แนะนำ โรงแรมที่พัก โตเกียว ญี่ปุ่น อัพเดตล่าสุด

แนะนำ 15 ที่เที่ยววากายามะ สวย ฮิต ห้ามพลาด Wakayama Top Hits 2567

top-places-wakayama

Iam_Anuphone/shutterstock.com


อัพเดตล่าสุดเมื่อ 5 กันยายน 2567

 

จังหวัดวาคายะมะ (Wakayama) ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น เป็นดินแดนมรดกโลกที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอันเก่าแก่ ทำให้ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจ ทั้งทะเล ภูเขา และวัดวาอารามที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ที่นี่ยังมีประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลไฟแห่งนะชิ (Nachi Fire Festival), งานเทศกาลคบเพลิง โอะโทมัตสึริ (Oto Matsuri Festival) และ เทศกาลโออุงิ (Ougi Festival) เป็นต้น นอกจากนี้วาคายามะยังมีอาหารท้องถิ่นที่เป็นที่รู้จักมากมาย โดยเฉพาะอาหารทะเลสด และผลไม้อย่าง ส้มวาคายามะ (Wakayama Mikan) สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจภายในจังหวัดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด หากมีโอกาสเดินทางมาก็อย่างเช่น

 

 

หน้านี้มีอะไรบ้าง กดปุ่มนี้ =>

 

การแบ่งสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดวากายาม่าออกเป็นโซนย่อยๆ จะช่วยให้เราเห็นภาพการวางแผนเดินทางเที่ยวได้ง่ายขึ้น โดยที่เที่ยวเด่นๆในจังหวัด วากายาม่า ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่นอกตัวเมือง เช่น โซนคุมาโน่ และ โซนโคยะซัง ส่วนในตัวเมืองก็จะมีปราสาท สวน และศาลเจ้า

 

สถานที่ท่องเที่ยวในเขตตัวเมืองวากายาม่า Wakayama City Centre

 

▌1. ปราสาทวาคายามะ (Wakayama Castle)

leungchopan/shutterstock.com

Sean Pavone/shutterstock.com

Cooler8/shutterstock.com

ปราสาทวาคายามะ (Wakayama Castle) เป็นปราสาทที่มีความสวยงามในด้านสถาปัตยกรรมและวิวทิวทัศน์ รวมทั้งยังมีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อีกด้วย ปราสาทวากายามะถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1585 แต่ต่อมาเกิดสงครามใหญ่ขึ้นหลายครั้ง ทำให้ปราสาทได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้ง 2 หอคอยปราสาทถูกทำลายลง และได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในปี 1958 จนถึงปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมือง โดยตัวปราสาทจะตั้งอยู่บนเนินเขามีอยู่ด้วยกัน 3 ชั้น ภายในมีห้องจัดแสดงที่บอกเล่าเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของปราสาท นอกจากรอบบริเวณยังถูกออกแบบให้สวนญี่ปุ่น ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นและชมดอกไม้ตามฤดูกาลได้ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิภายในสวนจะเต็มไปด้วยดอกซากุระบานสะพรั่ง นอกจากนี้บริเวณชั้นบนสุดของประสาทยังเป็นจุดชมวิว ที่เราสามารถมองเห็นเมืองวากายามะและวิวท้องทะเลได้ไกลสุดสายตา

– การเดินทาง จากสถานี Wakayama ให้ขึ้นรถบัสไปลงยังป้าย Koen Mae จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาทีก็จะถึงปราสาท

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/Ndq97gjGzqsbnMaa9

 

 

 

▌2. วาคายามะ มารีน่า ซิตี้ (Wakayama Marina City)

