10 ที่เที่ยว ทาคายาม่า สวย ฮิต ห้ามพลาด Takayama 2567

top-takayama-places


อัพเดตล่าสุดเมื่อ 6 กรกฎาคม 2567

 

ทาคายาม่า (Takayama) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ (Gifu) ใจกลางเทือกเขาแอลป์ของประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ในด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ที่ยังคงรักษารูปแบบดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี เมืองนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม “ลิตเติล เกียวโต” (Little Kyoto) เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับเมืองเกียวโตในด้านสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของช่างไม้ในสมัยเอโดะ โดยช่างไม้จากทาคายาม่าเคยทำงานในพระราชวังและวัดในเกียวโตและนารา นอกจากนี้ ทาคายาม่ายังมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาฮิดะ ทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น หมู่บ้านฮิดะที่แสดงวิถีชีวิตชนบทโบราณและบ้านโบราณชิราคาวาโกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก

ทาคายาม่ายังเป็นที่รู้จักจากเทศกาลทาคายามะมัตสึริที่จัดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเทศกาลที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินฮิกาชิยามะที่ผ่านย่านเมืองเก่าที่สวยงามแปลกตา รวมถึงวัดและศาลเจ้าที่เงียบสงบ ทาคายามะจินยะซึ่งเป็นอาคารรัฐบาลที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวจากยุคเอโดะ และตลาดเช้าท้องถิ่นที่มีอายุนับศตวรรษ ย่านซันมาชิซูจิที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมดั้งเดิมจากสมัยเอโดะอันเต็มไปด้วยบ้านไม้และร้านค้าแบบเก่า ทำให้ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสกับบรรยากาศและวิถีชีวิตของญี่ปุ่นในอดีตได้อย่างเต็มที่

ไปดูสถานที่ท่องเที่ยวของทาคายาม่า (Takayama) ที่ห้ามพลาดกันเลย

 

 

 

1. หมู่บ้านพื้นเมืองฮิดะ (Hida Folk Village)

Yupgi/shutterstock.com

Se.eS/shutterstock.com

Florian Augustin/shutterstock.com

หมู่บ้านพื้นเมืองฮิดะ (Hida Folk Village) มีชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า ฮิดะ โนะ ซาโตะ (Hida No Sato) โดยที่นี่จะเป็นหมู่บ้านจำลอง ที่เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1971 เพื่ออนุรักษ์บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างโบราณ รวมไปถึงวิถีชีวิตของคนในสมัยก่อน ที่อาจสูญสลายไปจากความเจริญและการพัฒนาเมือง ภายในหมู่บ้านมีการรวบรวมบ้านเรือนโบราณเอาไว้มากกว่า 30 หลัง ที่มีอายุกว่าร้อยปี จากทั่วภูมิภาคฮิดะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านสไตล์กัชโชสึคุริ (Gassho-zukuri) หลังคาจั่วมุงจาก ที่สะท้อนให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ไม่ว่าจะเป็นตัวบ้านมีโครงสร้างที่แข็งแรงเพื่อรองรับน้ำหนักของหิมะ และความลาดชันของหลังคาที่ช่วยให้หิมะไหลลงมาได้ง่าย นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่างที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมได้ เช่น การทอผ้า การทำเครื่องปั้นดินเผา การแกะสลักไม้ การทำเต้าเจี้ยว และการทำเหล้าสาเก เป็นต้น

– การเดินทาง นั่งรถบัสจาก Takayama Nohi Bus Center สาย Sarubobo Bus มาลงที่ป้าย Hida no Sato (Hida Folk Village) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 นาที

 

 

 

2. วัดฮิดะโคคุบุนจิ (Hida Kokubunji Temple)

