แนะนำ 12 ที่เที่ยว สวย ฮิต จังหวัด เฮียวโงะ 2567

top-places-hyogo

Sean Pavone/shutterstock.com


อัพเดตล่าสุดเมื่อ 6 กรกฎาคม 2567

 

เฮียวโงะ (Hyogo) อาจจะเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูของใครหลายๆคน แต่ถ้าพูดถึง เมืองโกเบ, ปราสาทฮิเมจิ หรือ คิโนะซากิออนเซ็น ก็คงจะร้องอ๋อกัน เพราะทั้งหมดนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดเฮียวโงะนี้นี่เอง โดยจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ ติดกับเมืองโอซาก้า และเกียวโต มีนครโคเบะ(Kobe)เป็นเมืองหลวง ภายในจังหวัดมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลากหลายรูปแบบ ทั้งทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นปราสาทที่งดงาม ศาลเจ้า เมืองท่าที่คึกคักไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ สถานบันเทิง น้ำตก สวนสาธารณะ จุดชมวิว หรือแม้แต่การแช่ออนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

เฮียวโงะเต็มไปด้วยเรื่อง ว้าวๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายและน่าตื่นตาตื่นใจ มีปราสาทที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก, เมืองบ่อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น หรือสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก นอกจากนี้ เฮียวโงะยังมีเทศกาลงานประดับไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ศูนย์วิจัยสัตว์ทะเลที่ใหญ่ที่สุด และเทศกาลดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ

หากกำลังคิดจะเดินทางมาเยือนเฮียวโงะ อยู่ละก็ ตามเรามาเลย เพราะนี่คือ 12 สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดของจังหวัดเฮียวโงะ

 

 

 

1. ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

Sean Pavone/shutterstock.com

Sean Pavone/shutterstock.com

Richie Chan/shutterstock.com

ปราสาทฮิเมจิ(Himeji) เป็นปราสาทที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในปราสาทที่งดงาม และมีความสำคัญที่สุดของญี่ปุ่น ตัวปราสาทออกแบบตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ตัวปราสาทเป็นอาคารสีขาวไข่มุก หลังคามีรูปรักษ์คล้ายปีกนกกระสาเวลาสยายปีกทำให้ที่นี่มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ปราสาทฮาคุโระ หรือปราสาทชิราซากิ ที่แปลได้ว่า “ปราสาทนกกระสาขาว” ในส่วนของภายในมีการออกแบบตกแต่งอย่างประณีตสวยงาม ทางเดินคดเคี้ยว และมีพื้นที่กว้างขวาง นอกจากนี้ที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก และเป็นสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่นอีกด้วย

– การเดินทาง จากสถานี ฮิเมจิมา ใช้เวลาเดินประมาณ 15-20 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/Y2fPCsX8UFQuQ3YM8

 

 

 

2. เกาะอะวาจิ (Awaji Island)

Sean Pavone/shutterstock.com

F.F.YSTW/shutterstock.com

Varts/shutterstock.com

Photo from https://www.facebook.com/nijigennomori

 

เกาะอะวาจิ (Awaji Island) ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของทะเลเซโตะใน และยังจัดเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้อีกด้วย สำหรับคำว่าอะวาจิ จะมีความหมายว่า “เส้นทางสู่อาวะ” โดยอาวะจะเป็นชื่อมณฑลเก่าแก่บนเกาะชิโกกุ แต่ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดโทคุชิมะ บนเกาะอะวาจิจะเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจหลายแห่ง รวมไปถึงสวนสาธารณะที่มีการออกแบบตกแต่งไว้อย่างสวยงาม สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็อย่างเช่น กระแสน้ำวนนารุโตะ, โบราณสถาน, สะพานแขวนที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก, พิพิธภัณฑ์พฤกษศาสตร์ คิเซะกิโนะโฮะชิ, ปราสาทซุโมะโตะ และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม นอกจากนี้บนเกาะยังมีอาหารพื้นเมืองที่มีความหลากหลายและขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อยที่นักชิมต้องห้ามพลาดกันอย่างเด็ดขาด

– การเดินทาง นั่งรถบัสจากสถานี Sannomiya ในเมืองโกเบ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที และ เช่ารถจากเมืองโอซาก้าหรือโกเบเดินทางมายังเกาะ

