เมือง ออนเซน ชิระฮามะ Shirahama onsen
Photo by 663highland from commons.wikimedia.org/wiki/File:131221_Shirahama_Onsen_Shirahama_Wakayama_pref_Japan01s3.jpg [CC by-sa 3.0]
ย่านชิระฮามะออนเซ็น(Shirahama onsen)เมืองตากอากาศชื่อดังของเมืองคุมาโนะ(Kumano) ในจังหวัดวาคายาม่า(Wakayama) แต่อยู่ห่างจากเมืองโอซาก้ามาทางทิศใต้เพียงประมาณ 100 กิโลเมตร ด้วยความใกล้มากๆของที่นี่ จนทำให้กลายมาเป็นแหล่งความบันเทิงและสถานที่พักผ่อนที่นิยมของชาวโอซาก้านั่นเองล่ะค่ะ ที่สำคัญเมืองแห่งนี้ได้เป็นเมืองน้ำพุร้อนที่ถูกบันทึกไว้ว่าเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ติดอันดับหนึ่งในสามของออนเซ็นเก่าแก่ของญี่ปุ่นอีกด้วย ส่วนในอีกสองแห่งคือ Kobe’s Arima Onsen และ Matsuyama’s Dogo Onsen คนที่จะมาพักนี่นี่สบายใจได้เพราะเมืองนี้มีทั้งที่พักแบบธรรมดาๆไปจนถึงรีสอร์ทออนเซ็นใหญ่ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นรวมกับออนเซ็นที่ เบปปุ(Beppu) คิวชู(Kyushu) และอาตามิ(Atami) คาบสมุทรอิซู(Izu Peninsula)ทีเดียวล่ะค่ะ
ถ้าจะพูดถึงที่มาของชื่อ “ชิระฮามะ (Shirahama)” นั้นสามารถแปลได้ว่า ชายหาดสีขาว ซึ่งก็หมายไปถึงการที่ย่านนี้จะมีชายหาดทรายสีขาวทอดยาวตลอดประมาณ 500 เมตร ตามจุดที่มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆบริเวณริมหาด รวมไปถึงโรงแรมขนาดใหญ่หลายแห่งเรียงรายอยู่ เรียกได้ว่าว่าไม่ได้มีดีแค่การแช่ออนเซ็นนะคะ ถ้าชอบแนวทะเลก็ยังมีชายหาดสวยๆให้ได้เดินและเที่ยวกันอีกต่างหาก สำหรับผู้เข้าพักที่สามารถเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงน้ำทะเล และสามารถชมดอกไม้ไฟในยามค่ำคืนของช่วงฤดูร้อนอีกด้วย โรงอาบน้ำออนเซ็นในร่มก็เปิดให้บริการถึง 4 แห่ง อีก 2 แห่งเป็นออนเซ็นกลางแจ้ง ริมชายฝั่ง Sakinoyu และชายฝั่ง Shirasuna ก็เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลย
ย่านชิระฮามะออนเซ็นแห่งนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลากกหลายแบบให้ได้เลือกไปตามสไตล์ที่ชอบกัน เรียกได้ว่าจะว่าจะมาเป็นคู่ เป็นกลุ่มเพื่อน หรือเป็นครอบครัวก็สามารถสนุกไปทั้งนั้นเลยล่ะค่ะ โดยจะมีทั้งมีบ่อน้ำพุร้อน พิพิธภัณฑ์ และสวนสนุกให้ได้เข้าชม อย่างของขึ้นชื่ออย่างบ่อน้ำพุร้อนก็จะมีทั้ง ชิระซุนะ Shirasuna เป็นออนเซ็นเปิดโล่งที่ติดกับทะเล สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้ถึง 100 คน ต้องสวมชุดสำหรับอาบออนเซ็น หรือจะเป็นซากิโนะยู Sakinoyu เป็นออนเซ็นกลางแจ้งที่อยู่ริมชายฝั่ง มีกำแพงบังวิวจากทะเล ออนเซ็นแห่งนี้มีอายุกว่า 1,000 ปี รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวอีกเพียบที่รอให้คุณได้มาสัมผัสเสน่ห์ของเมืองนี้กันด้วยตัวคุณเองนี่ล่ะค่ะ
aines/shutterstock.com
Kapi Ng/shutterstock.com
okimo/shutterstock.com
ออนเซน
1.ชิระซุนะ Shirasuna
ออนเซ็นที่เหมาะกับคนชอบวิวทัศน์สวยๆของทะเล นั่นก็เพราะออนเซ็นแห่งนี้เป็นแบบเปิดโล่งที่ติดกับทะเลนั่นเองล่ะค่ะ บอกเลยว่าได้ทั้งแช่ออนเซ็นเพลินๆแถมยังได้มองวิวทะเลได้พร้อมๆกันเป็นอะไรที่ฟินขั้นสุดจริงๆ โดยออนเซ็นแห่งนี้สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้ถึง 100 คน ซึ่งก็ถือว่าเยอะเอาเรื่องเลยนะคะ
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: 100 เยน(เดือนตุลาคม-เมษายน เข้าฟรี)
เวลาเปิด-ปิด: 10:00-15:00 (วันที่ 1 กรกฎาคม -15 กันยายน เปิดถึง 19:00)
วันปิดทำการ: ทุกวันจันทร์
2.ซากิโนะยู Sakinoyu
ออนเซ็นที่มีความเก่าแก่มากที่สุดของเมือง เนื่องจากที่นี่มีอายุนับพันปีเลยนะคะ โดยออนเซ็นของที่นี่จะมีลักษณะกลางแจ้งตั้งอยู่ที่ริมชายฝั่ง แม้จะมีมีกำแพงบังวิวจากทะเล ก็ได้สัมผัสได้จากบรรยากาศของริมชายฝั่งทั้งสายลมและเสียงคลื่นซัดสาดที่กระทบเข้าฝั่งเป็นระยะๆนี่ล่ะค่ะ ถือได้ว่าเป็นออนเซ็นที่สุดจะคลาสสิกของเมืองทีเดียวค่ะ
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: 420 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 8:00-17:00 (เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 7:00-19:00 เดือนมีนาคม-มิถุนายน และกันยายน เปิดถึง 18:00)
วันปิดทำการ: ทุกวันพุธ
สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ
1.ถ้ำซันดันเบะกิ Sandanbeki
ถ้ำซันดันเบะกินับได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติยอดนิยมของที่นี่เลยเชียวล่ะค่ะ โดยภายในนั้นประกอบด้วยหน้าผาสูงชัน 3 แห่ง เป็นที่เชื่อมต่อขนาดใหญ่ของถ้ำเหนือระดับน้ำ คนที่มากับผู้ใหญ่หรือไม่ไหวจะเดินก็สบายใจได้นะคะ เพราะที่นี่เค้ามีลิฟต์ไว้คอยบริการสามารถลงลิฟต์ไปยังในถ้ำเพื่อชมศาลเจ้าในอุโมงค์ได้อีกด้วย
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: 1,300 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 8:00-17:00
วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน
2.แผ่นหินเซนโจจิกิ Senjojiki
แผ่นหินเซนโจจิกิ เชื่อว่าหลายคนฟังชื่อลแวอาจจะสงสัยหน่อยๆว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบไหน ซึ่งคำว่าเซนโจจิกิ (Senjojiki) หมายถึง “เสื่อทาทามิ 100 ผืน” นับว่าเป็นการถึงอธิบายลักษณะของแผ่นหินเหล่านี้ได้แบบตามตัวเป๊ะๆว่าคล้ายกับเสื่อทาทามิเรียงอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเล แถมวิวตรงนี้ก็ดีงงามด้วยนะคะ ใครอยากมาชมวิวสวยๆไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ
3.เกาะหินเอนเกะซึ Engetsu Island
เกาะหินเอนเกะซึตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันตกของเมือง เกาะหินแห่งนี้จะมีความน่าสนใจตรงที่มีรูปร่างที่ดูแล้วแปลกประหลาดแตกต่างไปจากทั่วๆไปมากๆ ไฮไลท์จะอยู่ในช่วงเย็นของบางวันสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกทะลุผ่านช่องกลางของเกาะ เป็นทิวทัศน์ที่งดงามไปอีกแบบบและเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าดูน่าชมมากๆ
พิพิธภัณฑ์
1. พิพิธภัณฑ์มินะกาตะ คุมากุซุ Minakata Kumagusu Museum
พิพิธภัณฑ์มินะกาตะ คุมากุซุ นับเป็นพิพิธภัณฑ์ของนักเขียนที่มีชื่อเสียงและนักวิทยาศาสตร์จากจังหวัดวาคะยาม่าที่โด่งดีงมากๆเลยล่ะค่ะ ซึ่งเป็นนักธรรมชาติวิทยาที่อุทิศตนในกับการแสวงหาความรู้ ภายในพิพิธภัณฑ์จึงจะมีการจัดแสดงประวัติ ความเป็นมา และผลงานที่มีชื่อเสียงสุดๆของเค้าให้ได้ชมกันอีกด้วย