PJjaruwan/shutterstock.com

Phurinee Chinakathum/shutterstock.com

PixHound/shutterstock.com

วัดฮิดะโคคุบุนจิ (Hida Kokubunji Temple) วัดพุทธเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 746 โดยจักรพรรดิโชมุ (Shomu) และยังจัดเป็นหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญและมีชื่อเสียงในเมืองทาคายาม่า และภูมิภาคฮิดะ (Hida) เพราะไม่เพียงเป็นศูนย์กลางทางศาสนา แต่ยังเป็นสถานที่ที่นำเสนอความงดงามของสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นในยุคโบราณ หนึ่งในสิ่งปลูกสร้างที่โดดเด่นที่สุดคือเจดีย์สามชั้น (Three-story Pagoda) สร้างขึ้นในสมัยเอโดะ (Edo Period) เป็นเจดีย์ที่ย้ายมาจากปราสาททาคายาม่า เจดีย์นี้มีความสูงประมาณ 20 เมตร และถือเป็นหนึ่งในโครงสร้างที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ยังมีอาคารหลัก (Main Hall) ที่มีการประดับประดาด้วยงานไม้แกะสลักที่ประณีตและภาพวาดพุทธศิลป์ที่งดงาม อีกหนึ่งไฮไลท์ของวัดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจก็คือ ต้นแปะก๊วยโบราณ ที่มีอายุมากกว่า 1,200 ปี ตั้งอยู่บริเวณลานวัดและเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยในช่วงฤดูใบไม้ร่วงใบของต้นแปะก๊วยจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองสดใสสวยงาม

– การเดินทาง จากสถานี JRทาคายาม่า ใช้เวลาเดินไปยังวัดประมาณ 5 นาที

 

 

 

3. อาคารทาคายาม่า จินยะ (Takayama Jinya)

topimages/shutterstock.com

Tanwa Kankang/shutterstock.com

CHEN WS/shutterstock.com

อาคารทาคายาม่า จินยะ (Takayama Jinya) สร้างขึ้นในปี 1692 โดยใช้เป็นที่ทำการของผู้ปกครองชั้นสูง เพื่อบริหารจัดการพื้นที่ภูมิภาคฮิดะ (Hida) อาคารแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นทั้งที่พักของผู้ปกครอง ศาลาว่าการ และศาล ตัวอาคารมีการออกแบบและการก่อสร้างที่สะท้อนถึงสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ปัจจุบันตัวอาคารได้ถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีและเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชม เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของภูมิภาคนี้ ภายในอาคารประกอบด้วยห้องต่างๆ ที่ถูกจัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตและการทำงานของผู้ปกครองในยุคนั้น รวมไปถึงอุปกรณ์และวัตถุโบราณต่างๆ ที่ถูกใช้ในยุคเอโดะ เช่น อุปกรณ์การเกษตร เครื่องมือทางการแพทย์ และเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน อาคารทาคายามะ จินยะยังตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่น ล้อมรอบด้วยสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่สวยงาม ที่นี่ยังจัดเป็นอาคารสำนักงานว่าการเมืองโบราณเพียงแห่งเดียว ที่ยังคงหลงเหลือให้เราได้ชมมาจนถึงทุกวันนี้

– การเดินทาง จากสถานีรถไฟทาคายาม่า ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที

 

 

 

4. เมืองเก่าทาคายาม่า (Takayama Old Town)

Se.eS/shutterstock.com

Noppasin Wongchum/shutterstock.com

PixHound/shutterstock.com

เมืองเก่าทาคายาม่า (Takayama Old Town) เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนกลับไปได้ถึงยุคเอโดะ ที่ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ในยุคนั้นที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการค้า และการผลิตงานฝีมือที่สำคัญ ภายในเมืองเป็นที่อยู่อาศัยของพ่อค้าและช่างฝีมือหลายราย โดยมีการสร้างบ้านเรือนและร้านค้าอย่างประณีตและมีการจัดวางแผนผังเมืองอย่างเป็นระบบ โดยจะมีย่านซันมาจิ ซูจิ (Sanmachi Suji) เป็นหัวใจของเมือง และเป็นพื้นที่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี สำหรับสถานที่สำคัญภายในเมืองที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดก็อย่างเช่น บ้านพักเดิมของตระกูลคาวาฮาระ (Kawahara House) บ้านหลังนี้เป็นตัวอย่างของบ้านเรือนที่สร้างขึ้นในยุคเอโดะ มีการจัดแสดงเครื่องใช้รวมไปถึงสิ่งของในชีวิตประจำวันของผู้คนในยุคนั้น และ โรงกลั่นสาเก (Sake Breweries ) ทาคายาม่าเป็นที่รู้จักในด้านการผลิตสาเกที่มีคุณภาพสูง นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมโรงกลั่นสาเกและลองชิมสาเกท้องถิ่นที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์

