รวม 15 ที่เที่ยวซัปโปโร สวย ฮิต และเปิดใหม่ สำหรับมือใหม่วางแผนเที่ยวซัปโปโรด้วยตัวเอง 2567

top-places-sapporo

sean-pavone/shutterstock.com


อัพเดตล่าสุดเมื่อ 12 กรกฎาคม 2567

 

ซัปโปโร (Sapporo) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดฮอกไกโด และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยจะใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ภายในเมืองยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรมที่หลากหลาย และอาหารอร่อย รวมทั้งที่นี่ยังมีเทศกาลที่มีชื่อเสียงและรู้จักกันไปทั่วโลก หรือก็คือ เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ที่จะมีการจัดขึ้นทุกปีในช่วงฤดูหนาว

 

 

ทำไมต้องมาเที่ยวซัปโปโร เมืองนี้มีดีอะไร?

มีเหตุผลมากมายร้อยแปดที่ทำให้ซัปโปโรเป็นเมืองที่ต้องไปเยือนซักครั้ง(หรือหลายครั้ง) ไม่ว่าจะเป็น เทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี มีทั้งประติมากรรมน้ำแข็งและหิมะขนาดใหญ่ จัดขึ้นที่สวนสาธารณะที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นที่เป็นสถานที่จัดกิจกรรมตลอดปี รวมทั้งโรงเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดที่เปิดให้เราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์การทำเบียร์และชิมเบียร์สด

ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะพบกับหอนาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองนี้ ลิ้มรสเมนูเนื้อแกะย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคนี้ ชมการประมูลปลาทูน่าที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในยามค่ำคืนจากยอดภูเขา นอกจากนี้ยังมีสวนพฤกษชาติที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์หลากหลาย ทั้งหมดนี้และอีกมากมายที่รอเราอยู่ในซัปโปโร เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความประทับใจที่ใครก็ไม่ควรพลาด!

 

 

เที่ยวซัปโปโรควรใช้เวลากี่วัน

จำนวนวันที่เหมาะสมสำหรับการเที่ยวซัปโปโรขึ้นอยู่กับความสนใจและกิจกรรมที่แต่ละคนสนใจซึ่งก็แตกต่างกันไปแต่เราแนะนำให้ใช้เวลาอยู่ที่เมืองนี้อย่างน้อย 3-5 วัน โดย

  • 3 วัน: เพียงพอสำหรับการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวหลักในซัปโปโร เช่น สวนโอโดริ หอคอยทีวีซัปโปโร และหอนาฬิกา นอกจากนี้ยังสามารถไปเที่ยวเมืองใกล้เคียงอย่างโอตารุ หรือโจซันเค ออนเซ็น แบบ เดย์ทริปได้ด้วย.
  • 5 วัน: หากมีเวลา 5 วัน เราจะได้เที่ยวกันแบบเจาะลึ​กมากขึ้นหรือจะทำทริปสั้นๆ เพิ่มเติมได้อีก เวลา 5 วันเหมาะสำหรับการเยี่ยมชมสถานที่อย่าง สวนโมเระนุมะ พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร และเดินเที่ยวเดินชิมตามตลาดและร้านอาหารต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถเที่ยวสกีรีสอร์ท หรือเมืองใกล้เคียงอย่างโนโบริเบ็ตสึเพื่อแช่ออนเซ็นได้ด้วย.
  • หนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่า: การใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้นในซัปโปโรจะทำให้คุณเพลิดเพลินกับเมืองและพื้นที่โดยรอบได้อย่างเต็มที่ ขึ้นอยู่กับฤดูกาลต่างๆ ตั้งแต่เทศกาลหิมะซัปโปโรในฤดูหนาว ไปจนถึงทุ่งลาเวนเดอร์ที่สวยงามในฟุราโนะในฤดูร้อน

 

 

 

มาดู 15 สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของเมืองซัปโปโร กันเลย

 

 

1. สวนโอโดริ (Odori Park)

Photo by redlegsfan21 from flickr.com/photos/redlegsfan21/15982613668/ [CC by-sa 2.0]

Photo by Takanori Nakanowatari from flickr.com/photos/ope/834783919/ [CC by 2.0]

Photo by Sam Sheffield from flickr.com/photos/jss/4348192649/ [CC by-sa 2.0]

สวนโอโดริ (Odori Park) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปะโระ เมืองเอกของเกาะฮอกไกโด สำหรับคำว่า “โอโดริ” มีความหมายว่า “ทางเดินที่กว้าง” โดยสวนสาธารณะแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 78,901 กิโลเมตร และมีความยาวถึง 1.5 กิโลเมตร เริ่มต้นในการวางผังเมือง บริเวณนี้ถูกกำหนดให้เป็นทางเดินสายใหญ่ใจกลางเมือง ก่อนจะถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นสวนสาธารณะในปัจจุบัน ที่นี่ยังจัดเป็นโอเอซิสกลางใจเมือง ที่แวดล้อมไปด้วยด้วยดอกไลแล็คและ ต้นเอล์มญี่ปุ่น 92 สายพันธุ์กว่า 4,700 ต้น บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ เหมาะสำหรับการเดินเล่นพักผ่อน นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆ มากมาย โดยในฤดูใบไม้ผลิจะมีการจัดเทศกาลดอกไลแล็ค, ฤดูร้อนมีเทศกาล โยสะโคอิ โซรันและ เบียร์การ์เด้น, ฤดูใบไม้ร่วงมีเทศกาลออทั่มเฟส เป็นเทศกาลอาหารอร่อยและขึ้นชื่อของฮอกไกโด และ ในช่วงฤดูหนาวจะมีเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ที่เป็นเทศกาลที่มีมีชื่อเสียงระดับโลก

