รีวิว North Kyushu: เที่ยวเมือง Sasebo – หมู่เกาะ Kujukushima และสวนสนุก Huis Ten Bosch

review-north-kyushu-sasebo-city


อัพเดตล่าสุดเมื่อ 30 ตุลาคม 2567

 

เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวในภาคเหนือของคิวชู ญี่ปุ่น หนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือเมือง Sasebo จังหวัดนะงะซะกิ(Nagasaki) บทความนี้เราจะมาแนะนำจุดเด่นและกิจกรรมที่น่าสนใจในเมือง Sasebo โดยเฉพาะบริเวณ หมู่เกาะ Kujukushima และ Huis Ten Bosch กัน รับรองว่าจะได้ประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่ยากในญี่ปุ่น ไปจนถึงการเพลิดเพลินกับสวนสนุกแบบตะวันตกที่มีความเป็นญี่ปุ่นอย่างลงตัว.

 

 

 

1. สถานีรถไฟริมทะเล Sasebo Station

เริ่มต้นด้วยสถานีรถไฟ Sasebo เลย เพราะนอกจากจะเป็นสถานีรถไฟสวย ที่ตั้งอยู่ริมทะเลแล้ว ที่นี่ยังเป็นทั้งย่านช้อปปิ้งกินดื่มริมทะเลของเมืองด้วย รวมทั้งมีป้ายชื่อเก๋ๆ Sasebo เอาไว้ถ่ายรูปสวยๆอีกต่างหาก สามารถเดินทางมาได้ง่ายๆด้วยรถไฟขบวน Express ยาวมาจาก Hakata Station ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น

พิกัด – https://maps.app.goo.gl/rfkF1n64XXfcHncY6

 

 

 

2. สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น Huis Ten Bosch

สวนสนุก Huis Ten Bosch นับได้ว่าเป็นสวนสนุกที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสวนสนุกในญี่ปุ่น มีขนาดเท่ากับ Disneyland และ Disneysea รวมกันถึง 2 เท่า ภายในแบ่งออกเป็นโซนต่างๆมากมาย มีขนาดใหญ่จนต้องมีบริการรถชัทเทิลไฟฟ้าคอยให้บริการวิ่งไปตามจุดต่างๆ ซึ่งมีไฮไลท์หลากหลาย เริ่มตั้งแต่ การก่อสร้างและออกแบบตกแต่ง ตามเมืองของประเทศเนเธอร์แลนด์ที่ทำออกมาได้อย่างสวยงาม, ทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาล เช่น ทุ่งดอกทิวลิป, การแสดงแสงสีเสียง ที่ยิ่งใหญ่อลังการหลายจุด, บ้านผีสิงที่ติดอันดับความน่ากลัวต้นๆในประเทศญี่ปุ่น, รวมไปถึงโซนสวนสนุก ช้อปปิ้ง และร้านค้าร้านอาหารอีกมากมาย ทั้งหมดนี้ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 วันจึงจะเที่ยวได้ครบหมด หรือจะค้างคืนที่นี่เลยก็ได้เพราะมีที่พักสไตล์ยุโรปในบรรกาศยุโรปคอยให้บริการด้วย

พิกัด – https://maps.app.goo.gl/FziofsksN72wAzx2A

 

 

 

3. จุดชมวิว หมู่เกาะ Kujukushima Park

Kujukushima ซึ่งแปลว่า “เก้าสิบเก้าเกาะ” แต่จริงๆ แล้วมีเกาะเล็กๆรวมกันมากกว่า 200 เกาะ หมู่เกาะเหล่านี้มีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างกันอย่างมาก สร้างทัศนียภาพทะเลที่งดงามซึ่งเป็นหนึ่งในสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น โดยหมู่เกาะนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติไซไค ที่มีชีวิตชีวาทางชีวภาพทั้งในทะเลและบนบก

โดยการมาเที่ยวหมู่เกาะ Kujukushima ทำได้หลายวิธี วิธีที่นิยมคือ การชมวิวมุมสูงจากบนภูเขาตามจุดชมวิวต่างๆ และ การขึ้นเรือชมวิวทิวทัศน์ นอกจากนี้ พื้นที่นี้ยังมีชื่อเสียงด้านการเพาะพันธุ์ไข่มุก ซึ่งเป็นองค์ประกอบทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจเพิ่มเติมให้กับความงามทางธรรมชาติ

Kujukushima Park ในเมือง Sasebo จังหวัดนางาซากิ ที่เป็นจุดชมวิวที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน เป็นจุดชมวิวมุมสูงของหมู่เกาะ Kujukushima ที่สวยงามแปลกตาของญี่ปุ่น ที่ให้มุมมองในมุมกว้าง ทำให้เห็นหมู่เกาะที่เรียงรายกันในทะเลได้อย่างงดงาม โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก แสงที่สะท้อนจากทะเลและเกาะน้อยใหญ่จะสวยงาม แต่ถ้ามาตอนกลางวันอาจจะร้อนหน่อยนะ

พิกัด – https://maps.app.goo.gl/LAPAQ9U6UBtcyCc6A

 

 

 