– การเดินทาง ขึ้นรถไฟมาลงที่สถานี JR Takayama จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

 

 

 

5. สะพานนาคาบาชิ (Nakabashi Bridge)

Becris/shutterstock.com

ThavornC/shutterstock.com

SHEE HENG CHONG/shutterstock.com

สะพานนาคาบาชิ (Nakabashi Bridge) สะพานสีแดงสดทอดตัวยาวข้ามแม่น้ำมิยากาวะ ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่งดงามทั้งสายน้ำและทิวเขา ในช่วงฤดูใบไม้ผลิรอบบริเวณจะมีดอกซากุระะออกดอกบานสะพรั่ง ส่วนในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณนี้ก็จะมีสีสันสดใสและมองดูมีชีวิตชีวา สะพานนาคาบาชิยังไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นทางสำหรับการเดินข้ามแม่น้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นอีกด้วย ตัวสะพานสร้างจากไม้มีความยาวประมาณ 20 เมตร และมีราวสะพานทั้งสองด้านที่ออกแบบไว้อย่างสวยงามและดูเรียบง่าย ตามแบบสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ในช่วงเวลากลางคืนสะพานจะถูกประดับประดาด้วยแสงไฟที่ส่องสว่าง ทำให้ดูโดดเด่นและงดงามยิ่งขึ้น ที่นี่ยังจัดเป็นเส้นทางหลักที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองอีกด้วย

– การเดินทาง เดินเท้าจากสถานีรถไฟทาคายาม่า ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที หรือสามารถเลือกใช้บริการรถบัสและแท็กซี่จากสถานีได้เช่นกัน

 

 

 

6. ศาลเจ้าซากุระยามะ ฮาจิมังกุ (Sakurayama Hachimangu Shrine)

Mai.Chayakorn/shutterstock.com

beibaoke/shutterstock.com

Suthikait Teerawattanaphan/shutterstock.com

ศาลเจ้า ซากุระยามะ ฮาจิมังกุ (Sakurayama Hachimangu Shrine) เป็นศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองทาคายาม่า มีความสำคัญทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม สร้างขึ้นในรัชสมัยขององค์จักรพรรดิ์ Nintoku ในราวศตวรรษที่สาม บนเนินเขาซากุระยามะ ทางเข้าด้านหน้าของศาลเจ้าจะเป็นที่ตั้งของ ประตูโทริอิ (Torii Gate) สีแดงสด สำหรับตัวอาคารหลักของศาลเจ้าออกแบบตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม ที่สร้างจากไม้หอม Hinoki ทั้งหลัง และยังคงความงดงามไม่เปลี่ยนแปลง ภายในมีบรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่น ศาลเจ้าซากุระยามะ ฮาจิมังกุ จัดได้ว่ามีความสำคัญต่อชุมชนท้องถิ่นและมีการจัดพิธีกรรมและเทศกาลต่างๆ มาหลายร้อยปี และไม่ได้เป็นเพียงศูนย์กลางทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของเทศกาลทาคายาม่าที่มีชื่อเสียง ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนในทุกปี เทศกาลนี้ยังถือเป็นหนึ่งในสามเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย

– การเดินทาง จากสถานีทาคายาม่า (Takayama Station) ให้ขึ้นรถบัสสาย Takayma Nohi Bus Center ไปลงที่ป้าย Kusakabe Mingeikan Guchi จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 300 เมตร

 

 

 

7. หมู่บ้านบ่อน้ำพุร้อนโอคุฮิดะ (Okuhida Hot Springs)

