ำจุนจากขุนนางชั้นสูงแห่งคาซะมะ จนชื่อเสียงที่ไม่เพียงโด่งดั้งระดับภูมิภาคคันโต Kanto แต่ยังแผ่ขยายไปทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น

Photo by Σ64 from commons.wikimedia.org/wiki/File:Kasama_Inari_Shrine_04.jpg[CC by 3.0]

สถาปัตยกรรมเป็นแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ประตูด้านชั้นนอกเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเทพเจ้าคุชิอิวะมะโดะ (Kushiiwamado) และเทพเจ้าโทโยอิวะมะโดะ (Toyoiwamado) เดินเข้ามาด้านในก็จะพบกับรูปปั้นเทพเจ้าม้า รวมทั้งยังมีลักษณะที่บ่งชี้ถึงความเป็นศาลเจ้าอินาริแห่งศาสนาพุทธนิกายชินโตอย่างครบถ้วน นั่นคือซุ้มประตูโทริอิขนาดใหญ่สีแดงและรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกสีขาวมีเปรียบเสมือนผู้ส่งสารของเทพเจ้า ช่วงที่มีการก่อตั้งศาลเจ้านั้นสามารถพบต้นวอลนัทหลายแห่งทั่วทั้งบริเวณนี้ รวมทั้งมีเทพอินาริประดิษฐานอยู่ท่ามกลางต้นไม้วอลนัท จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ศาลเจ้าคาซะมะ อินาริ แม้กระทั่งตอนนี้มีต้นไม้วอลนัทป่าจำนวน มากกว่า40 ต้นที่ปลูกในบริเวณใกล้เคียงและบริเวณศาลเจ้าได้รับการขนานนามว่าเป็นพื้นที่ที่ราบลุ่มที่สุดในภาคเหนือที่ผลิตต้นวอลนัท

Photo by Σ64 from commons.wikimedia.org/wiki/File:Kasama_Inari_Shrine_03.jpgjpg[CC by 3.0]

จากการที่บนพื้นของศาลเจ้าคาซะมะ อินาริ มีอุทยานแห่งชาติอายุมากกว่า 400 ปี ซึ่งได้เป็นสมบัติทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดอิบารากิ หรือที่เรียกกว่า  ฟุตะกาบุ โนะ โทจุ (Futakabu-no-Toju) โดยมีเหล่าดอกดอกวิสเตอร์เรียที่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ช่วงที่เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับเที่ยวชมความงามของดอกวิสเตอร์เรียสีม่วงบานสะพรั่งที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดอิบารากิ นั้นคือช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม ทีนับเป็นการผสมผสานระหว่างความงดงามของธรรมชาติเข้ากับพื้นหลังที่ถือเป็นสถาปัตยกรรมโบราณที่แสดงถึงความเชื่อของคนญี่ปุ่นยุคก่อน โดยเฉพาะไฮไลท์อย่างดอกวิสเตอร์เรียสายพันธุ์ยาเอะ (Yae-no-fuji)ที่มีลักษณะคล้ายกับเถาองุ่น มีสีม่วงเข้มช่อหนึ่งยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ตัวเถาทอดยาวกว่า 15 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 3.55 เมตรที่ใหญ่ที่สุดในอิบารากิ รวมทั้งสวยจนได้รับการยกย่องให้เป็นอนุสาวรีย์ธรรมชาติในปี ค.ศ. 1967 อีกด้วย

Photo by 市井の人from commons.wikimedia.org/wiki/File:Kasama_Inari_Shrine_Otorii_2016.jpg[CC by 4.0]

นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆอีกมายมายตลอดทั้งปี “อาทิ เทศกาลขอพรปีใหม่ ที่จะมีผู้คนจำนวนมากมาเพื่อขอพรให้เกิดสิริมงคลในชีวิต ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันขึ้นปีใหม่ไปจนถึงรุ่งเช้าของวันถัดไป เทศกาลฮาซึอุมะ มะซึริ จัดขึ้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์เพื่อให้การเก็บเกี่ยวมีผลผลิตดีและเจริญรุ่งเรืองในสิ่งที่หวัง เทศกาลปลูกข้าวมีการปลูกต้นกล้าที่ลานข้าวศักดิ์สิทธิ์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งในพิธีจะมีการร่ายรำแบบโบราณที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของความศักดิ์สิทธิ์ และเทศกาลดอกเบญจมาศ ที่ถือว่ามีชื่อเสียงเรื่องความงดงามอย่างมาก ดูได้จากจำนวนผู้เข้าชมหลายแสนคนต่อปี


การเข้าชม

ค่าเข้าชม: ฟรีค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 6:00 – 19:00 น.
วันปิดทำการ: ไม่มีวันหยุด

วิธีการเดินทาง

- จากสถานีรถไฟคาซามะ (Kasama Station) สาย JR Mito นั่งรสบัสต่อใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 นาที หรือ เดินเท้าใช้เวลาประมาณ 23 นาที ระยะทางรวม 2 กิโลเมตร

- จากสถานีรถไฟโทโมะเบะ (Tomobe Station) สาย JR Joban Line for Ueno นั่งรถบัส City Cruise Bus ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที แล้วลงที่ป้ายอินาริ จินจะ (Inari Jinja) เดินเท้าต่ออีกประมาณ 1 นาที

- การเดินทางด้วยรถยนต์ให้ใช้ทางด่วนคิตะ คันโต (Kita-Kanto) ออกทางโทโมะเบะ (Tomobe) หรือไปทางด่วนโจบัง (Joban) ออกทางอิวามะ (Iwama)

แผนที่ศาลเจ้าคาซะมะ อินาริ (Kasama Inari Shrine) และที่เที่ยวอื่นๆในอิบารากิ(Ibaraki)

GPS: 36.386558, 140.254445 - Google Map เบอร์โทรศัพท์: 0296-73-0001
- สถานที่ปัจจุบัน - สถานที่แนะนำ - สถานที่อื่นๆ

- ที่เที่ยวแนะนำ - จุดชมซากุระ - จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี - เป็นมรกดโลก
Exit mobile version