คู่มือแนะนำการ เตรียมตัวเที่ยวโตเกียว ญี่ปุ่น แบบมืออาชีพ

บทความนี้เป็น Advertorial PR Content

อัพเดตล่าสุดเมื่อ 12 กันยายน 2567

 

ญี่ปุ่น ประเทศที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จักและอยากจะไป เพราะเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์และชื่อเสียงมากมาย ถ้าหากถามว่าอยากไปเมืองอะไรในญี่ปุ่น หนึ่งในเมืองที่ทุกคนมักจะตอบเป็นเสียงเดียวกันเลยก็คือ “เมืองโตเกียว” ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ด้วยความทันสมัยและบรรยากาศที่น่าหลงใหลของกรุงโตเกียว ไม่ว่าจะเป็นห้าแยกชิบูย่าสุดโด่งดังอันเป็นเอกลักษณ์ วัดอาซากุสะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ หรือโตเกียวสกายทรีที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงโตเกียว เป็นต้น จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมืองโตเกียวเป็นเมืองในฝันที่ทุกคนอยากจะลองไปให้ได้สักครั้งนึง

ขณะนี้ประเทศญี่ปุ่นได้กลับมาเปิดฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวได้เข้าประเทศได้อย่างเสรี และสามารถเที่ยวได้นานถึง 15 วัน ถือเป็นโอกาสเหมาะขนาดนี้ต้องหาเวลาไปโตเกียวเที่ยวญี่ปุ่นให้ได้สักครั้งแล้ว และเพื่อให้การท่องเที่ยวโตเกียวในครั้งนี้หรือครั้งหน้าของคุณพร้อมที่สุด ทาง Talonjapan จึงได้รวบรวมรายการที่ควรเตรียมให้พร้อมหรือพกติดตัวไปด้วยเวลาไปเที่ยวเมืองโตเกียวในปี 2024 จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

 

 

ไปโตเกียวต้องเตรียมอะไรบ้าง?

 

1. เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายตามฤดูกาล 

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีฤดูกาลหลากหลาย ดังนั้นจึงควรเช็คสภาพอากาศและฤดูกาลในช่วงที่เราไปท่องเที่ยวเพื่อเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศแต่ละช่วง โดยสภาพอากาศส่วนใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลดังต่อไปนี้

ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.): อากาศจะมีความเย็นสบายกำลังดี ควรเตรียมเสื้อแจ็คเก็ตบาง ๆ หรือเสื้อกันลม เสื้อแขนยาว และกางเกงขายาว เพื่อให้ร่างกายไม่โดนลมเย็นจนอาจไม่สบายได้

ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.): อากาศค่อนข้างร้อนชื้นและมีแดดแรง ดังนั้นควรเตรียมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น เสื้อยืด กางเกงขาสั้น หรือกระโปรง รวมถึงเตรียมครีมกันแดด หมวก และแว่นกันแดด เพื่อป้องกันแดดอีกด้วย

ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.): อากาศจะเริ่มเย็นขึ้น เนื่องจากกำลังเข้าใกล้หน้าหนาว ควรเตรียมเสื้อกันหนาวบาง ๆ หรือแจ็คเก็ตที่ไม่หนามาก เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย

ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ.): อากาศหนาวในช่วงนี้จะหนาวเย็นถึงเย็นจัด จึงต้องมีเสื้อกันหนาวที่หนาในระดับหนึ่ง ผ้าพันคอ ถุงมือ และหมวกกันหนาว รวมถึงที่ปิดหู เพื่อป้องกันความเย็น และให้ร่างกายยังคงอบอุ่นอยู่เสมอ มิเช่นนั้นอาจจะทำให้ร่างกายเกิดอาการป่วยได้

 

 

2. เอกสารสำคัญ 

เอกสารสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น พาสปอร์ต เอกสาร Visit Japan ตั๋วเครื่องบิน หลักฐานการจองโรงแรม ตั๋วกิจกรรม หรือตั๋วการเดินทางอื่น ๆ ภายในประเทศ เช่น ตั๋วรถไฟฟ้า เป็นต้น เอกสารสำคัญเหล่านี้ควรเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย โดยเฉพาะพาสปอร์ต ซึ่งควรพกติดตัวไว้เสมอ เก็บไว้ในที่ที่สามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดการสูญหาย อีกทั้งเอกสารสำคัญอื่น ๆ ก็ควรเก็บและทำสำเนาไว้เผื่อในกรณีที่อาจสูญหายได้ เช็ครายละเอียดการกรอก Visit Japan Web และ การเตรียมเอกสารสำคัญต่าง ๆ ได้ที่นี่