4. ล่องเรือชมวิว หมู่เกาะ Kujukushima

การล่องเรือ Kujukushima Cruising Boat Pearl Queen การล่องเรือชมเกาะ 99 เกาะนี้เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติใน Kujukushima เรือจะพาเราผ่านเกาะน้อยใหญ่ที่เรียงรายอยู่ในทะเล ชมวิวอ่าวและหมู่เกาะต่างๆในระยะประชิด บรรยากาศบนเรือเงียบสงบ ลมทะเลพัดเบาๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นตลอดการเดินทาง รวมทั้งยังมีการบรรยายถึงเรื่องราวและเกาะต่างๆ ทีเดียว 4 ภาษาเลย (ไม่มีภาษาไทย)

พิกัด – https://maps.app.goo.gl/zD3drAv1GMg6jQBF8

 

 

 

5. อควาเรี่ยม Kujukushima Aquarium Umikirara

ติดกันกับท่าเรือชมวิว ก็จะมีพิพิธภัณท์สัตว์ทะเลที่ Kujukushima Aquarium Umikirara ที่แม้จะเป็นอความเรี่ยมที่มีขนาดเล็ก แต่ก็มีการจัดแสดงสัตว์ทะเลท้องถิ่นของคิวชู เช่น แมงกะพรุน ปลาท้องถิ่น และสิ่งมีชีวิตใต้น้ำอื่นๆ ที่หลากหลายและน่าสนใจ การเที่ยวชมที่นี่เหมาะสำหรับการเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทางทะเลของภูมิภาคนี้ รวมถึงได้สัมผัสกับสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลและการแสดงโชว์ด้วย

พิกัด – https://maps.app.goo.gl/JVxkw8ii6NbKE5tf6

 

 

 

 

5. สกัดไข่มุก

จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครอีกอย่างหนึ่งของ Kujukushima  คือการได้สัมผัสกับประสบการณ์ สกัดไข่มุก Hands-on Pearl Harvest ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เราจะได้ลองสกัดไข่มุกจากหอยมุกจริงๆ เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการทำไข่มุกของภูมิภาคนี้ที่ไม่เหมือนที่ไหน การสกัดไข่มุกก็ไม่ได้ยากนัก ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที เมื่อเราสกัดไข่มุกออกมาได้ก็จะสามารถนำกลับบ้านได้เลย รวมทั้งยังมีคำทำนายสั้นๆตามแต่สีของไข่มุกที่เราสกัดออกมาได้ด้วย กิจกรรมนี้อยู่ภายในอควาเรี่ยมนั้นเอง

พิกัด – https://maps.app.goo.gl/JVxkw8ii6NbKE5tf6

 

 

 

7. Sasebo Burger

Sasebo Burger เป็นเบอร์เกอร์สไตล์ อเมริกัน ที่มีขนาดใหญ่ยักษ์และอัดแน่นไปด้วย เนื้อแฮมเบิร์ก เบค่อน ชีส ไข่ดาว และผักสลัด แม้จะเห็นว่ามีขายอยู่ทั่วไปตั้งแต่สถานีรถไฟ แต่ร้านที่เราแนะนำให้ไปทานคือ ร้าน Sasebo Burger Museum เป็นร้านที่โดดเด่นเรื่องวิว เพราะตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา ที่สามารถมองเห็นวิวของ Kujukushima ได้อย่างชัดเจนในบรรยากาศร้านสไตล์คาวบอย

พิกัด – https://maps.app.goo.gl/tveCGNgm2CZ9T5BA6

 

 

 

8. Lemon Steak

Lemon Steak เป็นอีกหนึ่งเมนูขึ้ชื่อของเมือง Sasebo เป็นเนื้อสเต็กที่ต้องบีบเลม่อนลงไปตอนทาน เพื่อให้ได้ความหอมหวานของสเต็กผสมผสานกับเนื้อที่ย่างมาอย่างดี เข้ากันได้เยี่ยมสุด เราไปทานกันที่ภายในร้านอาหารของสวนสนุก Huis Ten Bosch ที่เน้นขายเมนูนี้โดยเฉพาะเลย อร่อยมากๆในบรรยากาศยุโรป

 

 

 

 

9. ขนมและเบเกอรี่ที่ร้าน Patisserie & Bistro SAIKAIDO Nairi Parc

ร้าน Patisserie & Bistro SAIKAIDO Nairi Parc เป็นหนึ่งในร้านคาเฟ่ชื่อดัง โดยเฉพาะจากขนมต่างๆที่ทำออกได้น่ากิน และรสชาติดีมากของเมือง Sasebo ร้านคาเฟ่นี้จะมีบรรยากาศสบายๆ ที่เสิร์ฟขนมหวานและกาแฟรสชาติดี สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับการนั่งพักและดื่มด่ำกับบรรยากาศท้องถิ่น พร้อมเพลิดเพลินกับขนมแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ขนมเค้ก Pear รสชาติหอมหวาน เค้ก chocolate หอม ขม เข้มข้น

พิกัด – https://maps.app.goo.gl/i1uYsqnT2WWJxqNg6

 

 

 

10. นั่งรถไฟ Huis Ten Bosch/Midori จาก Hakata Station

รถไฟสาย Huis Ten Bosch Midori Express จากสถานี Hakata ไปสถานี Sasebo ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นขบวนรถไฟแบบคลาสสิคที่สวยงามเป็นเส้นทางรถไฟที่เงียบสงบและมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของชนบทคิวชู ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่เราสามารถนั่งพักผ่อน ชมวิวธรรมชาติ ผ่านทุ่งนาและภูเขาของคิวชู

 

 

 

>>>  ดู รีวิว เที่ยว คิวชู เหนือ แบบเจาะลึก 5 วันต่อได้ที่นี่ <<<


Exit mobile version