– การเดินทาง จาก JR Sapporo Station ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/XpS61FPYbVmQpjjX7

 

 

 

2. โจซังเค ออนเซ็น (Jozankei Onsen)

Jozankei-Onsen [Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:%E5%AE%9A%E5%B1%B1%E6%B8%93%E5%A4%A7%E6%A9%8B%EF%BC%88Jozankei_Ohashi%EF%BC%89_-_panoramio.jpg]

Photo by MIKI Yoshihito from flickr.com/photos/mujitra/8346369496 [CC by 2.0]

Photo from sapporo.travel

โจซังเค ออนเซ็น (Jozankei Onsen) ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ (Shikotsu-Toya National Park) เมืองโจซังเค (Jozankei) ที่นี่จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดฮอกไกโด และยังมีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี เลยทีเดียว สำหรับออนเซ็นแห่งนี้เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ในช่วงยุคเอโดะ เมื่อพระสงฆ์ชื่อ “มิอิซูมิ โจซัง” (Miizumi Jozan) ค้นพบแหล่งน้ำพุร้อนนี้ในปี 1866 หลังจากนั้นท่านก็ได้เริ่มพัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็นสถานที่พักผ่อน และบำบัดรักษาสุขภาพด้วยน้ำพุร้อน จนทำให้โจซังเคกลายเป็นสถานที่้ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนอย่างไม่ขาดสาย โดย โจซังเค ออนเซ็นจะตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีทัศนียภาพงดงาม มีแม่น้ำโทโยฮิระ (Toyohira River) ไหลผ่าน ทำให้ที่นี่มีทิวทัศน์ที่งดงามตลอดทั้งปี โดยในฤดูใบไม้ผลิจะเต็มไปด้วยดอกไม้บานสะพรั่ง ฤดูร้อนเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการเดินป่าและสำรวจธรรมชาติ ฤดูใบไม้ร่วงเราจะชมความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสี และในฤดูหนาวามารถเพลิดเพลินกับการแช่น้ำพุร้อนท่ามกลางหิมะที่ปกคลุมไปรอบบริเวณ

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟสาย Limited Express Super Ozora จากสถานีJR Sapporo มาลงที่สถานี Kushiro จากนั้นให้ขึ้นรถแท็กซี่หรือรถบัสประจำทางสาย Jozankei Hot Springs Direct Bus Kappa Liner ไปลงที่ป้าย Jozankei ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/J4jT1n644Cmr57Ed7

 

 

 

3. สวนสัตว์มารุยามะ (Maruyama Zoo)

photos by 皎白筍 from flickr.com/photos/kay0712/9410416568(cc by 2.0)

aileen-mae-sze/shutterstock.com

khantokphotos/shutterstock.com

สวนสัตว์มารุยามะ (Maruyama Zoo) ตั้งอยู่ในสวนมารุยามะ (Maruyama Park) เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1951 ปัจจุบันมีสัตว์อยู่นานาชนิดมากกว่า 200 สายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น หมีขาว, สิงโต, เสือ, ลิงกอริลลา และนกเพนกวิน เป็นต้น นักท่องเที่ยวสามารถชมสัตว์เหล่านี้ในพื้นที่ที่ถูกออกแบบให้เหมือนกับสภาพแวดล้อมธรรมชาติของสัตว์แต่ละชนิด เพื่อให้สัตว์สามารถแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งพื้นที่สำหรับสัตว์พื้นเมืองของฮอกไกโด เช่น กวางซิกา และหมีสีน้ำตาล ช่วยให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และสัมผัสกับความหลากหลายของสัตว์ในภูมิภาคนี้อีกด้วย นอกจากนี้ ภายในสวนสัตว์ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะเด็กๆ ที่สามารถเพลิดเพลินกับการให้อาหารสัตว์และการสัมผัสสัตว์เล็กๆ รวมทั้งที่นี่ยังมีโปรแกรมการศึกษา การบรรยายเกี่ยวกับสัตว์ และการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อเสริมสร้างความรู้และความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ภายในสวนสัตว์มีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่อย่างครบครัน เช่น ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และพื้นที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว

– การเดินทาง สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสายโทไซ (Tozai Line) มาลงที่สถานีมารุยามะโคเอ็น (Maruyama Koen Station) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/KBgjgRXHXoXaG2hM8

 

 

 

 

