23 ที่เที่ยวยอดฮิต ต้องไปในชูบุ Chubu ชมหมู่บ้านมรดกโลกชื่อดัง และธรรมชาติสุดอลังการของญี่ปุ่น 2567
Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Kawazuzakura_in_Izu_Peninsula,_Shizuoka_Prefecture;_February_2019_%2814%29.jpg
ชูบุ(Chubu) มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอยู่มากมายอยู่ติดกับภูมิภาคคันโต(Kanto)และภูมิภาคคันไซ(Kansai)มีเทือกเขาสูงชันทำให้เกิดสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันมากในภูมิภาคนี้ เช่น ส่วนที่ติดกับทะเลจะอบอุ่นแต่ในเทือกเขากลับมีหิมะหนาสูง 5 เมตร ประกอบไปด้วย 9 จังหวัดย่อย มีเมืองนาโงยะ(Nagoya)เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค
ภูมิภาคชุบุมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ธรรมชาติ ภูเขา ทะเล ไปจนถึงวัฒนธรรมและเทคโนโลยี สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ เช่น เทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่น ที่มีกำแพงหิมะหรือสโนว์วอลหนาสูงถึง 5 เมตร, ปราสาทมัตสึโมโต้ที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม, หมู่บ้านหลังคาโบราณชิราคาวะโกะ, สกีรีสอร์ท, ชายหาด และเมืองออนเซนอีกมากมาย ทำให้ชูบุสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปีเลย
1. สวนดอกไม้ Asahi Funakawa Spring Quartet ทิวลิปซากุระ
สวนดอกไม้ Asahi Funakawa Spring Quartet ทิวลิปซากุระ สวนแห่งนี้ไม่ได้มีตลอดทั้งปี แต่จะมีแค่ช่วงเดือนประมาณเดือนเมษายนเท่านั้น ซึ่งสวนแห่งนี้จะปลูกดอกทิวลิปและนาโนะฮานะซึ่งจะบานพร้อมๆกับดอกซากุระที่เรียงรายอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ และอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่นั่นก็คือวิวฉากหลังของเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะนั่นเอง ทำให้ในช่วงใบไม้ผลิของที่นี่มีวิวทิวทัศน์ที่อลังการสวยงามสุดๆ เพราะมีทั้งสีของทุ่งดอกทิวลิปตัดกับเหลืองของดอกฮานะโนะ สีชมพูของดอกซากุระ และก็วิวของเทือกเขาสีขาวปนเทา เป็นวิวที่ต้องได้มาเห็นสักครั้งจริงๆ
2. แม่น้ำคาวาซุ Kawazu River
แม่น้ำคาวาซุ (Kawazu River) อยู่ที่ Shizuoka ที่นี่จะมีต้นซากุระหนาแน่นเป็นพิเศษเรียงรายเป็นทางยาวประมาณ 4 กิโลเมตร และมีอายุกว่า 60 ปีแล้ว ทำให้จุดนี้ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจจะมาชมซากุระบานแบบอลังการริมน้ำกันอย่างมาก ระหว่างเส้นทางจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองหลายแห่ง ทั้งบ่อออนเซนเท้า ศาลเจ้าต้นการบูรยักษ์พันปี และวัดสำคัญของเมืองคาวาซุ เรียกได้ว่าได้ทั้งมาชมซากุระงามๆเห็นสีชมพูเบ่งบานยังไม่พอ ยังจะได้เดินเพลินๆแวะชมแหล่งท่องเที่ยวระหว่างทางได้อีกด้วย
3. อควาเรี่ยม ซี ไลฟ์ นาโงะยะ Sea Life Nagoya
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซีไลฟ์ นาโกย่า Sea Life Nagoya นั้นตั้งอยู่ภายใน LEGOLAND Japan Hotel นับว่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่มาเยือนนาโกย่าแล้วควรต้องได้แวะมาซักครั้ง เพราะไม่ได้เป็นเพียงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแบบทั่ว ๆ ไป แต่ยังเป็นเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำและมหาสมุทรทั่วโลกได้อย่างสนุกสนาน สามารถเรียนรู้วิธีชีวิตของเหล่าสัตว์น้ำนานาสายพันธุ์ผ่านสถานที่ต่าง ๆ กว่า 50 แห่งทั่วโลกที่จำลองมาไว้ในนี้ โดยแบ่งออกเป็น 11 โซนที่บอกเลยว่าว่าควรมาให้ครบเพราะไม่มีสไตล์ที่ไม่ซ้ำกันเลย
