ไปญี่ปุ่น ซื้ออะไรดี รวม 15 ของดี ทีเด็ด ราคาถูกกว่าไทย ไปแล้วไม่ซื้อเสียใจแย่

Photo from pixabay.com/en/japan-tokyo-shopping-mall-building-2603955/ [CC by 0.0]

ญี่ปุ่นนี่หากจะพูดว่าเป็นสวรรค์ของนักช็อปปิ้งก็คงไม่ผิดนัก เพราะเป็นต้นกำหนดของแบรนด์หลากหลายชนิดไม่ว่าจะเครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงขนมยอดนิยมหลากหลายแบรนด์ แน่นอนว่าต้องราคาถูกกว่าซื้อที่ไทยอย่างแน่นอน แล้วจะมีสินค้าอะไรที่น่าซื้อเมื่อ ไปญี่ปุ่นกันบ้างนั้น follow me !!!!

 

 

▌1. สตรอว์เบอร์รี่ (Strawberry)

หากนึกถึงผลไม้ขึ้นชื่อของญี่ปุ่นเชื่อเลยว่าสตรอว์เบอร์รี่นี่จะต้องเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของหลายๆคนทีเดียวเชียว ญี่ปุ่นนับเป็นสุดยอดแหล่งปลูกของสตรอว์เบอร์รี่สายพันธุ์ต่างๆตามท้องถิ่น ซึ่งรสชาติก็มีความแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น พันธุ์ซะกะโฮโนะกะ ที่สีอาจไม่แดงจัดๆหากรสชาติหวานฉ่ำไม่มีเปรี้ยวเลย พันธุ์โทจิโอโทเมะ รูปร่างออกจะเรียวๆแต่รสชาติหวานมากๆมีเปรี้ยวตัดนิดเดียว และพันธุ์เบนิฮปเปะ ลูกกลมโตสีแดงสดหวานหอมอมเปรี้ยวน้อยๆ ราคานี่เรียกว่าดีงามกว่าไทยเยอะราคาเริ่มต้นที่ 400 -500 เยนต่อแพ็ค ราคาจะขึ้นอยู่กับระดับความพรีเมี่ยมโดยบางสายพันธุ์ก็มีขายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น โดยจะมีวางขายในช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี

แนะนำสถานที่ซื้อ : ซูเปอร์มาร์เก็ตและตลาดทั่วๆไป

 

 

▌2. ฟิกเกอร์โมเดลต่างๆ (model and figure)

โมเดลตัวละครต่างๆมากมายของญี่ปุ่น เช่น กันดั้มที่แม้ราคาอาจจะไม่ได้ต่างกันมาก แต่มีปริมาณให้เลือกซื้อมากกกก หรือจะฟิกเกอร์โมเดลขนาดเล็กน่ารักๆเพราะราคาซื้อที่ญี่ปุ่นนี่เรียกได้ว่าบางร้านถูกกว่าไทยกว่าครึ่งๆ แถมมีให้เลือกเยอะมากจนตาลายเช่นกัน รุ่นไหนที่ว่าหายากในไทยรับรองว่าเจอแน่นอน

แนะนำสถานที่ซื้อ : ย่านอากิฮาบาระ (โตเกียว) ห้างสรรพสินค้า Nakano broadway (โตเกียว) และนิปปอนบาชิ เดน เดน ทาวน์ (โอซก้า)

 

 

▌3. รองเท้าผ้าใบ รุ่น Made in Japan (Sneaker)

โดยเฉพาะแบรนด์ โอนิสีกะ ไทเกอร์ ที่เมืองไทยไม่ค่อยลดราคาแต่ที่นู่นจะเจอลดราคาได้แทบทุกร้าน อีกทั้งถ้าเป็นรุ่น Made in Japan ก็อาจจะเจอที่ราคาถูกกว่าไทยมากๆด้วย

แนะนำสถานที่ซื้อ : ตามร้าน Official ที่มีให้เห็นได้ทั่วไปตามแหล่งช้อปปิ้งดังๆทั่วประเทศ รวมถึงร้านรองเท้าอย่าง ABC-Mart ด้วย

 

 

▌4. ช็อกโกแลตรอยซ์ (ROYCE’ Chocolate)

ชื่อนี่การันตีความอร่อยว่าช็อกโกแลตนี่อย่างฟิน ถ้าใครชอบแบบละลายในปากก็ต้อง Nama Chocolate ที่ราคากล่องละ 660 เยนเท่านั้น หรือถ้าชอบมันฝรั่งหากก็ตัดใจจากช็อกโกแลตไม่ลงก็ต้อง Potatochip Chocolate ที่ราคาเพียง 720 เยน บอกเลยว่าหอบกลับมาไทยนี่อย่างคุ้ม

แนะนำสถานที่ซื้อ : ตึกม่วง Takeya Ueno (โตเกียว) และร้านของฝากภายในสนามบินทุกแห่งของญี่ปุ่น

