10 ที่เที่ยวยอดฮิต “นารา” เมืองแห่งกวางน้อยและพระใหญ่ 2567

 

นารา(Nara) ตั้งอยู่ห่างจากเกียวโตและโอซาก้าประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง จึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวเมื่อมายังแถบคันไซ นารานับว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงโงดังมากๆจากการเป็นเมืองแห่งพระใหญ่และฝูงกวาง แถมยังเคยเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นเมื่อพันกว่าปีก่อนอีกด้วยนะคะ ดังนั้นแม้ว่าปัจจุบันจะไม่ไดเป็นเมืองหลวงอย่างเมื่อก่อนโน้น อีกทั้งความเจริญยังแน่นเท่าโอซาก้า แต่ความคลาสสิครับรองว่าดีงามไม่แพ้ใคร เนื่องจากเคยเป็นเมืองหลวงเก่ามาก่อน จึงมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย ไปนาราแล้วไม่ควรพลาดแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ประจำเมืองเลยเชียว ซึ่งจะมีอะไรกันบ้างนั้นต้องมาตามดูกันค่ะ กับ 10 ที่เที่ยวยอดฮิต “นารา” เมืองแห่งกวางน้อยและพระใหญ่ อัพเดทล่าสุด 2023

 

วัดโทไดจิ หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “ไดบุตสึ” ถูกขนานนามว่าเป็นวัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนาราที่ไม่ว่าใครมาเยือนเมืองแห่งนี้ต้องมาไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลกันอย่างแรกเลยล่ะค่ะ วัดนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นมากๆเลยนะคะ โดยถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.752 รวมๆจนถึงตอนนี้อายุนี่ก็ปาเป็นพันกว่าปีแล้วนะคะ จริงๆแล้วอาคารหลังนี้มีขนาดเพียงแค่ 2 ใน 3 ของอาคารดั้งเดิมเท่านั้น ซึ่งจะมีอาคารหลักของวัดเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งที่เรียกว่าเป็นไฮไลท์มากๆนั่นก็คือ การเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตหรือ ไดบุตสึเดนนั่นเองค่ะ ด้วยความสูงถึง 15 เมตรจึงทำให้กลายเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ถ้าอยากจะเห็นว่าจะใหญ่ขนาดไหนต้องมาปักหมุดให้ได้เลย

 

 

 

พระราชวังเฮโจ แห่งเมืองนารา(Heijo Palace/Nara Imperial Palace) ตั้งอยู่ที่ภายในตัวเมืองนารา(Central Nara) นับเป็นพระราชวังที่รักษาความเป็นดั้งเดิมอยู่มากเลยล่ะค่ะ เพราะในอดีตปราสาทแห่งนี้ไม่ได้มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงมากนัก จึงทำให้ง่ายต่อการวิจัยทางโบราณคดี สิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากที่พระราชวังที่เราเข้าใจกัน นั่นก็เพราะผู้เข้าชมยังคงได้บรรยากาศแบบชนบท ทางรัฐบาลได้มีการนำเสนอประวัติศาสตร์ของปราสาทเฮโจโดยการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นพระราชวังหลักของเมืองหลวงนาราราวๆปี ค.ศ. 710-794 ซึ่งภายในนั้นจะมีพื้นที่ประมาณ1 ตารางกิโลเมตร เดิมทีเคยเป็นที่อยู่อาศัยของจักรพรรดิ และอาคารสำหรับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ปัจจุบันมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และถือเป็นหนึ่งในมรดกโลก UNESCO World Heritage Sites ของเมืองนารานั่นเอง

 

 

 

 

สวนกวางนารา นับว่าเป็นจุดที่สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองแห่งนี้มากๆ เชื่อว่าหลายๆคนคงต้องเคยได้ยินหรือเห็นภาพโปรโมทของเมืองที่จะเต็มไปด้วยเหล่ากวางน้อยสุดน่ารักที่ไม่กลัวคนเลยแม้แต่น้อย สวนแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่กลางโซนท่องเที่ยวของเมืองนารามาง่ายสุดๆ ภายในสวนเป็นที่อยู่ของกวางจำนวนมาก เมืองนารานั้นมีกวางเกือบ 1,200 ตัว นอกจากเราจะได้เห็นกวางและถ่ายรูปกันในระยะประชิดอย่างจุใจแบบที่ไม่สามารถพบเห็นได้จากที่อื่นแล้ว ยังจะสามารถให้อาหารพวกมันได้ด้วยนะคะ โดยเค้าจะมีร้านขายอาหารกวางอยู่เต็มไปหมด เพียงแต่ระวังกันนิดนึงนะคะเพราะแม้กวางเหล่านี้จะคุ้นเคยกันคนมากๆ แต่ยังไงก็เป็นสัตว์เนอะถ้ามากับเด็กๆก็ดูกันนิดนึงเพื่อความปลอดภัยและสบายใจหายห่วง

 

 

 

 

ศาลเจ้าคาซูงะ ไทชะ ถือได้ว่าเป็นของศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากของนารา ทั้งด้วยความงดงามและความเก่าแก่ที่ยาวนานเป็นพันปี โดยศาลเจ้าแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.768 สิ่งที่โดดเด่นของศาลเจ้านี้ก็คือ ตะเกียง นับพันอัน ซึ่งพบได้ในเกือบทุกพื้นที่ของศาลเจ้าแห่งนี้โดยผู้คนที่มีจิตศรัทธาเป็นผู้บริจาค ช่วงที่สวยที่สุดก็คงเป็นยามค่ำคืนที่เค้าจุดตะเกียงทั้งหมดพร้อมๆกัน บอเลยว่าภาพถ่ายว่าสวยแล้ว ของจริงนี่ทั้งสวยทั้งแลดูคลาสสิคเข้ากับบรรยากาศศาลเจ้าอย่างมาก