ANUCHA PONGPATIMETH/shutterstock.com

gypsy.aiko/shutterstock.com

sumito/shutterstock.com

หมู่บ้านบ่อน้ำพุร้อนโอคุฮิดะ (Okuhida Hot Springs) จัดเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เพราะที่นี่ไม่เพียงมีทัศนียภาพธรรมชาติที่งดงาม แต่ยังมีความหลากหลายของบ่อน้ำพุร้อนที่มอบประสบการณ์การพักผ่อนได้เป็นอย่างดี โดยภายในหมู่บ้าน จะประกอบด้วยออนเซ็นห้าแห่ง ได้แก่ ฮิรายุ (Hirayu), ฟุคุจิ (Fukuji), ชินโฮตากะ (Shinhotaka), โทชิโอะ (Tochio)และชินฮิรายุ (Shinhirayu) ทุกแห่งจะเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม และมีคุณสมบัติทางการบำบัดที่แตกต่างกันไป และนอกจากการแช่น้ำพุร้อนแล้ว โอคุฮิดะยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น การปีนเขาและเดินป่า, การชมดอกไม้และใบไม้เปลี่ยนสี และ การเยี่ยมชมหมู่บ้านในท้องถิ่น เป็นต้น

– การเดินทาง จากสถานีรถไฟ JRทาคายาม่า ไปฮิระยุออนเซ็น ให้ขึ้นรถรถบัสสายโนฮิ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

 

 

 

8. ตลาดเช้า มิยากาวะ (Miyagawa Morning Market)

NavinTar/shutterstock.com

Glen Berlin/shutterstock.com

dreamstory/shutterstock.com

ตลาดเช้า มิยากาวะ (Miyagawa Morning Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเอโดะที่มีอายุหลาย 100 ปี ที่นี่ยังจัดเป็นหนึ่งในตลาดเช้าที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวอีกด้วย ตลาดจะตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิยากาวะ (Miyagawa River) ภายในเป็นแหล่งรวมสินค้าท้องถิ่นที่มีอยู่หลากหลาย ทั้งอาหารสด ผักผลไม้พื้นเมือง งานฝีมือของคนในท้องถิ่น และของที่ระลึก โดยเฉพาะอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ จะมีให้ลองชิมได้ค่อนข้างเยอะ สำหรับที่ขึ้นชื่อก็อย่างเช่น เทปปันยากิ, ซูชิ, เนื้อฮิดะ และ ข้าวเกรียบที่ทำกับแบบสดใหม่ ตลาดแห่งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งช้อปปิ้งเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้จากบริเวณตลาดจะมีบันไดที่เราสามารถเดินลงมาเที่ยวชมแม่น้ำมิยากาวะกันได้อีกด้วย ที่แม่น้ำจะมีนก คาโมะ (Kamo) ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับนกเป็ดน้ำอาศัยอยู่ บอกได้เลยว่าบรรยากาศร่มรื่นและวิวทิวทัศน์สวยงามเป็นอย่างมาก

– การเดินทาง จากสถานีรถไฟทาคายาม่า ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที

 

 

 

9. สวนชิโรยามะ (Shiroyama Park)

Various images/shutterstock.com

Kitinut Jinapuck/shutterstock.com

iamlukyeee/shutterstock.com

สวนชิโรยามะ (Shiroyama Park) เป็นสวนสาธารณะที่มีทั้งความงดงามทางธรรมชาติ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของปราสาททาคายามะ (Takayama Castle) ปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นในยุคซามูไรและเคยเป็นศูนย์กลางทางการปกครองของภูมิภาคฮิดะ ปัจจุบันปราสาททาคายาม่ายังคงเหลือเพียงฐานของปราสาทให้เราได้ชมและถ่ายภาพกันได้ ภายในสวนมีพื้นที่กว้างขวาง บรรยากาศร่มรื่น ในแต่ละฤดูจะมีความงามของธรรมชาติแตกต่างกัน โดยในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สวนจะเต็มไปด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่งสวยงาม ส่วนในฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง และส้ม สีสันสดใสและมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามตระการตา นอกจากนี้บนยอดเขาของสวนแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองทาคายามะและภูเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japanese Alps) ได้อย่างชัดเจน จุดชมวิวแห่งนี้ยังเป็นที่นิยมในการชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกอีกด้วย

– การเดินทาง จากสถานีรถไฟทาคายาม่า สามารถเดินเท้าหรือใช้บริการรถบัสท้องถิ่นเพื่อไปยังสวน

 

 

 

10. บ้านโยชิจิมะ (Yoshijima Heritage House)