 

 

▌5. เครื่องสำอาง (Cosmetics)

ด้วยความที่ญี่ปุ่นนั้นถือเป็นประเทศชั้นนำระดับเอเชียและหลายๆแบรนด์ของที่นี่ก็ติดอันดับโลกอีกต่างหาก แน่นอนว่าซื้อที่ญี่ปุ่นนั้นต้องถูกกว่าไทยแน่ๆ ที่สำคัญยังได้เกี่ยวคอลเลคชั่นที่เพิ่งออกใหม่สดๆร้อนก่อนลงไทยอีกด้วย อย่างแบรนด์ Canmake ที่แพ็คเก็จก็น่ารัก ราคาเบาๆ แถมใช้ดีจนต้องบอกต่อ DAISO อ๊ะๆอย่าดูถูกว่าราคาแค่ 100 เยนจะไม่ดี เพราะใช้ดีมากจนต้องซื้อตุนไว้เยอะๆ CEZANNE เด่นที่แป้งทั้งเบาบางและเนี๊ยบกริบๆ และVisée ที่ยังไม่มีในไทยการันตีความฮอทด้วยรางวัลจากเว็บไซต์ cosme.net ของหลายๆตัว

แนะนำสถานที่ซื้อ : ร้าน Drug Store ทั่วญี่ปุ่น และร้าน 100 เยนทั่วญี่ปุ่น

 

 

▌6. วิตามิน DHC (Vitamins DHC)

วิตามินของแบรนด์ DHC ที่เรียกว่าครองความนิยมตลอดกาลพราะของเค้าดีจริงๆ มีให้เลือกแบบเยอะมากๆจะเป็นแนวป้องกันหวัด ไปจนถึงความสวยงามผิวพรรณบริ๊งๆมีหมด ตัวนี้แนะนำอย่าง DHC Mixed Vegetable ผัดรวมสกัดที่คนท้องผูกต้องมี มันดีจริงๆ และ DHC Meriroto มีสารสกัดถั่วที่ยิ่งเดินเยอะต้องซื้อมาตำ เพราะตัวนี้จะเด่นด้านสรรพคุณลดอาการปวดบวมได้

แนะนำสถานที่ซื้อ : ร้าน Drug Store ทั่วญี่ปุ่น

 

 

▌7. สินค้ามือสอง (Second-hand)

ใครที่ไม่แคร์ว่าจะเป็นของมือสองแต่เน้นของดีของถูกจะจัดเลย เพราะตลาดขายสินค้ามือสองที่ขายโดยเจ้าของเองนี่นิยมมากๆในญี่ปุ่น มีตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า น้ำหอม ตั้งแต่แบรนด์เนมไปจนถึงทั่วไปๆ หรือถ้าไม่ชัวร์อยากซื้อที่ร้านก็มีร้านดังๆอย่าง Book Off ที่มีทุกสิ่งให้เลือกสรร การรันตีว่าของแท้แน่นอน

แนะนำสถานที่ซื้อ : ตลาดสินค้ามือสอง (Flea Market) ทั่วญี่ปุ่นและร้าน Book Off ทุกสาขา

 

 

▌8. เสื้อผ้าจากยูนิโค่ (Uniqlo)

เสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่างๆ อาจจะมีให้เลือกคล้ายๆกัน และราคาที่ถูกกว่าเล็กน้อย แต่เสื้อกันหนาวและอุปกรณ์กันหนาวของยูนิโค่ในญี่ปุ่นนั้นมีให้เลือกเยอะสุดๆ และถ้าเป็นตัวที่มีการลดราคาก็จะยิ่งถูกกว่าเดิม หลายๆคนถึงกับเอาเอกันหนาวจากไปมาพอเป็นพิธีแล้วมาช็อปปิ้งในญี่ปุ่นเอาเพิ่ม ทั้งไม่ต้องต้องแบกน้ำหนักขามา (ระวังขากลับกันนิดนึงอย่าช็อปปิ้งเพลิน)แถมยังราคาถูกกว่าไทย เรียกว่าดีงามสองต่อ นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ลูกที่ชื่อว่า GU ซึ่งถูกยิ่งกว่า Uniqlo เข้าไปอีกรวมทั้งดูวัยรุ่นกว่าซะด้วย

แนะนำสถานที่ซื้อ : ร้าน Uniqlo หรือร้าน GU มีให้ช้อปได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น

 

 

▌9. อุปกรณ์ทำผม (Hairdresser)

 

อุปกรณ์ทำผม-องญี่ปุ่นนี่ครบเครื่อง มองหาอะไรก็มีตัวช่วยได้ทุกสิ่ง จะตัวม้วนไซส์ไหน แบบใด ใช้ง่าย ราคาถูก และใช้ดีขั้นสุด แถมพกพาสะดวกไม่เปลืองพื้นที่

แนะนำสถานที่ซื้อ : ร้าน 100 เยนทั่วญี่ปุ่น

 