4. สวนสนุก ธีมพาร์ค จิบลิ พาร์ค (Ghibli Park)
5. เนินเขานิฮอนไดระ Nihondaira Plateau กับวิวฟูจิ
เนินเขานิฮอนไดระ Nihondaira Plateau หรือ Nihondaira Yume Terrace เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนยอดของ Nihondaira การออกแบบจุดชมวิวที่ทันสมัยนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Yumedono ทรงแปดเหลี่ยมหรือ The Hall of Dreams ที่วัด Horyu-ji ในนารา แต่ละส่วนของอาคารใช้ไม้และไม้ไผ่ สวนหินญี่ปุ่นภายในโครงสร้างนี้สามารถมองเห็นได้ผ่านหน้าต่างบานใหญ่ บริเวณชั้นสองมีระเบียงแปดเหลี่ยมพร้อมทิวทัศน์มุมกว้าง
6. หมู่บ้านฮิงาชิ ชายะ Higashi Chaya District
หมู่บ้านฮิงาชิ ชายะ(Higashi Chaya District) เป็นหนึ่งในหมู่บ้านโรงน้ำชา และแหล่งผลิตชาชายะ ในสมัยเอโดะเป็นสถานบันเทิงให้แขกผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินไปกับการร้องเพลงและเต้นรำของเกอิชา นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านอีก 2 แห่งที่คล้ายคลึงกับที่นี่ ได้แก่ นิชิ ชายะ(Nishi Chaya) และคาซุเอะ มาชิ ชายะ(Kazuemachi Chaya) โดยหมู่บ้านฮิงาชิ ชายะเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุด และน่าสนใจที่สุด
7. สวนลิงจิโกคุดานิ Jigokudani Monkey Park
สวนลิงจิโกคุดานิ(Jigokudani Monkey Park) ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาจิโกคุดานิ(Jigokudani valley) ในจังหวัดยามาโนอูจิ(Yamanouchi) เรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวแลนด์มากสุดปังที่ดังมากๆของที่นี่ก็ว่าได้นะคะ แบบว่าพูดถึงลิแช่ออนเซนปุ๊บภาพของที่นี่มันลอยขึ้นมาให้เห็นทันใด ถ้าอยากไปแช่ออนเซนฟินๆก็เดินทางมาต่อที่นี่สบายๆเลยล่ะค่ะ เพราะสวนแห่งนี้นั้นไม่ไกลจาก Shibu Onsen และ Yudanaka Onsen เท่าไรนัก โดยเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ลิงป่าลงมาอาบน้ำ และเป็นที่อยู่อาศัยของลิงหิมะชนิดนี้มาอย่างยาวนาน
8. ภูเขามิสึโทเกะ Mount Mitsutoge
ภูเขามิสึโทเกะ (Mount Mitsutoge) เป็นหนึ่งในภูเขาที่มีชื่อเสียง 200 อันดับแรกของญี่ปุ่น และเพิ่งได้รับการระบุว่าเป็นเส้นทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี บริเวณนี้เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่บูชาโดยผู้ที่นับถือชูเกนโดะตั้งแต่สมัยนาราเมื่อกว่า 1,000 ปีที่แล้ว
9. สะพานแขวนมิชิมะ (Mishima Sky Walk)
สะพานแขวนมิชิมะ (Mishima Sky Walk) หรือ มิชิมะ สกายวอล์ค เป็นจุดที่มีทิวทัศน์งดงามซึ่งเราสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากสะพานแขวนขนาดยักษ์ สะพานแขวนยาวที่สุดในญี่ปุ่น มีความยาวรวม 400 เมตร แนะนำให้มาช่วงเช้าหรือเย็น ภูเขาไฟฟูจิและมหาสมุทร (อ่าว Suruga) มีความสวยงามเป็นพิเศษในช่วง 9 โมงเช้าซึ่งเป็นช่วงที่มีอุณหภูมิต่ำ อีกทั้งยังสามารถเพลิดเพลินกับพระอาทิตย์ตกที่สวยงามตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์
10. เทศกาลศิลปะสมัยใหม่นานาชาติเอจิโกะ-สึมาริ – The Echigo-Tsumari Art Triennale
เทศกาลศิลปะสมัยใหม่นานาชาติเอจิโกะ-สึมาริ จังหวัดนีงาตะ (The Echigo-Tsumari Art Triennale) เทศกาลศิลปะที่จัดต่อเนื่องมายาวนานถึง 20 ปีด้วยกัน โดยจะจัดทุก ๆ 3 ปี หลังจากที่ถูกเลื่อนจากปีที่แล้ว มาปีนี้บอกเลยว่าปังกว่าเดิมทั้งศิลปินชื่อดังมากมายที่ต่างมาเพื่อสร้างสรรค์ผลงานใหม่มากถึง 200 ชิ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ รวมทั้งดื่มด่ำกับบรรยากาศสไตล์ชนบทที่แม้เรียบง่าย หากก็แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่เกินต้าน
