จัดเต็ม 17 ที่เที่ยวน่าไปใน “ไซตามะ” เดินทางง่าย ใกล้โตเกียว ที่เที่ยวเยอะ 2567
Photo from https://flickr.com/photos/sayotsu
จังหวัดไซตามะ(Saitama) เป็นจังหวัดใหญ่ติดกับกรุงโตเกียวทางตอนเหนือ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เดินทางจากโตเกียวเพียงไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้น จึงเหมาะมากสำหรับการเดินทางมาเปลี่ยนบรรยากาศจากเมืองใหญ่ ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายเบียดเสียดกัน มาเป็นเมืองเล็กๆ กับบรรยากาศชนบทหน่อยๆ ที่ไม่วุ่นวายเท่า สามารถวางแผนมากันได้ทั้งแบบ เช้าไปเย็นกลับ หรือค้างซัก 1 คืนก็ยิ่งดี
ตามพวกเรามาดู 17 ที่เที่ยวน่าไปใน “ไซตามะ” เดินทางง่าย ใกล้โตเกียว ที่เที่ยวเยอะ กันเลย แล้วจะรู้ว่าจังหวัดนอกสายตานี้เต็มไปด้วยเสน่ห์มากมายขนาดไหน
1. Seibuen Amusement Park – ไซตามะ
Seibuen Amusement Park สวนสนุกธีมย้อนยุคญี่ปุ่นโบราณ ในธีมย้อนยุคที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกรุงโตเกียวในปี 1960 แนวคิดคือ “โลกที่โอบล้อมด้วยความอบอุ่นและความสุข” สวนสาธารณะที่ปรับปรุงใหม่นี้จำลองภูมิทัศน์เมืองในสมัยโชวะ ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในญี่ปุ่น
2. สวน Kumagaya Arakawa Ryokuchi Park
จุดชมซากุระ Kumagaya Sakura Tsutsumi อยู่ภายในสวน Kumagaya Arakawa Ryokuchi Park ซึ่งเป็นสวนริมน้ำยาวเป็นอุโมงค์ต้นซากุระถึง 2 กิโลเมตร ที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR Kumagaya Station จังหวัดไซตามะ(Saitama) เป็นจุดชมซากุระที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งของญี่ปุ่น ติดอันดับ 100จุดชมซากุระที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นด้วย และเนื่องจากสามารถเดินจากสถานีมาใช้เวลาเพียง 5 นาทีทำให้เป็นจุดชมซากุระที่เดินทางมาได้ง่ายๆ อีกทั้งมีพื้นที่ให้ชมหรือจัดปาร์ตี้ชมซากุระ(Hanami party)เยอะแยะมากมายเพราะเป็นสวนที่ยาวเหยียดเลยทีเดียว นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีการงานเทศกาลชมซากุระในตอนกลางคืนที่จะมีการเปิดไฟที่ต้นซากุระด้วย ซึ่งจะจัดกันประมาณ 2 สัปดาห์ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนถึงกลางเดือนเมษายน
3. สวนฮิสึจิยามะ Hitsujiyama
สวนฮิสึจิยามะ Hitsujiyama หนึ่งในแลนด์มาร์คของจังหวัดไซตามะ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็คือการมาชมทุ่งดอกชิบะซากุระเลย ดูทุ่งสีชมพูตัดกับสีขาวพร้อมท้องฟ้าและฉากหลังเป็นภูเขา ใหญ่ประมาณ 14 ไร่ และนอกจากนี้ก็ยังมีโซนที่จัดขายของต่างๆ ทั้งของกิน ของฝาก ของที่ระลึก ซึ่งหลายๆอย่างนอกจากจะผลิตในท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นแบบ Limited edition สำหรับฤดูกาลนี้เท่านั้นด้วย เช่นน้ำชิบะซากุระในรูป หอม เย็นชื่นใจมากๆ
การเดินทาง
อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ 3 สถานี คือ Seibu Chichibu Station, Chichibu Station และ Yokoze Station แล้วเดินต่อประมาณ 15-20 นาที
4. ย่านเมืองเก่าเมืองคาวาโกเอะ Kawagoe old street
ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ(Kawagoe’s Warehouse District) นับเป็นย่านที่มีเสน่ห์และมีความเป็นเอกลักษณ์มากๆ โดยจะอยู่ทางทิศเหนือของสถานีรถไฟ Kawagoe ประมาณ 2 กิโลเมตร ถนนหลักจะยาวประมาณ 700 เมตร แต่ระหว่างสองข้างทางของถนนเส้นนี้จะมี ตรอกซอกซอย ที่สามารถเเดินเที่ยวเข้าไปได้อีกยาวๆกันเลย ซึ่งสิ่งที่ทำให้ย่านเมืองเก่าแห่งนี้ฮอตฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวก็ตรงที่ทั่วทั้งย่านเต็มไปด้วยบ้านเรือนแลลโบราณสมัยเอโดะตลอดแนวยาวสองข้างทาง ที่บอกเลยว่าดูแลดีมากๆจนน่าเหลือเชื่ออย่างกับหลุดเข้าไปในเอโดะเลยทีเดียว ทำให้ย่านนี้มีฉายา Koedo Kawagoe หรือแปลได้ว่า ลิตเติ้ลเอโดะ (Little Edo)
5. ศาลเจ้าโฮโดซัง Hodosan Shrine
ศาลเจ้าโฮโดซัง(Hodosan Shrine) เป็นศาลเจ้าที่มีอายุเก่าแก่เกือบ 2 พันปีแล้ว ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามของเมืองชิชิบุในจังหวัดไซตามะ มีต้นไม้ใหญ่โอบล้อมอยู่รอบด้าน จนได้รับรางวัล The Michelin Green Guide 1 ดาว ในปี 2011 อีกด้วย อาคารต่างๆของศาลเจ้านั้นมีการตกแต่งด้วยความปราณีตและมีสีสันงดงาม ซึ่งในช่วงสมัยเอโดะที่มีการบูรณะนั้นกินเวลายาวนานถึง 30 ปีเลยทีเดียว มีอาคารหลักทั้งหมด 3 แห่งด้วยกันคือ Honden และ Heiden 2 หลัง ซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นโบราณ Gongen-zukuri
6. ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Jinja)
ศาลเจ้าฮิกาวะ(Kawagoe Hikawa Shrine) ตั้งอยู่ภายในตัวเมืองไซตามะ(Saitama) นับว่าเป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงมากๆแห่งหนึ่งของเมืองไซตามะเลยล่ะค่ะ โดยศาลเจ้าแห่งนี้นั้นปกติแล้วจะมีบรรยากาศที่เงียบสงบและร่นรื่นมากๆ โครงสร้างอาคารต่างๆของศาลเจ้าในปัจจุบันสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1940 แต่ถ้าช่วงเทศกาลประจำปีหรือโอกาสพิเศษต่างๆอย่างช่วงปีใหม่นี่บอกเลยว่าคนอย่างแน่น เพราะจะมีผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้ามาสักการะศาลเจ้าวันแรกในวันปีใหม่ ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้ครึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คนที่เข้ามาเยี่ยมชมมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
7. สวน Gongendo Park
8. เก็บและกินสตรอว์เบอร์รีสดๆจากฟาร์ม Komatsuzawa
สตรอว์เบอร์รีของเมืองชิชิบุเป็นทั้งแหล่งปลูกและมีสายพันธ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว การันตีด้วยรางวัลกรังปรีต์อันดับหนึ่งเชียวนะ สามารถมาเก็บได้ตั้งแต่ฤดูหนาวจนจบฤดูใบไม้ผลิ มีหลายสายพันธ์ ที่รสชาติแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่ก็จะหวานฉ่ำ บางลูกไม่มีรสเปรี้ยวเลย ขนาดกับดี ไม่ใหญ่เกินไป ไม่เล็กเกินไป สีแดงสด ข้างนอกกรอบข้างในนุ่มฉ่ำน้ำ มีการปลูกแบบออแกนิค สะอาด จนสามารถเด็ดทานจากต้นได้เลย
9. พิพิธภัณท์รถไฟ โอมิยะ (Railway Museum)
ใครเคยไปญี่ปุ่นก็คงจะคุ้นเคยกับรถไฟสารพัดแบบของประเทศญี่ปุ่นกันดี มีเยอะหลายร้อยหลายพันรุ่นและซีรีย์ ไล่เรียงกันมาตั้งแต่แบบหัวรถจักรโบราณ จนถึงทันสมัยเป็นรถไฟหัวกระสุน ชินคันเซน จึงไม่น่าแปลกใจที่พิพิธภัณท์รถไฟจะเป็นสถานที่น่าสนใจมากแห่งหนึ่ง ยิ่งใครชอบรับรองว่าจะได้ใช้เวลาหลายชั่วโมง เดินดูขบวนรถไฟทั้งของจริงของจำลองรุ่นต่างๆที่จัดแสดงกันอยู่มากมายแบบเพลินสุดๆไปเลย โดยเฉพาะเด็กๆ
10. จิจิบุ มิวซ์ ปาร์ค (Chichibu Muse Park)
จิจิบุ มิวซ์ ปาร์ค (Chichibu Muse Park) หรือมีอีกชื่อนึงที่คนแถบนี้เรียกกันว่า มิยุซุ ปาร์ค (Miyuzu Park) นับเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ตั้งอยู่แถบบริเวณเนินเขาของเมืองจิจิบุ(Chichibu) จังหวัดไซตามะ (Saitama) ด้วยความที่กินพื้นที่ไปกว่า 375 ไร่ คิดดูค่ะว่ามันจะกว้างใหญ่ไพศาลอลังการขนาดไหน แม้พื้นที่จะกว้างขนาดนี้หากเค้าก็มีการจัดการที่ดีนะคะ โดยมีการจัดแบ่งออกเป็น 4 โซนหลักๆตามธีม ทำให้ที่นี่มีไฮไลท์พิเศษเยอะแยะมากมาย ซึ่งไม่ว่ามาฤดูไหนก็สวยมีเสน่ห์แตกต่างกัน
