อยากไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่ไม่รู้จะไปเมืองไหนดี มาดู 15 เมืองน่าเที่ยวยอดฮิต ห้ามพลาดของญี่ปุ่นกัน 2567
ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นๆที่คนส่วนใหญ่อยากจะไปท่องเที่ยว เพราะด้วยผู้คนญี่ปุ่นที่ใจดี บ้านเมืองญี่น่ารัก ธรรมชาติสวยงาม และมีวัฒนธรรมที่มีเอกลักษ์ ทำให้หลายๆคนหลงรักญี่ปุ่น และชอบที่จะไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ได้มีเฉพาะเมืองหลวงอย่างโตเกียว หรือ เมืองดังอย่างโอซาก้า หรือเกียวโต ที่น่าเที่ยว ญี่ปุ่นยังมีอีกหลายเมืองที่น่าไป วันนี้เราจึงได้รวมเอา 15 เมืองน่าเที่ยวของญี่ปุ่น มาไว้ให้ดูกันครับ
1. โตเกียว(Tokyo)
Photo from https://pixabay.com/photos/boat-cherry-blossom-park-river-1835081/
โตเกียว (Toyko) เป็นมหานครเมืองหลวงของญี่ปุ่นและยังเป็นเมืองที่รวมสถานที่ท่องเทียวดังๆ ฮิตๆของญี่ปุ่นอยู่ที่นี่ด้วย เรื่องความทันสมัยคงไม่ต้องพูดถึง โดยเฉพาะระบบการขนส่งทางรางที่มีเครือข่ายกระจายครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ ทำให้การเดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆนั้นง่าย และสะดวกมากๆ และยังเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง สวนสนุกดังๆอย่างโตเกียวดิสนีย์แลนด์ และโตเกียวดิสนีย์ซี
นอกจากนี้ โตเกียวยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมด้วย มี พระราชวัง ศาลเจ้าและวัดตั้งอยู่มากมาย มีแม่น้ำ และภูเขาที่สวยงาม โตเกียวจึงมักจะเป็นเมืองแรกๆที่นักท่องเที่ยวนิยมมากัน
2. ภูเขาไฟฟูจิ
Photo from https://pixabay.com/photos/mountain-mount-landscape-japanese-1862077/
ภูเขาไฟฟูจิ (mount Fuji) เป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงทั่วโลกเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น มีความสูงที่สุดในประเทศ 3,776 เมตรเหนือระดับนํ้าทะเล มีนักปีนเขามากมายที่ปรารถนาที่จะไปพิชิตยอดของมัน “ที่ราบสูงอิซุ”เป็นรีสอร์ทแถบคันโตที่ได้รับความนิยม,มีพิพิธภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครมากมาย “เมืองนํ้าพุร้อนอิโต” ซึ่งขนาบข้างด้วยทะเลและภูเขาและเป็นที่รู้จักในฐานะของ “เมืองนํ้าพุร้อน” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของอิซุ ส่วน “ทางตะวันตกของอิซุ”นั้นเต็มไปด้วยชายฝั่งทะเลที่สวยงามและนํ้าพุร้อนที่คอยช่วยคลายความเหน่อยล้าของนักท่องเที่ยว นํ้าพุร้อนกลางแจ้งที่สามารถชมภูเขาไฟฟูจิก็มีไว้คอยบริการ
3. ฮอกไกโด
Photo from https://pixabay.com/photos/japan-hokkaido-winter-snow-sapporo-3971137/
Photo from https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/c/c3/%E5%AE%9A%E5%B1%B1%E6%B8%93%E5%A4%A7%E6%A9%8B%EF%BC%88Jozankei_Ohashi%EF%BC%89_-_panoramio.jpg
เกาะฮอกไกโด (Hokkaido) ดินแดนโรแมนติคทางตอนเหนือที่ยังเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ
เป็นเกาะทางเหนือของญี่ปุ่นที่เป็นอาณาบริเวณใหม่ซึ่งเพิ่งเปิดสู่ภายนอกอย่างเต็มที่เมื่อ 140 ปีที่แล้ว ทำให้อาจจะไม่มีความเก่าแก่ทางวัฒนธรรมเหมือนที่อื่นๆของญี่ปุ่น แต่ที่นี่จะมีชื่อเสียงด้านแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ยังคงสภาพดั้งเดิมอยู่ รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสมากกว่าที่อื่นๆของญี่ปุ่น อันเป็นเอกลักษณ์ของเกาะฮอกไกโด ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แวดล้อมไปด้วทะเลสามารถผลิตอาหารได้มากมายทำให้ฮอกไกโดถูกเรียกว่า “ขุมสมบัติของอาหาร “ และยังมีอุณหภูมิตํ่าที่สุดของญี่ปุ่น ติดลบมากกว่า 10 องศาในฤดูหนาว
