14 ที่เที่ยวโทชิงิ Tochigi แหล่งมรดกโลกใกล้โตเกียว 2567
Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Japan,_Tochigi_-_Nikko_lake_Ch%C5%ABzenji_Kegon_waterfall_2015.jpg
โทชิงิ Tochigi เป็นจังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือของโตเกียว ใช้เวลาเดินทางมาเที่ยวไม่นาน จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับหลายๆคน จังหวัดนี้มีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆหลายแห่ง รวมทั้งมีอุทยานแห่งชาติชื่อดัง นั่นก็คือ นิกโก ซึ่งถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มีศาลเจ้าและวัดที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง นอกจากที่เที่ยวแล้วโทชิงิยังเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อน และมีสวนดอกไม้ขนาดใหญ่อย่าง Ashikaga Flower Park อีกด้วย เพราะมีที่เที่ยวค่อนข้างเยอะและก็อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว ทำให้ราสามารถไปเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับได้สบายๆเลย ตามไปดู 14 ที่เที่ยวยอดฮิตของโทชิงิกันครับ
1. ศาลเจ้าโทโชกุ – Toshogu Shrine
ศาลเจ้าโทโชกุ( Toshogu Shrine) นับเป็นศาลเจ้าที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองนิกโก้เลยนะคะ เรียกได้ว่าไม่ว่าใครที่มาเมืองนี้แล้วถ้าไม่มาศาลเจ้าโทโชกุเนี่ยเหมือนมาไม่ถึงเลยทีเดียว เนื่องจากศาลเจ้าแห่งนี้นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพแห่งแสงสว่าง อีกทั้งยังเป็นที่พำนักอาศัยที่สุดท้ายของ โชกุน Tokugawa Ieyasu ทำให้กลายเป็นวัดเก่าแก่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนิโก้อันมีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมากที่สุดแห่งหนึ่งก็ว่าได้ค่ะ ในตอนแรกนั้นบริเวณศาลเจ้าแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับฝั่งศพ ต่อมาจึงก็มีการสร้างอาคารและขยายศาลเจ้าเพิ่มเติมจนมีขนาดใหญ่อย่างที่เห็นในปัจจุบันนั่นเอง
2. สวนดอกไม้ อาชิคางะ Ashikaga Flower Park
สวนดอกไม้ อาชิคางะ (Ashikaga Flower Park) เป็นหนึ่งในสวนดอกวิสทีเรียที่สวยงามและอลังการที่สุดของประเทศญี่ปุ่น บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 60 ไร่ ที่จัดแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ อุโมงค์ต้นวิสทีเรียยาวเกือบ 100 เมตร และต้นวิสทีเรียขนาดใหญ่ยักษ์ อายุกว่า 140 ปีมาแล้ว อยู่ที่จังหวัดโทชิกิ(Tochigi) เมืองอาชิคางะ(Ashikaga) ห่างจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
3. ทะเลสาบชูเซนจิ Lake Chuzenji
ทะเลสาบชูเซนจิ (Lake Chuzenji) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองนิกโก้ (Nikko)ภายในจังหวัดโทจิงิ(Tochigi) โดยทะเลสาบแห่งนี้นี่จะตั้งอยู่บริเวณฐานภูเขาไฟนันไต(Mount Nantai) คนที่มาเที่ยวที่นี่นอกจากจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์สุดสดชื่นๆ พร้อมชมทะสาบงามๆแล้วนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่าไปรอบๆทะเลสาบชูเซนจิ(เส้นรอบวง 25 กิโลเมตร) หรือล่องเรือจาก Chuzenjiko Onsen เพื่อเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่งดงามได้อีกด้วย