11. สวนคินชาคุดะ-มันจูชาเกะ (Kinchakuda-Manjushage Park)
สวนคินชาคุดะ-มันจูชาเกะ (Kinchakuda-Manjushage Park) ตั้งอยู่ภายในเมืองฮิดากะ (Hidaka) จังหวัดไซตามะ (Saitama) ถ้าพูดถึงจุดที่สามารถชมดอกไม้ที่สวยมากที่สุดของเมืองมั่นใจกว่ากว่าครึ่งต้องเทใจให้สวนแห่งนี้แน่นอน สิ่งที่ทำให้สวนโด่งดังมากๆในแถบคันโตก็คือ ดอกฮิกันบานะ (Higanbana) หรือที่เราน่าจะคุ้นหูกันอีกชื่อแบบสากลว่า “ลิลลี่แมงมุมแดง (Red Spider Lily)” ไม่ใช่จะหาดูที่ไหนกันง่ายๆนะคะ แต่มาที่สวนนี้รับรองว่าไม่ผิดหวังกับความงดงามกันแน่ๆ เรื่องความอลังการงานสร้างจัดเต็มจนต้องยอมใจด้วยทุ่งดอกไม้แดงมากกว่า 5 ล้านดอกเรียงรายตลอดสองฝั่งแม่น้ำโคมะ
12. พิพิธภัณท์บอนไซ (Bonsai Museum)
คนชอบบอนไซต้องไม่พลาดแวะมาที่ พิพิธภัณท์บอนไซ ของเมืองโอมิยะ เพราะเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านบอนไซมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งมีการจัดประกวดบอนไซโลกมาหลายครั้ง ใครที่ปลูกบอนไซเป็นงานอดิเรกคงจะตื่นตาตื่นใจกับที่นี่ไม่น้อยแน่นอน
13. ล่องเรือแม่น้ำอะราคาวะ(Arakawa River Boat Rides)
อีกหนึ่งในไฮไลท์ของจังหวัดไซตามะคือการมาล่องเรือที่แม่น้ำอะราคาวะของเมืองนากาโตโร่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่น้ำไหลแรงสะใจเปียกปอนกันไป หรือในฤดูใบไม้ร่วงที่จะมีใบไม้เปลี่ยนสีแดงส้มเหลืองให้ชมตัดกับสีน้ำเงินเขียวของสายน้ำที่ว่ากันว่าสะอาดมากๆ
การเดินทาง
เดินจากสถานีรถไฟ นากาโตโร่(Nagatoro) ประมาณ 10 นาที
14. นั่งกระเช้าเที่ยวภูเขาโฮโดซัง(Hodosan ropeway)
กระเช้าของภูเขาโฮโดซัง(Hodosan Ropeway) เป็นกระเช้าเพียงแห่งเดียวของจังหวัดไซตามะ ที่บริเวณนี้ก็จะมีสวนที่มีทางเดินให้ชมดอกซากุระ มีจุดชมวิวด้านบนเขา มีศาลเจ้า มีสวนสัตว์ให้ชม และก็ยังสวยงามมากในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเช่นเดียวกัน
15. เที่ยวมุ้งมิ้ง ที่ หมู่บ้านมูมิน (Moomin Valley Park)
ใครเป็นแฟนคลับ มูมิน ตัวการ์ตูนสุดมุ้งมิ้งจากประเทศฟินแลนด์ สามารถมาตามรอยเที่ยวบ้านมูมิน หรือ Moomin Valley Park ได้ที่ไซตามะเลย ภายในนอกจากจะมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะมากมายแล้ว ยังมีของที่ระลึกให้กระเป๋าฉีกกันอีกเพียบๆเลยด้วย
16. ชมรูปปั้นในอริยาบถต่างๆกว่า 500 องค์ ที่วัดคิตะอิน (Kitain Temple)
วัดคิตาอิน(Kitain) นับว่าเป็นวัดเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองคาวาโกะเอะ ที่เคยเป็นวัดหลักของนิกายเทนไดในภูมิภาคคันโตเชียวนะคะ เนื่องมาจากการที่ในสมัยเอโดะนั้น ท่านโชกุนได้เลื่อมใสศรัทธาเจ้าอาวาสของวัดแห่งนี้ เมื่อเข้ามาปุ๊บจะเห็นเลยว่าไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ก็คือ การที่มีรูปปั้น มีจำนวนมากถึง 540 รูป โดยแต่ละรูปก็จะมีการแสดงสีหน้าท่าทางอารมณ์ที่แต่งต่างกัน จึงทำให้รูปปั้นเหล่านี้เป็นที่สนใจเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ ประวัติความเป็นมาของวัดแห่งนี้เริ่มมาจากการถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 830 แต่อาคารบางส่วนของวัดได้ถูกทำลายลงภายหลัง จะยังมีคงเหลือไว้เพียงส่วนของปราสาทเอโดะ (Edo Castle)เท่านั้นเอง
17. เสาน้ำแข็ง(The Icicles of Misotsuchi)