YingHui Liu/shutterstock.com

Lee Jung Tak/shutterstock.com

365 Focus Photography/shutterstock.com

บ้านโยชิจิมะ (Yoshijima Heritage House) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1907 โดยครอบครัวโยชิจิมะ ซึ่งเป็นครอบครัวผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงในวงการการค้าสาเกและผลิตภัณฑ์จากไม้ บ้านถูกออกแบบให้เป็นทั้งที่พักอาศัยและสถานที่ประกอบธุรกิจการค้าสาเก มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เรียกว่า “มาชิยะ” (Machiya) บ้านโยชิจิมะถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของเมืองทาคายาม่าและประเทศญี่ปุ่น โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวได้เข้าชม เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น การเข้าเยี่ยมชมบ้านโยชิจิมะไม่เพียงแต่เป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แต่ยังเป็นการสร้างความเข้าใจและการเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมบ้านโยชิจิมะได้ตลอดทั้งปี โดยภายในบ้านมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของบ้านและครอบครัวโยชิจิมะ รวมถึงการจัดแสดงเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตสาเก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น การชิมสาเกและการเข้าร่วมพิธีชงชา

– การเดินทาง จากสถานี Takayama Station ใช้เวลาเดินไปประมาณ 10-15 นาที

– ที่ตั้ง 1 Chome-51 Oshinmachi, Takayama, Gifu 506-0851, Japan

– เวลาเปิดทำการ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 9.00 – 17.00 น. และจะปิดบริการทุกวันอังคารในเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์

– ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 500 เยน นักเรียนประถมหรือมัธยมต้น 300 เยน, กลุ่ม 30 คนขึ้นไป ผู้ใหญ่ 450 เยน, นักเรียนประถม 250 เยน

– เว็บไซต์ https://www.kankou-gifu.jp/spot/detail_1209.html

– พิกัด https://maps.app.goo.gl/cEyk4bL3294XZBzp9

 

 

 

ตัวอย่างแพลนเที่ยว Takayama

ไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆของ Takayama จะรวมกันอยู่แถวสถานีรถไฟ Takayama เลย และส่วนใหญ่จะอยู่ในย่านเมืองเก่า ซึ่งห่างจากสถานีด้วยการเดินเพียงประมาณ 10 นาที เท่านั้น อย่างเช่น Kokubunji Temple, Takayama Jinya, Nakabashi Bridge และ Miyagawa Morning Market เพราะฉะนั้นใครต้องการเก็บแค่ไฮไลท์ก็สามารถเที่ยวแบบ 1 วันเช้าไปเย็นกลับจากเมืองใกล้ๆได้ เช่น Nagoya หรือ Kanazawa เป็นต้น ก็คือมาถึงแล้วก็ไปเอาแผนที่ แล้วก็เดินตามเที่ยวย่านโซนเมืองเก่าได้เลย แต่ถ้าจะให้ดี มานอนค้างซัก 1-2 คืนก็จะเก็บได้ครบมากกว่า

นอกจากนี้เมือง Takayama ยังมักใช้เป็นจุดท่องเที่ยวไปยัง ไฮไลท์อื่นๆที่อยู่ใกล้ๆกันด้วย เช่น Kmikochi, กระเช้า Shin-Hotaka Ropeway และ Okuhida Hot Springs

 

 

 

กินอะไรดีที่ ทาคายะมะ

เนื้อฮิดะ(Hida Beef)

เนื้อฮิดะเป็นไฮไลต์ของวงการอาหารในทาคายาม่า ซึ่งเนื้อวากิวอร่อยละลายในปากนี้มีให้เลือกทานได้หลายแบบ ซึ่งหาทานได้ทั่วเมือง เช่น

  • ซูชิเนื้อฮิดะ: เนื้อฮิดะสดๆ ที่เสิร์ฟบนข้าวปั้น มักมีให้บริการในบาร์ซูชิและบางร้านที่ขายเฉพาะเลยก็มี
  • เนื้อฮิดะย่าง: ย่างจนสุกพอดีบนเตาย่างเทปปันยากิ มีทั้งทาซอสและแบบโรยเกลือ
  • สุกี้ยากี้ เนื้อฮิดะ: เนื้อบาง ๆ ที่ต้มกับผักในน้ำซุปเข้มข้น อร่อยมาก