4. สะพานชินเคียว Shinkyo Bridge
สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) หรือที่หลายๆคนจะรู้จักกันในชื่อว่า “สะพานศักดิ์สิทธิ์” ตั้งอยู่บริเวณประตูทางเข้าศาลเจ้าและวัดนิกโก้ ภายในเมืองนิกโก้(Nikko)นั่นเอง สิ่งที่ทำให้ไม่มาที่สะพานแห่งนี้แล้วถือว่าพลาดๆมากๆก็เพราะสะพานชินเคียวนั้นได้รับการจัดอันดับให้ติด 1 ใน 3 ของสะพานที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่นร่วมกับสะพานคินไตเคียว(Kintaikyo Bridge) ที่อิวาคูนิ กับสะพานซารุฮาชิ(Saruhashi) ที่ยามานาชิ,โอสึกิเลยครับ ถึงกับได้รับการยอมรับระดับประเทศขนาดนี้คิดดูว่าต้องสวยไม่ธรรมดาแน่นอน
5. ศาลเจ้าฟูทาระซัง Futarasan Shrine
ศาลเจ้าฟูทาระซัง (Futarasan Shrine) ตั้งอยู่ที่เมืองนิกโก้(Nikko)ภายในจังหวัดโทจิงิ(Tochigi) ศาลเจ้าแห่งนี้นี่มีอายุกว่าพันปีเลยครับ หากแต่เค้าก็มีการบำรุงรักษาได้ดีงากๆแม้จะไม่ได้สวยเป๊ะอย่างกับในอดีต แต่งดงามคลาสสิคแน่นอน
6. น้ำตกเคงอน Kegon Waterfall
น้ำตกเคงอน (Kegon Waterfall) ตั้งอยู่ภายในเมืองนิกโก้(Nikko) สามารถเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดประจำเมืองนิกโก้เชียวหล่ะครับ เพราะที่นี่นั้นสวยเลื่องชื่อจนได้รับการจัดอันดับให้ติด 1 ใน 3 น้ำตกที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่นเลยครับ
7. สวนสนุกเอโดะวันเดอร์แลนด์ Edo Wonderland
สวนสนุกเอโดะวันเดอร์แลนด์ (Edo Wonderland) มีอีกหลายชื่อที่ใช้เรียกกันอย่าง Azuchi Momoyama Bunka Mura หรือ Sengoku Jidai Muraนั่นเองค่ะ ตั้งอยู่ที่เมืองอิเสะชิมะ(Ise Shima) ในจังหวัดมิเอะ(Mie) เรียกได้ว่าเป็นสวนสนุกที่แปลกแตกต่างไม่เหมือนใครตรงที่มีธีมแบบยุคสมัยเอโดะนี่แหล่ะค่ะ นับเป็นสวนสนุกธีมพาร์คที่เป็นรูปแบบสมัยเอโดะที่มีการนำเสนอในรูปแบบยุคที่ซามูไรปกครองประเทศในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น บอกเลยว่าไม่ใช่แค่ความสนุกที่เราจะได้จากที่นี่นะคะ แต่เค้ายังแบแฝงเกล็ดความรู้ต่างๆผ่านการตกแต่งและโชว์ต่างๆอีกด้วย
8. วัดรินโนจิ Rinnoji Temple
วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple) นับว่าเป็นวัดที่สำคัญมากที่สุดของเมืองนิกโก้(Nikko)เลย ด้วยความที่ถูกก่อตั้งโดยพระสงฆ์ผู้นำศาสนาพุทธเข้าสู่นิกโก้ในช่วงศตวรรษที่ 8นามว่า “Shodo Shonin” วัดแห่งนี้ยังจะเป็นที่ประดิษฐานของสองสิ่งที่ถือว่าล้ำค่าทางวัฒนธรรมและมีความศักสิทธิ์มากๆอย่างรูปแกะสลักไม้ Amida, Senju-Kannon ซึ่งเป็นพระพุทธรูป Kannon พันมือ และ Bato-Kannon ที่เป็นพระพุทธรูป Kannon ที่มีศีรษะเป็นม้า
9. สะพานแขวนโมมิจิดานิ Momijidani Suspension Bridge
สะพานแขวนโมมิจิดานิ Momijidani Suspension Bridge หรือที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า Momijidani Otsuribashi เป็นสะพานแขวนที่ใหญ่ และสูงที่สุดในเมืองชิโอบาระออนเซน ตั้งอยู่ติดกับเขื่อนน้ำชิโอบาระเหนือทะเลสาบเทียมครอบคลุมระยะทาง 320 เมตร ปลายสุดของสะพานอีกฝั่งเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่ ประกอบด้วย ร้านอาหาร และร้านค้า
10. ถนนสายโรแมนติค อิโรฮาซากะ Irohazaka Winding Road