4. สวนดอกลาเวนเดอร์ สวนโฮโรมิโตเกะ (Horomitoge Lavender Garden)

retirementbonus/shutterstock.com

retirementbonus/shutterstock.com

สวนดอกลาเวนเดอร์ สวนโฮโรมิโตเกะ (Horomitoge Lavender Garden) ตั้งอยู่บนเนินเขาโฮโรมิ (Horomitouge) สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการชมดอกลาเวนเดอร์ ภายในสวนแห่งนี้มากที่สุดจะเป็นช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ในช่วงนั้นภายในสวนจะกลายเป็นทุ่งดอกไม้สีม่วงสวยสดใสมองเห็นได้ไกลสุดสายตา นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชื่นชมและถ่ายภาพกับดอกลาเวนเดอร์ที่บานสะพรั่ง พร้อมโชยกลิ่นหอมไปรอบบริเวณ นอกจากนี้ภายในสวนยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง เช่น การตัดดอกลาเวนเดอร์เพื่อนำกลับบ้าน และการเยี่ยมชมร้านขายของที่ระลึกที่มีผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันหอมระเหย สบู่ และเครื่องสำอาง เป็นต้น

– การเดินทาง สามารถนั่งรถบัส Bankei Bus จากสถานีซัปโปโร ไปลงที่ Horomitoge-iriguchi ก็จะเห็นทางเดินเข้าสวน ใช้เวลาเดินอีกประมาณ 30 นาที
– ที่ตั้ง 471-110 Bankei, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 064-0945, Japan

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/pLwohB1DnTxqzzNs6

 

 

 

5. หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด (Historical Village of Hokkaido)

Photo by 663highland Yoshihito from commons.wikimedia.org/wiki/File:Ainu_Kotan_Akan_Kushiro_Hokkaido_Japan02s3.jpg [CC by-sa 2.5]

Photo by 663highland Yoshihito from commons.wikimedia.org/wiki/File:Ainu_Kotan_Akan_Kushiro_Hokkaido_Japan01s3.jpg [CC by-sa 2.5]

หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด (Historical Village of Hokkaido) ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่นำเสนอวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวฮอกไกโด ในช่วงยุคเมจิ (Meiji) และยุคไทโช (Taisho) ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 หากเดินทางมาท่องเที่ยวเราจะได้สามารถสัมผัสและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านการเดินชมอาคารและสิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์ที่มีอยู่กว่า 60 หลัง และยังมีการแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โซนชนบท, โซนชาวเมือง, โซนหมู่บ้านชาวประมง และ โซนหมู่บ้านภูเขา รวมทั้งยังมีกิจกรรมสนุกๆ อีกหลายอย่าง เช่น การทำอาหารญี่ปุ่นแบบโบราณ, การสาธิตวิธีทำเครื่องปั้นดินเผา, นั่งม้าเลื่อนในช่วงฤดูหนาว และ การชมการแสดงพื้นเมือง เป็นต้น

– การเดินทาง นั่งรถบัส JR Hokkaido City Bus สาย 22 จากสถานี Shin-Sapporo มาลงป้าย Kaitaku no Mura และเดินต่อมายังหมู่บ้าน

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/W313gSBUA8pzYxTz8

 

 

 

6. โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะ (SHIROI KOIBITO PARK)

f11photo/shutterstock.com

CC from https://www.flickr.com/photos/lionel-arts/26380528716

CC from https://www.flickr.com/photos/cafetricot/51848897042/

โรงงานช็อกโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะ (SHIROI KOIBITO PARK) สถานที่ท่องเที่ยวที่คนรักช็อกโกแลตต้องห้ามพลาด เพราะที่นี่เป็นโรงงานผลิตขนมที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะขนมชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito) คุกกี้เนยสอดไส้ไวท์ช็อกโกแลตและช็อกโกแลต รสชาติหอมหวานกรุบกรอบ และยังเป็นของฝากชื่อดังแห่งเมืองซัปโปโรอีกด้วย ขนม ชิโรอิ โคอิบิโตะเริ่มผลิตครั้งแรกในปี 1976 และกลายเป็นหนึ่งในขนมของฝากที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในฮอกไกโด ภายในโรงงานเรายังสามารถเข้าชมกระบวนการผลิตขนมชิโรอิ โคอิบิโตะ ได้อย่างใกล้ชิด และเรียนรู้ขั้นตอนการทำขนมตั้งแต่การผสมส่วนผสมไปจนถึงการบรรจุหีบห่อ และซื้อกลับไปทานเป็นของฝากของขวัญได้อีกด้วย

– การเดินทาง สามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสายโทไซ (Tozai Line) ไปยังสถานีมิยาโนะซาว่า (Miyanosawa Station) จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 7 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/D3MqhZVyUJan9pnQ8

 

 

 

7. ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine)

artit-wongpradu/shutterstock.com

lifestyle-travel-photo/shutterstock.com

supachai-panyaviwat/shutterstock.com

ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะมะรุยามะ มีชื่อเต็มๆ ว่า ศาลเจ้าฮอกไกโดจิงกู (Hokkaido-jingu Shrine) ที่นี่เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีอายุมากกว่า 150 ปี และมีความสำคัญทั้งในด้านวัฒนธรรมและศาสนา และยังเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวฮอกไกโดเป็นอย่างมาก ศาลเจ้าก่อตั้งขึ้นในปี 1871 สมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ ลักษณะเป็นอาคารไม้ ออกแบบตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมในยุคเมจิ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าหลายองค์ นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าของศาลเจ้ามีประตูโทริอิตั้งสูงตระหง่าน มองดูโดดเด่นสะดุดตา ภายในมีบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ แวดล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ และยังถูกโอบล้อมด้วยภูเขาทั้งสามด้าน มีความชื่อกันว่าหากเดินทางมาขอพร ณ ศาลเจ้าแห่งนี้ มักจะสมหวังสมปรารถนาดังที่ตั้งใจไว้

– การเดินทาง สามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสาย Namboku จากสถานี Sapporo ไปยังสถานี Odori จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นสาย Taizo ไปลงสถานี Maruyama-Koen ใช้ทางออก 3 เดินเข้าสวนสาธารณะมะรุยามะได้เลย

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/RN4sf8xD474tDbnG9

 

 

 

8. เนินพระพุทธเจ้า (Hill of The Buddha)

b-hide-the-scene/shutterstock.com

tanasut-chindasuthi/shutterstock.com

anucha-cheechang/shutterstock.com

เนินพระพุทธเจ้า (Hill of The Buddha) หรือหุบเขาแห่งพระพุทธเจ้า ตั้งอยู่ในส่วนหนึ่งของพื้นที่สุสาน Makomanai Takino Cemetery ในซัปโปโร เนินพระพุทธเจ้าสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สำหรับการสักการะและการทำสมาธิ ภายในมีการออกแบบในลักษณะผสมผสานระหว่างศิลปะ สถาปัตยกรรมและธรรมชาติ ที่ออกมาได้อย่างสวยงามลงตัว สำหรับสถานที่แห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย ทาดาโอะ อันโด (Tadao Ando) สถาปนิกชื่อดังของญี่ปุ่น เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015 องค์พระพุทธรูปเป็นปรางสมาธิ สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความสูง 13.5 เมตร ล้อมรอบด้วยเนินหญ้าสูงที่มีลักษณะเหมือนโดม การเดินทางมาที่นี่ในช่วงฤดูร้อนเราจะพบกับพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ออกดอกบานสะพรั่ง และหากเดินทางมาในช่วงฤดูหนาวพระพุทธรูปและรอบบริเวณจะปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน

– การเดินทาง จากสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) ขึ้นรถไฟสายนัมโบคุ (Namboku Line) มาลงสถานีมาโกะมะนาอิ (Makomanai Station) จากนั้นต่อรถบัสที่ป้ายรถเมล์หมายเลข 2 สาย Sapporo Chuo Bus 108

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/CfuUTFGHE74C2eGU6

 

 

 

9. สวนสาธารณะฮิราโอกะ (Hiraoka Greenery Center)

club4traveler/shutterstock.com

club4traveler/shutterstock.com

club4traveler/shutterstock.com

สวนสาธารณะฮิราโอกะ (Hiraoka Greenery Center) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางพฤกษศาสตร์ เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ ภายในมีพื้นที่กว่า 300 ไร่ และมีการจัดแสดงพันธุ์ไม้หลากหลายสายพันธุ์ สวนสาธารณะแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งศึกษาวิจัยและอนุรักษ์พันธุ์พืช รวมถึงเป็นสถานที่สำหรับการเรียนรู้และเพลิดเพลินกับธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสวนพร้อมทั้งศึกษาเกี่ยวกับพันธุ์พืชที่มีการจัดแสดงไว้ในพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สวนดอกไม้, สวนต้นไม้ และแปลงพืชผัก นอกจากนี้ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เราจะได้สัมผัสกับการชมอุโมงค์ต้นเมเปิ้ลหลากสีสัน ที่มีอยู่ด้วยกันหลายสายพันธุ์ รวมแล้วมากกว่า 700 ต้น ที่ขึ้นอยู่สองข้างทางตลอดแนวถนนสายยาว ส่วนในช่วงฤดูอื่นโดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระภายในสวนก็ถูกปลูกไว้เรียงรายก็มีลักษณะคล้ายอุโมงค์ดอกซากุระเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีดอกไม้อื่นๆ อีกหลายสายพันธุ์ให้ชมความงามกันได้ตลอดทั้งปี

– การเดินทาง ขึ้นรถบัสสาย 69 จากสถานี Oyachi Station มาลงที่ Hiraoka Station จากนั้นใช้เวลาประมาณ 10 นาที เดินไปยังสวน

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/M4ctktHRP4tUNt927

 

 

 

