วันหยุดสงกรานต์ ปีนี้ ดูดอกซากุระ Full Bloom ที่ไหนได้บ้าง อัพเดตล่าสุด 2567
Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Lake_Kawaguchiko_Sakura_Mount_Fuji_2.JPG
ดอกซากุระของประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มบานเต็มที่ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคมถึงประมาณต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะแตกต่างกันไปแล้วแต่พื้นที่และสายพันธ์ รวมถึงสภาพอากาศในปีนั้นๆด้วย แต่ตามเมืองฮิตๆของญี่ปุ่นเช่น โตเกียว เกียวโต โอซาก้า นารา นั้นมักจะมีช่วง Full Bloom หรือช่วงที่ดอกบานเต็มที่อยู่ระหว่างปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน โดยบานอยู่เพียงไม่กี่วันเท่านั้นก็เริ่มร่วงแล้ว ทำให้ในช่วงวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ หรือช่วงกลางเดือนเมษายน ที่คนไทยส่วนใหญ่จะมีเวลาไปเที่ยวชมซากุระที่ญี่ปุ่น ก็เป็นเวลาที่ค่อนข้างจะช้ากว่าช่วง Full Bloom ไปแล้ว ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลายคนจึงพลาดบรรยากาศในช่วงซากุระ Full Bloom ที่เป็นเสน่ห์อันดับต้นๆของการท่องเที่ยวญี่ปุ่นไปอย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ตาม ถ้าเราวางแผนการเที่ยวให้ดีๆ ในช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้ ก็ยังมีสถานที่อีกหลายแห่งที่ซากุระบานช้ากว่าทั่วๆไป เช่น พื้นที่ทางตอนเหนือ หรือพื้นที่บนภูเขา รวมทั้งซากุระบางสายพันธ์ที่จะบานช้ากว่าพันธ์อื่นๆก็มี ทำให้จริงๆแล้วในช่วงวันหยุดสงกรานต์นั้นยังมีสถานที่อีกหลายแห่งในญี่ปุ่นที่เราสามารถพบเจอกับดอกซากุระในช่วงที่กำลังบานเต็มที่หรือ Full Bloom ที่สุดแสนจะอลังการได้เช่นกัน
มาดู 10 จุดชมดอกซากุระบานแบบ Full Bloom สำหรับช่วงวันหยุดสงกรานต์ ปีนี้กันเลย
1. สวนชินจูกุ เกียวเอน(Shinjuku Gyoen), กรุงโตเกียว(Tokyo)
photos by Kakidai from commons.wikimedia.org/wiki/File:Shinjuku_Gyoen_National_Garden_-_sakura_2.JPG( cc by 3.0 )
ขอเริ่มสถานที่แรกด้วยสวนชินจูกุ เกียวเอน ที่เป็นจุดชมซากุระยอดนิยมของเมืองโตเกียว ซึ่งปกติช่วงสงกรานต์ที่อื่นๆในโตเกียวจะร่วงหมดแล้ว แต่เรายังสามารถเจอดอกซากุระบานในช่วง Full Bloom ได้ที่นี่ก็เพราะความหลากหลายของสายพันธ์ซากุระของสวนแห่งนี้ มีทั้งบานเร็วและบานช้า ซึ่งสายพันธ์ที่บานช้ามักจะมีช่วงเวลาบานเต็มที่อยู่ประมาณกลางเดือนเมษายนนั่นเอง แต่ๆๆๆก็ต้องบอกว่าซากุระภายในสวนอาจจะไม่ได้ฟูสวยงามที่สุด แต่ด้วยความง่ายและสะดวกในการเดินทางของคนที่ไปเที่ยวโตเกียวในช่วงสงกรานต์นี้ มีเวลาไม่มาก แต่อยากเจอซากุระบ้างมาที่นี่ยังไงก็ได้เจอแน่นอน
2. โรงกษาปณ์โอซาก้า(Japan Mint Osaka), จังหวัดโอซาก้า(Osaka)
photos by lasta29 from flickr.com/photos/115391424@N05/25804589073( cc by 2.0 )
เมืองโอซาก้าก็มีช่วงเวลา Full Bloom ของซากุระพอๆกับเมืองโตเกียว ถ้าใครไปช่วงสงกรานต์ ดอกซากุระเกือบทั้งเมืองจะร่วงไปหมดแล้ว ยกเว้นที่โรงกษาปณ์สาขาโอซาก้านี้เอง ที่เป็นซากุระสายพันธ์ที่บานช้ากว่าที่อื่น โดยมักบานในช่วงกลางเดือนเมษายน โดยจะมีการจัดงานชมซากุระเป็นประจำทุกปี ปีละประมาณ 7 วัน สามารถเข้าชมได้ฟรี ตลอดทั้งวันเลยทีเดียว
3. ทะเลสาบคาวากูชิโกะ(Kawaguchiko) ชมภูเขาไฟฟูจิ
photos by skyseeker from flickr.com/photos/skyseeker/459796922( cc by 2.0 )
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ในการไปชมภาพภูเขาไฟฟูจิสะท้อนน้ำในทะเลสาบ เดือนทางไม่นานจากทั้งโตเกียวและโอซาก้า และที่สำคัญ ซากุระที่ปลูกเรียงรายอยู่ริมทะเลสาบนั้น จะออกดอกบานสะพรั่งพร้อมกันในช่วงประมาณกลางเดือนเมษายนด้วย
4. หมู่บ้านโบราณชิราคาวะโกะ(Shirakawako), จังหวัดโทยาม่า(Toyama)
photos by frontriver from flickr.com/photos/greensurvey/2454711378( cc by 2.0 )
