21 ที่เที่ยวญี่ปุ่น ที่เด็กไปดี ผู้ใหญ่ไปได้ หรือไปพร้อมกันทั้งครอบครัวก็ยิ่งมันส์ 2567

สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นนี่เยอะมากๆ สมแล้วที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลายล้านคนต่อปี ไม่ว่าจะเป็นแลนด์มาร์คต่างๆของแต่ละเมือง ปราสาท พระราชวัง วัดและศาลเจ้า สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ที่ถือว่ามีมากที่สุดของเอเชียและดีงามติดอันต้นๆของโลก รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติงามๆอีกมากมาย เรียกได้ว่าจะมากี่ครั้งก็ไม่มีคำว่าน่าเบื่อกันเลย ซึ่งจะมีสถานที่ไหนที่เหมาะทั้งการมาเที่ยวแบบครอบครัวที่มีเด็กๆหรือผู้ใหญ่หัวใจเด็กที่ยังรักความสนุกและการเรียนรู้ แบบไม่มีเบื่อกันบ้างนั้น ไม่ตามเรามาเสียใจแย่เพราะของเค้าดีจริงๆไม่ได้โม้นะเออ

 

>> จองที่พักญี่ปุ่น ราคาพิเศษ กับ Traveloka <<

 

มาญี่ปุ่นทั้งที จะไม่แวะเที่ยวปราสาทที่ยิ่งใหญ่และสวยงามของประเทศนี้ก็คงจะเหมือนมาไม่ถึง ซึ่งจริงๆแล้วคงต้องบอกว่าประเทศญี่ปุ่นมีปราสาทสวยงามมากมายอยู่ทุกภูมิภาค แทบจะทุกเมืองแต่หนึ่งในปราสาทที่สวยงามและโดดเด่นที่สุดคงต้องยกให้ปราสาทฮิเมจิ เพราะมีขนาดใหญ่ สมบูรณ์สวยงามมากๆ

 

 

สวนนารา หรือ Nara Park นั้นเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่กินอาณาบริเวณโซนเมืองเก่าที่เป็นย่านท่องเที่ยวหลักของเมืองเอาไว้ และที่ทำให้สวนแห่งนี้น่าสนใจและเหมาะมากๆสำหรับคน

 

 

คงไม่มีใครไม่รู้จักซูโม่ กีฬาของชายร่างยักษ์ ที่เฉพาะตัวมากของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะมีการจัดแข่งขันขึ้นอยู่เรื่อยๆตลอดทั้งปี มีทั้งทัวร์นาเม้นเล็กและใหญ่ แต่ถ้าใครไปไม่ตรงวันก็ไม่ต้องเสียใจเพราะที่สนามแข่งซูโม่แห่งชาติที่กรุงโตเกียว เค้าเปิดให้เข้าชมได้และยังมีพิพิธภัณท์ที่เกี่ยวกับซูโม่ให้เข้าไปดูกันได้ด้วยนะ

 

 

พูดถึงซูโม่แล้ว ก็ต้องพูดถึงอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กๆและผู้ใหญ่ นั่นก็คือ นินจา นั่นเอง ซึ่งที่ญี่ปุ่นก็มีหมู่บ้านนินจาอยู่หลายแห่งที่เปิดให้เข้าชม ซึ่งหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในรูปแบบของนินจา(รวมถึงซามูไรด้วย)ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่นคงจะเป็นที่ เอโดะวันเดอร์แลนด์(Edo Wonderland) ที่มีลักษณะคล้ายกับสวนสนุกย้อนยุคไปในสมัยเอโดะที่ นินจาและซามูไรกำลังเฟื่องฟู ภายในมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกและโชว์นินจาให้ชมมากมาย ที่รับรองได้ว่าแฟนๆจะต้องชอบกันแน่นอน โดยเฉพาะเด็กๆ

 

 

แค่เอ่ยชื่อโตเกียวดิสนีย์แลนด์มาคำเดียว ก็รู้แล้วว่าจะต้องเจอแต่ความสนุกสุดเหวี่ยงแน่นอน ถือได้ว่าเป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นตั้งอยู่ที่เมืองชิบะใกล้ๆกับโตเกียว เครื่องเล่นที่นี่เรียกว่าเยอะมาก พื้นที่ก็กว้างสุดๆแบบเดินทั้งวันยังไม่แน่ว่าจะครบรึเปล่า แถมยังมีโชว์สุดยิ่งใหญ่ตระการของเหล่าการ์ตูนสุดฮิตตามาให้ได้ชมอีก แบบนี้จะพลาดได้ยังไง

