รีวิว พาเที่ยวอาราชิยาม่า เมืองชนบทน่ารักๆของเกียวโตและปราสาทนิโจ
รีวิวตะลอนญี่ปุ่นวันนี้จะพาไปเที่ยวเมืองชนบทยอดฮิตของเมืองเกียวโต อาราชิยาม่า(Arashiyama) และปราสาทนิโจอันเก่าแก่ของเมืองเกียวโตที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย
เราไปถึงสถานีรถไฟซากะ-อาราชิยาม่า ประมาณ 9 โมงเช้า เดินเที่ยวบริเวณเมืองใกล้ๆสถานีรถไฟ ไปเรื่อยๆจนถึงสะพานโทเก็ตสึเคียว(Togetsukyo) ที่เป็น Landmark และเหมือนจุดศูนย์กลางของแหล่งท่องเที่ยวของเมืองอาราชิยาม่า ระยะทางจากสถานีรถไฟมาถึงสะพานประมาณ 800 เมตร อากาศเย็นๆ ฟ้าครึ้มๆ เดินสบายๆ ชมเมืองไปเรื่อยๆ เพื่อไปที่ป้ายรถบัส เท่าที่สังเกตดู เมืองนี้มีนักท่องเที่ยวมากเหมือนกัน น่าจะซักครึ่งหนึ่งของเมืองเกียวโตเลย เพียงแต่จะเป็นชาวญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีชาวต่างชาติมากเหมือนในเมืองเกียวโต
เรารอรถบัสเพื่อจะไปวัดโอตากิ เน็นบัสสึจิ(Otagi Nenbutsuji)อยู่นานมากน่าจะเกินครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่เห็นรถบัสมา จึงตัดสินใจโบกแท๊กซี่ไปเลยเพราะจริงๆวัดนี้อยู่ห่างไปแค่ 2.5 กิโลเมตรเท่านั้นเอง พอคำนวนแล้วน่าจะแพงกว่าค่ารถบัสไม่มากนัก แต่จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่ ตอนบอกกับลุงแท๊กซี่ก็งงกันพอสมควรเพราะเหมือนกับลุงแกจะสันสบกับวัดอีกวัดหนึ่ง แต่พอให้แกดูรูปเท่านั้นแหล่ะ แกโบกมือให้ขึ้นรถไปเลย นั่งรถมาซัก 10 นาทีก็มาถึงหน้าวัดแล้ว
วัดโอตากิ เน็นบัสสึจิเป็นวัดที่มีความพิเศษตรงที่จะมีรูปปั้นหินทำท่าทางต่างๆมากกว่า 1 พันตัว ซึ่งวัดจะตั้งอยู่ที่เนินเขาลาดชัน ต้องเดินขึ้นลงบันได เพื่อเที่ยวชมแต่ละส่วนของวัด ซึ่งไปแล้วก็ไม่ผิดหวังเลย ทั้งวัดนี้มีแค่กลุ่มเรากับอีกกลุ่มเท่านั้นเอง ถ่ายรูปเล่นกันได้ทุกมุม เพลินไปเลย
จากนั้นขากลับ เราก็วางแผนกันว่าจะเดินกลับเพราะว่าเราจะได้เดินผ่านถนนเส้นโบราณที่ยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่เอาไว้อยู่หรือที่เรียกกันว่า ถนนซากะ โทริอิโมโตะ(Saga-Toriimoto) โดยจะมีอาคารไม้ที่มีหลังคาโบราณแบบที่หมู่บ้านชิราคาวะโกะ อยู่ประมาณ 2-3 หลัง มีร้านค้าและร้านอาหารแบบญี่ปุ่นๆ ตลอดเส้นทางของถนนนี้เลย