11. สวนโออิชิ (Oishi Park) ดอกไม้วิวภูเขาไฟฟูจิ
สวนโออิชิ Oishi Park เป็นหนึ่งในจุดชมวิวยอดฮิตของภูเขาไฟฟูจิ เราสามารถเพลิดเพลินกับถนนดอกไม้ยาวถึง 350 เมตร ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม พรมสีชมพูของต้นฟลอกสมอสจะแผ่กระจายไปทั่ว ในเวลาเดียวกัน ดอกไม้ของทุ่งมัสตาร์ดเบ่งบาน และเราสามารถถ่ายภาพดอกไม้หลากสีสันโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นพื้นหลัง เดินไปตามถนนดอกไม้เพื่อชมภูเขาไฟฟูจิอันงดงาม เราจะรู้สึกผ่อนคลายและลืมเวลาไปได้เลย
12. เลโก้แลนด์ เจแปน รีสอร์ท (Legoland Japan Resort) สวนสนุกธีมเลโก้ สุดยิ่งใหญ่ ของญี่ปุ่น
เลโก้แลนด์ เจแปน รีสอร์ท (Legoland Japan Resort) นับเป็นสวนสนุกธีมเลโก้ กลางแจ้งสุดยิ่งใหญ่แห่งแรกในญี่ปุ่นที่จะพาไปสัมผัสกับโลกของเลโก้ในแบบที่สาวกตัวจริงไม่ควรพลาด! เรียกว่าเป็นสวนสนุกที่เหมาะจะมากันทั้งครอบครัว โดยเฉพาะเด็ก ๆ นี่น่าจะถูกใจแบบรัว ๆ จัดเต็มกับเครื่องเล่นสุดมันส์กว่า 40 เครื่อง พร้อมครบเครื่องกับ 8 โซนสุดมันส์หลากสไตล์ที่จะทำให้ทั้งวันกลายเป็นความทรงจำมหัศจรรย์ไปตลอดกาล
13. ทะเลสาบคาวากูจิโกะ Lake Kawaguchiko
ทะเลสาบคาวากูจิโกะ(Lake Kawaguchiko) เป็นทะเลสาบที่เดินทางไปถึงได้ง่ายที่สุดในบรรดา 5 ทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งมีการเชื่อมต่อจากโตเกียวด้วยรถไฟ และรถบัส พื้นที่บริเวณชายฝั่งทิศตะวันออกของทะเลสาบเป็นที่พัก และออนเซนที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามได้อย่างชัดเจน
14. หมู่บ้านน้ำศักดิ์สิทธิ์โอชิโนะฮักไก Oshino Hakkai
หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก(Oshino Hakkai) เป็นจุดท่องเที่ยวที่สร้างเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ประกอบด้วยบ่อน้ำ 8 บ่อในโอชิโนะ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากูจิโกะ(Lake Kawaguchiko) กับทะเลสาบยามานาคาโกะ(Lake Yamanakako) ซึ่งเป็นพื้นที่เก่าของทะเลสาบแห่งที่ 6 ที่แห้งขอดไปเมื่อ 200-300 ปีที่ผ่านมา บ่อน้ำทั้ง 8 นี้เป็นน้ำจากหิมะที่ละลายในช่วงฤดูร้อน ที่ไหลมาจากทางลาดใกล้ๆภูเขาไฟฟูจิผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนอายุกว่า 80 ปี ทำให้น้ำใสสะอาดเป็นพิเศษ
15. เจดีย์ชูเรโตะ Chureito Pagoda
เจดีย์ชูเรโตะ(Chureito Pagoda) เป็นเจดีย์ห้าชั้นบนเนินเขาที่สามารถมองเห็นเมืองฟูจิโยชิดะ(Fujiyoshida City) และภูเขาไฟฟูจิในระยะไกลได้อย่างชัดเจนและงดงาม เจดีย์นี้ตั้งอยู่บนศาลเจ้าอาราคุระเซนเกน(Arakura Sengen Shrine) ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสันติภาพปี 1963 ซึ่งจากตัวอาคารหลักของศาลเจ้าต้องขึ้นบันไดไปเกือบ 400 ขั้น
16. พิพิธภัณฑ์ศิลปะศตวรรษที่ 21 – 21st Century Museum
พิพิธภัณฑ์ศิลปะศตวรรษที่ 21(21st Century Museum of Contemporary Art) เปิดให้เข้าชมในปี 2004 ตั้งอยู่ในเมืองคานาซาว่าห่างจากสวนเค็นโรคุเอน(Kenrokuen)เพียงไม่กี่ก้าว ภายในจัดแสดงผลงานของศิลปินร่วมสมัยที่ได้รับรางวัลจากทั้งในประเทศญี่ปุ่นและจากทั่วโลก นับเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น
17. ปราสาท ชิบะตะ Shibata Castle Ruins Park
