รวมฮิต 24 ที่เที่ยว ฮอกไกโด ยอดฮิตห้ามพลาด เกาะเหนือสุดสวยของญี่ปุ่น 2567
Photo from https://www.flickr.com/photos/travelbusy/35404010222
จะเดินทางไปท่องเที่ยวฮอกไกโด(Hokkaido) ทั้งที แต่วางแผนไว้แค่มาทานอาหารทะเล และบุฟเฟ่ต์ปูอลาสก้า ก็คงจะไม่คุ้มค่าการเดินทางสักเท่าไร เนื่องจากฮอกไกโดไม่ได้มีดีแค่ในเรื่องของอาหารเพียงเท่านั้น แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะฮอกไกโด เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือสุดของญี่ปุ่น จึงมีภูมิประเทศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี รวมไปถึงทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่ควรมาชมให้ได้สักครั้งในชีวิต และถ้าใครอยากทดลองแช่น้ำพุร้อนแบบออนเซ็น ที่ฮอกไกโดก็มีให้บริการเช่นกัน แล้วภูมิภาคนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปดู สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของ ฮอกไกโด เกาะเหนือแห่งญี่ปุ่น ตะลุยแดนหิมะ สุดฟินกับธรรมชาติ กันเลยครับ
ถ้าใครกำลังมองหาที่พักซัปโปโรตามไปโพสนี้ได้เลย
1. ริมคลองโอตารุ (Otaru Canal Area), เมือง Otaru
แต่เดิมนั้น เมืองโอตารุ เป็นท่าเรือเล็ก ๆ ที่มีความคึกคักเป็นอย่างมากในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 แต่เมื่อการขนส่งเริ่มมีการพัฒนาและมีความทันสมัยมากกว่าเดิม เมืองท่าแห่งนี้ก็ค่อย ๆ ถูกลดความสำคัญลง เหลือเพียงหมู่บ้านชาวประมงที่ชื่อเฮอร์ริ่งเพียงอย่างเดียว แต่ด้วยความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ จึงทำให้ทางการได้เข้าไปปรับโฉมให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ด้วยการเปลี่ยนโกดังสำหรับเก็บสินค้าทะเล ให้กลายเป็นร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์เพื่อบอกเล่าความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ รวมถึงมีการติดตั้งโคมไฟแบบโบราณไปตามถนนที่ทอดยาวขนานไปกับคลองโอตารุ ทำให้มีความโรแมนติก มากขึ้นกว่าเดิม
เวลาทำการ
เปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง และไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด
2. ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku), เมือง Hakodate
ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku) หรือ ป้อมดาว 5 แฉก ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) เหตุที่เรียกกันว่าป้อมดาว 5 แฉก ก็เพราะบริเวณป้อม หากมองจากมุมสูงจะมีลักษณะคล้ายกับดาวแบบตะวันตก ป้อมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปีสุดท้ายของยุคเอโดะเพื่อป้องกันการคุกคามของมหาอำนาจตะวันตก บริเวณตรงใจกลางของป้อม คือที่ทำการของผู้สำเร็จราชการที่บริหารเมืองฮอกไกโดในช่วงยุคโชกุน แต่เมื่อไม่ได้ใช้งานแล้ว จึงได้มีการบูรณะอาคารและปรับปรุงทัศนียภาพให้กลายเป็นสวนสาธารณะสำหรับชมดอกซากุระที่จะบานพร้อมกันในช่วงเดือนพฤษภาคม (ฮอกไกโดเป็นเกาะอยู่ด้านบนสุด ทำให้มีดูร้อนช้ากว่าที่อื่น ซากุระก็จะบานช้ากว่าที่อื่นในญี่ปุ่นด้วย) นอกจากนี้ป้อมโงเรียวกาคุ ยังมีหอคอยโงเรียวกาคุที่สูง 90 เมตร สำหรับชมวิวรอบ ๆ ป้อมแบบพาโนรามา โดยหอคอยถูกจัดสร้างขึ้นในปี 2006 ด้านล่างหอคอย มีทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และนิทรรศการเกี่ยวกับการจัดตั้งป้อมแห่งนี้อีกด้วย
วิธีการเดินทาง
