รีวิวรอบนี้เป็นทริปตะลอนเที่ยวกินช้อปฮอกไกโด เน้นสบายๆ เพราะพาสูงวัยหลายท่านไปด้วย ไม่พูดมากเจ็บคอ มาดูแพลนเที่ยวกันเลยจ้า
แผนเที่ยว HOKKAIDO 6 วัน 5 คืนนี้ ใช้ JR Hokkaido Rail Pass แบบ 5 วันเป็นหลัก วันสุดท้ายวันที่ 6 ซื้อตั๋วรถไฟเที่ยวเดียว ไปสนามบิน New Chitose
พัก 3 เมือง Hakodate, Noboribetsu, และ Sapporo อีก 3 คืน
วันที่ 1
วันแรกจากสนามบินจะมาเริ่มเที่ยวที่ Hakodate ซึ่งเป็นเมืองที่ไกลที่สุดก่อน และคืนแรกจะพักที่เมือง Hakodate นี้ด้วย เน้นเดินเที่ยวสบายๆในเมือง หรือใครอยากนั่งรถราง หรือรถเมล์เที่ยวก็ได้ไม่ได้ลำบากอะไร แต่ชอบเดินชมเมืองเลยกะเวลาเดินเที่ยวเล่นแวะตามข้างทางไปเรื่อยๆในเมือง Hakodate
หลังลงจากเครื่องที่สนามบิน New Chitose Hokkaido แล้วไปแลกตั๋ว Hokkaido Rail Pass 5 วัน ที่ซื้อมาจากเมืองไทย ที่สนามบินเลย
แล้วจับรถไฟเที่ยว 9:45 ยิงยาวไปเที่ยวล่างสุดก่อนเลย ที่ Hakodate แต่ถ้าหิวสามารถหาอะไรทานที่่สนามบินก่อนจะไปรถไฟเที่ยวต่อไปรอบ 11 โมงก็ได้ตามสะดวก จะได้ถึงเวลาเชคอินโรงแรมพอดี ใช้เวลา 3 ชมครึ่ง ก็ถึงสนานี Hakodate เลย หรือถ้าใครนั่งสาย HAYABUSA มาจาก Tokyo จะไปลงที่ Shin Hakodate ต้องนั่งรถไฟต่อมาสถานี Hakodate ก่อน ซึ่งก็ไม่ได้ไกลกันนัก
หลังจากเชคอินโรงแรมแถวสถานี Hakodate ที่มีให้เลือกมากมาย ก็เดินเพื่อมุ่งหน้าไปขึ้นกระเช้าที่ Mount Hakodate Ropeway จะมองเห็นภูเขาอยู่ไม่ไกลจากสถานี แต่ต้องกะเวลาให้ดีเพราะที่นี่ติด 1 ใน 3 วิวแบบวิวกลางคืนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งก็ต้องขึ้นไปหัวค่ำหน่อยแต่คนจะเยอะมาก เลยขึ้นไปรอตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกจนพระอาทิตย์ตกจะได้ทำเลดีๆที่ถ่ายภาพออกมาสวยๆ
ขากลับลงมา หรือก่อนไปขึ้นกระเช้าสามารถมาถ่ายมุมยอดนิยมเนิน Hachiman-zaka ได้ด้วย
พอกลับลงมาแล้วก็สามารถมาเดินช๊อปปิ้งหรือหาอะไรทานที่ Red Brick Warehouse กันต่อได้ มา Hakodate แล้วถ้าไม่ได้กินร้าน Lucky Pierrot ก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะเป็นร้านเฟรนชายที่มีที่นี่เท่านั้น อร่อยด้วย
วันที่ 2
เริ่มต้นวันที่ 2 ด้วยการ เชคเอาท์โรงแรม แล้วฝากกระเป๋าไว้ ไปเที่ยวตลาดเช้ากับไป Fort Goryukaku ก่อนค่อยกลับมาเอากระเป๋าเพื่อนั่งรถไฟไปนอนที่ Noboribetsu
ตลาดเช้า Hakodate มีร้านอาหารดีๆมากมายราคาไม่แพงและสดมากด้วย เลือกร้านได้ตามสะดวกเลย หรือจะเดินซื้อขนมซื้อของฝากก็มีขาย
หลังจากอิ่มแล้วก็เดินออกมาขึ้นรถรางเพื่อไป Fort Goryukaku ถ้ามาช่วงต้นเดือนพฤษภาคมจะเป็นวิวซากุระที่สวยงามทั้งสวนรูปดาวนี้เลย
นั่งรถรางมาลงสถานี Goryokaku-Koen-Mae หรือจะนั่งรถเมล์มาก็ได้แล้วแต่ชอบเลย
หลังจากเสร็จที่ Hakodate ก็นั่งรถไฟมาลงที่ Noboribetsu เลย ต้องนั่งรถเมล์มาจากสถานีด้วยนะ แล้วแต่ว่ารร.อยู่ตรงป้ายไหนลองเช็คดู แต่รร.ก็จะกระจุกอยู่โซนเดียวกันนั่นแหล่ะ