 

 

พูดถึงสวนสนุกในญี่ปุ่นแล้วไม่พูดถึงยูนิเวอแซล สตูดิโอนี่ไม่ได้เลย เพราะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากโตเกียว ดิสนีย์แลนด์ก็จริง แต่ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะสาวกพ่อมดน้อยแฮรี่นี่ต้องกรีดร้องให้กับโซนของ  The wizarding World Harry Potter ที่มีปราสาทฮอกวอตส์(Hogworts castle)จำลองให้ได้ดื่มด่ำประหนึ่งเป็นนักเรียนเวทมนตร์ ช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟให้ได้ว้าวกันด้วย แถมยังมีร้านของที่ระลึกที่มีทุกสิ่งให้เลือกซื้อถึงราคาจะทำเอากระเป๋าเบาไปเยอะแต่ก็คุ้มค่า รวมทั้งยังมีโซนอื่นๆอีกมากมายให้ได้ไปสนุกกันแบบจุใจ และมีขบวนพาเรดช่วงเย็นค่ำๆให้ได้ฟินกันอีก

 

 

จุดชมดอกวิสทีเรีย(Wisteria)ยอดฮิตในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่ตั้งอยู่เมืองคิตะ คิวชู โดยเฉพาะจุดที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปรัวๆอย่างบริเวณอุโมงค์ดอกวิสทีเรีย ที่สร้างจากต้นวิสทีเรียเพียงต้นเดียว สวยขนาที่ติดอันดับหนึ่งในสิบสุดยอดสถานที่วิวสวยที่สุดในโลกมาแล้ว อีกส่วนหนึ่งที่สร้างความตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กันนั่นคือ ระแนงต้นวิสทีเรียขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีอายุกว่า 100 ปี เรียกได้ว่าเป็นสวนดอกวิสทีเรียท่ามกลางบรรยากาศสไตล์ชนบทของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนให้มาเยือนจริงๆ

 

 

สรวงสวรรค์ของเหล่าคนรักดอกไม้ ตั้งอยู่ที่เมืองฮิตาชินากาของจังหวัดอิบารากิ เรียกได้ว่าจะมาช่วงไหนของปีก็จะได้ยลความงามของดอกไม้แตกต่างกันไปทุกฤดู แต่ที่โด่งดังมากที่สุดเห็นจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะพบเห็นทุ่งดอกเนโมฟิลา (Nemophila)จำนวนมากกว่า 4,500,000 ดอก ที่มีสีฟ้าบานสะพรั่งสุดลูกหูลูกตายิ่งวันฟ้าใสๆนี่ยิ่งสวยสะกดตามากๆ

 

 

ถ้าพูดถึงฮอกไกดูร้อนต้องนึกถึงการไปชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์งามๆที่เห็นเป็นสีม่วงทั้งท้องทุ่งแน่นอน ฟาร์มโทมิตะ เมืองฟุระโนะ ตั้งอยู่ใจกลางฮอกไกโดนับเป็นสถานที่ชมดอกลาเวนเดอร์ที่เป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะทั้งบริเวณที่กว้างใหญ่ทำให้เวลาดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งมันสวยมากจริงๆ เรียกได้ว่าถ้าต้องการชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์แล้วละก็ ที่ฟาร์มแห่งนี้นับเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

 

 

 

 

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์สมัยใหม่แห่งชาติ(National Museum of Emerging Science) หรือพิพิธภัณฑ์มิไรคัง(Miraikan) เป็นสถานที่จัดแสดงเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ก่อให้เกิดผลงานนวัตกรรมใหม่ๆ เป็นหนึ่งในพิพิธภัณท์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่พลาดไม่ได้ของประเทศญี่ปุ่น โดยจัดแสดงแบบสองภาษา คือ ภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ เช่น นิทรรศการเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม หุ่นยนต์ Asimo เทคโนโลยีสารสนเทศ ชีววิทยา และการสำรวจอวกาศ เป็นต้น

 

 

พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่และใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นแหงนี้ ตั้งอยู่ที่สวนอุเอโนะของโตเกียว ใครอยากทราบประวัติศาสตร์แบบเน้นๆต้องมาเยือนที่นี่เลย เพราะเป็นสถานที่รวบรวมเอาศิลปวัตถุและโบราณวัตถุที่สำคัญทั้งของญี่ปุ่นเองและจากทั่วทวีปเอเชียมาไว้ในที่เดียว ที่เด่นๆน่าจะเป็นส่วนการจัดแสดงเกียวกับซามุไรที่มีทั้งเกาะและดาบที่เป็นของจริงๆมาจัดแสดงให้ชมกัน หรือแม้กระทั่งกิโมโนของแต่ละยุคที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันความความนิยมของช่วงนั้น นอกจากนี้ยังมีโบราณวัตถุจัดแสดงมากกว่า 110,000 ชิ้น เรียกว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจมากๆ

 

 

พิพิธภัณฑ์ที่จะมาเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ที่แตกต่างจากที่อื่นๆ ตั้งอยู่ที่ Osaka ExpoCity ของเมืองโอซาก้า เป็นการร่วมมือกันระหว่าง SEGA ผู้นำด้านเทคโนโลยี กับ BBC EARTH ผู้เชี่ยวชาญด้านสารคดีธรรมชาติ  แน่นอนว่าไม่มีอะไรธรรมดา การจัดแสดงของที่นี่เรียกได้ว่ามาแล้วไม่มีคำว่าเบื่อ ทุกๆโซนอย่างสิ่งแวดล้อม ภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยา และสัตว์โลกได้มีการนำเสนอแบบผสมผสานเอาเทคโนโลยีทันสมัยๆมาจัดแสดง ที่น่าจะเป็นไฮไลท์เด็ดก็คือ โรงภาพยนตร์ที่มีขนาดจอใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นที่เราจะสามารถดูสัตว์ต่างๆแบบ 4 D ที่อารมณ์คล้ายกับหลุดเข้าไปในป่าและได้เห็นเจ้าสัตว์เหล่านั้นใกล้ๆเลยทีเดียว

 

 

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ขึ้นชื่อว่ายิ่งใหญ่ตระการตามากที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองโอกินาว่าสวรรค์แดนใต้ มาที่นี่เรียกว่าสัตว์น้ำตรึม โดยเฉพาะไฮไลท์อย่างเจ้าฉลามวาฬขนาดใหญ่ที่อยู่ในตู้กระจกขนาดยักษ์ที่คอยมาโฉบไปโฉบมาอวดโฉมให้ผู้มาเยือนได้ตื่นเต้นกันอยู่เนืองๆ ด้วยการออกแบบที่ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับเหล่าสัตว์น้ำประหนึ่งอยู่ใต้ทะเลก็ไม่ปาน รับรองว่าขนาดผู้ใหญ่ประทับใจไม่รู้ลืม เด็กๆนี่จะตื่นเต้นขนาดไหนคิดดู

 

 

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแบบ Interactiveที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและยังเป็นอันดับหนึ่งของเอเชีย ตั้งอยู่ที่ Osaka Expo City ของเมืองโอซาก้า เรียกว่ามีให้เดินกันมากถึง 7 โซน ที่แต่ละส่วนงัดกลยุทธ์เด็ดๆมาโชว์แบบไม่มีซ้ำ แสง สี เสียงมาครบ นอกจากสัตว์น้ำแล้วยังมีสัตว์อื่นๆอย่างเสือขาว แพนกวิ้น นกนานาชนิด ที่มีการจำลองให้เป็นคล้ายสภาพตามถิ่นที่อยู่เดิมๆ แถมรู้สึกถึงความใกล้ชิดกับสัตว์เหล่านี้ไม่น้อย ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มากกว่าแค่พิพิธภัณฑ์ทั่วๆไป เดินสนุกอย่างไม่น่าเชื่อเพลินได้ทั้งวัน

 

 

สวนสัตว์อันดับหนึ่งของฮอกไกโดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองอะซาฮิกาว่า ด้วยขนาดที่ใหญ่และมีสัตว์จำนวนมาก โดยเฉพาะสัตว์มีถิ่นกำเนิดในแถบอากาศหนาวอย่างแพนกวิ้น หมีขั้วโลก ไฮไลท์น่าจะเป็นการได้ชมเจ้าแพนกวิ้นตัวน้อยเดินเตาะแตะๆเป็นขบวนท่ามกลางหิมะฟูระยะประชิด มันเป็นอะไรที่ดีเกินบรรยายจริงๆ

 

 