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/6KbNXLPNDS5tqYpB6

 

 

 

3. สวนโคโคะเอ็น (Koko-en)

Tiveman/shutterstock.com

Daniela Constantinescu/shutterstock.com

Tang Yan Song/shutterstock.com

สวนโคโคะเอ็น (Koko-en) เป็นสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่มีสไตล์การตกแต่งมาในแนวย้อนยุค เข้ามาเดินอาจรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในยุคเอโดะกันเลยทีเดียว และที่นี่ยังจัดเป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะภายในสวนเราจะสามารถชมความงามของปราสาทฮิเมจิได้อย่างชัดเจน สำหรับบรรยากาศด้านในจะแวดล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่และสระน้ำขนาดใหญ่ ช่วยให้อากาศเย็นสบาย เงียบสงบ และร่มรื่น นอกจากนี้ภายในสวนยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับความงดงามของธรรมชาติในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีอีกด้วย โดยด้านในสวนจะมีการแบ่งออกเป็นสวนย่อยๆ อีก 9 แห่ง แต่ละแห่งมีการตกแต่งที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น สวนย้อนยุคสไตล์เอโดะ และ สวนสำหรับพิธีชงชา เป็นต้น

– การเดินทาง จากสถานี ฮิเมจิมา ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/d9AoY4hLQKTEWhW8A

 

 

 

4. วัดเอ็นเกียวจิ (Shoshazan Engyoji Temple)

Tomonyan/shutterstock.com

Red Pagoda/shutterstock.com

beibaoke/shutterstock.com

beibaoke/shutterstock.com

วัดเอ็นเกียวจิ (Shoshazan Engyoji Temple) วัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี สร้างขึ้นตั้งแต่ในปี 966 โดยพระโชกุ โชนิน วัดตั้งอยู่บนยอดเขา โชซะ ((Mt.Shosha) ภายในวัดมีการออกแบบตกแต่งไว้อย่างสวยงาม รวมทั้งมีสถาปัตยกรรม และประติมากรรม หลายอย่างที่น่าสนใจ ที่ยังคงรูปแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น อาคารไม้ Daikodo, Jikido หรือ Jogyodo และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งรูปปั้นไม้ของ Shitenno ซึ่งจัดเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ภายในอาคาร Daikodo ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป และมีภาพจิตรกรรมให้เราได้ชมกันอีกด้วย ส่วนอาคาร Jikido จะเป็นอาคารสองชั้น บริเวณชั้นล่างเป็นห้องพักที่มีอยู่จำนวน 15 ห้อง ไว้สำหรับให้พระนักปฏิบัติธรรมได้ใช้พักผ่อน ส่วนชั้นบนเป็นที่ตั้งแสดงพระพุทธรูปโบราณที่ทำมาจากไม้และสำริด สำหรับอาคาร Jogyodo เป็นสถานที่ในการฝึกตนของพระสงฆ์ในสำนัก

– การเดินทาง ขึ้นรถบัส Shinki Bus สาย 8 ไปลงที่ Mount Shosha Ropeway ต่อด้วยการนั่งกระเช้าขึ้นไปบนภูเขาโซซะ

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/btFP1T1drmiiuM4p9

 

 

 

5. คิโนะซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen)

mokokomo/shutterstock.com

Rei Imagine/shutterstock.com

ketkata leejungphemphoon/shutterstock.com

Photo: Petr Meissner [CC BY 2.0] from flickr.com/photos/myneur/10796298533/

Photo from https://www.flickr.com/photos/kinosakionsen/26140201623

คิโนะซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen) ดินแดนออนเซ็นที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในย่านคันไซ ทางตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโงะ เป็นสถานที่ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ในสมัยนารา และมีชื่อเสียงเลื่องชื่อมากที่สุดในยุคเอโดะ ซึ่งยุคนั้นที่นี่ยังได้รับคำชมจาก “คากาวะ ชูโทคุ” นายแพทย์ผู้มีชื่อเสียงในช่วงนั้นด้วยว่า “คิโนะซากิออนเซ็นเป็นสุดยอดเมืองน้ำพุร้อนของญี่ปุ่น” ต่อมาในปี 1909 ได้มีการขยายเส้นทางรถไฟสายซันอิน (JR San’in Main Line) มาถึงที่นี่ ยิ่งทำให้เมืองคิโนะซากิได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ภายในเมืองยังมาพร้อมบรรยากาศย้อนยุค และมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม

– การเดินทาง จากสถานี JR Shin-Osaka ให้ขึ้นรถไฟ Limited Express Konotori ไปลงที่สถานี JR Kinosaki Onsen และหากมาจาก สถานี JR Osaka ให้ขึ้นรถไฟ Limited Express Konotori หรือ Limited Express Hamakaze ไปลงที่สถานี JR Kinosaki Onsen

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/6BvGddSzcfcbnrza8

 

 

 

6. โกเบพอร์ตทาวเวอร์ (Kobe Port Tower)

Sean Pavone/shutterstock.com

fotocrazy/shutterstock.com

LilyRosePhotos/shutterstock.com

Photo by Wei-Te Wong from flickr.com/photos/wongwt/34096510864/ [CC by-sa 2.0]

โกเบพอร์ตทาวเวอร์ (Kobe Port Tower) เป็นหอคอยที่มีความสูง 108 เมตร รูปทรงคล้ายนาฬิกาทราย ตั้งสูงตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองโกเบ ที่นี่ยังจัดเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองอีกด้วย สำหรับหอคอยแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย Nikken Sekkei บริษัทออกแบบที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ภายในอาคารมีจุดที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวตัวเมืองโกเบได้ทั่วทั้งเมือง นอกจากนี้บริเวณชั้น 3 ของหอคอยจะเป็นที่ตั้งของคาเฟ่ที่หมุนรอบตัวเองด้วยอัตราความเร็วที่ 20 นาทีต่อรอบ ทำให้หากเราไปนั่งอยู่บริเวณนั้นของคาเฟ่จะสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองโกเบได้แบบพาโนรามาเลยทีเดียว

– การเดินทาง จากสถานี Minatomotomachi จะใช้เวลาเดินมายังหอคอยประมาณ 10 นาที หรือใช้บริการรถบัส City loop

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/o7j2rfEvGpszpdXw9

 

 

 

7. ภูเขาคันนาเบะ (Mt. Kannabe)

CC by hashi photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Kannabe-kogen_panorama001.jpg

CC by 663highland from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:130914_Hattandaki_Waterfall_Toyooka_Hyogo_pref_Japan03s5.jpg

ภูเขาคันนาเบะ (Mt. Kannabe) เป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมมาในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะใครที่อยากสัมผัสกับหิมะ เพราะในช่วงเวลานั้นทั้งภูเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะจนขาวโพลน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาที่นี่มักจะเดินขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงปากปล่องภูเขาไฟ โดยบริเวณนั้นจะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นอย่างมาก รวมไปถึงการเล่นสกี ที่นี่จะมีลานสกีเปิดให้บริการหลายแห่ง และถ้าใครเป็นมือใหม่เขาก็มีคลาสสอนการเล่นสกีเปิดให้บริการอีกด้วย

– การเดินทาง จากสถานี Ebara ขึ้นรถบัส Zentan ที่มุ่งหน้าไปยังคันนาเบะ โดยลงที่ป้าย Kannabe Kougen Yutorogi ที่ไป Up Kannabe หรือป้ายรถบัส Yamata ที่ไป Oku Kannabe

– ที่ตั้ง Mt. Kannabeyama, Hidaka-cho, Toyooka-shi, Hyogo, Japan

– เวลาเปิดทำการ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00 – 17:00 น.

– ค่าบริการ หากสนใจเล่นสกีแต่ละแห่งจะมีค่าบริการแตกต่างกัน โดยจะอยู่ที่ประมาณ ผู้ใหญ่ 4,500 เยน และ เด็ก 2,800 เยน

– เว็บไซต์ http://www.kannabe.co.jp/

– Facebook Page https://www.facebook.com/upkannabe

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/DthpNM8NLMuqeamt6

 

 

 

