เมืองโอฮาระ Ohara
Photo by Paul De Audney from flickr.com/photos/pdeaudney/543405687/ [CC by 2.0]
เมืองโอฮาระ(Ohara) ถือว่าเป็นเมืองที่มีความชนบทสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆที่น่าไปเที่ยวมากๆแห่งหนึ่งเลยล่ะค่ะ เพราะสามารถเดินทางจากสถานีเกียวโตได้ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง โดยเมืองโอฮาระนั้นจะมีทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณหุบเขาทำให้มีความเป็นธรรมชาติมากๆ อีกทั้งบ้านเรือนก็มีความเรียบง่าย ช่วงที่เรียกได้ว่ายอดนิยมมากที่สุดก็คงจะเป็นฤดูใบไม้แดงนี่แหล่ะค่ะ ซึ่งใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีก่อนในโตเกียวกลางประมาณราวๆ 1 สัปดาห์ด้วยกัน แหล่งท่องเที่ยวของเมืองนี้ส่วนมากจะเน้นไปที่วัด แต่ที่โดดเด่นดังมากที่สุดก็เป็น “วัดซานเซนอิน(Sanzenin Temple)” นั่นเองค่ะ ซึ่งวัดซานเซ็นอินนั้นจะตั้งอยู่ในป่าทางขึ้นภูเขาทางทิศตะวันออก นับเป็นวัดที่มีขนาดใหญ่พอตัวเลยนะคะ แถมยังเต็มไปด้วยอาคารและสวนที่หลากหลายที่น่าสนใจสุดๆ โดยวัดแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อสมัยเฮอันราวๆปี ค.ศ. 794-1185 โดยพระภิกษุ Saicho ผู้ก่อตั้งนิกายเท็นได เมื่อเดินตามทางด้านหลังของวัดเข้าไปในป่าก็จะพบกับน้ำตก Otonashi วัดอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงก็เป็นของนิกายเท็นไดเช่นกัน แต่มีขนาดเล็กกว่า ฝั่งตรงข้ามของหุบเขา ยังมีวัดจัคโคอิน(Jakkoin Temple) เป็นวัดของนิกายเท็นไดเช่นกัน มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่เคยได้รับความเสียหายจากไฟไหม้เมื่อปี ค.ศ. 2000
สายช็อปก็ไม่ต้องเซ้งไปค่ะเพราะไม่ได้มีแต่วัด เนื่องจากตลอดเส้นทางจากตัวเมืองไปยังวัดเรียงรายไปด้วยร้านค้าเล็กๆขายของที่ระลึกอีกเพียบ ร้าอาหารก็มีนะคะที่เป็นเมนูแนะนำก็คือ อาหารพื้นเมืองที่เรียกว่า “Aisu Kyuri” ที่ประกอบด้วยแตงกวาดองในน้ำสาหร่ายปรุงรส บอกๆได้คำเดียวว่าอร่อยล้ำลึกห้ามพลาดเชียวล่ะค่ะ ถ้าอยากเต็มอิ่มกับการท่องเที่ยวเมืองนี้ก็สามารถพักเรียกกังได้นะคะ เพราะที่นี่ก็จะมีเรียกกังเปิดให้นักท่อเงที่ยวได้เข้าพักเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ใช่ว่าสุ่มสี่สุ่มห้าจะเปิดเองได้ตามใจชอบนะคะ เนื่องจากตั้งแต่ปี ค.ศ.2004 ได้มีการอนุญาตให้เปิดเรียวกังแค่ 2 บริเวณด้วยกัน นั่นก็คือ ย่านใกล้วัดจัคโคอิน และใกล้วัดซานเซ็นอิน ซึ่งก็จะมีทั้งบริการที่พักค้างคืน หรือถ้าอยากแช่ออนเซ็นเฉยๆแบบไม่ค้างคืนก็มีนะคะ โดยจะมีบริการเป็นเซ็ทอาหารกลางวันรวมอยู่ในการแช่น้ำไปในแพ็กเก็จเดียวเลยแบบว่าคุ้มสุดๆ
วัดต่างๆภายในเมืองโอฮาระที่แจ่มๆและแหล่งท่องเที่ยวโดนๆก็ยังมีอีกหลายแห่งด้วยกัน ที่จะรวบรวมมาแนะนำครั้งนี้ก็จะมีทั้งหมด 7 แห่งด้วยกัน ประกอบด้วย
1.วัดซานเซ็นอิน(Sanzenin Temple)
ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งของเมืองโอฮาระเลยเชียวล่ะค่ะ ภายในมีอาคารมากมาย รวมไปถึงสวนหย่อมสวยๆสไตล์ดั้งเดิม และทางเดินต่างๆ อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป Amida อีกด้วยค่ะ
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: 700 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 8:30-17:30 (เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์เปิดถึงเวลา 16:30)
วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน
2.วัดจัคโคอิน(Jakkoin Temple)
นับเป็นวัดที่มีความสวยงามมากโดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่บอกเลยว่าสวยสุด ซึ่งวัดแห่งนี้นั้นถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ.600 เรียกได้ว่ามีอายุเป็นพันกว่าปีเลยทีเดียวค่ะ ตัวบันไดมีระยะทางยาวทั้งยังสามารถเชื่อมไปยังประตูวัดได้อีกต่างหาก แม้ว่าในปี ค.ศ. 2000 จะเคยเกิดความเสียหายจากไฟไหม้ในส่วนบริเวณห้องโถงมาแล้ว หากก็ได้มีการบูรณะขึ้นมาให้ให้มีรูปแบบเหมือนก่อนถูกลำลายไปไม่มีผิดเพี้ยน