จาก Hakodate Station โดยสารรถรางสาย2 หรือ5 ไปลงที่ Goryokaku Koen Mae (10 นาที 230 เยน) แล้วเดินต่อไปทางทิศเหนือ 750 เมตรประมาณ 10 นาที
3. โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen), เมือง Sapporo
โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen) ออนเซ็นแห่งนี้ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิโกะซุ โทยะ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซัปโปโรมากนัก จึงทำให้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและชาวเมืองที่นิยมชมชอบการแช่ออนเซ็น เนื่องจากเดินทางสะดวก และยังมีฉากหลังเป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม จึงมีชื่อเรียกกันแบบเล่น ๆ ว่า “ห้องนั่งเล่นแห่งซัปโปโร” โดยบริเวณรอบ ๆ ออนเซ็นก็มีโรงแรมแบบเรียวกังตั้งอยู่มากมาย โดยมีค่าบริการในการแช่ออนเซ็นเพียง 1,000 – 1,500 เยนเท่านั้น แต่ถ้าไม่สะดวก อยากแช่เท้าเฉย ๆ ก็ไม่เสียค่าบริการแต่อย่างใด
4. Hokkaido Ice museum
Hokkaido Ice Museum หรือ Hokkaido Ice Pavillion เป็นพิพิธภัณฑ์เชิงประสบการณ์ในธีมน้ำแข็งและความหนาวเย็น ที่คนไทยจะต้องชอบ ภายในพิพิธภัณฑ์ถูกรักษาอุณหภูมิไว้ที่ -20°C ตลอดทั้งปี ส่วนถ้าใครไปหน้าหนาวจะได้เห็นน้ำแข็งทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตา, สัมผัสกับความหนาวเย็นสุดขีดที่ -41°C!! และการเล่นสไลเดอร์น้ำแข็ง นอกจากนี้ยังมีโซนใหม่ที่เพิ่งเปิดเพิ่มปี 2022 ที่ชื่อว่า Earth Garden ด้วย รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอีกหลายอย่างก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นสถานที่ที่ครอบครัวสามารถเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวัน เช่น เครื่องเล่นต่างๆทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
ที่อยู่ 40 Sakaemachi, Kamikawa-cho, 078-1733
5. ทุ่งดอกไม้ ฟูราโน่ (Furano Flower Field), เมือง Furano
ดอกลาเวนเดอร์(Lavender) นิยมปลูกในภูมิภาคฮอกไกโดมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ทุ่งดอกไม้ขนาดต่างๆ มีอยู่ทั่วเมืองฟูราโน่(Furano) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนให้มาชมความงดงามของทุ่งดอกไม้แห่งนี้ ซึ่งช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งเต็มที่ คือช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม แต่ดอกลาเวนเดอร์จะคงบานอยู่ในกลางสิงหาคม นอกจากนี้ยังมีดอกไม้อีกมากมายหลายชนิดในฤดูอื่น เช่น ดอกป๊อปปี้ และดอกลูปิน ในเดือนมิถุนายน ดอกลิลลี่ ในเดือนกรกฎาคม ดอกทานตะวัน ดอกซัลเวีย และคอสมอส ในเดือนสิงหาคมถึงกันยายน
จุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดคือ ฟาร์มโทมิตะ(Farm Tomita) ซึ่งมีวิวทิวทัศที่สวยงามจากฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ(Tokachi mountain) ซึ่งเปิดให้เข้าชมฟรีอย่างอิสระ ใกล้ๆกับทุ่งดอกไม้ยังมีร้านกาแฟ ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์อีกด้วย
เวลาทำการ
เปิดให้บริการทุกวัน และไม่มีค่าบริการในการเข้าชม โดยมีช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกัน ประมาณ 09.00-17.00
วิธีการเดินทาง
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง กลางเดือนตุลาคม โดยสารรถไฟ JR Furano Line รวมถึง Furano-Biei Norokko trains ลงที่ Lavender Batake Station (จาก Furano ใช้เวลา 20 นาที 230 เยน หรือจาก Biei ใช้เวลา 35 นาที ) แล้วเดินต่ออีก 5-10 นาที
