รีวิวพาเที่ยวเกียวโต ศาลเจ้าจิ้งจอกแดง วัดทอง และวัดโทจิตอนกลางคืน
รีวิวพาตะลอนเที่ยวญี่ปุ่นวันนี้จะเป็นอีกวันที่เราจะเที่ยวอยู่ในเมืองเกียวโต เราจะไปเที่ยวศาลเจ้าแดงที่เป็นสัญญลักษณ์ของเมืองเกียวโตกัน นั่นก็คือศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ แล้วต่อด้วยวัดทองหรือวัดคินคะคุจิ อีกหนึ่งสัญญลักษณ์ของเกียวโต เสร็จแล้วไปเดินเล่นย่านพอนโตะโช ย่านดื่มกินริมน้ำของเมืองเกียวโต จากนั้นก็แวะหม่ำขนมที่ตลาดนิชิกิ แล้วปิดท้ายวันนี้ด้วยการไปถ่ายแสงสีของเจดีย์ที่วัดโทจิเป็นที่สุดท้าย
ต้องออกตัวก่อนว่ารีวิววันนี้จะไม่ยาว เพราะส่วนใหญ่จะใช้เวลาชิวๆไปกับบรรยากาศมากกว่า อย่างที่ศาลเจ้าแดงก็ถ่ายรูปมุมนี้ มุมนั้น กระโดดอะไรกันไปเรื่อยเปื่อย อยู่ที่เดียวก็ครึ่งวันไปแล้ว ไหนช่วงบ่ายยังมีเดินเล่นแถวริมแม่น้ำเมืองเกียวโตอีกซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรมาก เราเดินดูวิถีชีวิตคนเมืองเกียวโตไปเรื่อยๆเพลินๆ อากาศเย็นๆ ฟ้าครึ้มๆ มีฝนตกลงมาบ้างตอนอยู่ที่วัดทอง แต่เหลือก็เดินสบายไม่มีแดดเลย ว่าแล้วไปเริ่มกันเลยดีกว่า
เรานั่งรถไฟไปถึงศาลเจ้าจิ้งจอกหรือศาลเจ้าแดงกันแต่เช้าเลย ตอนที่ไปถึงคนยังน้อยอยู่ จึงถ่ายรูปเล่นไปได้เรื่อยๆเลย
ทางเดินใต้เสาโทริอิในศาลเจ้าแดง
ที่ศาลเจ้าแดงจะมีทางเดินไปเรื่อยๆขึ้นเขาเป็นวงกลมมีระยะทางทั้งหมดประมาณ 5 กิโลเมตร เราก็จัดไป ตลอดทางจะมีจุดชมวิว เสาโทริอิ สระน้ำ ศาลเจ้าเล็กๆ และรูปปั้นจิ้งจอกแดงอยู่ตามทางเรื่อยไปทั้งภูเขาเลย ไม่น่าเชื่อจริง เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ จนหลังๆเริ่มเมื่อยและเหนื่อยกันแล้ว เพราะเดินขึ้นเนิน 5 กิโลเมตรเล่นเอาเหนื่อยไม่ใช่เล่น กว่าจะกลับลงมาที่ทางเข้าใหม่ก็ปาเข้าไปเที่ยงซะแล้ว เราก็เลยนั่งรถไฟเข้าเมืองเกียวโตเพื่อมุ่งหน้าต่อไปที่วัดคินคุจิหรือวัดทอง
ระหว่างที่เปลี่ยนรถไฟ เห็นมีร้านขายราเม็งอยู่ที่สถานีรถไฟด้วย คนเต็มร้านเลย ท้องกำลังร้องพอดี ก็เลยตรงเข้าไปลองซะหน่อย
กินอิ่มสบายใจก็เดินทางกันต่อไปที่วัดทอง ที่มีชื่อภาษาญี่ปุ่นคล้ายกับวัดเงินมากนั่นก็คือ วัดทอง คินคะคุจิ(Kinkakuji) กับ วัดเงิน กินคะคุจิ(Ginkakuji) ทำให้คนมักจะเข้าใจกันผิดคนไทยเลยเรียกกัน วัดเงินกับวัดทองซะเลย