 

 

 

 

วัดโฮริวจิ (Horyuji Temple) ตั้งอยู่ภายในตัวเมืองนาราที่ถือว่าไม่ได้มีความสำคัญระดับจังหวัดหรือประเทศเท่านั้นนะคะ แต่เรียกได้ว่ามีความสำคัญระดับโลกเลยล่ะค่ะ เนื่องจากภายในวัดเต็มไปด้วยสมบัติชาติและมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญเป็นจำนวนมาก อีกทั้งได้รับการยกย่องให้ฐานะแหล่งเก็บรวบรวมงานศิลปะทางพุทธศาสนาขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ตัวอาคารเองก็ล้ำค่าไม่แพ้กันเพราะได้ถูกสร้างขึ้นโนปี 1150 โดยเจ้าชาย Shotoku Taishi ซึ่งในส่วนเขตพุทะวาสผั่งทิศตะวันตกถือเป็นกลุ่มอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมนั่นเอง

 

 

 

 

ถนนช้อปปิ้งฮิกาชิมูกิสุดปังแห่งเมืองนาราที่สายช็อปห้ามพลาด  โดยถนนแห่งนี้ตั้งอยู่ข้างสถานีรถไฟคินเทสึนารา(Kintetsu Nara Station)เรียกได้ว่าเดินทางมาง่ายแบบสุดๆ ) สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวง และร้านอาหารมากมายให้คุณได้เลือกช็อปจนจุใจเป็นระยาทางยาวรวมประมาณ 250 เมตร เรียกได้ว่าเป็นถนนสายช็อปที่เดินกำลังเพลิน ของก็เยอะทั้งของกระจุกกระจิก ของกินของใช้อย่างเพียบ มาแล้วต้องได้อไรติดไม้ติดมือกลับไปอย่างแน่นอน

 

 

 

 

ศาลเจ้าโยชิมิสึ(Yoshimizu Shrine) ตั้งอยู่บริเวณนากะ เซ็นบง (Naka Senbon) ของภูเขาโยชิโนะในจังหวัดนารา นับเป็นศาลเจ้าที่ดังมากๆเรื่องวิวสวยๆ บอกได้เลยว่าช่วงฤดูใบไม้ผลินี่สวยแบบตะลึง เห็นได้จากเป็นสถานที่ผู้คนที่นิยมมาชมดอกซากุระอยู่หนาตาอยู่ทุกๆปี เพราะจากวิวจากศาลเจ้าแห่งนี้จะมองเห็นต้นซากุระบนสันเขาที่สูงชันสลับซับซ้อนทอดยาวไปตามไหล่เขา นอกจากนี้ยังเคยเป็นที่จัดงานชมดอกไม้ในเทศกาลฮานามิโดยมีวัดโยชิมิสึเป็นเจ้าภาพอีกด้วย

 

 

 

 

วัดยาคุชิจิ (Yakushiji Temple) ตั้งอยู่ที่เมืองนารา(Nara)นั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความเก่าแก่มากที่สุดวัดนึงของญี่ปุ่นเชียวนะคะ รูปแบบสถาปัตยกรรมภายนอกจะคงความเป็นดั้งเดิมไว้มากที่สุด แม้จะมีบางส่วนที่ได้ถูกบูรณะมาบ้างหากก็ด้วยการอนุรักษ์และใส่ใจก็ทำให้ยังงดงามเหมือสมัยก่อนไม่มีผิดเพี้ยนเลยหล่ะ

 

 

 

 

วัดโคฟูกุจิ นับเป็นวัดเซนนิกายโอบาคุ(Obaku) เรียกได้ว่าเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นอย่างมากเลยนะคะ เพราะวัดแรกที่ถูกสร้างขึ้นราวๆปีค.ศ. 1620 ในยุคของราชวงศ์หมิง ซึ่งในยุคนั้นประเทศญี่ปุ่นมีการประกาศห้ามศาสนาคริสต์ ชาวจีนที่มาค้าขายทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นจึงต้องสร้างวัดขึ้นมาหลายแห่งเพื่อยืนยันว่าไม่ใช่ชาวคริสต์ ซึ่งวัดนี้เป็นวัดแรกที่ถูกสร้าง และกลายเป็นวัดสำคัญที่คนจีนในช่วงเวลานั้นจะมีสักการะก่อนออกเดินเรืออยู่เสมอๆ จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นวัดที่เต็มไปด้วยความศรัทธาของชาวเมืองอีกด้วย

 

 

 

 

ศาลเจ้าทานซาน (Tanzan Shrine) ตั้งอยู่บนภูเขาทางทิศตะวันออกของเมืองอะซุกะ(Asuka) ในจังหวัดนารา(Nara) นับว่าเป็นศาลเจ้าชื่อดังของเมืองที่ฮออตฮิตในหมูนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยล่ะค่ะ สิ่งที่ถือเป็นไฮไลท์ของที่วัดนี้เลยต้องยกให้ประตูโทริอิทางเข้าศาลเจ้าที่จะเรียงติดต่อกันกว่า 100 ประตู เป็นอุโมงค์ทางขึ้นเนินเขา บอกเลยว่าจุดนี้นั้นถ่ายรูปออกมาสวยอย่างแรง โดยด้านบนสุดเป็นที่ตั้งของเจดีย์ 13 ชั้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนที่อื่น ซึ่งสร้างในปี 1532 สมัยมูโระมาชิ(Muromachi Period) สูง 17 เมตร ด้านขวามือเป็นพื้นที่อาคารต่างๆ รวมไปถึงห้องโถงหลักของศาลเจ้าที่สามารถขึ้นไปชมวิวบนระเบียงได้อีกด้วย