ปราสาทชิบาตะ(Shibata Castle)มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งใน 100 ปราสาทอันโดดเด่นของญี่ปุ่น รวมทั้งมีอาคารประตูทางเข้าหลัก และหอคอยปราสาท Ninomaru Sumiyagura ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น
18. สวนสนุกสุดอลังการ นางาชิมะ สปาแลนด์ Nagashima Spa Land
สวนสนุกนางาชิมะสปาแลนด์(Nagashima Spaland) เป็นสวนสนุกขึ้นชื่อว่าเป็นสวนสนุกที่มีรถไฟเหาะที่สนุกที่สุดที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีรถไฟเหาะสารพัดรูปแบบ ทั้งเล็ก ทั้งใหญ่ ทั้งสูง ทั้งแบบนั่ง แบบห้อย ให้เลือกความมันส์ นอกจากรถไฟเหาะยังมีเครื่องเล่นอื่นๆอีกว่า 40 ชนิด ทั้งสำหรับเด็กเล็ก และผู้ใหญ่ที่ชอบความตื่นเต้นท้าทาย จากทางเข้าประตูใหญ่จะพบรถไฟเหาะมังกรเหล็ก(Steel Dragon 2000) ซึ่งมีความยาวรอบสวนได้อย่างชัดเจน
19. พิพิธภัณฑ์โลกใบเล็กของมนุษย์ (Little World Museum of Man)
พิพิธภัณฑ์โลกใบเล็กของมนุษย์ (Little World Museum of Man) นับเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดไอจิ ที่บอกได้คำเดียวว่าเด็ด มาที่เดียวเหมือนได้เที่ยวรอบโลกมากกว่า 20 ประเทศ เพราะที่นี่เป็น เมืองจำลอง หรือพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรม การสื่อการ ความเชื่อ และอื่น ๆ ผ่านการนำเสนอที่หลากหลายทั้งรูปแบบนิทรรศการ ไปจนถึงการนำเอาศิลปินมาแสดงการร่ายรำ การเต้นระบำ การเล่นดนตรี ให้ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด แถมยังสามารถเปลี่ยนเป็นชุดชาติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส เยอรมัน เกาหลี ไปจนถึงชนพื้นเมืองโอกินาว่าได้ด้วยน้า อีกทั้งยังรวมเอาร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกหลากหลายประเทศทั่วโลกให้ได้ทั้งชิมและช้อปปิ้งกันแบบจุกๆ ไว้ในที่เดียว เรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เดินเพลินและอิ่มจุก มีแต่ความฟินและความสนุกพกกลับบ้าน
20. สวนสัตว์ และสวนพฤกษศาสตร์ฮิงาชิยามา
สวนสัตว์ และสวนพฤกษศาสตร์ ฮิงาชิยะมะ(Higashiyama Zoo & Botanical Garden) นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตของสายชิลแห่งเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ บอกเลยว่าเหมาะสำหรับทุกวันในครอบครัวมาทำกิจกรรมสนุก ๆ กันได้ทั้งวันอย่างไม่มีเบื่อ เพราะความอลังการของที่นี่นั้นเรียกได้ว่าเป็นอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นไปจนถึงระดับเอเชียกันเลยทีเดียว ถ้าอยากไปสวนสัตว์ สวนพฤกษศาสตร์ และหอคอยแต่ไม่อยากเดินทางไปหลายที่ให้เหนื่อย มาที่นี่เลยที่เดียวจบครบทั้งสามสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสวนสัตว์ที่มีให้ชมมากกว่า 500 สายพันธุ์ ที่จะมาอวดความน่ารักให้เหล่าคนมาเยี่ยมชมได้ใจบางกันรัวๆ โดยเฉพาะน้องๆโคอาล่าและกอริลลาที่บอกได้คำเดียวว่าคาวาอี
21. ปราสาทมัตสึโมโตะ Matsumoto Castle
22. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์พลังงานไฟฟ้าชูบุ
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์พลังงานไฟฟ้าชูบุ (Chubu Electric Power Science Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่จะทำให้การเรียนรู้ไม่มีคำว่าน่าเบื่ออีกต่อไป ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวเมืองนาโกย่าที่เป็นอันดับต้นๆ จะขาดที่นี่ไปไม่ได้เลยทีเดียว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทชูบุไฟฟ้า โดดเด่นด้วยตัวอาคารที่มีดีไซน์คล้ายๆลูกโลกแบบที่มาเห็นแต่ไกลแล้วเดินมาไม่มีหลงทาง