เดินถ่ายรูปกันเพลินๆที่ถนนเส้นนี้จนเลยไปเกือบถึงทางแยกเข้าป่าไผ่ อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวชื่อดังของอาราชิยาม่า เราจึงนึกขึ้นได้ว่าเราเดินเลยวัดอีกวัดหนึ่งที่เราจะวางแผนจะไปกันซะแล้ว วัดนั้นก็คือวัดอาดะชิโน-เนนบุตสึจิ(Adashino Nenbutsuji) ที่ตอนแรกลุงคนขับแท๊กซี่ สับสนกับวัดนี้นี่แหล่ะ เพราะวัดอาดะชิโน เนนบุตสึจินี้จะมีรูปปั้นเยอะๆเหมือนกับวัดโอตากิ แต่จะไม่ใช่รูปปั้นคนทั่วๆไปแต่จะเป็นรูปปั้นที่เหมือนเณรหรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า จิโซ(Jizo) ใครที่จะไปตามนี้อย่าลืมแวะไปกันนะ เพราะน่าสนใจมากและเป็นทางผ่านอยู่แล้วด้วย
ที่ป่าไผ่นี้ก็เป็นอีก Landmark หนึ่งของเมืองอาราชิยาม่าที่ใครมาเที่ยว ก็จะแวะมาถ่ายรูปเล่นที่นี่ด้วย ทำให้คนเยอะมากๆ เลยทีเดียว แต่บรรยากาศก็ดี ร่มรื่น และทางเดินสะอาดเป็นระเบียบมากๆจนไม่น่าจะเรียกว่าป่าเลย
ที่สุดทางเดินของป่าไผ่จะมีทางแยกไปขึ้นรถไฟสายโรแมนติคและอีกทางที่สามารถไปออกที่หลังวัดริวเทนจิ วัดดังที่สุดของอาราชิยาม่าและยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย เนื่องจากรถไฟสายโรแมนติคหรือ Sagano romantic train นี้จะเป็นไฮไลท์สำหรับช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเพราะจะวิ่งเรียบไปตามหุบเขาริมแม่น้ำที่ต้นไม้เปลี่ยนสีสวยงามมากๆ เราจึงเก็บเอาไว้คราวหน้า แล้วมุ่งตรงไปที่วัดริวเทนจิแทน
จากวัดริวเทนจิเราก็เดินวนย้อนกลับมาถึงใจกลางแหล่งท่องเที่ยวของเมืองอาราชิยาม่าใหม่ นั่นก็คือบริเวณสะพานโทเก็ตสึเคียวนั่นเอง เราก็เดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งชมแม่น้ำและร้านขายของรอบๆ เก็บบรรยากาศสวยๆเย็นสบายริมแม่น้ำนี้เอง และเมื่อเห็นว่าเริ่มบ่ายคล้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางกลับเข้าเมืองเกียวโตเพื่อไปเที่ยวปราสาทนิโจก่อนที่มันจะปิดซะก่อน
ปราสาทนิโจเป็นปราสาทเก่าแก่ของเมืองเกียวโตและยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ด้วย ตอนที่ไปถึงฟ้าที่ครึ้มมาทั้งวันก็เริ่มเทลงมา ปราสาทนิโจมีขนาดใหญ่มาก แบ่งออกเป็นหลายส่วน รอบปราสาทยังมีคูน้ำและสวนด้วย ใครจะไปเที่ยวถ้ามีเวลาน้อยให้เล็งทางเข้าดีๆไม่งั้นจะต้องเดินวนหากันนานเลย
ชมปราสาทกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เย็นแล้ว เราก็เลยตรงเข้าเมืองเกียวโตไปย่านกิอ้อน เดินเล่นและหาอะไรกินกันซะหน่อยจากร้านที่เราเล็งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน นั่นก็คือร้านโอโคโนมิยากินั่นเอง ก็เป็นอันว่าจบหนึ่งวันเป็นที่เรียบร้อย เป็นวันที่สบายๆจริงๆ
ขอจบการรีวิวการเที่ยววันนี้แต่เพียงเท่านี้นะครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ ดู รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นอื่นๆได้ที่นี่
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม