วัดรูริโกะ อิน Rurikō-in Temple
r.m.-nunes/shutterstock.com
วัดรูริโกะ อิน (Rurikō-in Temple, 瑠璃光院) ตั้งอยู่ในย่านที่เงียบสงบทางตอนเหนือของ Kyoto เป็นที่มีชื่อเสียงมาจากความงามของสวนและบรรยากาศที่เงียบสงบ และวัดจะเปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงเวลาพิเศษในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น ทำให้วัดนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนที่มาตรงกับช่วงเวลาที่วัดนี้เปิดให้เยี่ยมชม
วัด Rurikoin ซึ่งมีชื่อทางการว่า Komyoji Rurikoin เดิมเป็นวิลล่าก่อนที่จะถูกเปลี่ยนเป็นวัด วัดนี้มีชื่อเสียงจากสวนที่สวยงามซึ่งถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับภูมิทัศน์ธรรมชาติ ชื่อ “Rurikoin” แปลว่า “Temple of Lapis Lazuli Light” หรือ แสงสะท้อนจากหินแร่ Lapis Lazuli ซึ่งเป็นหินสีน้ำเงินเงางามและหายาก สะท้อนถึงบรรยากาศที่เงียบสงบและบริสุทธิ์ที่สถานที่นี้ต้องการให้เกิดขึ้น
วัด Rurikoin เปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ปกติคือเมษายนถึงมิถุนายน) และฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคมถึงธันวาคม) ช่วงเวลาพิเศษนี้ทำให้เราสามารถสัมผัสความงามของสวนภายในวัดได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นสีเขียวสดใสในฤดูใบไม้ผลิ หรือสีสันที่งดงามในฤดูใบไม้ร่วง
ไฮไลท์ วัดรูริโกะ อิน (Rurikō-in Temple) ช่วงฤดูใบไม้ผลิ
- Lush Greenery: ในฤดูใบไม้ผลิ Rurikoin Temple จะเต็มไปด้วยสีเขียวสดใส พื้นที่ที่ปกคลุมด้วยมอสและใบเมเปิ้ลใหม่ๆ ทำให้บรรยากาศสดชื่นและสงบ
- Cherry Blossoms: แม้จะไม่ได้มีมากเหมือนส่วนอื่นๆ ของ Kyoto แต่ก็มีต้นซากุระบางต้นในบริเวณรอบๆ วัด เพิ่มความมีเสน่ห์ในช่วงฤดูนี้
- Ruri no Niwa Garden: สวนนี้จะเขียวขจีมากในฤดูใบไม้ผลิ มีหลายเฉดสีของสีเขียวที่สร้างบรรยากาศสงบและเงียบสงบ ฤดูนี้จะมีคนเยี่ยมน้อยกว่าในฤดูใบไม้ร่วง
- Spring Light Reflections: โต๊ะที่เคลือบแล็กเกอร์ภายในวัดสะท้อนความเขียวสดใสจากภายนอก สร้างเอฟเฟกต์ภาพสะท้อนที่สวยงามเรียกว่า “Yuka Shita” ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักถ่ายภาพ
ไฮไลท์ วัดรูริโกะ อิน (Rurikō-in Temple) ช่วงฤดูใบไม้ร่วง
- Autumn Foliage: วัดนี้มีชื่อเสียงในเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม โดยต้นเมเปิ้ลจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม และเหลือง สร้างทิวทัศน์ที่งดงามดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะที่มุมด้านในอาคารที่เรียกว่า “Yuka Momiji” ที่ใบเมเปิ้ลสะท้อนบนโต๊ะและพื้นเคลือบแล็กเกอร์
- Peak Season: ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่คนมาเยี่ยมชมมากที่สุด โดยใบไม้จะเปลี่ยนสีสวยที่สุดตั้งแต่ปลายตุลาคมถึงต้นธันวาคม
- Night Illuminations: บางครั้งวัดจะมีการเปิดชมสวนตอนกลางคืนพร้อมไฟประดับ สร้างประสบการณ์ที่น่ามหัศจรรย์ แต่งานเหล่านี้จำกัดและมักต้องจองล่วงหน้า
คำแนะนำการเยี่ยมชมวัด
ไปแต่เช้า: แนะนำให้ไปแต่เช้าเพื่อหลีกเลี่ยงคนเยอะ และเตรียมตัวต่อคิวตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง
ใช้ขนส่งสาธารณะ: วัดนี้ไม่มีที่จอดรถ ดังนั้นควรใช้ขนส่งสาธารณะ
ระมัดระวังคนอื่น: วัดนี้มีหลายจุดที่คับแคบ จึงควรระมัดระวังและเคารพคนอื่นๆที่มาเยี่ยมชมด้วย
>>> แนะนำ โรงแรมที่พัก เด็ด ทั่วเมืองเกียวโต อัพเดตล่าสุด <<<
▌ข้อมูลเตรียมตัวเที่ยวเกียวโตที่ต้องรู้
การเข้าชม
ผู้ใหญ่: 2,000 เยน
นักเรียน: 1,000 เยน (แสดงบัตรนักเรียน)
เด็ก (ประถมศึกษาและอายุน้อยกว่า): ฟรี
วัด Rurikoin เปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ปกติคือเมษายนถึงมิถุนายน) และฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคมถึงธันวาคม)
ในช่วงเวลาพิเศษ วัด เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10:00 น. ถึง 17:00 น.
วิธีการเดินทาง
โดยรถไฟ:
ใช้สาย Eizan Electric Railway ไปยังสถานี Yase-Hieizanguchi เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
โดยรถบัส:
จากสถานี Kyoto ใช้รถบัสไปยังป้าย Yase-Ekimae เดินต่ออีกประมาณ 7 นาที