10. พิพิธภัณฑ์โดราเอมอน (Doraemon Waku Waku Skypark)

enchanted_fairy/shutterstock.com

thanan-kongdoung/shutterstock.com

thanan-kongdoung/shutterstock.com

พิพิธภัณฑ์โดราเอมอน (Doraemon Waku Waku Skypark) พิพิธภัณฑ์สำหรับคนรักโดราเอมอน โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะตั้งอยู่บนชั้น 3 โซน Smile Road ที่เป็นทางเชื่อมระหว่างอาคาร Domestic Terminal Building และ International Terminal Building ภายในสนามบินนิวชิโตเสะ (New Chitose Airport) ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับครอบครัวและแฟนๆ ของโดราเอมอนที่ต้องการสัมผัสกับโลกแห่งจินตนาการ ภายในได้รวบรวมสิ่งของต่างๆ ที่เกี่ยวกับโดราเอมอนเอาไว้มากมาย โดยจะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โซนเครื่องเล่นและกิจกรรม, โซนห้องนิทรรศการ และ โซนร้านค้าร้านอาหาร นอกจากนี้ยังมี Work Shop ให้เราได้นั่งเล่นระบายสีภาพโดราเอมอน และตัวการ์ตูนอื่นในเรื่อง รวมทั้งยังมีห้องสมุดการ์ตูนโดราเอมอนที่แปลเป็นหลากหลายภาษาจากทั่วโลก

– การเดินทาง ค่อนข้างสะดวกสบาย จากเมืองซัปโปโรสามารถเลือกโดยสารได้ทั้งรถไฟและรถบัส

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/eb6N2EaFpt3NLG2u8

 

 

 

11. พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)

sean-pavone/shutterstock.com

richie-chan/shutterstock.com

fluid-shutter/shutterstock.com

9bon/shutterstock.com

พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) เป็นสถานที่ที่คอเบียร์ต้องห้ามพลาด หากเดินทางมายังซัปโปโร โดยภายในพิพิธภัณฑ์จะนำเสนอเรื่องราวของเบียร์ซัปโปโร หนึ่งในแบรนด์เบียร์เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น และยังเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเบียร์ญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก เบียร์ในซัปโปโรเริ่มผลิตขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1877 ส่วนพิพิธภัณฑ์เปิดอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1987
ภายในพิพิธภัณฑ์มีกิจกรรมหลายอย่างที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น การจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการผลิตเบียร์ วิวัฒนาการของแบรนด์เบียร์ซัปโปโร และ การชิมเบียร์ที่เป็นไฮไลท์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีร้านค้าที่ขายของที่ระลึกเกี่ยวกับเบียร์ซัปโปโร เช่น แก้วเบียร์ เสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีตราสัญลักษณ์ของเบียร์ซัปโปโร ให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจซื้อกลับมาเป็นที่ระลึกกันได้

– การเดินทาง รถไฟใต้ดินสายโทโฮ (Toho Line) จากสถานี Sapporo ไปยังสถานีฮิงาชิ-คาวางุจิ (Higashi-Kawaguchi Station) ออกทางออกหมายเลข 4 จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/tKbcQ8TunKLU7udd6

 

 

 

12. หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower)

tkyszk/shutterstock.com

akashi-images/shutterstock.com

sean-pavone/shutterstock.com

หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower) อีกหนึ่งแลนด์มาร์กในเมืองซับโปโร สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1878 จัดเป็นหอนาฬิกาเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 100 ปี และมักถูกนำไปใช้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโรอยู่เสมอ โดยตัวอาคารหอนาฬิกาจะเป็นอาคารไม้ออกแบบตกแต่งด้วยศิลปะแบบอเมริกันคุมโทนด้วยสีขาว ตัดกับหลังคาสีแดง ที่มองดูโดดเด่นสะดุดตา โดยเฉพาะหากเดินทางมาในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกขาวโพลนไปรอบบริเวณ หอนาฬิกาจะสวยเป็นพิเศษ นอกจากนี้ที่นี่ยังจัดเป็นอาคารสไตล์ตะวันตกที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งภายในเมืองอีกด้วย ส่วนภายในอาคารจะมีการจัดแสดงเรื่องราวต่างๆ ของซัปโปโร โดยบริเวณชั้น 1 จัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองซัปโปโร ส่วนชั้น 2 จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับนาฬิกา หอนาฬิกาแห่งนี้จึงจัดเป็นสมบัติทางด้านวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น

– การเดินทาง จากสถานี Sapporo นั่งรถไฟใต้ดินสายโทโฮ (Toho Line) ไปยังสถานีฮิงาชิ-คาวางุจิ (Higashi-Kawaguchi Station) ออกทางออกหมายเลข 4 จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/GVJMRfMNhEEzgchaA

 

 

 

13. ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market)

yusei/shutterstock.com

pangjee_s/shutterstock.com

oliverouge/shutterstock.com

ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) ตลาดปลาเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร การคมนาคมสะดวก และอยู่ไม่ไกลจากถนนคนเดิน Tanukikoji มากนัก ภายในตลาดจะคร่าคร่ำไปด้วยผู้คนที่เดินทางมาเลือกซื้อสินค้าตลอดทั้งวัน รวมทั้งยังเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวมักเดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมาก ภายในตลาดมีร้านค้า ร้านอาหาร เปิดให้บริการหลายร้าน โดยเฉพาะร้านข้าวหน้าปลาดิบของที่นี่จะขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก ในเรื่องของความสดใหม่และมีรสชาติอร่อย นอกจากปลาแล้วภายในตลาดก็มีอาหารทะเลสดๆ และอาหารทะเลแห้งหลากหลายรูปแบบให้เลือกซื้อด้วยเช่นกัน โดยตลาดแห่งนี้เริ่มต้นมาจากชาวประมงในอ่าวอิชิคาริได้นำปลาสดๆ มาวางขาย ตั้งแต่ในช่วงต้นยุคเมจิ ต่อมาก็เริ่มมีร้านขายสินค้าประเภทอื่นมาวางขาย เช่น ร้านผลไม้ ร้านอาหารทะเล และร้านจำหน่ายอาหาร อย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้

– การเดินทาง จากถนนคนเดิน Tanukikoji บล็อคที่ 1 ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/gB1uKBbToLdWT4oh7

 

 

 

14. สวนป่าโนปโปโระ (Nopporo Forest Park)

takashi-images/shutterstock.com

manuel-ascanio/shutterstock.com

manuel-ascanio/shutterstock.com

สวนป่าโนปโปโระ (Nopporo Forest Park) เป็นสวนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก และยังเป็นอุทยานแห่งชาติประจำจังหวัดฮอกไกโดอีกด้วย สำหรับสวนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1968 ภายในมีพื้นที่กว่า 13,000 ไร่ แวดล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นกันอยู่อย่างหนาแน่นมากกว่า 510 สายพันธุ์ และยังเป็นอาศัยของสัตว์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น นกป่า, แมลง, กระรอกป่าฮอกไกโด, กระต่ายภูเขา, กบสีน้ำตาล และสัตว์อื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Centennial Memorial Tower หอคอยที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 100 ปี ในการสถาปนาจังหวัดฮอกไกโด อาคารของหอคอยมีความสูง 100 เมตร ด้านบนเป็นจุดสำหรับชมวิวและหอดูดาว รวมทั้งสวนแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮอกไกโด และหมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโดอีกด้วย

– การเดินทาง จากสถานี Sapporo Station ขึ้นรถไฟท้องถิ่น มาลงสถานี Shinrin Koen Station ออกทางออก East ต่อด้วยขึ้นรถบัสสาย 22 ใช้เวลาประมาณ 5 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/nqyEGGuue1xgaLKVA

 

 

 

15. ภูเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa)

Photo from Official Hokkaido Tourism

Photo by redlegsfan21 from flickr.com/photos/redlegsfan21/16735871442/ [CC by-sa 2.0]

Photo from sapporo.travel

ภูเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa) บนยอดภูเขาโมอิวะเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวที่มีชื่อเสียง ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของเมืองซัปโปโรได้แบบ 360 องศา กันเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนทั่วทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ มองดูสวยงามเป็นอย่างมาก ที่นี่ยังจัดเป็นหนึ่งในสามจุดชมวิวกลางคืนที่สวยที่สุดในฮอกไกโดอีกด้วย แต่ในช่วงเวลากลางวันทัศนียภาพก็งดงามไปอีกแบบเช่นกัน เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่เราสามารถมองเห็นต้นไม้และดอกไม้ที่เปลี่ยนสีสันไปตามฤดูกาล สำหรับภูเขาโมอิวะจะมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 531 เมตร การขึ้นมาบนยอดเขาจะต้องขึ้นกระเช้าลอยฟ้าเป็นระยะทางกว่า 1,200 เมตร จากนั้นต่อด้วยมินิเคเบิ้ลคาร์ เพื่อไปยังจุดชมวิวที่อยู่สูงสุด ในระหว่างการเดินเราจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามทั้งสองข้างทางไปพร้อมๆ กัน

– การเดินทาง ขึ้น Sapporo’s Only Streetcar Line จาก Susukino มาลงที่ Ropeway Iriguchi Station จากนั้นขึ้นรถบัสรับ-ส่งฟรี ไปยังสถานีกระเช้าด้านล่าง

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/ZpwPSNwrGikBZYVX6

 

 

ย่านท่องเที่ยวยอดฮิตของเมืองซัปโปโร

การจัดแบ่งสถานที่ท่องเที่ยวตามพื้นที่ต่างๆของเมืองซัปโปโรแบบนี้จะช่วยให้เราสามารถวางแผนเที่ยวเมืองซัปโปโรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ย่าน Susukino

Susukino เป็นย่านบันเทิงหลักของซัปโปโร มีร้านอาหาร บาร์ คลับ และคาราโอเกะมากมาย เป็นที่รู้จักในเรื่องชีวิตกลางคืนที่คึกคัก สถานที่สำคัญได้แก่ Ramen Yokocho ซึ่งเป็นตรอกเล็ก ๆ ที่มีร้านราเมนมากมาย สถานีหลักในย่านนี้คือสถานี Susukino

สถานีหลักของย่านนี้คือ: Susukino Station

 

