รีวิว พาเที่ยวนิกโก้แหล่งมรดกโลก งานวัดญี่ปุ่น และเมืองแห่งเกี๊ยวซ่า แวะชิมที่ร้านมินมิน
รีวิวฉบับนี้จะพาไปเที่ยวเมืองนิกโก้(Nikko)แหล่งมรดกโลกของญี่ปุ่น ที่สามารถเที่ยวแบบ 1 วันเป็น side trip จากเมืองโตเกียว(Toyko)ได้ และพาเดินเที่ยวงานเทศกาลใหญ่ของนิกโก้ที่ชื่อว่า งานเทศกาลยาโยอิ(Yayoi)ที่มีชาวญี่ปุ่นท้องถิ่นแต่งชุดแบบญี่ปุ่นและการออกร้านขายของ เรียกได้ว่าเป็นงานวัดแบบญี่ปุ่นเลย เสร็จแล้วขากลับ แวะลงเมืองอิทสุโนะมิยะ(Utsunomiya)ที่เป็นเมืองแห่งเกี๊ยวซ่า ไปต่อคิวกินเกี๊ยวซ่าร้านดังของเมืองนั่นก็คือ ร้านเกี๊ยวซ่ามินมิน(Min Min) แล้วปิดท้ายทริปด้วยการแว้ปไปถ่ายรูปโตเกียวทาวเวอร์ตอนกลางคืนซักหน่อย
เริ่มแรกเอาตารางรถไฟไปดูกันก่อน ออกจากสถานีโตเกียว(Tokyo Station) เวลา 7:12 ต่อรถ 1 ครั้งที่เมืองอุทสุโนมิยะ(Utsunomiya) แล้วมาถึงนิกโก้ประมาณ 9.11 ใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง เรามาโดยใช้ JR Pass ขึ้นชินคันเซนแล้วเปลี่ยนสายรภไฟที่สถานี Utsunomiya อีกรูปคือแผนที่เส้นทางการเดินเที่ยวของเรา โดยเราจะไปเที่ยวทั้งหมด 7 จุดด้วยกัน ตัวเลขจะเรียงตามรีวิวนี้ไปเรื่อยๆเลย
ว่าแล้วเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า การเดินทางไปนิกโก้มีทางเลือกหลายทาง เราเลือกมาจากสถานีโตเกียวเพราะเราพักที่สถานีนี้ นั่ง 2 ต่อถึงใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เรามาถึงสถานีรถไฟ เจอาร์ นิกโก้ประมาณ 9 โมงเช้าก็เริ่มเห็นนักท่องเที่ยวบ้างแล้ว ออกจากสถานีรถไฟนั่งรถบัสต่ออีกประมาณ 10 นาที โดยขึ้นที่ป้ายหน้าสถานี JR Nikko ได้เลย ราคา 310 เยน (รายละเอียดการเดินทางทั้งหมดของนิกโก้ดูได้ที่นี่) ที่จริงแล้วระยะทางก็ไม่ไกลมาก ประมาณกิโลกว่าเท่านั้น แถมระหว่างทางยังมีร้านรวง ขายของ ขายขนมและอาหารเรียงรายตามถนนด้วย แต่เราอยากทำเวลาไปถึงงานเทศกาลเร็วๆ จึงนั่งรถบัสขาไปแล้วขากลับเราจะเดินกินบรรยากาศกลับไปที่สถานีรถไฟกัน
รถบัสจะมาส่งเราที่สะพานชินเคียว(เบอร์ 1) เป็นสะพานไม้โบราณ และชาวญี่ปุ่นยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 สะพานไม้ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นด้วย ใครอยากจะเดินข้ามสะพานนี้ต้องเสียเงินเพิ่มอีก 300 เยน ส่วนเราแค่ไปยืนถ่ายรูปที่สะพานธรรมดาที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกันเท่านั้น พอข้ามมาถึงฝั่งตรงข้ามสะพานจะพบกับทางเดินที่มีป้ายหินต้อนรับเข้าเมืองนิกโก้ โซนที่เป็นมรดกโลกกันแล้ว
ระหว่างทางเดินจะได้บรรยากาศของเมืองญี่ปุ่นแบบโบราณ มีคูน้ำอยู่รอบๆทั้งสองด้าน กำแพงทำด้วยหิน น้ำในคูน้ำเล็กๆนี้ใสมากๆ ถึงขนาดเห็นปลาว่ายอยู่ในน้ำเลย เดินไปเรื่อยๆจะเลี้ยวขวาเข้าถนนเส้นหลักที่จะนำไปสู่ศาลเจ้าชื่อดังทั้ง 3 แห่งของนิกโก้ นั่นก็คือ ศาลเจ้าโทโชกุที่เป็นสัญญลักษณ์ของที่นี่, ศาลเจ้าฟุตะระซัง และศาลเจ้าไทยุอินเบียวที่อยู่ด้านบนสุดของเนินเขา รวมทั้งวัดรินโนจิ ที่เป็นอาคารไม้หลังใหญ่สีแดงสลักทองด้วย