Go_Legacy/shutterstock.com

Sitthipong Pengjan/shutterstock.com

Sitthipong Pengjan/shutterstock.com

วาคายามะ มารีน่า ซิตี้ (Wakayama Marina City) ตั้งอยู่บนเกาะเทียม เกาะที่เกิดจากการถมทะเล ในอ่าววาคายาม่า ภายในเมืองมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น แหล่งช้อปปิ้ง สวนสนุก ตลาดปลา และแหล่งบันเทิง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหาสถานที่พักผ่อนและสนุกสนานในช่วงวันหยุด สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองแห่งนี้ ก็อย่างเช่น สวนสนุกปอร์โต ยูโรปา (Porto Europa) สวนสนุกที่มีบรรยากาศเหมือนอยู่ในยุโรปตอนใต้ และยังมาพร้อมเครื่องเล่นมากมาย เช่น รถไฟเหาะ ชิงช้าสวรรค์ เรือโจรสลัด และ เมืองจำลองที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม นอกจากนี้บนเกาะยังมีศูนย์การค้าที่มีร้านค้าและร้านอาหารเปิดให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงตลาดคุโรชิโอะ (Kuroshio Ichiba) ตลาดปลาที่มีชื่อเสียงในวากายามะ มีปลาจำหน่ายหลากหลายสายพันธุ์ ที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คือปลาทูน่าสด รวมทั้งมีอาหารทะเลหลากหลายรูปแบบให้เลือกซื้ออีกด้วย หรือใครอยากแช่น้ำพุร้อนให้ผ่อนคลาย บนเกาะแห่งนี้ก็มีบริการด้วยเช่นกัน

– การเดินทาง จากสถานีรถไฟ Namba ให้ขึ้นรถไฟสาย Nankai ไปลงที่สถานี Wakayama จากนั้นขึ้นรถบัสมาลงที่ป้าย Marina City แล้วเดินต่ออีกประมาณ 2-3 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/KpDY45LswX8imkp97

 

 

 

สถานที่ท่องเที่ยวในเขตคุมาโน่(Kumano Area หรือ Kii Peninsula)

ที่เที่ยวในเขตคุมาโน่ ของจังหวัดวากายาม่า น่าจะเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของจังหวัดนี้ได้เลยทีเดียว

 

 

▌3. ศาลเจ้า คุมาโนะ นาชิ (Kumano Nachi Taisha)

Iam_Anuphone/shutterstock.com

LEOCHEN66/shutterstock.com

cowardlion/shutterstock.com

ศาลเจ้า คุมาโนะ นาชิ (Kumano Nachi Taisha) เป็นหนึ่งในสามศาลเจ้าหลักของศาสนาชินโต ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติสวยงามและมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี รวมทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกอีกด้วย สำหรับสถานที่ที่น่าสนใจของศาลเจ้าคุมาโนะนาชิ ก็อย่างเช่น เจดีย์สีแดงของวัดเซกันโทจิ (Seiganto-ji) เป็นเจดีย์สามชั้นที่ตั้งอยู่ใกล้กับน้ำตกนาชิ (Nachi) หากชมวิวจากศาลเจ้าเราจะเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามของเจดีย์ที่น้ำตก ภูเขา และป่าไม้ เป็นฉากหลัง สำหรับน้ำตกนาชิ ยังจัดเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากนี้ศาลเจ้าคุมาโนะนาชิและวัดเซกันโทจิ ยังเป็นเขตของเส้นทางแสวงบุญคุมาโนะโคโด (Kumano Kodo) ที่นับเป็นเส้นทางแสวงบุญที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามเส้นทางนี้เพื่อสัมผัสประสบการณ์การแสวงบุญและชื่นชมธรรมชาติที่งดงามระหว่างทาง

– การเดินทาง จากสถานีรถไฟ JR Nachi Station ให้ขึ้นรถบัสมาลงที่ป้าย Nachisan จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 10-15 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/DmZqkMqoKF5g8c6NA

 

 

 

▌4. ศาลเจ้า คุมาโนะ ฮอนกูไทฉะ (Kumano Hongu Taisha)

YUN JUNGU/shutterstock.com

Jen Wei Chen/shutterstock.com

worldroadtrip/shutterstock.com

ศาลเจ้า คุมาโนะ ฮอนกู ไทฉะ (Kumano Hongu Taisha) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 1,000 ปี และเป็นศูนย์กลางของการแสวงบุญในภูมิภาคคุมาโนะ รวมทั้งยังเป็นหนึ่งในเส้นทางแสวงบุญที่เชื่อมโยงกับศาลเจ้าหลักทั้งสามของคุมาโนะ ได้แก่ Kumano Hongu Taisha, Kumano Nachi Taisha และ Kumano Hayatama Taisha เส้นทางนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกด้วยเช่นกัน สำหรับตัวอาคารของศาลเจ้าจะสร้างมาจากไม้ ตามแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีความประณีตและงดงาม รวมถึงประตูโทริอิ (Torii) ขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 33 เมตร มองเห็นโดดเด่นได้จากระยะไกล และด้วยความที่ศาลเจ้าแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญ มาที่นี่นอกจากเราจะได้เยี่ยมชมสถานที่สำคัญแล้ว ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น การเดินป่า การเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา และการสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด

– การเดินทาง ขึ้นรถบัสจากป้ายสถานีรถไฟ JR Shingu มาลงที่ป้าย Hongu Taisha จากนั้นเดินต่อมายังศาลเจ้า ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/QuwE7ZS8yboKjXto6

 

 

 

▌5. ศาลเจ้า คุมาโนะ-ฮายาทามะ-ไทฉะ (Kumano Hayatama Taisha Shrine)

Veerachart/shutterstock.com

RITSU MIYAMOTO/shutterstock.com

beibaoke/shutterstock.com

ศาลเจ้าคุมาโนะ-ฮายาทามะ-ไทฉะ (Kumano Hayatama Taisha Shrine) เป็นอีกสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เพราะศาลเจ้าแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในสามเส้นทางจาริกแสวงบุญ Kumano Kodo ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกด้วยเช่นกัน ที่สำคัญที่นี่ยังเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่สุดในสามศาลเจ้าหลักของคุมาโนะ มีอายุมากกว่าพันปี อาคารหลักของศาลเจ้าสร้างมาจากไม้ทาด้วยสีแดงที่มองดูโดดเด่นสะดุดตา พร้อมด้วยประตูโทริอิ (Torii) ที่ตั้งสูงตระหง่านอยู่ด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้า นอกจากนี้ภายในบริเวณศาลเจ้ายังมีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุกว่า 800 ปี รวมทั้งในส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวัตถุโบราณและสมบัติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของศาลเจ้าและการแสวงบุญ ที่ช่วยให้ผู้สนใจสามารถเรียนรู้เรื่องราวและความสำคัญของศาลเจ้าแห่งนี้ได้อย่างละเอียด

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟ JR ไปลงที่สถานี Shingu Station จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/4peBrScx1suF4waJ8

 

 

 

▌6. ยุโนะมิเนะ ออนเซ็น (Yunomine Onsen)

chuck hsu/shutterstock.com

Tanya Jones/shutterstock.com

Tanya Jones/shutterstock.com

ยุโนะมิเนะออนเซ็น (Yunomine Onsen) เป็นอีกหนึ่งออนเซ็นเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,800 ปี และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย น้ำแร่ที่ Yunomine Onsen มีอุณหภูมิเหมาะสมสำหรับการแช่ตัว มีรสชาติเค็มอ่อนๆ นอกจากนี้น้ำในบ่อยังเปลี่ยนสีถึง 7 ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งเป็นผลมาจากแร่ธาตุต่างๆ ที่ละลายอยู่ในน้ำ แร่ธาตุเหล่านี้มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ ในการช่วยบำรุงผิวพรรณและช่วยบรรเทาอาการของโรคได้หลายชนิด ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่ผู้แสวงบุญมักมาเยือน เพื่อขอพรและทำพิธีการชำระล้างบาปก่อนที่จะเดินทางไปยัง Kumano Hongu Taisha สำหรับลักษณะของบ่อออนเซ็นบริเวณขอบบ่อจะมีแผ่นไม้กระดานวางล้อมรอบ สามารถลงไปแช่ได้เพียงครั้งละ 1-2 คนเท่านั้น และด้วยความที่มีบรรยากาศเงียบสงบ มีธรรมชาติที่งดงาม ทำให้ Yunomine Onsen เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนด้วยการแช่น้ำแร่ให้รู้สึกผ่อนคลาย และสัมผัสกับวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น

– การเดินทาง ขึ้นรถบัสจากป้ายสถานีรถไฟ JR Shingu มาลงยังป้าย Yunomine Onsen จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/ea85YevaEJHyzMBi7

 

 

 

▌7. แหลมชิโอโนะมิซากิ (Cape Shionomisaki)

Sean Pavone/shutterstock.com

Avant Visual/shutterstock.com

osap/shutterstock.com

แหลมชิโอโนะมิซากิ (Cape Shionomisaki) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรคิอิ เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และการเดินเรือของญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคโบราณ บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของประภาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี 1873 เป็นประภาคารที่มีบทบาทสำคัญในการนำทางเรือในช่วงเวลานั้นและยังคงมีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน รอบบริเวณแหลมมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามของมหาสมุทรแปซิฟิก รวมไปถึงโขดหินรูปร่างแปลกตาที่ถือกำเนิดมานานกว่า 15 ล้านปี ประมาณ 40 ต้น มีขนาดเล็กและใหญ่แตกต่างกัน ตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบมีความยาวกว่า 900 เมตร ที่นี่ยังจัดเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามอีกด้วย นอกจากนี้บนประภาคารยังอนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวในมุมสูงที่สามารถชมได้แบบ 360 ด้านบนมีทัศนียภาพสวยงามจับตา รับรองได้เลยว่าหากได้ชมจะต้องรู้สึกประทับใจไปอีกนาน

