11 ที่เที่ยวน่าไป ใน อาโอโมริ เมืองแห่งธรรมชาติและน้ำพุร้อน 2567
Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Juhyo_of_Hakkoda_02.jpg
เมืองอาโอโมริ(Aomori City) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดของเกาะฮอนชู เป็นที่รู้จักจากทัศนียภาพอันงดงาม รวมถึงเทือกเขาชิราคามิ-ซันจิ ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก จังหวัดนี้ยังเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่ง และภูเขาฮักโกดะซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดในฤดูหนาว นอกจากนี้ อาโอโมริยังมีชื่อเสียงในด้านการผลิตแอปเปิ้ล เราสามารถชิมและซื้อแอปเปิ้ลที่ปลูกในท้องถิ่นได้ที่สวนผลไม้และตลาดต่างๆ รสชาติหวานอร่อย ใครไปอาโอโมริต้องไม่พลายเที่ยวสวยแอปเปิ้ลเลย ลองตามไปดูที่เที่ยวน่าไปของจังหวัดอาโอโมริกันได้ ตามข้อมูลด้านล่างนี้เลยครับ กับ 13 ที่เที่ยวน่าไป ใน อาโอโมริ อัพเดท 2023
1. ปราสาทฮิโรซากิ Hirosaki Castle
Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Hirosaki_castle.jpg
photos by Kojin from commons.wikimedia.org/wiki/File:Hirosaki_Castle.JPG(cc by public domain)
photos by Yuichi Shiraishi from flickr.com/photos/yisris/5699037384(cc by 2.0)
ปราสาทฮิโรซากิ(Hirosaki Castle) ถูกสร้างขึ้นในปี 1611 โดยตระกูลซูการุ โครงสร้างปราสาทมีทั้งหมด 3 ชั้น ประกอบด้วย คูปราสาท ป้อม ประตูปราสาท และป้อมตามมุมปราสาท ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะฮิโรซากิที่มีพื้นที่ประมาณ 0.6 ตารางกิโลเมตร สวนสาธารณะฮิโรซากิเป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น รอบๆบริเวณปราสาทเต็มไปด้วยต้นซากุระที่มีมากกว่า 2,500 ต้นหลากหลายสายพันธุ์ เสมือนอุโมงค์ดอกซากุระ พร้อมพื้นที่สำหรับนั่งปิกนิก
2. หุบเขาสัตว์ประหลาดหิมะ The Frost-Covered Trees of Hakkoda Mountains
Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Juhyo_of_Hakkoda_02.jpg
Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Mt.Hakkoda_%28%E5%85%AB%E7%94%B2%E7%94%B0%E3%81%AE%E6%A8%B9%E6%B0%B7%29_-_panoramio.jpg
หุบเขาสัตว์ประหลาดหิมะ (The Frost-Covered Trees of Hakkoda Mountains) อยู่ที่ภูเขาฮักโกดะในอาโอโมริ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องหิมะตกหนักในช่วงฤดูหนาว ทำให้ต้นไม้ปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งหนาเป็นชั้นๆ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินี้สร้างภูมิทัศน์อันน่าทึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก มองไกลๆก็จะดูคล้ายกับสัตว์ประหลาดหิมะนั่นเอง
3. แม่น้ำโทวาดะ Lake Towada
Photo from https://www.flickr.com/photos/agustinrafaelreyes/22518309205
photos by Kzaral from flickr.com/photos/kzaral/8411352772(cc by 2.0)
แม่น้ำโทวาดะ(Lake Towada) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะฮอนชูซึ่งเป็นเกาะหลักของประเทศญี่ปุ่น แม่น้ำแห่งนี้เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นิยมที่สุดแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะบริเวณลำธารโออิราเซะ(Oirase Stream) ที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งทิศตะวันออกของทะเลสาบ
รอบๆทะเลสาบโทวาดะเป็นป่าหนาทึบระยะกว้างหลายร้อยเมตรเหนือระดับผิวน้ำ บริเวณรอบๆก็ยังคงสภาพเป็นธรรมชาติ ยกเว้นเมืองเล็กๆที่ชื่อว่ายาซูมิยะ(Yasumiya) ที่ได้รับการพัฒนา เป็นศูนย์กลางการขนส่ง รวมถึงมีสถานที่่ท่องเที่ยวให้เที่ยวชมอีกด้วย ได้แก่ ศาลเจ้าโทวาดะ(Towada Shrine) พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติขนาดเล็ก และรูปปั้นเด็กสาวโทโฮคุ
4. ภูเขาฮักโกดะ Mount Hakkoda
