แนะนำ 12 ที่เที่ยว สวย ฮิต จังหวัด เฮียวโงะ 2567
Sean Pavone/shutterstock.com
เฮียวโงะ (Hyogo) อาจจะเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูของใครหลายๆคน แต่ถ้าพูดถึง เมืองโกเบ, ปราสาทฮิเมจิ หรือ คิโนะซากิออนเซ็น ก็คงจะร้องอ๋อกัน เพราะทั้งหมดนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดเฮียวโงะนี้นี่เอง โดยจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ ติดกับเมืองโอซาก้า และเกียวโต มีนครโคเบะ(Kobe)เป็นเมืองหลวง ภายในจังหวัดมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลากหลายรูปแบบ ทั้งทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นปราสาทที่งดงาม ศาลเจ้า เมืองท่าที่คึกคักไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ สถานบันเทิง น้ำตก สวนสาธารณะ จุดชมวิว หรือแม้แต่การแช่ออนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
เฮียวโงะเต็มไปด้วยเรื่อง ว้าวๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายและน่าตื่นตาตื่นใจ มีปราสาทที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก, เมืองบ่อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น หรือสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก นอกจากนี้ เฮียวโงะยังมีเทศกาลงานประดับไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ศูนย์วิจัยสัตว์ทะเลที่ใหญ่ที่สุด และเทศกาลดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ
หากกำลังคิดจะเดินทางมาเยือนเฮียวโงะ อยู่ละก็ ตามเรามาเลย เพราะนี่คือ 12 สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดของจังหวัดเฮียวโงะ
1. ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)
ปราสาทฮิเมจิ(Himeji) เป็นปราสาทที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในปราสาทที่งดงาม และมีความสำคัญที่สุดของญี่ปุ่น ตัวปราสาทออกแบบตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ตัวปราสาทเป็นอาคารสีขาวไข่มุก หลังคามีรูปรักษ์คล้ายปีกนกกระสาเวลาสยายปีกทำให้ที่นี่มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ปราสาทฮาคุโระ หรือปราสาทชิราซากิ ที่แปลได้ว่า “ปราสาทนกกระสาขาว” ในส่วนของภายในมีการออกแบบตกแต่งอย่างประณีตสวยงาม ทางเดินคดเคี้ยว และมีพื้นที่กว้างขวาง นอกจากนี้ที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก และเป็นสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่นอีกด้วย
– การเดินทาง จากสถานี ฮิเมจิมา ใช้เวลาเดินประมาณ 15-20 นาที
– พิกัด https://maps.app.goo.gl/Y2fPCsX8UFQuQ3YM8
2. เกาะอะวาจิ (Awaji Island)
เกาะอะวาจิ (Awaji Island) ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของทะเลเซโตะใน และยังจัดเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้อีกด้วย สำหรับคำว่าอะวาจิ จะมีความหมายว่า “เส้นทางสู่อาวะ” โดยอาวะจะเป็นชื่อมณฑลเก่าแก่บนเกาะชิโกกุ แต่ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดโทคุชิมะ บนเกาะอะวาจิจะเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจหลายแห่ง รวมไปถึงสวนสาธารณะที่มีการออกแบบตกแต่งไว้อย่างสวยงาม สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็อย่างเช่น กระแสน้ำวนนารุโตะ, โบราณสถาน, สะพานแขวนที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก, พิพิธภัณฑ์พฤกษศาสตร์ คิเซะกิโนะโฮะชิ, ปราสาทซุโมะโตะ และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม นอกจากนี้บนเกาะยังมีอาหารพื้นเมืองที่มีความหลากหลายและขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อยที่นักชิมต้องห้ามพลาดกันอย่างเด็ดขาด