ที่วัดทองนี้เป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมมากที่สุดวัดหนึ่งของเกียวโตเลย มากพอๆกับวัดน้ำใสหรือวัดคิโยมิซุ เดอร่า บริเวณที่จัดเตรียมไว้สำหรับถ่ายรูปอาคารวัดสีทองสะท้อนน้ำนั้น ต้องเรียกว่าต่อคิวกันถ่ายเลยทีเดียว พอๆกับมุมมหาชนของวัดน้ำใส ไหลตามคนข้างหน้าไปเรื่อยๆ
จบจากวัดทองแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปที่ย่านริมน้ำพอนโตะโช(Pontocho) โดยย่านนี้ถ้าเป็นเวลาที่น้ำในแม่น้ำมีเยอะเราจะเห็นร้านรวงต่างๆริมน้ำ พากันตั้งนั่งร้านยื่นออกมาสำหรับนั่งกินลม ชมบรรยากาศกัน แต่ช่วงที่เราไปน้ำยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ จึงไม่คึกคักมากนัก แต่ก็ได้เห็นคนเกียวโต ทั้งเดิน ทั้งขี่จักรยานไปมา บางคนจูงสุนัขมาด้วย และเด็กตัวเล็กๆที่เดินกลับจากโรงเรียนเอง รวมไปถึง อีกา และนกคล้ายๆนกกระเรียนด้วย ส่วนน้ำในแม่น้ำนั้นใสมากๆ เห็นปลาตัวใหญ่ว่ายกันอยู่ในน้ำหลายตัวเลย บริเวณริมแม่น้ำนี้ก็ไม่มีขยะเลย และไม่เหม็นเน่าด้วย ดีจริงๆ
ระหว่างทางเดินผ่านตลาดดังของเกียวโต นั่นก็คือตลาดนิชิกิ(nishiki)ก็เลยแวะเข้าไปดู แต่เราน่าจะมาเย็นเกินไปทำให้ร้านทยอยปิดกันแล้ว แต่ก็ไปเจอร้านขายโมจิไส้สตอเบอรี่ก้อน(โคตร)ใหญ่ เลยซื้อมาชิมดู ปรากฏว่าอร่อยมากกกกก(กกกกกก) แป้งโมจินุ่มละลายในปาก บวกกับสตอเบอรี่สดที่หวานช่ำสุดๆ คือกัดแล้วน้ำจากสตอเบอรี่ไหลออกปากมาเรอะเลย ฟินสุดๆจริงๆ
เดินเล่นกันที่ตลาดเสร็จยังไม่มืด ก็เลยแว้ปผ่านย่านกิอ้อนซะหน่อย รอจนค่ำเราก็มุ่งไปที่จุดมุ่งหมายสุดท้ายของเรา นั่นก็คือการไปถ่ายรูปเจดีย์ของวัดโทจิ ซึ่งของจริงนั้นสวยมากแต่เราไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไป ภาพที่ได้เลยไม่สวยสดเท่าไหร่ ออกขมุกขมัวซะมากกว่า
จบแล้วหนึ่งวัน กับวันชิวๆ ที่เราไปเที่ยวศาลเจ้าจิ้งจอกแดง, วัดทอง คินคะคุจิ เดินเล่นริมน้ำเมืองเกียวโต และถ่ายไฟส่องเจดีย์ที่วัดโทจิกัน
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบันทัดนี้ครับ ดู รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นอื่นๆได้ที่นี่
ข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติม
>>> แนะนำ โรงแรมที่พัก เด็ด ทั่วเมืองเกียวโต อัพเดตล่าสุด <<<