– การเดินทาง จากสถานีรถไฟ JR Kushimoto Station ขึ้นรถบัสชุมชนไปลงยังป้ายแหลมชิโอโนะมิซากิ

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/iMJdefKcFRvVzPWK7

 

 

 

▌8. แม่น้ำคุมาโนะ (Kumano River)

365 Focus Photography/shutterstock.com

Salty_Fish/shutterstock.com

Lexter Yap/shutterstock.com

แม่น้ำคุมาโนะ (Kumano River) แม่น้ำสายประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี 2004 แม่น้ำตั้งอยู่ในคาบสมุทรคิอิ สายน้ำมีความยาวกว่า 183 กิโลเมตร และที่นี่ยังเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางแสวงบุญ Kumano Kodo สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจของที่นี่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดก็อย่างเช่น การล่องเรือในแม่น้ำคุมาโนะ ที่ใช้เวลากว่า 90 นาที ตามรอยเส้นทางจาริกแสวงบุญด้วยการนั่งบนเรือไม้แบบดั้งเดิม ให้เราสัมผัสกับธรรมชาติของสายน้ำใสสะอาด และป่าเขาเขียวขจีที่มีทัศนียภาพงดงามตลอดเส้นทาง พร้อมทั้งเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของภูมิภาคนี้ การล่องเรือจะพานักท่องเที่ยวผ่านสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนา เช่น ศาลเจ้าและโบราณสถานต่างๆ โดยเฉพาะการเยี่ยมชมศาลเจ้า Kumano Hongu Taisha ศาลเจ้าใหญ่ที่มีอายุกว่าพันปี รวมทั้งเส้นทางเดินป่าในเส้นทาง Kumano Kodo ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัย โดยจะมีเส้นทางให้เลือกได้ตามความยากง่ายและระยะทาง

– การเดินทาง จากสถานีรถไฟ JR Kushimoto Station ให้ขึ้นรถบัสไปลงยังป้าย Hitari จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/5EguyrgkuMVu4aGN9

 

 

 

▌9. พิพิธภัณฑ์ปลาวาฬไทจิ (Taiji Whale Museum)

tipwam/shutterstock.com

tipwam/shutterstock.com

tipwam/shutterstock.com

พิพิธภัณฑ์ปลาวาฬไทจิ (Taiji Whale Museum) ตั้งอยู่ในเมืองไทจิ ย่านคิอิคาซึอูระ(Kii-Katsuura) ซึ่งย่านออนเซนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดวากะยะมะ(Wakayama) แต่ในอดีตเมืองนี้เป็นที่รู้จักกันในฐานะศูนย์กลางของการล่าวาฬในญี่ปุ่นมาหลายร้อยปี ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1969 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับปลาวาฬและการล่าวาฬของชาวญี่ปุ่น ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การล่าวาฬ และความสำคัญของวาฬในวัฒนธรรมญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการของปลาวาฬ วิธีการล่าวาฬในอดีต และการอนุรักษ์ปลาวาฬในปัจจุบัน รวมทั้งภายในยังมีการจัดนิทรรศการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับชนิดต่างๆ ของวาฬ โครงกระดูกวาฬที่มีขนาดใหญ่ เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ล่าในสมัยโบราณ นอกจากนิทรรศการเกี่ยวกับปลาวาฬแล้ว พิพิธภัณฑ์ยังมีการแสดงโลมาแสนรู้ที่ถูกฝึกฝนให้แสดงท่าทางต่างๆ และเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของโลมา สำหรับไฮไลท์ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ การขึ้นเรือสำรวจเพื่อออกไปชมปลาวาฬและโลมาในทะเลจริงๆ การเยี่ยมชมนี้จัดเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น และยังได้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ปลาวาฬในธรรมชาติอีกด้วย

– การเดินทาง จากสถานีรถไฟ JR Shingu Station ให้ขึ้นรถไฟมาลงยังสถานี Kii-Katsuura จากนั้นขึ้นรถบัสต่อมายัง Taiji Whale Museum