 

 

3. เงินสด บัตรเครดิต หรือบัตร Travel card

เงินสด หรือเงินสกุลแต่ละประเทศนั้นสำคัญเสมอ ไม่ว่าเราจะไปเที่ยวในประเทศใด ซึ่งในกรณีนี้คือประเทศญี่ปุ่น ใช้เงินสกุล “เยน (Yen)” โดยมีอัตรการแลกเปลี่ยนอยู่ระหว่าง 24-27 บาทต่อ 100 เยน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและสถานที่ที่แลก หรือในกรณีฉุกเฉิน หากเงินที่เราแลกไปไม่เพียงพอ ก็สามารถใช้บัตรเครดิตรูดเพื่อใช้จ่ายสินค้าในอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่แตกต่างจากเงินสดมากนัก รวมถึงบัตร Travel card ที่ให้คุณสามารถกดเงินสดสกุลเงินต่างประเทศเพิ่มเติมได้ในอัตราแลกเปลี่ยนที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งสามารถดูการเปรียบเทียบบัตร Travel card ได้ที่นี่เพียงเท่านี้คุณก็สามารถช็อปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลินและอิสระ แต่ก็อย่าช็อปปิ้งเพลินจนไม่มีเงินเหลือนะ

ทั้งนี้ควรระมัดระวังเรื่องการพกเงินเยนมากเกินไป เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีกฎหมายข้อบังคับว่า หากนำเงินสดเข้าประเทศเกินกว่า 1,000,000 เยน จำเป็นต้องแจ้งกับทางศุลกากรขณะเดินทางเข้าญี่ปุ่น และต้องแจ้งขณะเดินทางออกจากญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน

 

 

4. กระเป๋าที่คล่องตัว

เนื่องจากเมืองโตเกียวเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น จึงมีการสัญจรของผู้คนที่หนาแน่นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน (Rush Hour) ที่ผู้คนต่างเร่งรีบในการใช้ชีวิต เดินสวนกันไปมาอย่างรวดเร็ว หากไม่ระวังอาจโดนชนหรือโดนเกี่ยวกระเป๋าจนหกล้มโดยที่ไม่รู้ตัวได้ ดังนั้นแล้ว คุณจึงควรมีกระเป๋าที่มีความคล่องตัวสูงเพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางท่องเที่ยวและหลบหลีกผู้คนในช่วงเวลาดังกล่าวได้

 

 

5. Adapter แปลกปลั๊กสากล

เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นมีการใช้เต้ารับและรูปแบบปลั๊กไฟ Type A (ปลั๊กไฟแบบ 2 รู หัวแบน) ซึ่งแตกต่างจากประเทศไทยที่มีการใช้เต้ารับแบบสากล ดังนั้นแล้ว การไปเที่ยวโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นในทุกครั้ง ควรพกหัวแปลงปลั๊กไฟ (Universal Adapter) เพื่อให้สามารถใช้ไฟฟ้าได้ในทุกที่พักที่เราไปพัก ถึงแม้ในบางโรงแรมหรือบ้านพักก็มีการปรับให้เป็นสากลมากยิ่งขึ้นด้วยการใช้เต้ารับปลั๊กแบบสากล แต่เพื่อความสบายใจก็ควรพกไปด้วยจะเป็นการดีกว่า

ทั้งนี้ ระบบไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีความแตกต่างจากประเทศไทยตรงที่ ประเทศญี่ปุ่นมีแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 110v แต่ประเทศไทยมีแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 220v ดังนั้น ใครที่จะนำเครื่องใช้ไฟฟ้าจากที่ไทยไปใช้ที่ญี่ปุ่น ก็ควรต้องศึกษาและดูรายละเอียดของเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นก่อนนำไปใช้ เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประเทศไทยนั้นออกแบบมาให้ใช้งานกับแรงดันไฟฟ้า 220v เพียงอย่างเดียว หากนำไปใช้กับแรงดันไฟฟ้า 110v อาจทำให้อุปกรณ์เกิดความเสียหายได้

 

 

6. โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สำคัญ

สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยไม่ว่าจะไปที่ไหน คือ โทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นเสมือนสมุดโน๊ต แผนที่ กล้องถ่ายรูป และอื่น ๆ อีกมากมาย เมื่อมีโทรศัพท์มือถือแล้ว ก็ต้องมีสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย ก็คือ ซิมการ์ด ซึ่งมีให้เลือกอย่างมากมายและหลากหลาย ทั้งซิมการ์ดสำหรับใช้เน็ตและสำหรับโทร สามารถตัดสินใจเลือกได้ตามความต้องการหรือจุดประสงค์การใช้งาน เพื่อให้สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะรับสายโทรออก ดูแผนที่ เช็คการเดินทาง หรือแชร์รูปสวย ๆ บนโซเชียลมีเดียได้ตลอดเวลา และอุปกรณ์สำคัญชิ้นต่อมาที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “แบตเตอรี่สำรอง (Powerbank)” ที่ควรพกติดตัวไว้สำหรับชาร์จแบตมือถือเพื่อยืดอายุการใช้งานมือถือให้ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน

 

 

7. ของใช้ส่วนตัว

ของใช้ส่วนตัวต่าง ๆ เช่น สบู่ ยาสระผม ยาสีฟัน แปรงสีฟัน โฟมล้างหน้า หรือสกินแคร์ต่าง ๆ ถือเป็นของจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเดินทาง ยิ่งเป็นการเดินทางไปต่างประเทศที่เราไม่สามารถไปซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างสะดวกสบายเหมือนอย่างที่ไทย ดังนั้นแล้วเราจึงควรพกติดกระเป๋าไปด้วย แต่ทั้งนี้ก็ควรระวังในเรื่องของปริมาณของเหลวที่ไม่ควรเกิน 100ml หากเราจำเป็นต้องนำกระเป๋าเดินทางติดตัวเพื่อขึ้นเครื่องไปด้วย แต่หากเราโหลดกระเป๋าเดินทางใต้ท้องเครื่องบิน ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องนี้ เนื่องจากไม่มีข้อกำหนดด้านปริมาณของเหลว

 

 

8. ประกันการเดินทางต่างประเทศ

สิ่งสุดท้ายที่สำคัญและขาดไปไม่ได้เลย นั่นคือ “ประกันการเดินทางต่างประเทศ” ซึ่งทางเพจ Talonjapan ได้เดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาหลากหลายครั้งแล้วจึงได้เรียนรู้ว่า ประกันเดินทางนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญและไม่สามารถมองข้ามได้ เนื่องจากการเดินทางไปยังต่างประเทศนั้นมีโอกาสเป็นอย่างมากที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นพาสปอร์ตหรือกระเป๋าเดินทางสูญหาย เกิดอุบัติเหตุ หรือแม้กระทั่งเกิดความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ประกันเดินทางจะช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นตรงนี้ จากหลักหมื่น หลักแสน หรือหลักล้าน ให้เหลือเพียงหลักร้อย เมื่อตระหนักถึงความสำคัญตรงนี้แล้ว ทางเพจจึงเริ่มค้นหาข้อมูลและได้พบว่า สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันเดินทางไปญี่ปุ่น TalonJapan ขอแนะนำ แผนจาก LUMA 

เนื่องจากประกันเดินทางจาก LUMA นั้นมีความคุ้มครองให้เลือกอย่างหลากหลาย คุ้มครองตั้งแต่ 1,000,000 ถึง 5,000,000 บาท ในราคาเริ่มต้นเพียง 199 บาท สามารถสมัครได้ง่าย ๆ ผ่านทางออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่ 8 เดือนล่วงหน้าไปจนถึง 1 ชั่วโมงก่อนการเดินทางออกจากประเทศไทย คุ้มครองทั้งด้านการรักษาพยาบาลและการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกเที่ยวบินการเดินทาง ค่ารักษาพยาบาล การเคลื่อนย้ายฉุกเฉินทางการแพทย์ หรือแม้กระทั่งสัมภาระเสียหายและสูญหาย ประกันเดินทางจาก LUMA ก็พร้อมดูแลและคุ้มครอง เพื่อให้การเดินทางของคุณในครั้งนี้ปลอดภัยหายห่วง ให้คุณสบายใจในทุกครั้งที่เดินทาง เมื่อมีประกันเดินทางจาก LUMA

 


บทความนี้เป็น Advertorial PR Content
Exit mobile version