6. โรงงานช็อคโกแล็ต (Shiroi Koibito), เมือง Sapporo
ชิโรอิ โคบิโตะ (Shiroi Koibito) ของฝากชื่อดังของฮอกไกโดที่นักท่องเที่ยวส่วนมากรู้จักกันดี ก็คือคุกกี้เนยไส้ไวท์ช็อคโกแลตยี่ห้อ Shiroi Koibito ที่ผลิตโดยบริษัท Ishiya ซึ่งได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมโรงงานได้ ภายในโรงงาน นักท่องเที่ยวจะได้เห็นการผลิตคุกกี้สุดอร่อยแบบใกล้ชิดทุกขั้นตอน และยังมีขนมอีกหลายชนิด เช่น คัพเค้ก ซอฟท์ครีม และช็อคโกแลต หรือถ้าอยากจะลองเวิร์คช้อปทำคุ้กกี้ด้วยตัวเอง ที่โรงงานก็มีสอนแบบสั้นๆ อีกด้วย
วิธีการเดินทาง
จาก Odori Station โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน Tozai Subway Line ไปทางทิศตะวันตกลงที่สถานี Miyanosawa Station (ใช้เวลา 15 นาที ค่าใช้จ่าย 280 เยน) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
7. ย่านเดินเล่นฮาโกดาเตะ แฟคตอรี่ Hakodate Factory – โกดังอิฐแดง
ย่านเดินเล่นฮาโกดาเตะ แฟคตอรี่ (Hakodate Factory) หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า Hakodate Bay Area หรือบางคนก็เรียกว่าย่านโกดังอิฐแดง ตั้งอยู่ภายในเมืองฮาโกดาเตะ(Hakodate)นั่นเองค่ะ นับเป็นแหล่งช็อปปิ้งสุดปังประจำเมืองฮาโกดาเตะเลยนะคะ เรียกได้ว่าถ้าอยากได้อะไรต้องมาที่นี่รับรองได้หมดเพราะของเค้าเยอะจริงไรจริง ที่นี่ยังมีความคล้ายกับห้างสรรพสินค้าซัปโปโร(Sapporo Factory) ตรงที่มีร้านทำเครื่องแก้ว กล่องดนตรี ร้านอาหาร ลานเบียร์ ร้านขายของที่ระลึกด้านหลังสามารถชมวิวริมทะเล และมองเห็นโซนโกดังอิฐแดงอีกด้วย
วิธีการเดินทาง
นั่งรถรางไปลงที่ Jujigai แล้วเดินต่ออีก 5 นาที ไปทางเดียวกันกับห้างสรรพสินค้าริมน้ำ(Red Brick Warehouses) หันออกถนนที่ผ่านด้านหลังโกดัง
8. สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo), เมือง Asahiyama
วิธีการเดินทาง
จากสถานี Asahikawa Station โดยสารรถบัสประจำทางหมายเลข 41,42 หรือ 47 ไปลงที่ Asahiyama Zoo ใช้เวลา 40 นาที ค่าใช้จ่ายเที่ยวเดียว 440 เยน บัสออกชั่วโมงละ 2 เที่ยว
9. จุดชมวิว Mount Moiwa, เมือง Sapporo
ภูเขาโมอิวะ เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองซัปโปโร บริเวณภูเขาโมอิวะเป็นจุดชมวิวเมืองในยามค่ำคืน (เริ่มดูได้เมื่อพระอาทิตย์ตกดินแล้ว) แต่การจะขึ้นไปจนถึงยอดได้นั้น จะต้องนั่งกระเช้าไปก่อน แล้วนั่งเคเบิ้ลคาร์อีกครั้ง จึงจะถึงยอดเขาสำหรับการชมวิว และที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือการทานอาหารที่ ร้าน “The Jewel” ที่นอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว ยังได้ชมวิวเมืองซัปโปโรแบบสุดลูกหูลูกตา
วิธีการเดินทาง
จาก Susukino โดยสาร Sapporo’s only streetcar line ลงที่ Ropeway Iriguchi Station(ใช้เวลา 25 นาที ค่าใช้จ่าย 170 เยน) จากนั้นนั่งรถบัสรับส่งฟรีไปยังสถานีกระเช้าด้านล่าง(ใช้เวลา 5 นาที ออกทุกๆ 20 นาที) หรือจาก Ropeway Iriguchi streetcar stop ถึงสถานีกระเช้า Mount Moiwa เดินไปเพียงแค่ 5 นาที
10. จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate), เมือง Hakodate
จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ ได้รับการจัดอันดับ 1 ใน 3 ให้เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เมื่อขึ้นมาบนภูเขาฮาโกดาเตะที่มีความสูงถึง 334 เมตร ก็จะได้เห็นวิวในมุมกว้าง ๆ ของชุมชนอาโกดาเตะที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาและทะเลอย่างสวยงาม จะมาชมกลางวัน แล้วมาชมกลางคืนซ้ำอีกครั้งก็ไม่แปลก เพราะทั้งสองช่วงเวลานี้ จะให้ความสวยงามที่แตกต่างกันไป
11. Sapporo Beer Museum, เมือง Sapporo
เชื่อว่าคอเบียร์หลายคนต้องคุ้นเคยกับ Supporo Beer ที่มีวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของประเทศไทย แต่รู้หรือไม่ว่า เบียร์ยี่ห้อนี้เป็นเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และได้รับความนิยมมากที่สุดจนต้องมีการส่งออกไปขายทั่วโลก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโรขึ้น เพื่อบอกเล่าและแนะนำความเป็นมาของเบียร์ชนิดนี้ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษา เมื่อได้เยี่ยมชมจนครบแล้ว ก็จะมีเบียร์ให้ชิมฟรี ๆ กันไปเลย
12. สระอะโออิเคะ (Aoiike Blue Pond), เมือง Biei
13. เนินชมวิวฮาจิมันซากะ Hachiman-Zaka Slope
เนินชมวิวฮาจิมันซากะ Hachiman-Zaka Slope จะเป็นเนินเขาที่ลาดตัวลงไปจนถึงทะเลที่ด้านล่าง ซึ่งหากยีนจากที่จุดนี้จะเป็นแนวต้นไม้สองข้างทางยาวตลอดแนว และเบื้องหน้าจะเป็นวิวของท่าเรือฮาโกดาเตะ,ท้องทะเลและภูเขาที่อยู่ทางฝั่งตรงข้ามนั่นเอง เนื่องจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจึงทำให้เป็นหนึ่งในจุดที่นิยมใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และโฆษณาต่างๆ ในหน้าร้อนนั้นต้นไม้จะเป็นสีเขียวสด แต่ในฤดูหนาวช่วงที่ใบไม้ร่วงและหิมะตก จะมีการประดับไฟไว้ตามต้นไม้ เป็นจุดชมเทศกาล Hakodate Light Up ที่มีชื่อเสียงอีกด้วย
14. เมืองเก่ามัตสึเมะ (Matsumae former castle town)
เมืองเก่ามัตสึเมะ(Matsumae former castle town) ตั้งอยู่ทิศตะวันตกของแหลมชิราคามิ(Cape Shirakami) จุดใต้สุดของเกาะฮอกไกโด ห่างจากช่องแคบสึงารุ(Tsugaru Strait) อาโอโมริ(Aomori) เพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้นเองค่ะ โดยเมืองเก่ามัตสึเมะแห่งนี้นั้นถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเด็ดๆหลายที่เลยนะคะ ที่เห็นว่าดังสุดก็ต้องยกให้ จุดชมวิวบนเนินเขา ซึ่งตรงบริเวณนั้นเป็นที่ตั้งของปราสาทมัตสึเมะ(Matsumae Castle หรือ Fukushima Castle) ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
15. ลานสกีฟูราโน่ (Furano Ski Area), เมือง Furano
16. Sapporo TV Tower, เมือง Sapporo
Sapporo TV Tower ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ เป็นหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ในเมืองซัปโปโร ที่มีความสูงถึง 142.7 เมตร อยู่บริเวณทิศตะวันออกของสวนสาธารณะโอโดริ ความพิเศษที่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ ก็คือการที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวบริเวณความสูงจากพื้นดิน 90 เมตร และมีงานเทศกาลจัดอยู่รอบ ๆ ตลอดทั้งปี
17. ภูเขาโยเท (Mount Yotei), เมือง Niseko