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/VvtK7ECCXe7aMgrU6

 

 

 

สถานที่ท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ โคยะซัง Koyasan

 

 

▌10. วัดดันโจการัน (Danjo Garan Temple)

cowardlion/shutterstock.com

cowardlion/shutterstock.com

cowardlion/shutterstock.com

วัดดันโจการัน (Danjo Garan Temple) ตั้งอยู่บนเทือกเขาโคยะ ภูเขาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี และเป็นศูนย์กลางของนิกายชินงอน (Shingon) ซึ่งเป็นนิกายหนึ่งของศาสนาพุทธที่มีความสำคัญในประเทศญี่ปุ่น ดันโจการัน เป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นโดย พระคูไค (Kobo Daishi) และเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ สำหรับสิ่งที่น่าสนใจภายในวัดก็อย่างเช่น เจดีย์คอนปง ไดโตะ (Konpon Daito Pagoda) เป็นเจดีย์หลักของ ดันโจการัน และเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมแหล่งแรกของญี่ปุ่น มีความสูงถึง 48.5 เมตร สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของจักรวาลตามความเชื่อในนิกายชินงอน ภายในเจดีย์มีภาพวาดและประติมากรรมที่งดงามเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าและเทพเจ้าต่างๆ นอกจากนี้ด้วยความที่วัดตั้งอยู่บนเทือกเขาที่มีความสูงกว่า 800 เมตร ทำให้ด้านบนมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิเราจะได้ชมดอกซากุระที่เบ่งบานทั่วทั้งยอดเขา หรือในฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีทั่วทั้งหุบเขาจะมีสีสันสดใสสวยงาม

– การเดินทาง รถไฟจากสถานี Namba ในโอซาก้าไปยังสถานี Gokurakubashi แล้วต่อเคเบิลคาร์ขึ้นเขาไปยังสถานี Koyasan จากนั้นขึ้นรถบัสไปยัง Danjo Garan

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/UrSnBaWjUs7mcwe19

 

 

 

▌11. วัดโอคุโนะอิน (Okunoin Temple)

fukez84/shutterstock.com

Daniel Vine Photography/shutterstock.com

Daniel Vine Photography/shutterstock.com

วัดโอคุโนะอิน (Okunoin Temple) เป็นวัดที่มีความสำคัญทางศาสนาเนื่องจากเป็นที่ตั้งของสุสาน โคโบ ไดชิ (Kobo Daishi) หรือ คูไค (Kukai) หลวงพ่อผู้เป็นที่เคารพนับถือในนิกายชินงอน เชื่อกันว่าพระคูไคไม่ได้เสียชีวิตแต่เข้าสู่สมาธินิพพานอยู่ในสุสานแห่งนี้ วัดนี้ยังเป็นจุดหมายของผู้แสวงบุญที่เดินทางมาตามเส้นทาง คุมาโนะ โคโบ (Kumano Kodo) เส้นทางแสวงบุญที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น สุสานโอคุโนะอิน ((Okunoin) สุสานที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญ ภายในสุสานมีเส้นทางทอดยาวที่ล้อมรอบด้วยต้นสนซีดาร์อันเก่าแก่ และ หอ Toro-do (Lantern Hall) ห้องโถงที่มีโคมไฟแขวนหลายพันดวง ซึ่งถูกจุดไฟให้สว่างไสวตลอด 24 ชั่วโมง มีโคมไฟบางดวงที่สว่างไสวมานานกว่าพันปี รวมไปถึง สะพานโกะเบียวบาชิ (Gobyobashi) สะพานที่ต้องข้ามก่อนเข้าสู่สุสาน เชื่อกันว่าสะพานนี้เป็นเขตแดนระหว่างโลกของมนุษย์และดินแดนศักดิ์สิทธิ์

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟสาย Nankai จากสถานี Namba ในโอซาก้าไปยังสถานี Gokurakubashi แล้วต่อเคเบิลคาร์ขึ้นเขาไปยังสถานี Koyasan จากนั้นขึ้นรถบัสไปยังป้าย Okunoin Mae

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/CmmzFB5FFJhWE39a9

 

 

 