อาหารท้องถิ่นอื่นๆของทาคายะมะ

นอกจากเนื้อฮิดะแล้ว ทาคายาม่ายังมีอาหารท้องถิ่นอีกหลายอย่าง:

  • โฮบะ มิโสะ (Hoba Miso): เป็นเมนูที่หลายคนคุ้นเคย คือการเอาของไปย่างบนใบ โฮบะ หรือ ใบแมกโนเลีย อย่างเช่น เนื้อฮิดะ ย่างแล้วราดด้วยมิโสะ
  • ราเม็ง ทาคายาม่า: ราเม็งท้องถิ่นที่มีเส้นบาง เคลือบด้วยซุปที่มีรสชาติเข้มข้น ปรุงด้วยหมูชาชู หน่อไม้ และต้นหอม

โรงน้ำชาและโรงกลั่นสาเกแบบดั้งเดิม

  • โรงกลั่นสาเก: ทาคายาม่าเป็นที่ตั้งของโรงกลั่นสาเกเก่าแก่หลายแห่ง ซึ่งมักจะเปิดให้ชิมและทัวร์ สาเกท้องถิ่นที่ผลิตด้วยน้ำบริสุทธิ์จากภูเขามีชื่อเสียงในด้านคุณภาพและรสชาติ
  • โรงน้ำชาแบบดั้งเดิม: สัมผัสประสบการณ์พิธีชงชาแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น พักผ่อนจะการเดินเที่ยวแบบสงบๆ ด้วยชาถ้วยหนึ่งพร้อมขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมในหนึ่งในโรงน้ำชาที่มีเสน่ห์ของทาคายาม่าซึ่งมีให้บริการทั่วไปในย่านเมืองเก่า

 

 

 

 

ที่พักใน Takayama

สำหรับที่พักใน Takayama จะกระจายตัวอยู่ 2 จุดหลักๆ คือแถวๆหน้าสถานีรถไฟ Takayama Station และรอบๆย่านเมืองเก่า ใครชอบสะดวกก็ลองดูแถวสถานีรถไฟ ก็มีให้เลือกมากพอสมควร หรือถ้าอยากได้แบบประสบการณ์ที่พักเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นก็มีให้เลือกหลายแห่งรอบๆย่านเมืองเก่า

▌ดูรีวิวและราคาโปรโมชั่น ที่พักใน Takayama

 

 

 

การเดินทางภายในทาคายามะ

การเดิน

ย่านใจกลางเมืองทาคายามะมีขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะกับการเดินเที่ยวสบายๆไปเรื่อยๆ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวหลักส่วนใหญ่ เช่น ย่านเมืองเก่าและวัดต่างๆ ก็อยู่ในระยะที่เดินถึงได้

การขี่จักรยาน

ในตัวเมืองทาคายามะมีบริการให้เช่าจักรยานหลายแห่ง แถมเมืองนี้มีเส้นทางจักรยานที่กำหนดไว้โดยเฉพาะ ทำให้การขี่ปลอดภัยและสะดวกมาก

รถบัสท้องถิ่น

รถบัส Sarubobo มีเส้นทางครอบคลุมพื้นที่และสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ มีหลายสาย เช่น สาย Machinami สำหรับย่านประวัติศาสตร์ การใช้บัตรผ่านรายวันเป็นตัวเลือกที่ประหยัดสำหรับนักท่องเที่ยว

แท็กซี่

แท็กซี่มีให้บริการทั่วไปในทาคายามะ สามารถเรียกได้บนถนนหรือหาที่จอดแท็กซี่ตามจุดสำคัญ เช่น สถานีรถไฟและโรงแรมหลักๆ แม้จะสะดวกแต่ก็มีราคาสูงกว่าแบบอื่นๆมาก

 

 

 

ฤดูกาลในทาคายาม่า

ทาคายาม่าเหมาะกับการท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยแต่ละฤดูกาลมีเสน่ห์และกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่เหมือนกัน

ฤดูใบไม้ผลิ (ช่วงเดือน มีนาคมถึงพฤษภาคม)