8. เมืองปราสาทอิซุชิ (Izushi Castle Town)

beeboys/shutterstock.com

beeboys/shutterstock.com

beeboys/shutterstock.com

เมืองปราสาทอิซุชิ (Izushi Castle Town) ในอดีตเมื่อประมาณ 300 ปี ที่ผ่านมา ในสมัยเอโดะ เมืองปราสาทอิซุชิ จัดได้ว่าเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันที่นี่มีการจัดแสดงสถาปัตยกรรมที่มีรูปแบบดั้งเดิมให้นักท่องเที่ยวที่สนใจได้เข้าชมกัน อาทิเช่น ซากปราสาทอิซุชิ หอนาฬิกาเก่าชินโคโร และ ศาลเจ้าเก่าแก่ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ที่นี่จึงถูกจัดให้เป็นเขตอนุรักษ์อาคารแห่งชาติ โดยปราสาทอิซุชิ สร้างขึ้นในปี 1604 เป็นปราสาทที่ได้รับการดูแลจากเหล่าซามูไรที่เคยพำนักอยู่ที่นี่ในอดีต ที่นี่จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์มากมาย และนอกจากโบราณสถานแล้วเมนูโซบะของที่นี่ก็มีชื่อไม่แพ้กัน โดยจะเป็นโซบะแบบดั้งเดิมที่ทำสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน มีชื่อเรียกว่า ซาระโซบะ ใครเดินทางมาที่นี่บอกได้เลยว่าต้องห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด

– การเดินทาง จากสถานีรถไฟ Toyooka Station ให้นั่งรถบัส Zentan ไปลงยังป้าย Izushi ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/X9Gh8GiaTbKDGHWd7

 

 

 

9. ศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta-jinja Shrine)

beeboys/shutterstock.com

cowardlion/shutterstock.com

Sean Pavone/shutterstock.com

Sanga Park/shutterstock.com

ศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta-jinja Shrine) ศาลเจ้าในลัทธิชินโตที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงของเมืองโกเบ มีการคาดการณ์กันว่าศาลเจ้าแห่งนี้มีอายุกว่าสองพันปี โดยสันนิษฐานจากบันทึกนิฮงโชกิ ที่ระบุว่าศาลเจ้าสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดินีจิงงุ ในคริสต์ศตวรรษที่ 3 นอกจากนี้ภายในศาลเจ้ายังเป็นที่ประดิษฐานของเทพธิดาที่มีชื่อว่า วาคะฮิรุเมะมิโนะมิโคโตะ รอบบริเวณเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมที่งดงาม นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ในการทำพิธีสำคัญๆ ทางศาสนา และงานเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลต่างๆ และด้วยที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง การเดินทางสะดวก ทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย

– การเดินทาง ศาลเจ้าตั้งอยู่ห่างจากสถานี Sannomiya เพียง 250 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 5-10 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/vh8zRVggQn1sJbd29

 

 

 

10. อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen)

Puripat Lertpunyaroj/shutterstock.com

Sean Pavone/shutterstock.com

Sann von Mai/shutterstock.com

 

อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen) เมืองน้ำพุร้อน ที่ตั้งอยู่ในเมืองโกเบ ตรงข้ามกับภูเขา Rokko และยังเป็นเมืองออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย สำหรับน้ำพุร้อนภายในเมืองจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ บ่อคินเซ็น (Kinsen) น้ำสีทอง โดยน้ำในบ่อแห่งนี้จะมีสีคล้ายกับสีทอง ที่เกิดจากส่วนผสมของคราบเหล็กและเกลือในน้ำ ที่มีสรรพคุณในการช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ช่วยรักษารอยแผลเป็นและแผลน้ำร้อนลวก ส่วนอีกบ่อจะเป็น บ่อกินเซ็น (Ginsen) น้ำสีเงิน ภายในน้ำจะมีส่วนผสมของธาตุเรเดียมและคาร์บอเนต ที่ว่ากันว่ามีสรรพคุณในการช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ กระตุ้นเซลล์ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟใต้ดินจากสถานี Sannomiya หรือ Shin-Kobe ไปยัง Tanigami จากนั้นต่อรถไฟสาย Shintetsu Arima-Sanda ไปยัง Arima-guchi ต่อด้วยรถไฟสาย Arima ไปลงที่สถานี Arima Onsen

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/hVKfj4UvfaeJQiyF9

 

 

 

11. สะพานอาคาชิไคเคียว (Akashi-Kaikyo Bridge)

Photo by HENG FU MING from flickr.com/photos/58362996@N04/15465109359/ [CC by 2.0]