– การเดินทาง นั่งรถบัสจากสถานี Sannomiya ในเมืองโกเบ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที และ เช่ารถจากเมืองโอซาก้าหรือโกเบเดินทางมายังเกาะ
– พิกัด https://maps.app.goo.gl/6KbNXLPNDS5tqYpB6
3. สวนโคโคะเอ็น (Koko-en)
สวนโคโคะเอ็น (Koko-en) เป็นสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่มีสไตล์การตกแต่งมาในแนวย้อนยุค เข้ามาเดินอาจรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในยุคเอโดะกันเลยทีเดียว และที่นี่ยังจัดเป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะภายในสวนเราจะสามารถชมความงามของปราสาทฮิเมจิได้อย่างชัดเจน สำหรับบรรยากาศด้านในจะแวดล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่และสระน้ำขนาดใหญ่ ช่วยให้อากาศเย็นสบาย เงียบสงบ และร่มรื่น นอกจากนี้ภายในสวนยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับความงดงามของธรรมชาติในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีอีกด้วย โดยด้านในสวนจะมีการแบ่งออกเป็นสวนย่อยๆ อีก 9 แห่ง แต่ละแห่งมีการตกแต่งที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น สวนย้อนยุคสไตล์เอโดะ และ สวนสำหรับพิธีชงชา เป็นต้น
– การเดินทาง จากสถานี ฮิเมจิมา ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที
– พิกัด https://maps.app.goo.gl/d9AoY4hLQKTEWhW8A
4. วัดเอ็นเกียวจิ (Shoshazan Engyoji Temple)
วัดเอ็นเกียวจิ (Shoshazan Engyoji Temple) วัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี สร้างขึ้นตั้งแต่ในปี 966 โดยพระโชกุ โชนิน วัดตั้งอยู่บนยอดเขา โชซะ ((Mt.Shosha) ภายในวัดมีการออกแบบตกแต่งไว้อย่างสวยงาม รวมทั้งมีสถาปัตยกรรม และประติมากรรม หลายอย่างที่น่าสนใจ ที่ยังคงรูปแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น อาคารไม้ Daikodo, Jikido หรือ Jogyodo และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งรูปปั้นไม้ของ Shitenno ซึ่งจัดเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ภายในอาคาร Daikodo ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป และมีภาพจิตรกรรมให้เราได้ชมกันอีกด้วย ส่วนอาคาร Jikido จะเป็นอาคารสองชั้น บริเวณชั้นล่างเป็นห้องพักที่มีอยู่จำนวน 15 ห้อง ไว้สำหรับให้พระนักปฏิบัติธรรมได้ใช้พักผ่อน ส่วนชั้นบนเป็นที่ตั้งแสดงพระพุทธรูปโบราณที่ทำมาจากไม้และสำริด สำหรับอาคาร Jogyodo เป็นสถานที่ในการฝึกตนของพระสงฆ์ในสำนัก
– การเดินทาง ขึ้นรถบัส Shinki Bus สาย 8 ไปลงที่ Mount Shosha Ropeway ต่อด้วยการนั่งกระเช้าขึ้นไปบนภูเขาโซซะ
– พิกัด https://maps.app.goo.gl/btFP1T1drmiiuM4p9
5. คิโนะซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen)
คิโนะซากิ ออนเซ็น (Kinosaki Onsen) ดินแดนออนเซ็นที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในย่านคันไซ ทางตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโงะ เป็นสถานที่ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ในสมัยนารา และมีชื่อเสียงเลื่องชื่อมากที่สุดในยุคเอโดะ ซึ่งยุคนั้นที่นี่ยังได้รับคำชมจาก “คากาวะ ชูโทคุ” นายแพทย์ผู้มีชื่อเสียงในช่วงนั้นด้วยว่า “คิโนะซากิออนเซ็นเป็นสุดยอดเมืองน้ำพุร้อนของญี่ปุ่น” ต่อมาในปี 1909 ได้มีการขยายเส้นทางรถไฟสายซันอิน (JR San’in Main Line) มาถึงที่นี่ ยิ่งทำให้เมืองคิโนะซากิได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ภายในเมืองยังมาพร้อมบรรยากาศย้อนยุค และมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
– การเดินทาง จากสถานี JR Shin-Osaka ให้ขึ้นรถไฟ Limited Express Konotori ไปลงที่สถานี JR Kinosaki Onsen และหากมาจาก สถานี JR Osaka ให้ขึ้นรถไฟ Limited Express Konotori หรือ Limited Express Hamakaze ไปลงที่สถานี JR Kinosaki Onsen