ย่าน Odori

Odori Park เป็นสวนสาธารณะที่ยาวเป็นแนวกลางเมือง และเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลหิมะซัปโปโรในช่วงฤดูหนาว มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงเช่น Sapporo TV Tower และ Shiroi Koibito Park ซึ่งเป็นสวนสนุกและพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต

สถานีหลักของย่านนี้คือ: Odori Station

 

ย่าน Sapporo Station

สถานี Sapporo เป็นศูนย์กลางการคมนาคมของเมือง มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ เช่น Daimaru และ Stellar Place และยังมีหอสมุดไอซ์แคฟส์และ Sapporo Beer Museum ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากสถานีนี้

สถานีหลักของย่านนี้คือ: สถานี Sapporo Station

 

ย่าน Maruyama

Maruyama Park เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีสวนสัตว์ Maruyama และ Hokkaido Shrine ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโตที่สำคัญ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าและชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ

สถานีหลักของย่านนี้คือ: Maruyama Koen Station

 

ย่าน Nakajima

Nakajima Park เป็นสวนสาธารณะที่สวยงาม มีทะเลสาบขนาดเล็กและบ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า Hasso-an ในบริเวณนี้ยังมี Sapporo Concert Hall Kitara ซึ่งเป็นที่จัดการแสดงดนตรีคลาสสิก

สถานีหลักของย่านนี้คือ: Nakajima Koen Station

 

ย่านชานเมืองซัปโปโร (Suburban Sapporo Area)

สถานี Shiroishi

  • Shiroishi: ย่านที่อยู่อาศัยและมีสวนสาธารณะ Shiroishi ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการปั่นจักรยานและการเดินเล่น สามารถเดินทางจากสถานี Shiroishi บน JR Hakodate Main Line

สถานี Shin-Sapporo

  • Shin-Sapporo: พื้นที่ที่มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ เช่น Sunpiazza และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเช่น Historical Village of Hokkaido ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่แสดงวิถีชีวิตในอดีตของฮอกไกโด สามารถเดินทางจากสถานี Shin-Sapporo บน JR Chitose Line

 

 

 

เมนูและร้านอาหารแนะนำในเมืองซัปโปโร

sasazawa/shutterstock.com

sasazawa/shutterstock.com

thanan-kongdoung/shutterstock.com

ซัปโปโรเป็นที่รู้จักในเรื่องวัตถุดิบคุณภาพดี และหลากหลาย การชิมอาหารท้องถิ่น เช่น ราเมนซัปโปโร ปูทาราบะ และเจงกิสข่าน เป็นอะไรที่ห้ามพลาดเด็ดขาด

อาหารท้องถิ่นที่ต้องลอง:

  • ราเมนซัปโปโร: ราเมนที่มีซุปมิโสะเป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟพร้อมกับเนื้อหมูย่างและผักต่าง ๆ
  • ปูทาราบะ: ปูที่มีเนื้อหวานและแน่น สามารถทานได้ทั้งแบบต้ม นึ่ง หรือย่าง
  • เจงกิสข่าน: เนื้อแกะย่างสไตล์ฮอกไกโด ที่มีการหมักเนื้อก่อนย่างให้มีรสชาติอร่อย

ร้านอาหารที่แนะนำ:

  • ราเมน โยชิโอกะ (Ramen Yoshioka): ร้านราเมนที่มีชื่อเสียงในซัปโปโร เสิร์ฟราเมนมิโสะรสชาติเข้มข้น
  • ร้านปูคานิไดกุ (Kanidouraku): ร้านอาหารทะเลที่มีเมนูปูทาราบะสดใหม่
  • ร้านเจงกิสข่าน ดารุมะ (Daruma): ร้านอาหารเจงกิสข่านที่เป็นที่นิยมของทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว

 

 

 

การเดินทางในเมืองซัปโปโร

beeboys/shutterstock.com

chaiyianyian/shutterstock.com

วิธีการเดินทางไปซัปโปโร:

  • เครื่องบิน: มีสนามบินนานาชาตินิวชิโตเสะ (New Chitose Airport) ซึ่งห่างจากซัปโปโรประมาณ 40 นาที
  • รถไฟ: รถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen) จากโตเกียวข้ามเกาะไปที่เมืองฮาโกดาเตะ และต่อรถไฟด่วนพิเศษไปยังซัปโปโร
  • รถบัส: บริการรถบัสระหว่างเมืองใหญ่ ๆ เช่น โตเกียว และโอซาก้า มายังซัปโปโร

การเดินทางภายในเมืองซัปโปโร:

  • รถไฟฟ้าใต้ดิน: ซัปโปโรมีระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน 3 สาย ที่ครอบคลุมทั้งเมือง ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบาย
  • รถบัส: มีบริการรถบัสหลายสายที่เชื่อมต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ

 

 

 

ที่พักในเมืองซัปโปโร

ซัปโปโรมีที่พักให้เลือกมากมายหลายแบบเหมือนกับเมืองใหญ่ๆทั่วญี่ปุ่น ราคาก็ไม่แตกต่างกันมากนัก