▌12. วัดคงโกบุจิ (Kongobuji Temple)

alinasharoiko/shutterstock.com

gnohz/shutterstock.com

Amstk/shutterstock.com

วัดคงโกบุจิ (Kongobuji Temple) สร้างขึ้นในปี 1593 โดยโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ผู้เป็นขุนนางสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เพื่ออุทิศให้กับมารดาของเขา แต่ต่อมาวัดได้ผนวกรวมกับวัดที่อยู่ใกล้เคียง และได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นศูนย์กลางการเผยแพร่หลักคำสอนศาสนาพุทธนิกายชินงอน สำหรับอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของวัดจะเป็น วิหารหลักภายในมีห้องโอฮิโรมะ (Ohiroma Room) ซึ่งเป็นห้องโถงหลัก ที่มีการตกแต่งผนังห้องและประตูบานเลื่อนเคลือบทองพร้อมภาพวาดนกกระสา ที่สวยงามและมีความหมายทางศาสนา เป็นภาพวาดจากฝีมือของ คาโนะ ทันยู (Kano Tanyu) จิตรกรญี่ปุ่นชื่อดัง ห้องโถงนี้ปัจจุบันใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมสำคัญๆ ทางศาสนา จุดเด่นอีกอย่างของวัดก็คือสวนหินบันริวเท (Banryutei Rock Garden) สวนหินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่มีการจัดวางหินแกรนิตจำนวนกว่า 140 ตัน เพื่อสร้างภาพมังกรสองตัวลอยขึ้นจากทะเลเมฆ ภายในวัดมีบรรยากาศที่เงียบสงบมีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม จึงเป็นอีกจุดหมายที่ไม่ควรพลาดหากได้มาเยือนจังหวัดวาคายามะ

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟจากสถานี Namba สาย Nankai Koya line ไปยังสถานี Hashimoto แล้วต่อรถบัสไปยังสถานี Koyasan มาลงที่ป้าย จุดจอดหมายเลข 16 – Kongobuji Mae

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/cabvtHjBC3nHf8F97

 

 

 

สถานที่ท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ริมทชายหาด ชิราฮามะ Shirahama

 

 

▌13. หาดชิราฮามะ (Shirahama Beach)

aines/shutterstock.com

Kapi Ng/shutterstock.com

okimo/shutterstock.com

หาดชิราฮามะ (Shirahama Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในภูมิภาคคันไซ หาดมีความยาวประมาณ 500 เมตร มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสที่สามารถมองเห็นใต้ท้องทะเลได้อย่างชัดเจน บรรยากาศโดยรอบยังเงียบสงบและเหมาะสำหรับการพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่งตั้งอยู่ใกล้กับชายหาด ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าพักและเพลิดเพลินธรรมชาติของท้องทะเลได้อย่างเต็มที่ ชายหาดแห่งนี้ยังจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน รอบบริเวณหาดมีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น การเล่นน้ำ, อาบแดด, เล่นเจ็ตสกี, พายเรือคายัค, เล่นบานาน่าโบ๊ท, การดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก สำรวจปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล นอกจากนี้ใกล้ๆ ชายหาดยังมีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่นักท่องเที่ยวสามารถไปนอนแช่น้ำพุร้อนพร้อมชมวิวทะเลกันได้อีกด้วย

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟจากสถานี JR Shin-Osaka หรือสถานี JR Kyoto ไปยังสถานี JR Shirahama แล้วต่อรถบัสหรือแท็กซี่ไปยังชายหาด

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/CPQFy3bKD6Xq3stT9

 

 

 

▌14. สวนสนุก แอดเวนเจอร์ เวิลด์ (Adventure World)

tera.ken/shutterstock.com

studio_s/shutterstock.com

U3photos/shutterstock.com

สวนสนุก แอดเวนเจอร์ เวิลด์ (Adventure World) ที่นี่เป็นทั้งสวนสนุกและสวนสัตว์ที่มีกิจกรรมหลากหลาย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย นักท่องเที่ยวสามารถสนุกสนานกับเครื่องเล่นต่างๆ ชมสัตว์หลากหลายชนิด และเพลิดเพลินกับการแสดงโชว์ที่น่าตื่นเต้น โดยภายในจะถูกแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แพนด้า (Panda Land) แอดเวนเจอร์เวิลด์เป็นหนึ่งในไม่กี่สถานที่ในญี่ปุ่นที่มีแพนด้าอยู่ในสวนสัตว์ นักท่องเที่ยวสามารถชมและเรียนรู้เกี่ยวกับแพนด้าผ่านการจัดแสดงและการบรรยาย นอกจากนี้ยังมีโอกาสชมแพนด้าอย่างใกล้ชิดในบริเวณ Panda Love อีกด้วย, ซาฟารีเวิลด์ (Safari World) บริเวณนี้เราสามารถนั่งรถชมสัตว์ต่างๆ ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ เช่น สิงโต ช้าง ยีราฟ และแรด ในระยะใกล้ชิด ต่อด้วย แอดเวนเจอร์เวิลด์เวนเจอร์ (Adventure World Venture) เป็นส่วนที่รวบรวมเครื่องเล่นและกิจกรรมที่ท้าทาย เช่น รถไฟเหาะ ชิงช้าสวรรค์ และเครื่องเล่นสำหรับเด็ก นอกจากนี้ภายในสวนสนุกยังมีการแสดงโชว์ที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจมากมาย เช่น การแสดงปลาโลมา การแสดงนกเพนกวิน และการแสดงสัตว์แสนรู้ต่างๆ