 

▌10. น้ำมันดอกสึบากิ (Tsubaki Oil)

สุดยอดน้ำมันสารพัดประโยชน์ที่เอามาบำรุงผมนี่เรียกว่าชั้นหนึ่งไร้เทียมทาน ผมเสียแค่ไหนขอให้ลองใช้ไม่นานก็กลับมาเงางามได้ไม่ยาก หรือจะเอามาทาเป็นตัวบำรุงผิวหน้าให้ดูชุ่มชื้นชะลอริ้วรอยก่อนวัยก็ได้ แบรนด์ที่ฮิตที่สุดคงไม่พ้น Ooshima Tsubaki โดยขนาด 40ml ราคาประมาณ 1,000 เยน

แนะนำสถานที่ซื้อ : ร้าน Drug Store ทั่วญี่ปุ่น

 

 

▌11. กระดาษซับมันโยจิยะ (Abura Tori Gami Yojiya)

ใครหน้ามันยกมือขึ้นจะมาจัดตัวนี้เร็วๆ เพราะซับมันดีขั้นเทพ โดยแบรนด์นี้นับเป็นสุดยอดของกระดาษซับมันที่ผู้หญิงทุกคนต้องมีไว้ครอบครอง รับรองว่าหน้าไม่มีมันเยิ้มและยังไม่ทำให้เครื่องสำอางต้องหลุดตลอดทั้งวัน เหมาะกับการเอามาใช้ในเมืองไทยสุดๆ

แนะนำสถานที่ซื้อ : ร้าน  Yojiya สาขา Gion และ วัดคิโยะมิซุ (เกียวโต)

 

 

▌12. ราเมงสำเร็จรูป (Instant Noodles)

มาเยือนยังต้นตำหรับอย่างญี่ปุ่นไม่จัดคงไม่ได้ เพราะรสชาติมีให้เลือกแบบนับไม่ถ้วน แถมรสชาติยังอร่อยๆไม้แพ้ทานกันตามร้าน ตัวที่แนะนำจะเป็น Nissin’s Nakiryu Dandan ราเมงถ้วยที่รสชาติอร่อยระดับมิชลินสตาร์ เครื่องแน่น ซุปเผ็ดแบบกลมกล่อมแทบถอดร้านดังมาเลยก็ว่าได้

แนะนำสถานที่ซื้อ : ร้านซุปเปอร์มาเก็ตและร้านสะดวกซื้อทั่วไป

 

 

▌13. แก้วน้ำสตาร์บัคส์ (Starbucks Drinkware Collection)

นักสะสมพลาดไม่ได้อย่างยิ่ง เพราะแก้วน้ำของสตาร์บัคส์จะมีการทำลายเฉพาะของแต่ละเมือง อย่างล่าสุดมีการทำลาย Geography Series ออกมาเนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี ของสตาร์บัคส์ญี่ปุ่น ซึ่งจะมีดีไซส์ทั้งหมด 13 ลายตาม 13 เมืองใหญ่

แนะนำสถานที่ซื้อ : ร้าน Starbucks ตามเมืองใหญ่ๆอย่างโตเกียว โอซาก้า เกียวโตเป็นต้น

 

 

▌14. ป๊อกกี้ (Pocky)

อาจดูเป็นขนมธรรมดาดาษดื่นในไทยหาซื้อได้ไม่ยาก แต่ความพิเศษของป๊อกกี้ญี่ปุ่นคือความหลากหลายของรสชาติที่มีออกมาตามฤดู อย่างฤดูหนาวจะออกเป็น ป็อกกี้รสโรเซ่แชมเปญ อีกทั้งยังมีหลายขนาดหลายแบบ อย่างในโอซาก้าจะมี Glico Bâton D’or ป็อกกี้ซูปเปอร์พรีเมี่ยมที่ทั้งแพ็คเก็จรสชาตินี่เด็ดขาดมากๆ แต่ก็ซื้อยากเช่นกันเพราะขายเฉพาะที่ห้างสรรพสินค้า Takashimaya สาขาโอซาก้า

แนะนำสถานที่ซื้อ : ร้านซุปเปอร์มาเก็ตและร้านสะดวกซื้อทั่วไป

 

 

▌15. นาฬิกาคาสิโอ (Casio)

หากมองหานาฬิกาใช้งานดี ราคาสบายกระเป๋าต้องแบรนด์คาสิโอเลย โดยสามารถซื้อหาได้ราคาเริ่มที่ 900 เยนเท่านั้น อย่างรุ่นราคาเบาๆที่แนะนำก็จะมี CASIO F-91W-1JF, CASIO MQ-24-7B และ CASIO MQ-24-7B2LLJF รวมถึงรุ่น G-Shock โดยเฉพาะรุ่นที่เป็น Made in Japan จะราคาถูกกว่าไทยค่อนข้างมาก

แนะนำสถานที่ซื้อ : Bic Camera สาขา Shinjuku (โตเกียว)