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: 600 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:00 (ปิดเร็วขึ้นช่วงฤดูหนาว)
วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน
3.วัดโฮเซอิน(Hosenin Temple)
นับเป็นวัดที่แม้จะมีขนาดเล็กๆ แต่บอกเลยว่าคุณภาพอย่างแน่น ยิ่งใส่วนของสวนหย่อมภายในจัดแต่งได้อย่างสวยงามอย่างแรง โดยมีจุดไฮไลท์ของสวนเป็นต้นสนอายุ 700 ปี ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี นอกจากนี้สามารถนั่งจิบชาเขียว และทานขนมญี่ปุ่นดั้งเดิมได้ที่ห้องเสื่อทาทามิ พร้อมกับชื่นชมบรรยากาศสบายๆภายในวัดได้ เรียกได้ว่าถ้าอยากชิลๆชมสวนสวยๆต้องไม่พลาดวัดนี้เลยค่ะ
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: 800 เยน (รวมค่าชาเขียวมัทฉะ และขนมหวานญี่ปุ่น)
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:00
วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน
4.วัดโชรินอิน(Shorinin Temple)
ถือวัดที่เคยเป็นสถานที่สำหรับสวดมนต์ของพุทธศาสนา Shomyo ซึ่งมีที่มาจากประเทศจีนนั่นเองค่ะ โดยตัววัดถูกสร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1013 อีกทั้งยังมีพระพุทธรูป Amidaประดิษฐานภายในวัด หากในส่วนของห้องโถงใหญ่นั้นจะสร้างขึ้นราวๆปี ค.ศ. 1603-1867 ที่อยู่ในยุคสมัยเอโดะ
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: 300 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:00(เข้าชมได้ถึง 16:30)
วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน
5.วัดจิคโคอิน(Jikkoin Temple)
ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดซานเซ็นอินแบบเดินแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว สิ่งที่โดดเด่นของวัดนี้ก็คงเป็นสวนสวยๆภายในสวนมีบ่อน้ำ และไม้ดอกนานาชนิด ที่ผู้มาเยือนยังสามารถนั่งจิบชา และทานขนมหวานญี่ปุ่น พร้อมๆกับชมวิวได้อีกด้วย
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: 700 เยน (รวมค่าชาเขียวมัทฉะ และขนมหวานญี่ปุ่น)
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:00(เข้าชมได้ถึง 16:30)
วันปิดทำการ: วันที่ 1 มกราคม
6.วัดไรโกอิน(Raigoin Temple)
วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในป่าที่ค่อนข้างลึกเข้าไปพอสมควรเลยล่ะค่ะ แต่ระหว่างทางมีร้านค้าเรียงรายอยู่ให้ช็อปปิ้งแบบเพลินๆ โดยตัววัดนั้นถูกสร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 9 แต่ในส่วนของเจดีย์หินภายในวัด สร้างขึ้นเมื่อสมัยคามาคูระราวๆปี ค.ศ. 1192-1333
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: 300 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:00
วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน
7.น้ำตกโอโตนาชิ(Otonashi no Taki)
น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ในป่าหากเดินทางมาไม่ยากเลยนะคะ เพราะตั้งอยู่ใกล้กับวัดดังอย่างวัดซานเซ็นอินมากๆ ใช้เวลาเดินจากวัดซานเซ็นอินไปประมาณ 10 นาทีเท่านั้นเอง เส้นทางเดินก็มีให้เดินแบบสบายๆ จุดที่นับเป็นไฮไลท์ของที่นี่น่าจะเป็นการที่น้ำตกกระทบโขดหินอย่างเงียบเชียบ จนกลายมาเป็นที่มาของชื่อ”น้ำตกโอโตนาชิ” ที่แปลตรงๆตัวว่า น้ำตกไร้เสียง ซึ่งมีตำนานว่าเสียงของน้ำตกนั้นกลมกลืนไปกับเสียงสวดมนต์ของพระสงฆ์โอฮาระ Ohara ฟังแล้วให้ความรู้สึกสงบร่มเย็นใจแบบบอกไม่ถูกเลยทีเดียวค่ะ
>>> แนะนำ โรงแรมที่พัก เด็ด ทั่วเมืองเกียวโต อัพเดตล่าสุด <<<
▌ข้อมูลเตรียมตัวเที่ยวเกียวโตที่ต้องรู้
วิธีการเดินทาง
จากสถานีรถไฟ Kyoto Station
โดยสารรถไฟ Karasuma Subway Line ลงที่สถานีปลายทาย Kokusaikaikan Station ใช้เวลา 20 นาที ค่าใช้จ่าย 290 เยน แล้วโดยสารรถบัส Kyoto Bus หมายเลข 19 ลงที่ Ohara ใช้เวลา 20 นาที ค่าใช้จ่าย 350 เยน (รถบัสออกทุกๆ 40 นาที)
โดยสารรถบัส Kyoto Bus หมายเลข 17 ถึง Ohara ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่าย 600 เยน (รถบัสออกทุกๆ 20 นาที แล้วต่อรถบัส Shijo-Kawaramachi อีก 45 นาที ค่าใช้จ่าย 520 เยน (ค่ารถไม่รวมอยู่ใน 1 day bus pass)