– การเดินทาง ขึ้นรถจากสถานี Wakayama ไปลงยังสถานี Shirahama แล้วต่อรถบัสประจำทางไปลงที่ป้าย Adventure World

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/yT5NKdrUE36tGqN89

 

 

 

ที่เที่ยวน่าสนใจในพื้นที่อื่นๆของวากายาม่า

 

 

▌15. เกาะโทโมกาชิมะ (Tomogashima Island)

daisai/shutterstock.com

pinetail0510/shutterstock.com

JoshuaDaniel/shutterstock.com

เกาะโทโมกาชิมะ (Tomogashima Island) เป็นเกาะร้างที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่รักการผจญภัยและการสำรวจธรรมชาติ โดยในช่วงสมัยเมจิเกาะแห่งนี้เคยเป็นฐานทัพทหารของญี่ปุ่น มีป้อมปราการและสิ่งก่อสร้างทางทหารหลายแห่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากต่างชาติ ปัจจุบันป้อมปราการเหล่านี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ให้เราสามารถเดินสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเกาะกันได้ สำหรับสิ่งที่น่าสนใจบนเกาะก็อย่างเช่น ป้อมปราการและฐานทัพทหาร การเดินสำรวจช่วยให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีตเลยทีเดียว รวมทั้งบนเกาะยังมีเส้นทางเดินป่าที่ท้าทาย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางผ่านป่า ชมวิวทิวทัศน์ของทะเลและธรรมชาติที่งดงามไปพร้อมๆ กันได้เลย นอกจากนี้บนเกาะยังอนุญาตให้เราสามารถตั้งแคมป์และปิกนิกกันได้อีกด้วย ใครอยากเพลิดเพลินกับธรรมชาติบนเกาะกันนานๆ ลองมาตั้งแคมป์กันสักคืน รับรองได้เลยว่าจะต้องรู้สึกประทับใจอย่างแน่นอน

– การเดินทาง นั่งเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือ Wakayama Kadako มายังเกาะ Tomogashima

– ที่ตั้ง Kada, Wakayama 640-0102, Japan

– เวลาเปิดทำการ เปิดให้เข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ตามเวลาเดินเรือ โดยท่าเรือ Kadako ออกเดินทางเวลา 09:00-16:00 น, ท่าเรือเกาะ Tomogashima ออกเดินทางเวลา 09:30-16:30 น. เรือข้ามฝากให้บริการ 4 รอบต่อวัน

– ค่าบริการ เรือเฟอร์รี่โทโมกาชิมะ คิเซ็น ตั๋วแบบไป-กลับ ผู้ใหญ่ 2,000 เยน และ เด็ก 1,000 เยน

– เว็บไซต์ https://tomogashimakisen.com/

– Facebook https://www.facebook.com/tomogashima/

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/QMsPRbGHesSq5nJ39

 

 

 

กินอะไรดี ที่วากายาม่า

วาคายามะมีอาหารหลากหลายที่ทั้งดั้งเดิมและทันสมัย ที่น่าสนใจมีดังนี้:

Wakayama Ramen: ราเมนสไตล์วาคายามะ มีซุปกระดูกหมูเข้มข้นรสชาติเข้มข้นและเส้นที่เหนียวนุ่ม ลองได้ที่ร้าน Ide Shoten หรือร้านอื่น ๆ ที่แนะนำโดยคนท้องถิ่น.

Meharizushi: ซูชิสไตล์ดั้งเดิมที่ใช้ใบมัสตาร์ดดองห่อข้าว เป็นอาหารที่ชาววาคายามะชอบกินในช่วงทำงานในไร่.