4. เกียวโต
Photo from https://www.freepik.com/author/tawatchai07
Photo from https://www.flickr.com/photos/siva_vasanth/32966221716/sizes/c/
เกียวโต (Kyoto) เป็นจังหวัดหนึ่งในภูมิภาคคันไซ(Kansai) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นมายาวนานที่สุด คือตั้งแต่ปีค.ศ. 794 จนุถึง 1868 ร่วมๆ 1,100 ปีเลยทีเดียว ในปัจจุบันยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของประเทศญี่ปุ่นด้วยประชากรที่มากถึง 1.4 ล้านคน เกียวโตจึงเป็นเมืองสำคัญที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น อีกทั้งเมืองเกียวโตยังมักจะรอดพ้นจากการเป็นเป้าโจมตีต่างๆเมื่อเกิดสงคราม ซึ่งรวมไปถึงระเบิดนิวเคลียช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย ทำให้เกียวโตยังคงสภาพวัด ศาลเจ้า และสิ่งก่อสร้างที่มีคุณค่าทางด้านศิลปะวัฒนธรรมและเก่าแก่เอาไว้ได้มากมายจนถึงทุกวันนี้ เมืองเกียวโตจึงเป็นอีกเมืองหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด
5. โอซาก้า
Photo from https://www.maxpixel.net/Landmark-Landscape-Travel-Castle-Osaka-Japan-6023328
Photo from https://www.flickr.com/photos/pedrosz/31049419683
โอซาก้า (Osaka) เป็นจังหวัดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น และมีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสาม จึงเป็นเมืองเศษฐกิจที่สำคัญที่สุดของภูมิภาคคันไซ และมีประชากรกว่า 2.5 ล้านคนอาศัยอยู่ที่นี่
ในศตวรรษที่ 16, โอซาก้าถูกเลือกเป็นที่ตั้งของปราสาทของโชกุนโทคุกาว่า อิเอยาสึ ทำให้โอซาก้ามีความเจริญเป็นยุคที่เฟื่องฟู และมีแนวโน้มที่จะได้เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น แต่ภายหลังท่านฮิเดโยชิเสียชีวิตลง อำนาจต่างๆก็ลดลงไปด้วย ทำให้รัฐบาลเลือกโตเกียวเป็นเมืองหลวงแทน
เมืองโอซาก้าอาจจะไม่ใช่เมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรมแบบโบราณของญี่ปุ่นเหมือนกับหลายเมืองฮิตๆอย่าง เกียวโต หรือ โตเกียว แต่โอซาก้าเป็นเมืองที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาจึงมีความพิเศษในตัวเองที่ไม่เหมือนกับเมืองอื่นๆของญี่ปุ่น โอซาก้าจึงเป็นอีกหนึ่งเมืองยอดฮิตของนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาเยือนญี่ปุ่นด้วย
6. นารา
Photo from https://pixabay.com/photos/nara-japan-spring-deer-blossom-4070825/
นารา (Nara) เมืองแห่งพระใหญ่และฝูงกวาง นาราเคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกของราชวงศ์ยามาโต้ (300-600) จนกระทั่งเมืองหลวงถูกย้ายในปี 784 ที่เมืองนารามีวัดโทไดจิ ที่มีชื่อเสียงมากจากพระพุทธรูปองค์ใหญ่หรือหลวงพ่อโต และมีศาลเจ้าคาซูงะตั้งอยู่ในสวนสาธารณะนารา ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง บริเวณภายในสวนมีกลางอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากจึงทำให้สวนแห่งนี้เป็นเสมือที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับผู้คน เมืองหลวงเก่าแก่แห่งนี้มีวัดและศาลเจ้ามากมายซึ่งบางแห่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรกดโลก เช่น วัดโฮริวจิ ซึ่งเป็นวัดไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ในช่วงซากุระบานนั้นภูเขาทางตอนใต้ของนารา เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีชื่อเสียงในการชมซากุระ นั่นก็คือภูเขาโยชิโนะ ด้านบนเขานั้นสามารถที่จะมองเห็นต้นซากุระหลายพันต้นเรียงรายออกดอกให้ชมอย่างสวยงาม