ของผมเลือกรรที่มีบุฟเฟ่ต์ปูไม่อั้น มีบ่ออาบน้ำกลางแจ้ง ฟิน มากมาย ที่นี่เป็นเมืองพักตากอากาศของคนญี่ปุ่น มาแช่ออนเซ็น เลยมีรร.ดีๆหลายแห่งเลย
วันที่ 3
วันที่ 3 ตื่นเช้ามาไปแช่น้ำร้อนอีกรอบให้ตัวเปื่อย ที่รร.มีบริการ Shuttle Bus ไปส่งที่ Sapporo เลย แต่ถ้าไม่มีก็นั่งรถเมล์กลับไปที่สถานี Noboribetsu เพื่อนั่งรถไฟไปที่ Sapporo ก็ได้ พอ Check out แล้วฝากกระเป๋าไว้ก่อน เพื่อไปเดินเที่ยวใกล้ๆก่อนกลับ
แวะไปเดินเล่นที่เหวนรก Jigokudani (Hell Valley) ที่ว่ากันว่าเป็นบ่อเกิดของของน้ำพุร้อนของแถบนี้
จากรร.เดินมาไม่ไกล มีที่ให้เดินแวะถ่ายรูปเรื่อยๆ เพลินๆกันไป
หลังจากนั้นเดินกลับมาเพื่อไปดูฟาร์มหมีสีน้ำตาล ที่หมีจะมาออกลีลาอ้อนขออาหารจนเราต้องใจอ่อนซื้อให้มัน
มีบ้านชาวอินุเล็กๆที่สามารถเข้าไปเดินชมและซื้อของที่ระลึกได้ด้วย
คืนนี้เราจะมานอนที่ Sapporo กัน พอมาถึง Sapporo เราพักกันติดสถานี Jr Sapporo เลย พอไปเช็ตอินเสร็จก็เดินเข้าไปเล่นในเมืองจะไปหาอะไรทานในเมืองกันซะหน่อย
แวะมาเดินถ่ายดอกทิวลิปกันซะหน่อยที่ ที่ Former Government Office Building เพราะในช่วงเดือนพฤษภาคมมีทิวลิปสวยๆมากมายหลายสีให้ผู้ใหญ่เก็บไว้สวัสดีได้ครบทุกวันเลย เดินมาได้ ไม่ไกลจากสถานี Sapporo
วันที่ 4
วันที่สี่ เราจะไปเที่ยวที่เมือง Otaru กัน นั่งรถไฟไม่ไกลจาก Sapporo สักครึ่งวันก็เที่ยวกันเสร็จแล้ว พอบ่ายๆเราไปเดินเล่นและซื้อขนมกันที่โรงงาน Shiroi-Koibito กันต่อ
ลงสถานีก่อน Otaru ที่สถานี Minami-Otaru เพื่อเดินไปที่ Otaru Music Box Museum ต้องระวังล้มละลายที่นี่ด้วยของน่ารักมากมาย ย้ำว่ามากมายจริงๆ
แล้วค่อยๆเดินมาเรื่อยๆ ผ่านถนนช๊อปปิ้ง มีทั้งอาหารและขนมตลอดทาง เพื่อมุ่งมาที่คลองอันโด่งดัง Otaru Canal
หลังจากนั้นก็นั่งไปที่สถานี Otaru เพื่อ มาโรงงาน Shiroi Koibito โดยลงที่สถานี Hassamu Station แต่จะเดินไกลนิดนึงประมาณ 1.8 กิโล ที่นี่เราสามารถซื้อตั๋วชมโรงงานได้ เป็นแบบแสดงให้ดูเพราะที่ผลิตจริงๆย้ายไปที่อื่นแล้ว และตรงสวนด้านหน้าก็มีที่น่ารักๆให้ถ่ายรูปมากมาย ข้างในมีร้านของฝากถ้าชอบก็สามารถซื้อที่นี่ได้เลย เพราะมีหลายอย่างมีขายเฉพาะที่นี่ ที่สนามบินไม่มีขาย และสามารถทำ Tax Free ได้ด้วย
วันที่ 5
วันที่ห้า ไปสวน Pink Moss ที่แถวๆ Niseko ตรง Mount Yotei ที่ได้ชื่อว่าเป็นภูเขาไฟฟูจิแห่งฮอกไกโด มั่นใจเลยว่าผู้ใหญ่ชอบที่นีแน่ๆ ข้างทางก็เป็นชนบทน่ารักๆมีวิวให้ชมตลอดทางไม่เบื่อ
หลังจากนั้นก็กลับมา ช๊อปปิ้ง และ กิน กิน กิน และก็กิน อย่างมากมาย จริงๆกินเยอะกว่านี้ แต่รูปลงนิดเดียวกลัวหิวอีก กินราเมงฮอกไกโดทุกร้านเลยมันดีงามจริงๆ มาตามกินหมูฮอกไกโดตรงสถานี Sapporo ข้างบนก็ดีงาม
วันที่ 6
ตื่นมาด้วยความเศร้าเก็บกระเป๋า เช็คเอ้าท์กลับไทยแล้วจ้า
อยากกลับไปอีกจัง…..
▌ยังมีข้อมูลเที่ยวฮอกไกโดที่น่าสนใจอยู่อีกเพียบ ตามนี้เลยคร้าบบ