สะพานอาคาชิไคเคียว (Akashi-Kaikyo Bridge) จัดเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก โดยมีความยาวถึง 3,991 เมตร และมีระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร สะพานเชื่อมต่อระหว่างเมืองโกเบและเมืองอิวายะที่ตั้งอยู่บนเกาะอาวาจิ และยังเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงฮอนชู–ชิโกกุ (Honshu–Shikoku) สะพานเริ่มก่อสร้างในปี 1986 และ แล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 1998 การเดินทางมาท่องเที่ยวสะพานแห่งนี้ นอกจากการขึ้นไปเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์ที่อยู่โดยรอบสะพานแล้ว บนสะพานยังมีจุดชมวิวที่มีชื่อว่า Maiko Marine Promenade รวมทั้งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะปีนขึ้นไปด้านบนสุดของสะพานที่มีความสูงถึง 300 เมตร ได้อีกด้วย ส่วนในเวลาค่ำคืนบนสะพานจะมีไฟส่องสว่างมากถึง 1,600 ดวง ที่มองดูระยิบระยับและสวยงามเป็นอย่างมาก

– การเดินทาง จากตัวเมืองโกเบให้นั่งรถไฟสาย Sanyo Line มาลงที่สถานี Maikokoen Station หรือจากสถานี Maiko ไปยัง Akashi-Kaikyo Bridge Exhibition Center

– ที่ตั้ง 4-115 Higashi-Maiko-cho, Tarumi-ku, Kobe, Hyogo, Japan

– เวลาเปิดทำการ เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

– ค่าบริการ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม

– เว็บไซต์ https://www.japan.travel/en/spot/1049/

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/QrD3BVoRPXRjqWSE9

 

 

 

12. กระเช้าลอยฟ้า โกเบ นุโนะบิคิ (Kobe Nunobiki Ropeway)

Photo by Manish Prabhune from flickr.com/photos/suzumenonamida/8227121820/ [CC by 2.0]

Photo by 663highland from commons.wikimedia.org/wiki/File:121208_Nunobiki_Herb_Garden_Kobe_Hyogo_pref_Japan01s3.jpg [CC by 2.5]

กระเช้าลอยฟ้า โกเบ นุโนะบิคิ (Kobe Nunobiki Ropeway) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของภูเขา Rokko โดยที่นี่จะมีกระเช้าลอยฟ้าให้เราเลือกขึ้นได้อยู่ด้วยกันสามแห่ง รวมไปถึงที่โกเบนุโนะบิคิ ซึ่งมีจุดขึ้นกระเช้าอยู่ไม่ไกลจากสถานี Shin-Kobe มากนัก ในระหว่างการขึ้นกระเช้านักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามของโกเบได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะน้ำตกนุโนะบิคิ และ สวนสมุนไพรโกเบนูโนบิกิ ซึ่งเป็นสวนสมุนไพรและสวนดอกไม้ นอกจากนี้ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เรายังสามารถชมวิวใบไม้ที่มีสีสันสวยงามแปลกตาได้จากมุมสูง รับรองได้เลยว่าจะเป็นภาพที่ทำให้รู้สึกประทับใจไปอีกนาน

– การเดินทาง ใช้เวลาเดินจากสถานี Shin-Kobe ประมาณ 18 นาที หรือนั่งแท็กซี่ใช้เวลาประมาณ 5 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/CHCwvFQav9Yb3H4X6

 

 

 

เรื่องชวน ว้าว ของ จังหวัดเฮียวโงะ

1. ปราสาทที่สมบูรณ์ที่สุดในญี่ปุ่น – Himeji Castle (ปราสาทฮิเมจิ)

ปราสาทฮิเมจิเป็นหนึ่งในปราสาทที่สมบูรณ์และงดงามที่สุดในญี่ปุ่น ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เป็นที่รู้จักในชื่อ “ปราสาทนกกระยางขาว” เนื่องจากมีโครงสร้างสีขาวและรูปทรงที่สวยงาม

2. โรงงานผลิตของเล่นที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น – Kobe Toyopet (โรงงานของเล่นโกเบ โตโยเปต)

โรงงานของเล่นโกเบ โตโยเปต เป็นโรงงานผลิตของเล่นที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีการผลิตของเล่นหลายประเภทและเป็นที่รู้จักในวงการของเล่นทั่วโลก นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมโรงงานและสัมผัสประสบการณ์การผลิตของเล่นได้