Photo from https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/2/2d/Autumn_leaves_Hakkoda_Aomori_prf_Japan_20171008_IMG_3796.jpg
photos by sodai gomi from flickr.com/photos/sodaigomi/20533138293(cc by 2.0)
ภูเขาฮักโกดะ(Mount Hakkoda) เป็นกลุ่มยอดภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองอาโอโมริ(Aomori)และทะเลสาบโทวาดะ(Lake Towada) ถือเป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีชื่อเสียงของความงดงามตามฤดูกาลต่างๆ รวมถึงเส้นทางเดินป่าทางธรรมชาติ และน้ำพุร้อนที่โด่งดัง นอกจากนี้แล้ว ภูเขาที่สูง 1,585 เมตร ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ซึ่งจะเปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณปลายเดือนกันยายน-กลางตุลาคม และในช่วงฤดูหนาวหิมะจะตกในบริเวณภูเขาเป็นปริมาณมาก ทำให้เกิดต้นไม้แช่แข็ง
5. พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาโอโมริ Aomori Museum of Art
photos by choo chin nian from flickr.com/photos/chinnian/27316627060(cc by 2.0)
photos by choo chin nian from flickr.com/photos/chinnian/26983417034(cc by 2.0)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาโอโมริ(Aomori Museum of Art หรือ Aomori Kenritsu Bijutsukan) เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานศิลปะสมัยใหม่ โดยอาคารนิทรรศการถาวรและชั่วคราวถูกออกแบบมาให้คล้ายคลึงกับอาคารของพื้นที่ทางโบราณคดีซานนาอิ มารุยาม่า(Sannai Maruyama Archaeological Site)ที่ตั้งอยู่ติดกัน ภายในอาคารจัดแสดงนิทรรศการศิลปะถาวร ประกอบด้วยภาพวาดขนาดใหญ่ 3 ภาพ ของศิลปิน Marc Chagall ภาพพิมพ์จากบล็อคไม้และภาพวาดของศิลปิน Munakata Shiko ภาพป๊อปอาร์ตและภาพการ์ตูนของศิลปิน Nara Yoshitomo รวมถึงรูปปั้นสุนัข Aomori-Ken ขนาดยักษ์สูงถึง 8.5 เมตร ซึ่งเป็นผลงานของศิลปิน Nara เช่นกัน
6. ภูเขาโอโซเรซัง Mount Osorezan
photos by 利用者:Itoshin87 from commons.wikimedia.org/wiki/File:Osorezan_Aomori.JPG(cc by public domain)
ภูเขาโอโซเรซัง(Mount Osorezan) หรือ Mt. Osore ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 ของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ร่วมกับโคยะซัง(Koyasan) และฮิเออิซัง(Hieizan) ซึ่งได้ถูกค้นพบในช่วง 1,000 ปีที่ผ่านมา และยังเป็นที่ตั้งของวัดโบไดจิ(Bodaiji Temple) อีกด้วย
ความโดดเด่นของภูเขาคือภูมิทัศน์ที่แปลกตา เนื่องจากเกิดการระเบิดของภูเขาไฟ และกลิ่นกำมะถันที่รุนแรงแทรกซึมอยู่ในอากาศ พื้นดินเป็นสีเทาแห้งแล้ง ถัดจากวัดเป็นที่ตั้งของทะเลสาบอูโซริ(Lake Usori)ที่มีน้ำเป็นสีฟ้าเฉดต่างๆเนื่องจากปริมาณของกำมะถันจำนวนมาก
7. ตลาดปลาอาอูกะ Auga Fish Market
Photo from https://www.flickr.com/photos/yoandmi/4927663219/in/photostream/
Photo from https://www.flickr.com/photos/yoandmi/4928258420/in/photostream/
ตลาดปลาอาอูกะ(Auga Fish Market หรือ Auga Shinsen Ichiba) ตั้งอยู่ที่ชั้นใต้ดินของอาคารศูนย์การค้า Auga Festival City ภายในตลาดเรียงรายไปด้วยแผงจำหน่ายอาหารทะเลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นปลาสด สาหร่ายทะเล ผักสด และอาหารทะเลที่สดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ โดยเฉพาะปลาทูน่า ปลาหมึก และหอยเชลล์ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารเปิดให้ลิ้มรสอาหารทะเลของที่นี่อีกด้วย
8. ลำธารโออิราเซะ Oirase Stream
photos by Hiker- Hu** from flickr.com/photos/william-hu/32803755891(cc by 2.0)
photos by C.K. Tse from flickr.com/photos/cktse/8122347509(cc by 2.0)