ย่านแนะนำ:

  • ย่านใจกลางเมืองซัปโปโร: สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในเขตตัวเมือง และมีร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้งมากมาย
  • ย่านซูซูกิโนะ: พื้นที่ที่เต็มไปด้วยชีวิตกลางคืนและร้านอาหาร
  • บริเวณใกล้สถานีรถไฟซัปโปโร: สะดวกในการเดินทางเที่ยวรอบๆเมือง และใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง

 

 

 

คำแนะนำในการเที่ยวเมืองซัปโปโร

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเยี่ยมชม:

  • ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์): สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับหิมะและเทศกาลหิมะซัปโปโร
  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม): สำหรับผู้ที่ต้องการชมดอกซากุระ
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม): สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้ง
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน): สำหรับผู้ที่ต้องการชมใบไม้เปลี่ยนสี

ข้อควรรู้:

  • สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสม: โดยเฉพาะในฤดูหนาว เพราะหนาวมากๆ แบบติดลบเลข 2 หลัก ควรสวมเสื้อผ้าที่หนาและอุ่น
  • เตรียมอุปกรณ์กันหนาว: เช่น หมวก ถุงมือ และผ้าพันคอ

 

 

 

ตัวอย่างแพลนเที่ยวเมืองซัปโปโร

แผนการเที่ยวซัปโปโรแบบ 1 วัน:

  • ช่วงเช้า:โอโดริพาร์ค และหอนาฬิกาซัปโปโร
  • ช่วงเที่ยง: ตลาดนิโจ
  • ช่วงบ่าย: สวนสัตว์มารุยามะ
  • ช่วงเย็น: ย่านซูซูกิโนะ

 

 

ประวัติย่อของเมืองซัปโปโร (Sapporo)

ซัปโปโรเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2401 (ค.ศ. 1859) เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นพัฒนาเกาะฮอกไกโดเพื่อเป็นศูนย์กลางของการเกษตรและอุตสาหกรรม และในปี พ.ศ. 2411 (ค.ศ. 1868) ได้รับการแต่งตั้งเป็นเมืองหลวงของฮอกไกโด นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเบียร์ญี่ปุ่น โดยมีโรงเบียร์ซัปโปโรที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2419 (ค.ศ. 1876) และกลายเป็นแบรนด์เบียร์ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียง

ซัปโปโรมีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ซึ่งปรากฏชัดในเทศกาลหิมะซัปโปโรที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2493 (ค.ศ. 1950) และกลายเป็นเทศกาลระดับโลก อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยฮอกไกโด สถาบันการศึกษาชั้นนำของญี่ปุ่น ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานและบทบาทสำคัญ ทำให้ซัปโปโรเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์และเสน่ห์

 

 

 

เรื่องชวน ว้าว ที่คุณอาจจะไม่รู้ของเมืองซัปโปโร

1. เทศกาลหิมะที่ใหญ่ที่สุดในโลก – Sapporo Snow Festival

เทศกาลหิมะซัปโปโรเป็นหนึ่งในเทศกาลหิมะที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นทุกปีในเดือนกุมภาพันธ์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี เทศกาลนี้มีการสร้างประติมากรรมน้ำแข็งและหิมะที่มีขนาดใหญ่และรายละเอียดที่น่าทึ่ง รวมถึงการแสดงแสงสีเสียงที่สร้างบรรยากาศสุดตื่นตาตื่นใจในช่วงกลางคืน

2. สวนสาธารณะที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น – Odori Park

สวนโอโดริเป็นสวนสาธารณะที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น ครอบคลุมระยะทางกว่า 1.5 กิโลเมตร ตรงกลางเมืองซัปโปโร เป็นสถานที่จัดกิจกรรมและเทศกาลมากมายตลอดปี เช่น เทศกาลหิมะซัปโปโร และเทศกาลเบียร์ซัปโปโร

3. โรงเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น – Sapporo Beer Museum

โรงเบียร์ซัปโปโรก่อตั้งขึ้นในปี 1876 เป็นโรงเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร เรียนรู้ประวัติศาสตร์การทำเบียร์และชิมเบียร์สดที่มีชื่อเสียงระดับโลก

4. หอนาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น – Sapporo Clock Tower

หอนาฬิกาซัปโปโรสร้างขึ้นในปี 1878 และเป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์ของเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ มีประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ

5. จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น – Mt. Moiwa

ภูเขาโมอิวะมีทิวทัศน์ที่น่าทึ่งของเมืองซัปโปโร โดยเฉพาะในยามค่ำคืน เมื่อเมืองถูกปกคลุมด้วยแสงไฟ จนติดอันดับเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปยังยอดเขาเพื่อชมวิวทิวทัศน์ได้

 

 

 

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เว็บไซต์ทางการและข้อมูลติดต่อ:

  • เว็บไซต์ท่องเที่ยวซัปโปโร: Sapporo Travel Official Website
  • สำนักงานท่องเที่ยวซัปโปโร: โทรศัพท์ +81 11-211-2376

Exit mobile version