3. เมืองบ่อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น – Arima Onsen (อาริมะ ออนเซ็น)

อาริมะ ออนเซ็น เป็นเมืองบ่อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี น้ำพุร้อนที่นี่มีคุณสมบัติทางการแพทย์ที่ดีต่อสุขภาพ และมีบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายให้เลือกใช้งาน

4. สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก – Akashi Kaikyo Bridge (สะพานอาคาชิไคเคียว)

สะพานอาคาชิไคเคียวเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาวถึง 3,911 เมตร เชื่อมระหว่างเมืองโกเบกับเกาะอาวาจิ เป็นสิ่งก่อสร้างที่น่าทึ่งและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเฮียวโงะ

5. เทศกาลประดับไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น – Kobe Luminarie (เทศกาลโคเบะ ลูมินารี่)

เทศกาลโคเบะ ลูมินารี่ เป็นเทศกาลประดับไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จัดขึ้นทุกปีในเดือนธันวาคม มีการประดับไฟฟ้าหลากสีสันที่สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกและงดงามในย่านเมืองโกเบ

6. ศูนย์วิจัยสัตว์ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น – Suma Aqualife Park Kobe (สวนสัตว์น้ำสุมะ)

สวนสัตว์น้ำสุมะเป็นศูนย์วิจัยและแสดงสัตว์ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด และมีการแสดงการแสดงสัตว์น้ำที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตใต้ทะเลได้ที่นี่

7. เมืองท่าเรือที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น – Port of Kobe (ท่าเรือโกเบ)

ท่าเรือโกเบเป็นหนึ่งในเมืองท่าเรือที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์การค้าและการเดินเรือที่ยาวนาน ท่าเรือโกเบยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น หอคอยโกเบ และพิพิธภัณฑ์การเดินเรือโกเบ

8. เมืองแห่งการผลิตเหล้าสาเกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น – Nada District (ย่านนดะ)

ย่านนดะในเมืองโกเบเป็นแหล่งผลิตเหล้าสาเกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีโรงงานผลิตเหล้าสาเกหลายแห่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมและชิมเหล้าสาเกคุณภาพสูง

9. สวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น – Himeji Central Park (สวนสนุกฮิเมจิ เซ็นทรัลพาร์ค)

สวนสนุกฮิเมจิ เซ็นทรัลพาร์คเป็นสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีเครื่องเล่นหลากหลายและสวนสัตว์ที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ได้ที่นี่

10. เมืองที่มีการจัดงานดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุด – Kobe Fireworks Festival (เทศกาลดอกไม้ไฟโกเบ)

เทศกาลดอกไม้ไฟโกเบเป็นงานดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จัดขึ้นในฤดูร้อน มีการแสดงดอกไม้ไฟที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจบนท้องฟ้าเหนือเมืองโกเบ

 

 

 

การเดินทางไปและกลับจากเมืองหลักอื่นๆ ในญี่ปุ่น

จังหวัดเฮียวโงะตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการเดินทางไปและกลับจากเมืองใหญ่ๆ และเมืองใกล้เคียงอื่นๆ ในญี่ปุ่น

จากโตเกียว

โดยรถไฟชินคันเซ็น: ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที จากสถานีโตเกียวถึงสถานีชินโกเบ ด้วยรถไฟชินคันเซ็นสาย Tokaido-Sanyo

โดยเครื่องบิน: มีเที่ยวบินตรงจากสนามบินฮาเนดะไปยังสนามบินโกเบ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที

จากโอซาก้า

โดยรถไฟ: ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที จากสถานีโอซาก้าถึงสถานีโกเบ ด้วยรถไฟสาย JR Kobe Line หรือ Hanshin Line

โดยรถบัส: มีรถบัสหลายสายให้บริการจากโอซาก้าถึงโกเบ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

จากเกียวโต

โดยรถไฟ: ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที จากสถานีเกียวโตถึงสถานีโกเบ ด้วยรถไฟสาย JR Special Rapid Service

โดยรถบัส: มีรถบัสให้บริการจากเกียวโตไปยังโกเบ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

 

 

 