Kue Nabe: สุกี้ยากี้ปลาหายาก มีรสชาติอร่อยและเป็นเอกลักษณ์ ปลาที่ใช้คือปลากูเอะ ซึ่งหายากและมีราคาสูง ลองได้ที่ร้านอาหารท้องถิ่นในวาคายามะ.

Umeboshi: บ๊วยดองของวาคายามะ รสเปรี้ยวเค็ม กลิ่นหอม ลองได้ที่ตลาด Toretore ใน Shirahama.

Shirasudon: ข้าวหน้าเนื้อปลาชิราสุ เป็นปลาตัวเล็ก ๆ สีขาว รสชาติอ่อนละมุน ลองได้ที่ร้าน Kadoya Shokudo ในเมือง Yuasa.

Takoyaki: ขนมทาโกะยากิที่ใส่ปลาหมึกข้างใน แนะนำให้ลองที่ตลาด Toretore ใน Shirahama.

 

 

การเดินทางของเมืองวากายาม่า

การเดินทางในเมืองวาคายามะ: จังหวัดนี้มีรถไฟด่วนและรถไฟธรรมดาระหว่างเมือง รวมถึงมีบริการรถบัสครอบคลุมพื้นที่สำคัญ ๆ มีแท็กซี่ให้บริการ และยังมีเส้นทางสำหรับปั่นจักรยานรอบเมือง

การเดินทางมาเมืองวาคายามะ: การเดินทางจากโอซาก้าใช้เวลาโดยรถไฟเพียง 1 ชั่วโมง สามารถนั่งรถไฟสาย JR Hanwa Line หรือ Nankai Electric Railway มาได้ นอกจากนี้ยังมีบริการรถบัสจากสนามบินคันไซมาวาคายามะโดยตรง

 

 

 

ที่พักในวากายาม่า

วาคายามะมีที่พักหลากหลายสำหรับทุกงบประมาณและสไตล์:

รอบๆ Wakayama JR Station: เดินทางสะดวก ไปไหนก็ง่าย บริเวณรอบๆสถานีรถไฟมีที่พักให้เลือกเยอะ เหมาะกับคนที่เที่ยวในตัวเมืองไม่กี่วัน

ย่าน Downtown Wakayama: แถวๆย่าน Hondori มีทั้งถนนช้อปปิ้งและห้างขนาดใหญ่ ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง กิน เที่ยว เหมาะกับคนชอบช้อปปิ้งหรืออยู่เที่ยวในตัวเมืองหลายวัน

ชายหาด Shirahama: เป็นย่านตากอากาศของคนญี่ปุ่น เพมาะกับคนที่ต้องการพักผ่อนริมทะเล มีโรงแรมและเรียวกังหลายแห่งที่ให้บริการใกล้ชายหาด

 

 

ฤดูกาลต่างๆในวากายาม่า

วาคายามะเที่ยวได้ตลอดปี ซึ่งแต่ละเดือน แต่ละฤดูก็จะแตกต่างกันไป:

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม): อากาศดี มีดอกซากุระบาน

ฤดูใบร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม): ชุ่มชื้น มีฝนตกและมรสุมเป็นบางช่วง น้ำตกมีน้ำเยอะ และป่าเป็นสีเขียว

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน): อากาศเย็นสบาย ใบไม้เปลี่ยนสีสวย

ฤดูหนาว: ถึงจะหนาวแต่ก็มีกิจกรรมและเทศกาลไฟประดับในเมือง

 

 

 

เที่ยววากายาม่า กี่วันดี

จำนวนวันที่เหมาะสมในการเที่ยววาคายามะที่เราแนะนำคือ 2-4 วัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละคน:

1-2 วัน: พอสำหรับสถานที่สำคัญ เช่น ปราสาทวาคายามะ และตลาด Kuroshio

3-4 วัน: เพื่อเที่ยวแบบสบาย ๆ ไปสวนแห่งชาติ Kii, ศาลเจ้าคุมะโนะ และลองอาหารท้องถิ่น

5 วันขึ้นไป: เหมาะสำหรับคนที่อยากสำรวจเชิงลึก ทั้งในเมืองและรอบ ๆ รวมถึงทริปวันเดียวไปเมืองใกล้เคียง


เน้นใหญ่! รวม 12 โรงแรมโอซาก้า ห้องกว้าง กางกระเป๋าได้ ราคาไม่แรง
รวมที่เที่ยวเปิดใหม่ล่าสุดของเมืองโตเกียว