รวมที่เที่ยวต้องแวะของจังหวัดคุมาโมโตะ แหล่งกำเนิดคุมะมงและภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ 2567
จังหวัดคุมาโมโตะ(Kumamoto) ที่แฟนคลับญี่ปุ่นหลายคนรู้จักกันดีจากมาสคอต คุมะมง แสนน่ารัก ปราสาทคุมาโมโตะ และภูเขาไฟอะโสะ ดังจนใครๆมาเที่ยวคิวชูก็ต้องแวะกันมาที่จังหวัดนี้ไม่งั้นจะถือว่ามาไม่ถึง ส่วนจะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ตามเรามาเลยครับ
1. ซากุระมาจิ ห้างเปิดใหม่ใจกลางเมืองคุมาโมโตะ
ห้าง ซากุระมาจิ นอกจากจะเป็นห้างเปิดใหม่เมื่อปี 2019 แล้วก็ยังเป็นสถานีรถบัสหรือ Bus terminal ที่มีขนาดใหญ่มากของญี่ปุ่นด้วย ทำให้เป็นศูนย์กลางใหม่ในการเดินทางในจังหวัดคุมาโมโตะ นอกจากมีแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร โรงแรม และฮอลล์การแสดงแล้ว บนดาดฟ้ายังเป็นสวยลอยฟ้าสามารถมองเห็นปราสาทโตะได้อีกด้วย
นอกจากตัวห้างแล้ว เพียงแค่เดินออกจากห้างมาอีกเล็กน้อยเราจะเจอถนนย่านการค้าที่ชื่อว่า Shimotori Arcade และ Kamitori ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกันและเป็นถนนที่มีความกว้างที่สุดในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งยังเป็นย่านอาหารเลิศรสที่มีร้านต่างๆ เช่น คาเฟ่และร้านอาหารท้องถิ่นด้วย โดย Shimotori Arcade มีความยาว 511 เมตร และกว้างถึง 15 เมตร และ Kamitori Arcade มีความยาว 360 เมตร และกว้าง 11 เมตร
2. ปราสาทคุมาโมโตะ
สืบเนื่องจากแผ่นดินไหวคราวที่แล้วนั้นปราสาทยังซ่อมไม่เสร็จเลยทำให้เราสามารถดูได้แค่บริเวณรอบปราสาทเท่านั้น แต่ภายในตัวปราสาทส่วนหอคอยป้อมปราการหลักจะสามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ในเดือนเมษายนปี 2021 นี้ครับ และถ้าเราขึ้นไปที่ยอดปราสาท ก็ได้จะเห็นวิวปราสาทได้รอบๆเลย
สำหรับช่วงนี้จะเป็นทางเดินรอบปราสาทที่สร้างขึ้นมาใหม่หลังเกิดแผ่นดินไหว โดยมีค่าเข้าชมอยู่ที่ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 200 เยน แล้วเด็กที่ยังไม่เข้าเรียนเข้าฟรีครับ
ที่ปราสาทคุมาโมโตะจะมีนักแสดงที่รับบทเป็นคนที่มีตัวตนจริงตามประวัติศาสตร์ ของเมืองคุมาโมโตะ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาเข้าชมนั้นได้เข้าถึงอารมณ์บรรยากาศเก่าๆที่แท้จริง โดยนอกเหนือจากการแสดงใน Shopping center ข้างปราสาทแล้วยังมีการพานักท่องเที่ยวเดินชมที่ทางเดินรอบปราสาทอีกด้วย และในวันนี้เราก็โชคดีที่มาทันเวลาเหล่านักแสดงพาเดินชมรอบประสาทพอดี เลยได้มีโอกาสถ่ายรูปกับเขาครับ
ถ้าใครมาเดินเที่ยวรอบปราสาท อย่าลืมแวะไปที่ศูนย์การค้าข้างๆปราสาท ที่นี่มีชื่อว่าโจไซเอน โดยที่นี่นอกจากจะมีของฝากมากมายเช่น ตุ๊กตาคุมะมงจำนวนมหาศาลแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของร้านขายอูนิโคโรเกะ อันลือชื่อ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Point ที่ต้องมาโดนครับ โดยอูนิโคโรเกะ จะมี 2 ราคาแบบธรรมดา 260 เยนและแบบพรีเมี่ยม 390 เยน ร้านชื่อว่า Amakusa Kaisyoku Maruken ครับ
3. ชมวิวภูเขาไฟอะโซะ ที่ ไดคังโบะ