เมืองนารานั้นอยู่ห่างจากเกียวโตและโอซาก้าประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากเคยเป็นเมืองหลวงเก่ามาก่อน จึงมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น วัดหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นวัดอาคารไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีวัดที่เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอยู่ที่นี่อีกด้วย
7. ฟุกุโอกะ
Photo from https://pixabay.com/photos/japan-fukuoka-kytakyushyu-2415130/
ฟูกุโอกะ (Fukuoka) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเกาะคิวชู (Kyushu) และใหญ่เป็นอันดับ 8 ของประเทศญี่ปุ่นด้วย ฟูกุโอกะเป็นเมืองท่าที่สำคัญของญี่ปุ่นมานานหลายร้อยปี เพราะว่าตั้งอยู่ใกล้กับเขตแผ่นดินใหญ่ที่สุด (อยู่ใกล้กับเมืองโซลของเกาหลีมากกว่าเกียวโตซะอีก) จึงถูกเลือกเป็นจุดยกพลขึ้นบกของชาวมองโกลที่ต้องการจะมายึดญี่ปุ่นเมื่อประมาณช่วงปี 1300 ด้วย
ตัวเมืองฟูกุโอกะทุกวันนี้เป็นผลจากการรวมกันของเมืองท่าเก่าชื่อว่า Hakata รวมกับเมืองรอบปราสาทฟูกุโอกะ โดย Hakata ยังคงเป็นชื่อเขตหนึ่งของ ฟูกุโอกะ และยังเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟสายหลักอีกด้วย ถึงแม้เมืองนี้จะเป็นเมืองใหญ่ และมีความเจริญครบครันก็ตาม แต่ก็ยังมีบรรยากาศที่ดูสบายๆไม่อึดอัดเหมือนกับเมืองอื่นๆของญี่ปุ่น ด้วยระบบการขนส่งที่ดี ถนนหนทางที่กว้างขวาง ความสะอาด ปลอดภัยของเมือง และความเป็นมิตรของผู้คนที่นี่จนทำให้ติดหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่มากที่สุดในโลกด้วย
8. โอกินาว่า
Photo from https://pixabay.com/photos/churaumi-aquarium-aquarium-okinawa-2407812/
Photo from https://pixabay.com/photos/okinawa-sea-japan-landscape-sky-3421799/
โอกินาว่า (Okinawa) เป็นจังหวัดที่อยู่ทางทิศใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วยหมู่เกาะเล็กๆกว่า 12 เกาะ บริเวณครึ่งหนึ่งของเกาะนันเซ โชโตะ(Nansei Shoto) ห่างจากเกาะคิวชูไปกว่า 1,000 กิโลเมตรไปทางไต้หวัน
จังหวัดโอกินาว่าแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเกาะใหญ่ๆ ได้แก่ หมู่เกาะโอกินาว่า(Okinawa Shoto) รอบๆเกาะโอกินาว่า(Okinawa Honto) หมู่เกาะมิยาโกะ(Miyako Tetto)รอบๆเกาะมิยาโกะ และหมู่เกาะยาเอยาม่า(Yaeyama Retto)รอบๆเกาะอิชิงากิ(Ishigaki Island)
9. นางาซากิ
Photo from https://pixabay.com/photos/night-view-nagasaki-japan-1342591/
Photo from https://pixabay.com/photos/huis-ten-bosch-nagasaki-4116853/
นางาซากิ (Nagasaki) จะอยู่ที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของภูมิภาคคิวชู(Kyushu)โดยมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย เช่น การท่องเที่ยวเชิงศิลปะวัฒนธรรม เพราะเนื่องจากเมืองท่าสำคัญของญี่ปุ่น จึงรับเอาวัฒนธรรมจากยุโรปและจีนมาผสมผสานเอาไว้ จนเกิดเป็นชุมชนชาวต่างชาติต่างๆเช่น ไชน่าทาวน์ขึ้น หรือทะเล แหล่งออนเซน และภูเขาไฟ