– พิกัด https://maps.app.goo.gl/6BvGddSzcfcbnrza8
6. โกเบพอร์ตทาวเวอร์ (Kobe Port Tower)
– การเดินทาง จากสถานี Minatomotomachi จะใช้เวลาเดินมายังหอคอยประมาณ 10 นาที หรือใช้บริการรถบัส City loop
– พิกัด https://maps.app.goo.gl/o7j2rfEvGpszpdXw9
7. ภูเขาคันนาเบะ (Mt. Kannabe)
ภูเขาคันนาเบะ (Mt. Kannabe) เป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมมาในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะใครที่อยากสัมผัสกับหิมะ เพราะในช่วงเวลานั้นทั้งภูเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะจนขาวโพลน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาที่นี่มักจะเดินขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงปากปล่องภูเขาไฟ โดยบริเวณนั้นจะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นอย่างมาก รวมไปถึงการเล่นสกี ที่นี่จะมีลานสกีเปิดให้บริการหลายแห่ง และถ้าใครเป็นมือใหม่เขาก็มีคลาสสอนการเล่นสกีเปิดให้บริการอีกด้วย
– การเดินทาง จากสถานี Ebara ขึ้นรถบัส Zentan ที่มุ่งหน้าไปยังคันนาเบะ โดยลงที่ป้าย Kannabe Kougen Yutorogi ที่ไป Up Kannabe หรือป้ายรถบัส Yamata ที่ไป Oku Kannabe
– ที่ตั้ง Mt. Kannabeyama, Hidaka-cho, Toyooka-shi, Hyogo, Japan
– เวลาเปิดทำการ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00 – 17:00 น.
– ค่าบริการ หากสนใจเล่นสกีแต่ละแห่งจะมีค่าบริการแตกต่างกัน โดยจะอยู่ที่ประมาณ ผู้ใหญ่ 4,500 เยน และ เด็ก 2,800 เยน
– เว็บไซต์ http://www.kannabe.co.jp/
– Facebook Page https://www.facebook.com/upkannabe
– พิกัด https://maps.app.goo.gl/DthpNM8NLMuqeamt6
8. เมืองปราสาทอิซุชิ (Izushi Castle Town)
เมืองปราสาทอิซุชิ (Izushi Castle Town) ในอดีตเมื่อประมาณ 300 ปี ที่ผ่านมา ในสมัยเอโดะ เมืองปราสาทอิซุชิ จัดได้ว่าเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันที่นี่มีการจัดแสดงสถาปัตยกรรมที่มีรูปแบบดั้งเดิมให้นักท่องเที่ยวที่สนใจได้เข้าชมกัน อาทิเช่น ซากปราสาทอิซุชิ หอนาฬิกาเก่าชินโคโร และ ศาลเจ้าเก่าแก่ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ที่นี่จึงถูกจัดให้เป็นเขตอนุรักษ์อาคารแห่งชาติ โดยปราสาทอิซุชิ สร้างขึ้นในปี 1604 เป็นปราสาทที่ได้รับการดูแลจากเหล่าซามูไรที่เคยพำนักอยู่ที่นี่ในอดีต ที่นี่จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์มากมาย และนอกจากโบราณสถานแล้วเมนูโซบะของที่นี่ก็มีชื่อไม่แพ้กัน โดยจะเป็นโซบะแบบดั้งเดิมที่ทำสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน มีชื่อเรียกว่า ซาระโซบะ ใครเดินทางมาที่นี่บอกได้เลยว่าต้องห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด
– การเดินทาง จากสถานีรถไฟ Toyooka Station ให้นั่งรถบัส Zentan ไปลงยังป้าย Izushi ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาที
– พิกัด https://maps.app.goo.gl/X9Gh8GiaTbKDGHWd7
9. ศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta-jinja Shrine)
ศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta-jinja Shrine) ศาลเจ้าในลัทธิชินโตที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงของเมืองโกเบ มีการคาดการณ์กันว่าศาลเจ้าแห่งนี้มีอายุกว่าสองพันปี โดยสันนิษฐานจากบันทึกนิฮงโชกิ ที่ระบุว่าศาลเจ้าสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดินีจิงงุ ในคริสต์ศตวรรษที่ 3 นอกจากนี้ภายในศาลเจ้ายังเป็นที่ประดิษฐานของเทพธิดาที่มีชื่อว่า วาคะฮิรุเมะมิโนะมิโคโตะ รอบบริเวณเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมที่งดงาม นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ในการทำพิธีสำคัญๆ ทางศาสนา และงานเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลต่างๆ และด้วยที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง การเดินทางสะดวก ทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย
– การเดินทาง ศาลเจ้าตั้งอยู่ห่างจากสถานี Sannomiya เพียง 250 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 5-10 นาที
– พิกัด https://maps.app.goo.gl/vh8zRVggQn1sJbd29
10. อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen)
อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen) เมืองน้ำพุร้อน ที่ตั้งอยู่ในเมืองโกเบ ตรงข้ามกับภูเขา Rokko และยังเป็นเมืองออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย สำหรับน้ำพุร้อนภายในเมืองจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ บ่อคินเซ็น (Kinsen) น้ำสีทอง โดยน้ำในบ่อแห่งนี้จะมีสีคล้ายกับสีทอง ที่เกิดจากส่วนผสมของคราบเหล็กและเกลือในน้ำ ที่มีสรรพคุณในการช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ช่วยรักษารอยแผลเป็นและแผลน้ำร้อนลวก ส่วนอีกบ่อจะเป็น บ่อกินเซ็น (Ginsen) น้ำสีเงิน ภายในน้ำจะมีส่วนผสมของธาตุเรเดียมและคาร์บอเนต ที่ว่ากันว่ามีสรรพคุณในการช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ กระตุ้นเซลล์ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
– การเดินทาง ขึ้นรถไฟใต้ดินจากสถานี Sannomiya หรือ Shin-Kobe ไปยัง Tanigami จากนั้นต่อรถไฟสาย Shintetsu Arima-Sanda ไปยัง Arima-guchi ต่อด้วยรถไฟสาย Arima ไปลงที่สถานี Arima Onsen
– พิกัด https://maps.app.goo.gl/hVKfj4UvfaeJQiyF9
11. สะพานอาคาชิไคเคียว (Akashi-Kaikyo Bridge)
– การเดินทาง จากตัวเมืองโกเบให้นั่งรถไฟสาย Sanyo Line มาลงที่สถานี Maikokoen Station หรือจากสถานี Maiko ไปยัง Akashi-Kaikyo Bridge Exhibition Center
– ที่ตั้ง 4-115 Higashi-Maiko-cho, Tarumi-ku, Kobe, Hyogo, Japan
– เวลาเปิดทำการ เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
– ค่าบริการ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชม
– เว็บไซต์ https://www.japan.travel/en/spot/1049/
– พิกัด https://maps.app.goo.gl/QrD3BVoRPXRjqWSE9
12. กระเช้าลอยฟ้า โกเบ นุโนะบิคิ (Kobe Nunobiki Ropeway)
– การเดินทาง ใช้เวลาเดินจากสถานี Shin-Kobe ประมาณ 18 นาที หรือนั่งแท็กซี่ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
– พิกัด https://maps.app.goo.gl/CHCwvFQav9Yb3H4X6
เรื่องชวน ว้าว ของ จังหวัดเฮียวโงะ
1. ปราสาทที่สมบูรณ์ที่สุดในญี่ปุ่น – Himeji Castle (ปราสาทฮิเมจิ)
ปราสาทฮิเมจิเป็นหนึ่งในปราสาทที่สมบูรณ์และงดงามที่สุดในญี่ปุ่น ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เป็นที่รู้จักในชื่อ “ปราสาทนกกระยางขาว” เนื่องจากมีโครงสร้างสีขาวและรูปทรงที่สวยงาม
2. โรงงานผลิตของเล่นที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น – Kobe Toyopet (โรงงานของเล่นโกเบ โตโยเปต)
โรงงานของเล่นโกเบ โตโยเปต เป็นโรงงานผลิตของเล่นที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีการผลิตของเล่นหลายประเภทและเป็นที่รู้จักในวงการของเล่นทั่วโลก นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมโรงงานและสัมผัสประสบการณ์การผลิตของเล่นได้
3. เมืองบ่อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น – Arima Onsen (อาริมะ ออนเซ็น)