เป็นหมู่บ้านหลังคาโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่หลายคนรู้จักกันดี เป็นสถานที่ยอดฮิตในช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่นเพราะที่หมู่บ้านจะมีการจัดงานเปิดไฟในช่วงหัวค่ำด้วย ซึ่งจริงๆแล้วที่หมู่บ้านแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถชมซากุระได้ แม้ว่าจะไม่ได้มีมากมาย แต่ก็ได้บรรยากาศของญี่ปุ่นโบราณเป็นฉากหลัง
5. เมืองทาคายาม่า(Takayama), จังหวัดกิฟุ(Gifu)
photos by Tamago Moffle from flickr.com/photos/tamago-moffle/4791113156( cc by 2.0 )
เป็นเมืองเล็กๆที่สวยงามแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และยังเป็นสถานที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองใหญ่กับการชมหมู่บ้านหลังคาโบราณต่างๆในพื้นที่ เช่น หมู่บ้านชิราคาวะโกะ นั่นเอง ซึ่งที่นี่ก็มีช่วงเวลาบานของดอกซากุระประมาณกลางเดือนเมษายนที่ตรงกับวันหยุดสงกรานต์ของเราพอดี
6. เมืองออนเซนเกโระ(Gero Onsen), จังหวัดกิฟุ(Gifu)
photos by Yoshiki from flickr.com/photos/e29616/146081091( cc by 2.0 )
เกโระออนเซน(Gero Onsen)เป็นหนึ่งในสามออนเซนที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ มีบรรยากาศริมธารน้ำ ภูเขา ป่าไม้ และดอกซากุระที่จะบานในช่วงกลางเดือนเมษายน
7. เมืองมัสสึโมโต้(Matsumoto), จังหวัดนากาโน่(Nagano)
photos by Reginald Pentinio from flickr.com/photos/reggiepen/25631809413( cc by 2.0 )
มัตสึโมโต้เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจังหวัดนากาโน่ มีจุดท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุด คือ ปราสาทมัตสึโมโตะ 1 ในปราสาทดั้งเดิมที่สวยที่สุดของปรเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นเมืองเริ่มต้นในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ดังนี้ แอลป์ญี่ปุ่น คามิโกจิ โนริคุระ และเส้นทางทาเทยาม่า-คุโรเบะอัลไพน์
8. ตัวเมืองกุนมะ(Gunma), จังหวัด กุนมะ(Gunma)
photos by TANAKA Juuyoh (田中十洋) from flickr.com/photos/tanaka_juuyoh/3448431027( cc by 2.0 )
กุนมะเป็นเมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อนที่มีคุณภาพสูง และวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่งดงาม เมืองหลักของจังหวัดกุนมะคือ เมบาชิ(Maebashi) บ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียง
9. จังหวัดฟูกุชิมะ(Fukushima)
photos by Yuichi Shiraishi from flickr.com/photos/yisris/4554659292( cc by 2.0 )
ฟูกุชิมะ(Fukushima) เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองโตเกียว สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟชินคันเซนประมาณ 1-2 ชั่วโมง มีจุดชมซากุระในตัวเมืองเป็นสวนบนภูเขา คือ สวนฮานามิยามะ(Hanamiyama Park) และสวนชิโนบูยะมะ(Shinobuyama Park) รวมทั้งทางรถไฟท่องเที่ยว อิซูมิ(Isumi Railway) และ โคมินาโตะ(Kominato Railway) ที่มีบรรยากาศชนบทของญี่ปุ่นด้วย ซึ่งดอกซากุระจะบานช่วงประมาณกลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนเมษยน
10. เมืองเซนได(Sendai), จังหวัดมิยางิ(Miyagi)
photos by allegro Takahi from commons.wikimedia.org/wiki/File:West_Park_(Sendai)_in_the_cherry_blossom_season.jpg( cc by 2.0 )
เซนได(Sendai)เป็นเมืองหลวงของจังหวัดมิยางิ(Miyagi) ที่มีความเจริญและมีขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาคโทโฮคุ(Tohoku) อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ได้รับฉายาว่า เมืองแห่งต้นไม้ เพราะมีสวนสาธารณะหลายแห่งทั่วเมืองที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น ทำให้มีจุดชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนที่สวยงามอยู่ภายในเมืองหลายจุด ดอกซากุระส่วนใหญ่ของเซนไดจะบานช่วงกลางเดือนเมษายน