ตัวอย่างแหล่งแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองนางาซากิ ได้แก่ สวนสันติภาพ, สวนสนุกฮุสเทนบอช(Huis Ten Bosch), แหลมชิมาบะระ(Shimabara Peninsula) ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟอันเซน(Unzen mount)
10. ไซตามะ
Photo from https://peakvisor.com/adm/saitama.html
Photo from https://www.flickr.com/photos/sinn/5603255846
ไซตามะ (Saitama) เป็นจังหวัดใหญ่ทางตอนเหนือติดกับกรุงโตเกียว มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น ทุ่งดอกไม้ ย่านเมืองเก่า พิพิธภัณท์ สวนสนุก สวนสัตว์ แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารและขนมอร่อยๆอีกเพียบ เดินทางจากโตเกียวไม่ถึงชั่วโมงก็ข้ามมาเข้าเขตจังหวัดไซตามะแล้ว จึงเหมาะมากสำหรับการเดินทางมาเปลี่ยนบรรยากาศจากเมืองใหญ่ ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายเบียดเสียดกันไปทุกแห่งหน มาเป็นเมืองเล็กๆ กับบรรยากาศชนบทหน่อยๆ ที่ไม่วุ่นวายเท่า สามารถวางแผนมากันได้ทั้งแบบ เช้าไปเย็นกลับ หรือจะค้างซัก 1 คืนก็ยิ่งดี
11. นิกโก้
Photo from https://www.flickr.com/photos/159984717@N08/29592824607/
Photo from https://www.flickr.com/photos/romephotoblog/5180347326/sizes/c/
นิกโก้ (Nikko) มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความสวยงามของวัดและศาลเจ้าต่างๆที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เช่น ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu) และวัดรินโนจิ(Rinnoji) เพราะในอดีตนิกโก้เคยเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายชินโต ทำให้มีศาลเจ้าและวัดที่สวยงามหลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีธรรมชาติที่สวยงามที่อุทยานแห่งชาติโอคุนิกโก้(Okuniko) ที่มีทั้งภูเขาและทะเลสาบ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะมีใบไม้เปลี่ยนสีมากมายตามหุบเขากลายเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมของคนญี่ปุ่นด้วย และด้วยความที่นิกโก้ยังอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว(Tokyo) จึงเป็นทางเลือกในการเดินทางมาเที่ยวของนักท่องเที่ยวจำนวนมากในแบบ ไปเช้าเย็นกลับ วันเดียวจากโตเกียว
12. ฮิโรชิม่า
Photo from https://www.flickr.com/photos/wiwillbe/21920739279/sizes/c/
Photo from https://www.flickr.com/photos/sulitskiy/48860648806/
ฮิโรชิม่า (Hiroshima) เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ในภูมิภาพ ชูโกคุ (Chugoku) มีผู้คนอาศัยกันอยู่ค่อนข้างเยอะ เป็นอีกหนึ่งเมืองประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น เพราะในวันที่ 6 สิงหาคม 1945 ได้มีการทิ้งระเบิดปรมณูลงที่เมืองนี้ ทำให้ตัวเมืองทังทลายและเสียหายอย่างหนัก ผู้คนต้องอพยบและต่างได้รับผลกระทบจากการระเบิดในครั้งนั้นมายาวนาน หนังจากสงครามสิ้นสุดลงก็ได้มีการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ และยังคงอนุรักษ์สถานที่ต่างๆไว้ให้ผู้คนได้ระลึกถึง เช่น ประสาทฮิโรชิม่า, สวน Shukkeien หรือ Peace Memorial Park ก็ล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนนิยมไปกัน
13. ชิราคาวะโกะ
Photo from https://pixabay.com/photos/japan-kanazawa-shirakawa-go-3205106/
Photo from https://pixabay.com/photos/city-home-winter-season-cold-6999499/
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ตั้งอยู่ที่จังหวัดกิฟุ นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันทรงคุณค่าจนได้ถูกขึ้นทะเบียนมรดกโลกมาแล้ว ด้วยความงดงามที่แม้จะแลดูเรียบง่าย หากก็เต็มไปด้วยสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมความเป็นมาของคนญี่ปุ่นในอดีตได้อย่างชัดเจน โดยเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาธรรมชาติแน่นๆมีแม่น้ำโชกาวะไหลผ่าน จริงๆที่นี่มีความสวยแบบแตกแต่งกันไปทุกๆฤดูกาลนะคะ เรียกได้ว่าความสวยนี่สูสีกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่จะมีความพิเศษจากการมีการแสดงไฟช่วงกลางคืน รวมไปถึงเสน่ห์และความงดงามที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หาดูได้ที่นี่เท่านั้น
14. โอคายาม่า
Photo from https://pixabay.com/photos/okayama-japan-castle-red-leaf-4680415/
Photo from https://pixabay.com/photos/japan-okayama-kurashiki-tour-boat-4685783/
โอกายาม่า (Okayama) ตั้งอยู่บริเวณภูมิภาคชูโงกุทางตะวันตกของบนเกาะฮนชู ขนาบข้างด้วยสองจังหวัดทั้งด้านทิศเหนือจังหวัดทตโตริ ทางทิศตะวันออกติดต่อกับจังหวัดเฮียวโงะ ทางด้านทิศใต้ติดกับจังหวัดโอกายามะและจังหวัดคางาวะบนเกาะชิโกกุ รวมทั้งทางด้านทิศตะวันตกติดต่อกับจังหวัดฮิโรชิม่า ดูๆแล้วนี่ติดกับหลายๆจังหวัดทุกทิศทิศทุกทางทำให้การเดินทางนี่หายห่วง เพราะถ้านั่งรถไฟชินคันเซ็นจากเกียวโตก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงหรือจากฮิโรชิม่าก็แค่ 35 นาทีเท่านั้นเองค่ะ จังหวัดนี้เค้าได้ถูกยกให้เป็น”ดินแดนแห่งแสงตะวัน” จากการที่อากาศดีช่วงหนาวๆก็หนาวนะคะแต่ไม่โหดมากที่สำคัญฟ้าค่อนข้างใสเพราะฝนที่ตกไม่มาก เรียกได้ว่าใครที่อยากเที่ยวแบบแจ่มใสไม่ต้องไปลุ้นจะเจอฝนบ่อยๆมาที่นี่อย่างเริ่ดอ่ะค่ะ อีกทั้งความครบเครื่องเรื่องธรรมชาติและประวัติศาสตร์ทำให้แหล่งท่องเที่ยวนี่มีไม่แพ้ที่ไหนๆ
15. เซนได
Photo from https://www.flickr.com/photos/takumovsky_m/8283041880/sizes/c/
Photo from https://www.flickr.com/photos/banky405/14711159828/
เซนได (Sendai) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดมิยางิ(Miyagi) และยังเป็นเมืองที่มีความเจริญและมีขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาคโทโฮคุ(Tohoku)ด้วย อีกทั้งยังมีเครือข่ายของการคมนาคมที่สำคัญหลายอย่าง เช่น สนามบินนานาชาติ, ชุมสายรถไฟชินคันเซน, รถไฟใต้ดินภายในเมือง และท่าเรือต่างๆ เป็นเมืองที่ได้รับฉายาว่า เมืองแห่งต้นไม้ เพราะมีสวนสาธารณะหลายแห่งทั่วเมืองที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น ทำให้มีจุดชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนที่สวยงามอยู่ภายในเมืองหลายจุด เซนไดมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลากหลายทั้งปราสาท วัดวาอาราม ห้างสรรพสินค้า แหล่งช้อปปิ้ง และร้านค้าร้านอาหารต่างๆอีกมากมาย
>>> แนะนำ 50 ที่เที่ยวยอดฮิตห้ามพลาดทั่วประเทศญี่ปุ่น <<<
Photo from https://www.flickr.com/photos/byond-travel/49616765178/