วัดแรกที่เราจะแวะเข้าไปคือวัดรินโนจิ(เบอร์ 2)ที่มีวิหารหลัก Sanbutsudo อาคารหลังใหญ่สีแดงสลักทองที่เป็นจุดเด่นของวัดแห่งนี้ แต่ทว่าวันที่ไปเขากำลังทำการปรับปรุงกันอยู่เห็นว่ากว่าจะเสร็จก็เดือน มีนา 2016 นั่นแหล่ะ แต่กระนั้นเขาก็ยังอุส่าห์ทำผ้าใบพร้อมรูปเหมือนจริงของวิหารคลุมเอาไว้ให้คนที่ไปดูกันด้วยนะ ออกจากวัดด้วยความประทับใจถึงความเป็นมืออาชีพของคนญี่ปุ่น ขนาดแค่ปิดปรับปรุง ต้องมีการสร้างอาคารขนาดใหญ่กว่าขึ้นมาครอบ ไม่พอยังมีรูปภาพของวิหารให้ดูได้ด้วย เข้าใจคิดจริงๆ
หลังจากเดินขึ้นเนินมาเรื่อยๆ ทางจะแคบลง แล้วจะเห็นตู้ขายตั๋วเข้าศาลเจ้าโทโชกุที่เป็นไฮไลท์ของเมืองนิกโก้ แต่ว่าไม่ใช่ไฮไลท์ของเราในวันนี้ เราจึงเดินเลยศาลเจ้านี้ไปก่อนเพื่อจะมุ่งหน้าต่อไปที่ศาลเจ้าฟูทาระซังที่อยู่ตรงปลายสุดของเนินนี้
แล้วเราก็มาถึงที่ด้านหน้าของศาลเจ้าฟูตะระซัง(เบอร์ 3)กันซักที มองเข้าไปด้านในก็เห็นได้เลยว่ากำลังมีงานอะไรกันอยู่ ไม่รอช้ารีบเข้าไปในงานกันเลยดีกว่า
เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับงานเทศกาลนี้ – งานเทศกาลนี้ เรียกว่า งานเทศกาลยาโยอิ (Yayoi Festival)เป็นหนึ่งในงานเทศกาลใหญ่และเก่าแก่มากที่สุดงานหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น จัดขึ้นเพื่อฉลองการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ ช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปี โดยภายในงานแต่ละหมู่บ้านในบริเวณนิกโก้จะมารวมตัวกัน มีไฮไลท์เป็นการแสดงขบวนพาเรดรถเข็นคันใหญ่ที่ตกแต่งมาอย่างสวยงามเรียกว่า ฮานะ-ยาไต(hana-yatai) งานนี้จะจัดขึ้นที่ลานภายในของศาลเจ้าฟูตะระซัง แห่งนิกโก้ (ข้อมูลงานเทศกาลยาโยอิ Yayoki)
จากรูปคงเห็นกันแล้วว่าคนมาร่วมงานกันเยอะมากๆ เราเดินวนไปวนมา ถ่ายรูปกับรถเข็น ถ่ายรูปเด็กญี่ปุ่น ที่น่ารักและเป็นมิตรมากๆ บอกเลยว่าประทับใจจริงๆ หลังจากนั้นเราก็เดินวนลงบันไดอีกทางหนึ่งที่ปลายสุดจะเจอ 5 แยก โดยเราจะแยกไปเที่ยวศาลเจ้าสุดท้ายที่สวยงามมากเหมือนกัน นั่นก็คือ ศาลเจ้าไทยุอิน(Taiyuin) เสียค่าเข้า 550 เยน ข้อมูลศาลเจ้าไทยุอิน เพิ่มเติม
เมื่อเดินเที่ยวศาลเจ้าไทยุอินเสร็จแล้ว เราก็เดินกลับออกมาทางเดิม จนถึงทางแยกที่เรามา คราวนี้เราจะเดินเข้าตรอกเล็กๆที่เป็นส่วนจัดงานเทศกาลเช่นกัน โดยภายในซอยนี้จะเต็มไปด้วยร้านค้า แผงลอย ขายขนม อาหาร ของเล่นให้เด็กๆ ให้อารมณ์งานวัดแบบญี่ปุ่นที่เห็นในการ์ตูนมากๆเลย (เบอร์ 4)
ที่สุดของปลายตรอกนี้จะวนกลับออกมาที่ใกล้ๆกับทางไปศาลเจ้าโทโชกุ(เบอร์ 6) เราก็ตรงดิ่งไปซื้อตั๋วแล้วเข้าไปชมทันที เสียค่าเข้าแพงที่สุดคือ 1,300 เยน