อาริมะ ออนเซ็น เป็นเมืองบ่อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี น้ำพุร้อนที่นี่มีคุณสมบัติทางการแพทย์ที่ดีต่อสุขภาพ และมีบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายให้เลือกใช้งาน
4. สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก – Akashi Kaikyo Bridge (สะพานอาคาชิไคเคียว)
สะพานอาคาชิไคเคียวเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาวถึง 3,911 เมตร เชื่อมระหว่างเมืองโกเบกับเกาะอาวาจิ เป็นสิ่งก่อสร้างที่น่าทึ่งและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเฮียวโงะ
5. เทศกาลประดับไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น – Kobe Luminarie (เทศกาลโคเบะ ลูมินารี่)
เทศกาลโคเบะ ลูมินารี่ เป็นเทศกาลประดับไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จัดขึ้นทุกปีในเดือนธันวาคม มีการประดับไฟฟ้าหลากสีสันที่สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกและงดงามในย่านเมืองโกเบ
6. ศูนย์วิจัยสัตว์ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น – Suma Aqualife Park Kobe (สวนสัตว์น้ำสุมะ)
สวนสัตว์น้ำสุมะเป็นศูนย์วิจัยและแสดงสัตว์ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด และมีการแสดงการแสดงสัตว์น้ำที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตใต้ทะเลได้ที่นี่
7. เมืองท่าเรือที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น – Port of Kobe (ท่าเรือโกเบ)
ท่าเรือโกเบเป็นหนึ่งในเมืองท่าเรือที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์การค้าและการเดินเรือที่ยาวนาน ท่าเรือโกเบยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น หอคอยโกเบ และพิพิธภัณฑ์การเดินเรือโกเบ
8. เมืองแห่งการผลิตเหล้าสาเกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น – Nada District (ย่านนดะ)
ย่านนดะในเมืองโกเบเป็นแหล่งผลิตเหล้าสาเกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีโรงงานผลิตเหล้าสาเกหลายแห่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมและชิมเหล้าสาเกคุณภาพสูง
9. สวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น – Himeji Central Park (สวนสนุกฮิเมจิ เซ็นทรัลพาร์ค)
สวนสนุกฮิเมจิ เซ็นทรัลพาร์คเป็นสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีเครื่องเล่นหลากหลายและสวนสัตว์ที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ได้ที่นี่
10. เมืองที่มีการจัดงานดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุด – Kobe Fireworks Festival (เทศกาลดอกไม้ไฟโกเบ)
เทศกาลดอกไม้ไฟโกเบเป็นงานดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จัดขึ้นในฤดูร้อน มีการแสดงดอกไม้ไฟที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจบนท้องฟ้าเหนือเมืองโกเบ
การเดินทางไปและกลับจากเมืองหลักอื่นๆ ในญี่ปุ่น
จังหวัดเฮียวโงะตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการเดินทางไปและกลับจากเมืองใหญ่ๆ และเมืองใกล้เคียงอื่นๆ ในญี่ปุ่น
จากโตเกียว
โดยรถไฟชินคันเซ็น: ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที จากสถานีโตเกียวถึงสถานีชินโกเบ ด้วยรถไฟชินคันเซ็นสาย Tokaido-Sanyo
โดยเครื่องบิน: มีเที่ยวบินตรงจากสนามบินฮาเนดะไปยังสนามบินโกเบ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
จากโอซาก้า
โดยรถไฟ: ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที จากสถานีโอซาก้าถึงสถานีโกเบ ด้วยรถไฟสาย JR Kobe Line หรือ Hanshin Line
โดยรถบัส: มีรถบัสหลายสายให้บริการจากโอซาก้าถึงโกเบ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
จากเกียวโต
โดยรถไฟ: ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที จากสถานีเกียวโตถึงสถานีโกเบ ด้วยรถไฟสาย JR Special Rapid Service