ภาพรวมสภาพอากาศสำหรับจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo)

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)

  • อุณหภูมิ: 10°C ถึง 20°C
  • รายละเอียด: อากาศเย็นสบาย ดอกซากุระ (Sakura) บาน

ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)

  • อุณหภูมิ: 20°C ถึง 30°C
  • รายละเอียด: ร้อนและชื้น ฝนตกเป็นครั้งคราว

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)

  • อุณหภูมิ: 15°C ถึง 25°C
  • รายละเอียด: อากาศเย็นสบาย ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม

ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)

  • อุณหภูมิ: 0°C ถึง 10°C
  • รายละเอียด: หนาว แต่ไม่รุนแรง หิมะตกน้อย

เที่ยวเฮียวโงะ (Hyogo) ช่วงไหนดีที่สุด

ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) และฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) เนื่องจากอากาศเย็นสบายกำลังดีและมีบรรยากาศที่สวยงาม

 

 

 

เทศกาลและงานใหญ่ในจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo)

1. เทศกาลสู้กันของศาลเจ้ามัตสึบาระฮาจิมัน (Matsubara Hachiman Shrine Fighting Festival)

  • เวลา: ตุลาคม
  • สถานที่: ศาลเจ้ามัตสึบาระฮาจิมัน (Matsubara Hachiman Shrine), ฮิเมจิ (Himeji)
  • รายละเอียด: ทีมผู้ชายยกมิโคชิ (Mikoshi) และชนกัน สื่อถึงความแข็งแกร่งและความกล้า

2. งานประดับไฟโกเบลูมิแนเรีย (Kobe Luminarie)

  • เวลา: ธันวาคม
  • สถานที่: โกเบ (Kobe)
  • รายละเอียด: งานประดับไฟเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวใหญ่โกเบปี 1995

3. ชมดอกซากุระที่ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle Cherry Blossom Viewing)

  • เวลา: ต้นเดือนเมษายน
  • สถานที่: ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)
  • รายละเอียด: ดอกซากุระบานรอบปราสาทฮิเมจิ เหมาะสำหรับปิกนิก

4. เทศกาลแจ๊สโกเบ (Kobe Jazz Street)

  • เวลา: ตุลาคม
  • สถานที่: ย่านคิตาโนะ (Kitano), โกเบ (Kobe)
  • รายละเอียด: นักดนตรีแจ๊สจากทั่วโลกมาร่วมแสดง

5. เทศกาลใบไม้ร่วงอาริมะออนเซ็น (Arima Onsen Autumn Leaves Festival)

  • เวลา: พฤศจิกายน
  • สถานที่: อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen), โกเบ (Kobe)
  • รายละเอียด: ฉลองความสวยงามของใบไม้ร่วงในเมืองออนเซ็น

6. เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงของศาลเจ้าสุโมโตะฮาจิมัน (Sumoto Hachiman Shrine Autumn Festival)

  • เวลา: ตุลาคม
  • สถานที่: ซูโมโตะ (Sumoto), เกาะอาวาจิ (Awaji Island)
  • รายละเอียด: ขบวนแห่รถดันจิริ (Danjiri) และการแสดงดนตรีและการเต้นรำ

7. งานฉลองตรุษจีนในนังคินมาชิ (Chinese New Year Celebration in Nankinmachi)

  • เวลา: มกราคมหรือกุมภาพันธ์
  • สถานที่: นังคินมาชิ (Nankinmachi), โกเบ (Kobe)
  • รายละเอียด: การเต้นรำมังกรและสิงโต อาหารริมทาง

8. มาราธอนสะพานอาคาชิไคเคียว (Akashi Kaikyo Marathon)

  • เวลา: พฤศจิกายน
  • สถานที่: อาคาชิ (Akashi)
  • รายละเอียด: เส้นทางวิ่งสวยงามริมทะเล มองเห็นสะพานอาคาชิไคเคียว (Akashi Kaikyo Bridge)

9. เทศกาลดอกไม้ไฟฤดูหนาวคิโนซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen Winter Fireworks)

  • เวลา: ธันวาคมถึงกุมภาพันธ์
  • สถานที่: คิโนซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen)
  • รายละเอียด: การแสดงดอกไม้ไฟในฤดูหนาว ขณะอาบน้ำพุร้อน

 


Exit mobile version