เที่ยวมาถึงตอนนี้ ก็จะเหลือที่สุดท้ายแล้วสำหรับนิกโก้ เป็นที่ที่ในตอนแรกเรายังไม่แน่ใจว่าจะไปมั้ย เพราะไปค่อนข้างยากและกลัวเวลาจะไม่ทัน แต่ดูเวลาแล้วน่าจะไหว จุดหมายสุดท้ายของเราก็คือทางเดินลึกลับ คังมันงะฟูจิ(เบอร์ 7) ที่เป็นเส้นทางเดินริมธารน้ำที่จะมีรูปปั้นพระพุทธรูปหรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า จิโซ โดยจะมีหมวกและผ้าพันคอสีแดง(หรือผ้ากันเปื้อนก็ไม่แน่ใจ)ใส่อยู่กับพระพุทธรูปด้วย เรียงไปตลอดทางเดินหลายร้อยเมตรเลย บรรยากาศเงียบสงบมากๆ ได้ยินเสียงธารน้ำไหลเอื่อยๆ ตลอดเส้นทางเดินไปกลับ เจอนักท่องเที่ยวแค่ 2 กลุ่มเท่านั้นเอง
พอเดินไปจนสุดทาง เราก็เดินกลับออกมาทางเดิม แล้วออกมาขึ้นรถบัสกลับสถานีนิกโก้กัน ตอนแรกคิดว่าจะเดินกลับแต่กลัวไปไม่ทันร้านเกี๊ยวซ่าจะปิดซะก่อน
ถ้าใครสังเกตการเดินทางของเราตั้งแต่ตอนต้นในรูปแรกเลย จะเห็นว่าสถานีอุตสุโนะมิยะ(Utsunomiya)เป็นสถานที่เราต้องไปเปลี่ยนรถกันอยู่แล้วก็เลยออกมาเดินเที่ยวที่ตัวเมืองกันซะหน่อย ภายในสถานีจะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ เข้าไปข้างในเขามีแจกแผนที่ลายแทงร้านเกี๊ยวซ่าให้ด้วย ในแผนที่มีอยู่ร่วมๆ 20 ร้านเห็นจะได้ เราเลยเดินไปให้เขาแนะนำร้านเด็ดที่อยู่ใกล้กันนี้ให้ซักหน่อย ซึ่งจริงๆคือเรามีร้านที่เล็งเอาไว้ตั้งแต่ตอนจะมาแล้ว และก็เป็นร้านเดียวกันกับที่เขาแนะนำด้วยนั่นเอง แสดงว่าเราเตรียมมาถูกร้านแล้วละ
จากนั้นเราก็เดินออกมาจากสถานีรถไฟ JR Utsunomiya ก็จะเห็นร้านเกี๋ยวซ่าอยู่ตามทางอยู่หลายร้านเหมือนกัน เดินเล่นดูบ้านเมืองเขาไปเรื่อยๆ พอเริ่มหิวก็เลยวนกลับไปที่สถานีรถไฟ เพราะร้านที่เราจะไปกินนั้น เป็นสาขาภายในห้างที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟที่เรามานั่นเอง ร้านนั้นก็คือ ร้านเกี๊ยวซ่ามินมิน ซึ่งจะอยู่ที่ ชั้น 3 ของห้าง พอเดินมาถึงหน้าร้าน ก็มีคนต่อคิวกันอยู่ประมาณ 4-5 คิว เราก็เลยรีบเข้าไปต่อ ตอนกินเสร็จปรากฏว่าคิวยาวกว่าเดิมมาก น่าจะเกิน 10 คิวเข้าไปแล้ว โชคดีที่ไม่ต้องรอคิวนาน น่าจะแค่ประมาณ 15 นาทีเท่านั้น ก็ได้เข้าไปนั่งในร้านแล้ว ร้านนี้มีเมนูอยู่ไม่กี่อย่าง มีเกี๊ยวซ่าให้เลือกแค่ 3 แบบเท่านั้น เราเลยสั่งมาลองทั้งหมดเลย ส่วนน้ำจิ้ม ที่นี่จะมีซอส 3 แบบให้เราปรุงเองตามที่เราชอบ โดยรวมแล้วก็ถือรสชาติโอเค ใช้ได้
พอกินอิ่มเราก็เดินทางกลับมาที่โตเกียว น่าจะมาถึงประมาณ 2 ทุ่ม ก็เลยคิดว่าจะไปถ่ายไฟที่โตเกียวทาวเวอร์ซักหน่อย ไปถึงก็เปิดไฟสวยงาม แต่เราไม่ได้ขึ้นไปชมวิวข้างบนต่อกันนะ นั่งกินเครปที่ร้านด้านล่างแทน แล้วก็เป็นอันว่าจบ 1 วันของเราแล้ว
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่าน หวังว่าทุกคนคงจะชอบกันนะครับ ดู รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นอื่นๆได้ที่นี่