ถนนสายโรแมนติคอิโรฮาซากะ – Irohazaka Winding Road หนึ่งในเส้นทางขับรถชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ระยะทางประมาณ 350 กิโลเมตร วิ่งจากเมืองอุเอดะในจังหวัดนากาโน่ ลัดเลาะตามเขาไปเรื่อยๆผ่านจังหวัดกุนมะ แล้วไปสิ้นสุดที่นิกโก้ ระหว่างทางก็จะเป็นเส้นทางขึ้นลงเขา โค้งไปโค้งมา เมื่อขับขึ้นไปยังยอดเขาและมองลงมาก็จะสามารถเห็นถนนที่โอบล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี วิ่งคดเคี้ยวลัดเลาะไปตามไหล่เขา ใบไม้เป็นสีแดง ส้ม เหลือง สลับกันสวยงามมาก
11. สวนจำลองโทบุเวิร์ดสแควร์ Tobu World Square
สวนจำลองโทบุเวิร์ดสแควร์ (Tobu World Square) ตั้งอยู่ที่จังหวัดโทจิงิ(Tochigi) บอกเลยว่ามาสวนนี้สวนเดียวเหมืนได้เที่ยวรอบโลกเลย เพราะที่นี่นั้นมีการจัดแสดงแบบจำลองสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของทั่วโลกในขนาด 1:25 รวมถึงอนุสาวรีย์โบราณ สมบัติทางวัฒนธรรม และมรดกโลก UNESCO World Heritage Sites ที่มีการลงรายละเอียดรถยนต์ รถไฟ และผู้คนในสถานที่นั้นๆอีกด้วย เรียกว่าเดินเที่ยวเพลินกันทั้งวันเลยหล่ะ
12. ศาลเจ้าไทยุอินเบียว Taiyuinbyo
ศาลเจ้าไทยุอินเบียว (Taiyuinbyo) ตั้งอยู่ที่เมืองนิกโก้(Nikko) ภายในจังหวัดโทจิงิ(Tochigi) นับได้ว่าเป็นศาลเจ้าที่การตกแต่งอย่างหรูหราและดูมีสไตล์มากๆแห่งหนึ่งเลย อย่างเมื่อเดินจากศาลเจ้าโทโชกุ(Toshogu Shrine)ไปทางทิศตะวันตกแล้วจะพบกับซุ้มประตูนิโอมอน(Niomon Gate) และประตูนิเทนมอน(Nitenmon Gate)ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา เสาสองข้างมีรูปสลักกษัตริย์สวรรค์เฝ้าอยู่ พร้อมทั้งหอกลองทางด้านซ้าย และหอระฆังด้านขวา แถมบรรยากาศโดยรอบของที่นี่จะให้ความรู้สึกสงบร่มเย็น หลายๆจุดนี่มีต้นไม้ขึ้นเยอะจนทำให้แม้จะเป็ฯช่วงหน้าร้อนก็ไม่ร้อนมากจนเกินไปอีกด้วย
13. พิพิธภัณท์หินโอยะ Oya Shiryokan Stone Museum
พิพิธภัณท์หินโอยะ (Oya Shiryokan Stone Museum) เป็นหมืองหินเก่าชนิดพิเศษของญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า หินโอยะ(Oya Stone)ที่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณท์ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของเหมืองแห่งนี้ ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดยมีโถงใต้ดินที่เหมือนกับอยู่ในโถงพีรามิดของอียิปป์หรือสมัยโรมันโบราณ มีขนาดใหญ่ถึง 2 หมื่นตารางเมตร ใหญ่พอๆกับสนามฟุตบอล 5 สนาม ทำให้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยตร์ต่างๆ รวมทั้งลานแสดงคอนเสิร์ตด้วย ว่ากันว่าที่โถงใต้ดินนี้จะมีอุณภูมิเท่าๆกันตลอดทั้งปีที่ประมาณ 8 องศาเซลเซียส
14. ยูโมโตะออนเซน Yumoto Onsen
ยูโมโตะออนเซน (Yumoto Onsen) ตั้งอยู่ด้านหลังของอุทยานแห่งชาติโอคุนิกโก้ ทิศเหนือเป็นที่ตั้งของวัดออนเซนจิ(Onsenji) ภายในเมืองนิกโก้(Nikko) จังหวัดโทจิงิ(Tochigi)นั่นเองล่ะค่ะ ที่นี่นับเป็นเมืองน้ำพุร้อนที่ฮอตฮิตมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานแล้วนะคะ ด้วยความที่น้ำพุร้อนของที่นี่มีคุณภาพดีมากมาย แถมยังมาจากธรรมชาติแท้ๆ ยิ่งช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณกลางเดือนตุลาคมนี่เรียกได้ว่าเป็นช่วงน่ามาที่สุด เนื่องจากที่นี่จะมีบรรยากาศสวยสุดของปีเลยครับ