ลำธารโออิราเซะ(Oirase Stream) เป็นลำธารจากภูเขาที่งดงามในจังหวัดอาโอโมริ ซึ่งเป็นจุดชมใบไม้ร่วงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ลำธารแห่งนี้ไหลไปตามหุบเขาโออิราเซะ(Oirase Gorge) ท่ามกลางต้นไม้อันเขียวชอุ่มในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเฉดเหลืองแดงในฤดูใบไม้ร่วงประมาณปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน ระหว่างทางมีน้ำตกซึ่งไหลออกมาจากผนังของหุบเขากว่า 12 แห่งด้วยกัน
9. โบราณสถาน ซานนาอิ มารุยาม่า Sannai Maruyama
photos by 663highland from commons.wikimedia.org/wiki/File:140913_Sannai-Maruyama_site_Aomori_Japan02bs5.jpg(cc by 3.0)
โบราณสถาน ซานนาอิ มารุยาม่า(Sannai Maruyama Archaeological Site) มีพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดและยังคงเก็บรักษาไว้จากสมัยโจม่อน(Jomon Period 1300-300 BC)ของประเทศญี่ปุ่น พื้นที่ดังกล่าวถูกค้นพบโดยบังเอิญ รวมแล้วกว่า 700 หลังคาเรือน
อาคารที่ติดอยู่กับพื้นที่ทางโบราณคดี เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์โจม่อน จิยุคัง(Jomon Jiyukan) ภายในจัดแสดงนิทรรศการวัตถุที่ถูกขุดพบจากพื้นที่ดังกล่าว พร้อมข้อมูลอธิบายเกี่ยวกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในช่วงสมัยโจม่อน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวสามารถทดลองสวมเสื้อผ้าย้อนยุค ลองใช้เครื่องมือต่างๆ และร่วมทำหัตถกรรมและของเล่น หรืออาจลองลิ้มรสอาหารท้องถิ่นของชาวบ้านได้จากร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
10. ศูนย์ศิลปะโทวาดะ Towada Art Center
photos by choo chin nian from flickr.com/photos/chinnian/27128888174(cc by 2.0)
ศูนย์ศิลปะโทวาดะ(Towada Art Center) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสะมัยในเมืองโทวาดะ ตั้งอยู่บนเส้นทางระหว่าง Hachinohe กับ Lake Towada เปิดให้เข้าชมในปี 2008 ภายในจัดแสดงนิทรรศการงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ และความเป็นเมือง รวมกว่า 20 ผลงานของศิลปินจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงศิลปิน Ron Mueck, Jeong Hwa Choi และ Yoko Ono
11. ตลาดปลาฟูรุคาวะ Furukawa Fish Market
Photo from https://www.flickr.com/photos/sodaigomi/28894369611/in/photostream/
https://www.flickr.com/photos/sodaigomi/28970770785/in/photostream/
ตลาดปลาฟูรุคาวะ(Furukawa Fish Market หรือ Aomori Gyosai Center) เป็นตลาดปลาที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอาโอโมริ เช่นเดียวกันกับตลาดปลาอาอูกะ(Auga Fish Market)ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือห่างออกไปบล็อคครึ่ง ภายในตลาดแห่งนี้จำหน่ายอาหารทะเลสดๆจากท้องถิ่น ผัดสดผักดองชนิดต่างๆ จุดพิเศษของตลาดปลาแห่งนี้ คือให้นักท่องเที่ยวได้สร้างสรรค์ข้าวดนบูริ(donburi ข้าวราดหน้าต่างๆ)ด้วยตนเอง เรียกว่า นกเคดน(nokkedon) จากอาหารทะเลตามฤดูกาลประจำท้องถิ่น ที่ขายอยู่ภายในตลาดเป็นประจำทุกวันที่ตลาดเปิด
เทศกาลสำคัญของอาโอโมริ
Photo from https://www.flickr.com/photos/yoandmi/4928278464
เทศกาลเนบูตะมัตสึริ(Nebuta Matsuri) เป็นงานเทศกาลที่จัดขึ้นในฤดูร้อนทั่วจังหวัดอาโอโมริเป็นประจำทุกปีตั้งแต่วันที่ 2-7 สิงหาคม ไฮไลท์ของงานเทศกาลคือขบวนพาเหรดโคมไฟขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยกลองใหญ่ไทโกะ พร้อมนักดนตรีและนักเต้น โดยแห่ไปรอบใจกลางเมืองอาโอโมริ ระยะทาง 3 กิโลเมตรเป็นประจำทุกคืน ยกเว้นในวันที่ 7 สิงหาคมซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงาน ขบวนแห่ที่ครึกครื้นจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย แล้วจะเคลื่อนขบวนลงเรือและแห่รอบอ่าวในช่วงเย็น หลังจากนั้นจะจุดดอกไม้ไฟเพื่อเฉลิมฉลองปิดเทศกาล