ภูเขาโยเท (Mount Yotei) หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในชื่อ “ฟูจิแห่งฮอกไกโด” ตั้งอยู่ในเมืองนิเซโกะของจังหวัดฮอกไกโด(Hokkaido) ฉายาที่ได้มาก็น่าจะเกิดจากการมีรูปทรงกรวยที่สมบูรณ์แบบเดียวกับภูเขาไฟฟูจิ แต่สูงน้อยกว่า จึงมีชื่อเล่นว่า “ฟูจิน้อย”นั่นเองค่ะ โดยภูเขาแห่งนี้นับว่าเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากๆของเมืองเลยก็ว่าได้ แต่บอกเลยว่าถ้าที่ภูเขาโยเทแล้วคิดว่าเมืองนิเซโกะจะมีดีแค่นี้ก็ผิดเลยค่ะ เพราะอีกอย่างทึ้นชื่อมากๆก็คือการเป็นเมืองแหล่งสกีรีสอร์ท โดยสถานที่เล่นสกีจะอยู่รอบๆภูเขา Niseko Annupuri หรือ Niseko United นอกตัวเมือง สามารถแบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ Annupuri, Niseko Village, Grand Hirafu และ Hanazono ซึ่งบอกเลยว่าดีงามทั้งนั้น
18. แหลมโซยะ (Cape Soya), เมือง Wakkanai
19. ล่องเรือชมธารน้ำแข็งอะบาชิริ (Abashiri Drift Ice), เมือง Abashiri
ธารน้ำแข็งอะบาชิริ เป็นความพิเศษของฮอกไกโดที่ควรมาชมและสัมผัสสักครั้งในชีวิต หากเดินทางมาในช่วงเดือนมกราคม – เดือนมีนาคม เพราะโดยทั่วไปแล้ว ธารน้ำแข็งมักจะเกิดขึ้นบริเวณมหาสมุทรอาร์กติกเท่านั้น แต่จะดูแต่ธารน้ำแข็งเพียงอย่างเดียวก็คงไม่สนุก ต้องลองนั่งเรือตัดน้ำแข็งเพื่อชมทัศนียภาพรอบ ๆ ด้วย เหตุที่เรียกว่าเรือตัดน้ำแข็งก็เพราะว่า เมื่อเรือชนเข้ากับแผ่นน้ำแข็ง น้ำแข็งก็แยกตัวออกไปเพื่อให้เรือสามารถเดินทางต่อไปได้นั่นเอง โดยเรือจะมีให้บริการ 4-5 รอบต่อวัน ซึ่งหากใครอยากจะไปล่องเรือชมธารน้ำแข็งที่น่าตื่นตาตื่นใจก็ต้องตรวจสอบเวลาให้ดีก่อนด้วย
20. บ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ (Noboribetsu Onsen), เมือง Noboribetsu
บ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ ถูกเรียกว่าเป็นบ่อน้ำร้อน (ออนเซ็น) ที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เพราะมีบ่อน้ำร้อนที่มีความแตกต่างกันถึง 9 ชนิด (บางแห่งก็ว่า 11 ชนิด) แบ่งไปตามแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ เช่น บ่อน้ำพุร้อนกำมะถัน บ่อน้ำพุร้อนเกลือ บ่อน้ำพุร้อนโซเดียมไบคาร์บอเนต เป็นต้น เมื่อมาถึงบริเวณนี้แล้วต้องการแช่บ่อน้ำพุร้อน ก็สามารถเลือกบ่อได้ตามต้องการโดยติดต่อกับทางโรงแรมที่ให้บริการบ่อน้ำพุร้อนนั้น ๆ ซึ่งจะมีค่าบริการตั้งแต่ 700-2,500 เยนขึ้นไป (หากพักค้างคืนก็จะมีราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิม)
21. สกีรีสอร์ท Niseko ski resort, เมือง Niseko
เมืองนิเซโกะ เป็นเมืองในฮอกไกโดที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาอยู่อาศัยและมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพราะเมืองนี้เป็นเมืองที่เหมาะสมกับการเล่นสกีมากที่สุด เนื่องจากมีปุยหิมะที่นุ่ม ถึงจะล้มก็ไม่เจ็บ ภายในเมืองมีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และมีบ่อน้ำร้อนที่สามารถใส่เสื้อผ้าลงแช่ได้ ภายในลานสกี มีรีสอร์ทสำหรับเข้าพักและให้เช่าอุปกรณ์การเล่นสกีถึง 4 ที่ โดยค่าเช่าอุปกรณ์นั้น อยู่ที่ราคาตั้งแต่ 3,000 – 8,000 เยน
22. ทะเลสาบอะกัง (Lake Akan)
ทะเลสาบอะกัง (Lake Akan) เป็นแอ่งทะเลสาบที่เกิดจากภูเขาไฟในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอะกัง มีความยาวเส้นรอบวง 26 กิโลเมตรที่ล้อมรอบด้วยป่าทึบ และยังเป็นแหล่งกำเนิดของสาหร่ายมาริโมะ(marimo) ซึ่งเป็นสาหร่ายลูกบอลสีเขียวที่หาพบได้ยาก
การเดินทาง: ทะเลสาบอะกังตั้งอยู่ทางทิศเหนือของ Kushiro ไปประมาณ 75 กิโลเมตร มีรถบัสบริการ 3-4 เที่ยวต่อวัน ระหว่างสนามบิน Kushiro Airport และทะเลสาบ