ทะเลสาบอาชิโนโกะ(Lake Ashinoko) เกิดขึ้นหลังจากการประทุของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อ 3,000 ปีก่อน โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิที่งดงามซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮาโกเน่ สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนในช่วงฤดูหนาว หรือช่วงเช้ากับใกล้ค่ำของแต่ละวัน ส่วนไฮไลท์สำคัญของการท่องเที่ยวที่นี่ก็คือการล่องเรือชมทะเลสาบบนเรือโจรสลัดนั่นเอง

 

 

อย่างที่รู้ๆกันว่าญี่ปุ่นนั้นมีภูเขาไฟอยู่มากมาย และหลายๆปล่องก็ยังคงคุกรุ่นอยู่ในปัจจุบันนี้ การได้ไปชมถึงปากปล่องภูเขาไฟจึงเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย แต่ถึงแม้จะมีอยู่หลายปล่องที่น่าไปชมแต่ก็มีอยู่แค่ไม่กี่แห่งเท่านั้นที่เดินทางได้ไม่ยาก หนึ่งในนั้นก็คือปากปล่องภูเขาไฟอะโซะที่จังหวัดคุมาโมโต้ ที่เกาะคิวชูทางตอนใต้ของญี่ปุ่น เพราะมีบริการกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปได้จนถึงปากปล่องเลยทีเดียว

 

 

 

เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นที่เด็กๆและผู้ใหญ่หลายๆคนเฝ้ารอและอยากจะไปสัมผัสซักครั้งก็คือทุ่งหิมะกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ซึ่งไม่ต้องไปไกลถึงเกาะฮอกไกโดทางเหนือ ก็สามารถพบเห็นได้ไม่ยาก อย่างเช่นที่ลานสกียูซาวะ(Yuzawa) ที่มีสกีรีสอร์ทชื่อดังอย่าง Gala Yuzawa ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองโตเกียว รอให้เราไปสัมผัสหิมะหนาๆฟูๆกันอยู่

 

 

 

ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่โอไดบะ จุดเด่นที่สุดที่ทำให้หลายๆคนต้องมาซักครั้งก็เจ้าหุ่นยนต์กันดั้มขนาดยักษ์ตัวใหม่ที่ทั้งใหญ่และอลังการกว่าตัวเดิม มาไม่ทันถ่ายรูปตัวเดิมไม่เป็นไรรับรองตัวนี้เด็ดกว่าเป็นไหนๆ อีกทั้งยังมี The Gundam Base Tokyo Complex พิพิธภัณฑ์กันดั้มที่สาวกต้องตาลุกวาว เพราะนอกจากจะมีการจัดแสดงโชว์หุ่นยนต์รุ่นต่างๆตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแล้ว ยังมีโซนจำหน่ายที่รุ่นไหนที่ว่าหายากมาที่นี่ไม่มีคำว่าผิดหวัง

 

 

 

แลนด์มาร์คแห่งใหม่ล่าสุดของใจกลางกรุงโตเกียว ด้วยความสูงที่มากถึง 634 เมตร จนทำให้เป็นอาคารที่มีความสูงมากที่สุดของญี่ปุ่นและติดอันดับสองของโลก สูงขนาดนี้รับรองเลยว่าวิวต้องแจ่มมาก ยิ่งช่วงวันไหนอากาศดีๆฟ้าโปร่งนี่สามารถมองเห็นภูเขาฟูจิได้อีก โดยทีนี่จะมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นได้แบบ 360 องศา จะมากลางวันหรือกลางคืนก็เลิศ ยิ่งช่วงโอกาสพิเศษยังจะมีการประดับไฟบนตัวอาคารให้ได้ตื่นตาตื่นใจไปอีก วันไหนโชคดีอาจจะได้เห็นการทำความสะอาดกระจกที่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าทึ่งและน่าหวาดเสียวไปพร้อมๆกัน

 

 

สุดยอดจุดชมวิวของเมืองโอซาก้าที่ตั้งอยู่ย่านอูเมดะ นับเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองที่มาแล้วควรมาปักหมุดอย่างแรง เพราะถือว่าเป็นจุดที่สามารถชมวิวทิวทัศน์เมืองได้งดงามมากที่สุดแล้ว ตัวอาคารก็มีเป็นลักษณ์ตึกแฝดที่ส่วนเชื่อมกันด้านบน ถูกออกแบบด้วยดีไซน์ที่ดูทันสมัยแปลกตา ช่วงกลางคืนที่เปิดไฟเรียกได้ว่าสวยสุด แถมยังมีร้านอาหารให้นั่งเพลินๆชมวิวด้านบนได้ด้วย

 

>> จองที่พักญี่ปุ่น ราคาพิเศษ กับ Traveloka <<