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: 400 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:00 (เข้าชมก่อน 16:30)
วันปิดทำการ: ทุกวันพฤหัสบดี (ยกเว้นช่วง 20 กรกฎาคม – 30 สิงหาคม)
วันที่ 28-30 มิถุนายน
วันที่ 29 ธันวาคม- 3 มกราคม
2. พิพิธภัณฑ์คิซุ Kishu Museum
พิพิธภัณฑ์คิซุ ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์เป็นชื่อดังที่มีความเก่ามากๆของจังหวัดวาคะยาม่า โดยด้านในจะมีการจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ส่วนบุคคลในช่วง pre-modern ให้ได้ดูได้ชมกันมากมาย เรียกได้ว่าแต่ละอย่างมีความน่าสนใจและความเป็นมาที่น่าคิดตามเลยล่ะค่ะ ว่ากว่าจะกลายมาเป็นสิ่งๆนั้นสิ่งๆนี้เค้าเริ่มคิดจากอะไรบ้าง และจะได้เห็นวิวัฒนาการของสิ่งประดิษฐ์ในยุคอดีตอีกด้วย
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: 700 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-16:00
วันปิดทำการ: ทุกวันพุธและ พฤหัสบดี
สวนสนุก
1. Energy Land
สวนสนุกแห่งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยขนาดย่อม โดดเด่นด้วยการที่ภายในมีห้อง interactive ตอบโต้ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และภาพยนตร์ 4 D เหมาะสำหรับเด็กๆ เอาจริงๆครอบคลุมกลุ่มผู้ชมทุกวัยนะคะ ยิ่งคนที่สนใจในด้านนี้น่าจะว้าวเป็นพิเศษ แม้จะไม่ได้เป็นสวนสนุกแนวเครื่องเล่นก็สนุกได้ด้วยกิจกรรมที่มาจากเทคโนโลยีล้ำๆอีกด้วยล่ะค่ะ
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: 1,800 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:30 (เข้าก่อน 16:00)
วันปิดทำการ: ทุกวันอังคาร (ยกเว้นวันหยุดราชการ)
2. Adventure World
สวนสนุก Adventure World แห่งนี้นั้นถือได้ว่าเป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ของเมืองเลยนะคะ เรียกได้ว่าเป็นสวนสนุกอันดับหนึ่งของเมืองเลยก็ว่าได้ ภายในประกอบด้วยเครื่องเล่นหลากหลายประเภทให้ได้เล่นกันไม่ว่าจะเป็นชิงช้าสวรรค์ รถไฟเหาะตีลังกา รวมไปถึงมีโซนสวนสัตว์ให้ได้ชมเหล่าสัตว์สุดน่ารัก โดยเฉพาะมีหมีแพนด้าให้เราได้ชมกันด้วย
การเข้าชม
ค่าใช้จ่าย: 4,100 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 9:30-17:00 (เดือนสิงหาคมเปิดถึง 21:00)
วันปิดทำการ: วันพุธที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน
ทุกวันพุธของเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์
วิธีการเดินทาง
Shirahama เป็นสถานีหลักของรถไฟ JR Kisei Line ที่เชื่อมกับโอซาก้า เป็นรถไฟด่วนที่ออกทุกๆ 1 ชั่วโมง และเป็นที่ตั้งของสนามบิน Nanki-Shirahama Airport ซึ๋งสามารถบินตรงจากสานามฮาเนดะ(โตเกียว)ได้เลย
จากใจกลางเมืองชิระฮามะ นั่งรถบัสออกมานอกเมืองบริเวณติดชายหาดประมาณ 10 นาที ค่าใช้จ่าย 330 เยน หรือนั่งรถบัสจาก Shirahama Station ไปยัง Adventure World(15 นาที 300 เยน) หรือ ไปยัง Sandanbeki(20 นาที 460เยน)
จากสนามบิน Nanki-Shirahama ไปยังกลางเมืองชิระฮามะ และสถานีรถไฟ JR Shirahama ประมาณ 15 นาที