แนะนำ โรงแรมที่พัก โตเกียว ญี่ปุ่น อัพเดตล่าสุด

Top 3 serum สกินแคร์ตัวเด็ดจากญี่ปุ่น Item สำคัญที่ทุกคนควรมี  2567

Photo from https://pixabay.com/th/photos/sakura-japan-flower


หากย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิวที่เรารู้จักกันหลักๆ คงจะเป็น  โฟมล้างหน้า  ครีมทาผิวหรือมอยเจอไรเซอร์และครีมกันแดด  แต่อาจจะเนื่องจากมลภาวะต่างๆ การใช้เครื่องสำอางค์หรือกิจกรรมมากมายในยุคปัจจุบัน  ทำให้การดูแลผิวแค่นั้นอาจจะไม่เพียงพอ  อีกทั้งยังรวมไปถึงเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น  ส่งผลให้ปัจจุบันได้มีผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิวเพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นคลีนซิ่ง โทนเนอร์  บูสเตอร์  โลชั่นแบบน้ำตบหรือเซรั่ม  เป็นต้น  ทำให้หลายๆ คนที่เพิ่งเริ่มหันมาเอาใจผิวพรรณเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียวว่าจะเลือกอะไรมาใช้กันบ้าง  ซึ่งถ้าหากให้เราแนะนำแล้วละก็  หากสนใจสินค้าซักแบรนด์  แต่ไม่รู้จะเลือกตัวไหนดี  ผลิตภัณฑ์ที่ควรเลือกมาลองใช้เป็นอันดับแรกก็คือ “เซรั่ม” ค่ะ

 

ทำความรู้จักกับเซรั่มกันก่อนนะคะ เซรั่มคือผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในขั้นตอนของการดูแลผิว  โดยปกติแล้วเซรั่มจะมีความเข้มข้นสูงกว่าครีมบำรุงผิวโดยทั่วไป  อีกทั้งยังถูกผลิตออกมาให้มีความบางเบา  ดังนั้นการใช้เซรั่มจึงมักจะเห็นผลเร็วกว่าการใช้ครีมบำรุงผิวกลุ่มมอยเจอไรเซอร์เพียวๆ นอกจากนั้นแล้วด้วยความบางเบาและซึมซาบเร็วของเซรั่มจึงทำให้การบำรุงผิวด้วยเซรั่มก่อนนั้นช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่น  แข็งแรงและดูดซึมครีมบำรุงผิวตัวอื่นๆ ที่ใช้ร่วมกันดีขึ้น  ทำให้ครีมดูแลผิวที่ใช้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ

สำหรับใครที่มีผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการดูแลผิวพรรณหลายๆตัว และไม่รู้จะเพิ่มเซรั่มในขั้นตอนไหน โดยปกติแล้วเซรั่มสามารถใช้หลังล้างหน้าทันทีหรือหลังเช็ดโทนเนอร์  ก่อนจะตามด้วยครีมบำรุงผิวอื่นๆ แต่ถ้าหากใครมีสกินแคร์ในกลุ่มบูสเตอร์หรือน้ำตบก็ให้ใช้พวกนั้นก่อน  ตามด้วยเซรั่มแล้วจึงตามด้วยมอยเจอไรเซอร์ค่ะ  หรือวิธีง่ายๆ คือให้สังเกตที่ลักษณะเนื้อของผลิตภัณฑ์ก็ได้นะคะ  หากตัวไหนที่มีลักษณะเป็นน้ำและดูบางเบาที่สุดให้ใช้เป็นตัวแรก  ไล่ตามความข้นมาจนถึงที่เป็นเนื้อครีมค่ะ  หลังจากอ่านบทความที่เรานำมาเสนอในวันนี้แล้ว  ใครที่สนใจจะหาเซรั่มมาใช้  วันนี้เรามีเซรั่มดีๆ  ที่เป็น 3 อันดับแรก จากเว็บ cocme  เว็บไซต์จัดอันดับสกินแคร์ชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นมาแนะนำด้วยค่ะ

 

1. ETVOS Moisturizing serum

เซรั่มชื่อดังจากญี่ปุ่นที่เหมาะสำหรับผิวแห้ง แพ้ง่าย  หรือผิวที่ขาดน้ำ  ปราศจากส่วนผสมของซิลิโคน  พาราเบน  น้ำหอมและสารแต่งเติมสี  ไม่มีสารลดแรงตึงผิว  ผ่านการทดสอบจากทางการแพทย์จึงมั่นใจได้ถึงความอ่อนโยน  อีกทั้งยังมีีสารเซราไมด์ที่ช่วยดึงความชุ่มชื่นสู่ผิว ทำให้ผิวเด้ง อิ่มน้ำ

 

 

2. Obagi C25 Serum NEO

เซรั่มที่ช่วยต่อสู้กับผิวร่วงโรยสัญญาณแห่งวัยชรา ด้วยส่วนผสมของวิตามิน C ที่มากถึง 25% จึงมีส่วนช่วยในการบำรุงผิว 5 ประการคือ ช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง  กระชับผิว  ลดเลือนริ้วรอย ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว  และประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยที่เป็นกลิ่นหอมของเกรปฟรุ้ตที่ช่วยผ่อนคลาย

 

 

3. Melano CC Medicated Intensive Anti-Spot Essence

เซรั่มที่เป็นการผสานกันระหว่าง alpinia white ที่มีส่วนช่วยในการให้ความชุ่มชื่นเข้ากับวิตามินซีและอนุพันธ์จากวืิตามินอี ตัวเซรั่มสามารถซึมสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วเพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใส  นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ช่วยป้องกันการเกิดสิว  และให้ความชุ่มชื่นแก่รอยแผลเป็นจากสิวจึงช่วยให้รอยแผลเป็นจากสิวจางลงด้วย

 

ก็จบไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องราวของเซรั่มที่เรานำมาฝากกันในวันนี้  ซึ่งเซรั่มนั้นเหมาะกับทุกคนจริงๆ ค่ะ  ควรจะเป็นสกินแคร์พื้นฐานที่ทุกคนมีไว้ในครอบครอง  ยังไงหากใครที่ไม่ชอบใช้สกินแคร์หลายตัวอย่างน้อยสิ่งที่ควรมีก็คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า เซรั่ม และครีมกันแดดนะคะ  เพื่อผิวสวยๆ จะได้อยู่กับเราไปนานๆ ค่ะ  และอย่าลืมนอกจากจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวแล้ว  การทดสอบอาการแพ้ก็สำคัญไม่แพ้กันเลยนะคะ โดยการทดสอบง่ายๆคือการทาเซรั่มที่บริเวณท้องแขน หากไม่มีผื่นคันก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ


เนรมิตดวงตาสดใสด้วย 3 อายครีมตัวเด็ดที่ต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้ง !!
รวม 3 Emulsion ยอดเยี่ยมแห่งปีจากญี่ปุ่น 2020