โดยรถบัส: มีรถบัสให้บริการจากเกียวโตไปยังโกเบ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
ภาพรวมสภาพอากาศสำหรับจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo)
ภาพรวมสภาพอากาศสำหรับจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo)
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
- อุณหภูมิ: 10°C ถึง 20°C
- รายละเอียด: อากาศเย็นสบาย ดอกซากุระ (Sakura) บาน
ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)
- อุณหภูมิ: 20°C ถึง 30°C
- รายละเอียด: ร้อนและชื้น ฝนตกเป็นครั้งคราว
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
- อุณหภูมิ: 15°C ถึง 25°C
- รายละเอียด: อากาศเย็นสบาย ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
- อุณหภูมิ: 0°C ถึง 10°C
- รายละเอียด: หนาว แต่ไม่รุนแรง หิมะตกน้อย
เที่ยวเฮียวโงะ (Hyogo) ช่วงไหนดีที่สุด
ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) และฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) เนื่องจากอากาศเย็นสบายกำลังดีและมีบรรยากาศที่สวยงาม
เทศกาลและงานใหญ่ในจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo)
เทศกาลและงานใหญ่ในจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo)
1. เทศกาลสู้กันของศาลเจ้ามัตสึบาระฮาจิมัน (Matsubara Hachiman Shrine Fighting Festival)
- เวลา: ตุลาคม
- สถานที่: ศาลเจ้ามัตสึบาระฮาจิมัน (Matsubara Hachiman Shrine), ฮิเมจิ (Himeji)
- รายละเอียด: ทีมผู้ชายยกมิโคชิ (Mikoshi) และชนกัน สื่อถึงความแข็งแกร่งและความกล้า
2. งานประดับไฟโกเบลูมิแนเรีย (Kobe Luminarie)
- เวลา: ธันวาคม
- สถานที่: โกเบ (Kobe)
- รายละเอียด: งานประดับไฟเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวใหญ่โกเบปี 1995
3. ชมดอกซากุระที่ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle Cherry Blossom Viewing)
- เวลา: ต้นเดือนเมษายน
- สถานที่: ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)
- รายละเอียด: ดอกซากุระบานรอบปราสาทฮิเมจิ เหมาะสำหรับปิกนิก
4. เทศกาลแจ๊สโกเบ (Kobe Jazz Street)
- เวลา: ตุลาคม
- สถานที่: ย่านคิตาโนะ (Kitano), โกเบ (Kobe)
- รายละเอียด: นักดนตรีแจ๊สจากทั่วโลกมาร่วมแสดง
5. เทศกาลใบไม้ร่วงอาริมะออนเซ็น (Arima Onsen Autumn Leaves Festival)
- เวลา: พฤศจิกายน
- สถานที่: อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen), โกเบ (Kobe)
- รายละเอียด: ฉลองความสวยงามของใบไม้ร่วงในเมืองออนเซ็น
6. เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงของศาลเจ้าสุโมโตะฮาจิมัน (Sumoto Hachiman Shrine Autumn Festival)
- เวลา: ตุลาคม
- สถานที่: ซูโมโตะ (Sumoto), เกาะอาวาจิ (Awaji Island)
- รายละเอียด: ขบวนแห่รถดันจิริ (Danjiri) และการแสดงดนตรีและการเต้นรำ
7. งานฉลองตรุษจีนในนังคินมาชิ (Chinese New Year Celebration in Nankinmachi)
- เวลา: มกราคมหรือกุมภาพันธ์
- สถานที่: นังคินมาชิ (Nankinmachi), โกเบ (Kobe)
- รายละเอียด: การเต้นรำมังกรและสิงโต อาหารริมทาง
8. มาราธอนสะพานอาคาชิไคเคียว (Akashi Kaikyo Marathon)
- เวลา: พฤศจิกายน
- สถานที่: อาคาชิ (Akashi)
- รายละเอียด: เส้นทางวิ่งสวยงามริมทะเล มองเห็นสะพานอาคาชิไคเคียว (Akashi Kaikyo Bridge)
9. เทศกาลดอกไม้ไฟฤดูหนาวคิโนซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen Winter Fireworks)
- เวลา: ธันวาคมถึงกุมภาพันธ์
- สถานที่: คิโนซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen)
- รายละเอียด: การแสดงดอกไม้ไฟในฤดูหนาว ขณะอาบน้ำพุร้อน