หรือเช่ารถยนต์ ใช้เวลา 90 นาที เดินทางถึงทะเลสาบอะกัง และใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงไปยังทะเลสาบอื่นๆในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เช่นทะเลสาบมาซู ทะเลสาบคุชชะโระ และคาวายุออนเซ็น
23. คาบสมุทรชิเรโตโกะ (Shiretoko Peninsula)
การเดินทาง: จาก Bus Terminal เดินไปประมาณ 650 เมตรจะถึงอาคารจำหน่ายตั๋วฝั่งซ้ายมือ แล้วเดินลอดอุโมงค์ไปยังท่าเรืออีก 200 เมตร
เรือชมคาบสมุทรชิเรโทโกะออกจากอูโทโร่(Utoro) ท่าเรืออยู่หลังหินโอรอนโคอิวะ(Oronkoiwa Rock) ใกล้กับใจกลางเมือง
24. หุบเขานรกจิโงคุดานิ (Jigokudani noboribetsu) เมือง Noboribetsu
วิธีการเดินทาง
หุบเขาจิโงคุดานิตั้งอยู่ ทางทิศเหนือของย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ(Noboribetsu Hot Springs) เดินจาก Noboribetsu Onsen busteminal ไปประมาณ 5 นาที
วิธีการเดินทางไปเที่ยวฮอกไกโด
ทางเครื่องบิน: นั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินนิวชิโตเสะ (CTS) ซึ่งอยู่ใกล้กับซัปโปโร
ทางรถไฟ: เราสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นไปยังฮอกไกโดได้ (รถไฟหัวกระสุน) ซึ่งใช้เวลาประมาณสี่ชั่วโมงครึ่งจากโตเกียว
ทางรถประจำทาง: มีบริการรถประจำทางสายที่ให้บริการนั่งไปยังฮอกไกโด โดยปกติการเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 20 ชั่วโมงจากโตเกียวไปยังซัปโปโร
ทางรถยนต์: สามารถขับรถหรือเช่ารถเพื่อข้ามเกาะผ่านอุโมงค์ Seikan หรือเส้นทาง Hakodate-Honshu-Oiwake หรือ Kuromatsunai-Honshu-Oiwake ไปยังฮอกไกโดได้
เที่ยวฮอกไกโด พักย่านไหนดี?
ย่านซัปโปโร
เป็นเมืองหลักที่หลายๆคนนิยมพักที่นี่ เพราะเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโดและขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย สถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวา และยังมีเทศกาลหิมะประจำปี
ย่านนิเซโกะ
หากใครไปเล่นสกีก็จะนิยมจองที่พักที่นี่ เพราะเป็นสถานที่เล่นสกียอดนิยมและขึ้นชื่อเรื่องหิมะขาวโพลน บริเวณนี้มีสกีรีสอร์ทหลายแห่ง และยังมีกิจกรรมมากมายสำหรับช่วงฤดูร้อนอีกด้วย เช่น การเดินป่า ตีกอล์ฟ และบ่อน้ำพุร้อน
ย่านฟุราโนะ
ถ้าอยากเที่ยวทุ่งดอกไม้ ก็ควรแวะพักที่นี่ซัก 1-2 คืน ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ลิลลี่ และดอกไม้อื่นๆ อยู่ห่างออกมาจากซัปโปโร
ย่านอาซาฮิคาวะ
อาซาฮิคาวะเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในฮอกไกโด มีทั้งสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน แวะมาพักและไปเที่ยวได้
ย่านฮาโกดาเตะ
ฮาโกดาเตะเป็นเมืองท่าทางใต้สุดของเกาะฮอกไกโด มีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมือง โดยเฉพาะทิวทัศน์จากยอดเขาฮาโกดาเตะ
โรงแรมที่พักราคาพิเศษใน ฮอกไกโด
Agoda.com และ Booking.com แหล่งรวมที่พักราคาดี มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ลดพิเศษกว่า 70%
ตั๋วและบัตรส่วนต่างๆของ ฮอกไกโด
Klook.com หรือ Viator.com รวมตั๋วและบัตรส่วนลดราคาดี สำหรับใช้เดินทาง เข้าที่เที่ยว หรือที่กินต่างๆ ซื้อบัตรเอาไว้ล่วงหน้า ช่วยประหยัดไปได้เยอะเลย
ตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นราคาพิเศษ
Skyscanner.net เปรียบเทียบตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น มีให้เลือกหลากหลายสายการบิน เจ้าไหนคุ้ม เวลาดี เลือกได้เลย