ภูเขาไฟอะโสะนั้นเป็นภูเขาไฟรูปโดนัทที่ยังเป็นภูเขาไฟมีพลังอยู่นะครับ ถ้าวันไหนโชคดีเราจะได้มีโอกาสเห็นควันลอยขึ้นมาจากปากปล่องภูเขาไฟนะครับ เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงพิเศษที่หิมะตกค่อนข้างหนาเลยทำให้ภูเขาไฟอะโสะในตอนนี้ดูเหมือนกับเทือกเขาหิมาลัยยังไงอย่างนั้น เป็นมุมสวยที่แปลกตาและหาชมได้ยากครับ
โดยสถานที่ที่คนนิยมไปท่องเที่ยวกันรอบภูเขาไฟอะโสะนั้นจะเป็นที่ไดคังโบะ โดยที่จุดนี้เราจะสามารถเห็นความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟอะโสะได้ชัดเจนมากกว่าจุดอื่น แค่เพียงภาพถ่ายคงไม่สามารถอธิบายความยิ่งใหญ่ของมันได้ผมอยากให้ผู้อ่านทุกท่านมาสัมผัสมันด้วยตัวเองครับ
4. ปั่นจักรยานชมวิว ปั่นไปกินไป ทาเบะโคกิ
อีกหนึ่งกิจกรรมแนะนำสำหรับบริเวณภูเขาไฟอะโสะมีชื่อว่าทาเบะโคกิ หรือมีชื่อไทยว่าปั่นไปกินไป ครับ โดยการปั่นจักรยานคอร์สนี้ เราสามารถไปซื้อตั๋วปั่นจักรยานได้ที่สถานีรถไฟอะโสะ มีรูปปั้นอุซปจากอนิเมะชั่นเรื่อง วันพีซยืนอยู่หน้า สถานีรถไฟอะโสะด้วย
กิจกรรมค่าเช่าจักรยานนั้นเสีย 3,500 เยนหรือประมาณ 1,100 บาท โดยสิ่งที่เราจะได้ก็คือจักรยานเสือภูเขา 1 คันปั่นได้ 3 ชั่วโมง หมวกกันน็อค และตั๋วแลกอาหาร 7 ใบ ตั๋วแลกอาหารเราสามารถเอาไปแลกในร้านค้าที่ร่วมรายการในเมืองอะโสะได้ สามารถตรวจสอบร้านที่สามารถใช้สิทธิ์ได้กับใบโบชัวร์ที่จะได้มาตอนเช่าจักรยานครับ ถึงจะบอกว่าปั่นไปกินไปแต่ว่าเอาจริงๆแล้ววิวข้างทางสวยมาก สวยจนลืมกินเลยทีเดียว
เว็บไซต์สำหรับการจองปั่นจักรยาน グルメサイクリング「たべコギ」
ครั้งนี้ เราปั่นไปได้เรื่อยๆจนถึงศาลเจ้าอะโสะครับ มาถึงนี่เราก็มากินโคร็อกเกะเนื้อม้าซึ่งเป็นของขึ้นชื่อย่านนี้ครับ
และร้านตรงข้ามร้านโคร็อกเกะ มีร้านTabanya ขายผ้าเช็ดหน้า ที่มีเซียมซีเสียบอยู่ข้างในด้วย โดยเซียมซีนี้หยิบมาดูธรรมดาไม่เห็นครับต้องเอาไปจุ่มน้ำก่อนถึงจะเห็นว่าเซียมซีเขียนว่าอะไร เป็นวิธีการดูดวงแบบใหม่เลย
5. ชิมเนื้อวัวแดง Aka ushi
เนื้อวัวแดง หรือ Aka ushi เมนูทีเด็ดของบริเวณภูเขาไฟอะโสะที่คนรักเนื้อต้องห้ามพลาดครับ ด้วยเนื้อวัวแดงนะครับเป็นเนื้อวัวที่ถูกเลี้ยงมาบนภูเขาอะโสะเป็นการเลี้ยงแบบปล่อยให้กินหญ้าวัวที่ถูกเลี้ยงด้วยวิธีการนี้จะเป็นวัวที่มีความสุข เนื้อของวัวจะค่อนข้างเฟิร์มสู้ลิ้นครับ โดยอาหารมื้อนี้ 1 เซตสนนราคาที่ 2530 เยนครับ
พิกัดร้าน ร้านอาโสะฮานาบิชิ 阿蘇神社参道 あか牛の牛カツ 阿蘇はなびし (aso-hanabishi.com)
6. คุสะเซ็นริ
คุสะเซ็นริ หรือแปลเป็นไทยได้ว่า ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ปกติแล้วที่นี่ในช่วงที่ไม่หนาว เราสามารถขี่ม้าชมรอบคุสะเซ็นริได้ครับ แต่เนื่องจากวันนี้เราไปหิมะตกจะทำให้เราได้ภาพสวยๆอย่างนี้มาหลายรูปเลย
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคิวชูได้ที่
การท่องเที่ยวคิวชู (Kyushu Tourism Promotion Organization)
เว็บไซด์ภาษาไทย https://th.welcomekyushu.com/journey-through-kyushu/
เฟสบุ๊คภาษาไทย https://www.facebook.com/onsenislandkyushuth