ฤดูใบไม้ผลิในทาคายาม่ามีดอกซากุระบานและอากาศที่เย็นสบาย:

  • อุณหภูมิ: อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 12°C ในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นเป็น 21°C ในเดือนพฤษภาคม
  • เทศกาลทาคายามะในฤดูใบไม้ผลิ (Sanno Matsuri): จัดขึ้นในเดือนเมษายน เทศกาลนี้มีขบวนแห่ที่ประดับประดางดงาม ดนตรีแบบดั้งเดิม และพาเหรดที่มีชีวิตชีวา ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น
  • ดอกซากุระ: เมืองและพื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยดอกซากุระบาน สร้างภาพที่งดงามสำหรับการชมดอกไม้ (hanami)

ฤดูร้อน (ช่วงเดือน มิถุนายนถึงสิงหาคม)

ฤดูร้อนมีอากาศอบอุ่นและความเขียวขจี:

  • อุณหภูมิ: อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 25°C  ในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นถึง 29°C ในเดือนสิงหาคม
  • กิจกรรมกลางแจ้ง: ภูเขาฮิดะมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม มีวิวที่งดงามแบบสีเขียวไปทั่วบริเวณ
  • เทศกาลท้องถิ่น: เทศกาลและงานต่าง ๆ ที่เล็กกว่าเฉลิมฉลองวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น มอบโอกาสในการสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชนทาคายาม่า

ฤดูใบไม้ร่วง (ช่วงเดือน กันยายนถึงพฤศจิกายน)

ฤดูใบไม้ร่วงเป็นเวลาที่งดงามในการเยี่ยมชมทาคายาม่า ด้วยอากาศเย็นสบายและใบไม้เปลี่ยนสีสดใส:

  • อุณหภูมิ: อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดลดลงจาก 26°C ในเดือนกันยายนถึง 13°C ในเดือนพฤศจิกายน
  • เทศกาลทาคายามะในฤดูใบไม้ร่วง (Hachiman Matsuri): จัดขึ้นในเดือนตุลาคม เทศกาลนี้มีขบวนแห่ที่ประดับประดาอย่างงดงามและขบวนพาเหรดในยามค่ำคืนที่ส่องแสงด้วยโคมไฟ
  • ใบไม้เปลี่ยนสี: ภูเขาและสวนสาธารณะในเมืองเต็มไปด้วยใบไม้สีแดง สีส้ม และสีเหลือง สร้างภาพที่งดงาม

ฤดูหนาว (ช่วงเดือน ธันวาคมถึงกุมภาพันธ์)

ฤดูหนาวเปลี่ยนทาคายาม่าให้กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยหิมะ:

  • อุณหภูมิ: อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 5°C ในเดือนธันวาคม ลดลงเหลือ 2°C ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ อุณหภูมิต่ำสุดอาจลดลงถึง -5°C หรือต่ำกว่า
  • กิจกรรมหิมะ: รีสอร์ทสกีที่อยู่ใกล้ภูเขาฮิดะมีการเล่นสกี สโนว์บอร์ด และกีฬาฤดูหนาวอื่น ๆ
  • ทิวทัศน์ฤดูหนาว: ถนนและอาคารดั้งเดิมที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสร้างบรรยากาศที่มีมนต์ขลัง สวยงามแปลกตา โดยเฉพาะในเมืองเก่าและสถานที่ต่าง ๆ
  • ออนเซ็น (น้ำพุร้อน): หนึ่งในที่สุดของเรื่องห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวทาคายามะ กับการแช่ออนเซนท่ามกลางอากาศหนาวเย็น กับน้ำแร่ที่ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น

 

 

 

การเดินทางไป ทาคายาม่า

ทาคายาม่าเป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถเข้าถึงได้จากเมืองหลักต่าง ๆ ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะเมืองที่อยู่ใกล้เคียง นี่คือวิธีการเดินทางจากเมืองหลัก:

จากโตเกียว (Tokyo) ไป

จากโตเกียว ไปทาคายาม่าได้โดยใช้รถไฟชินคันเซ็น:

  • ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นสายโทไคโด (Tokaido Shinkansen) จากสถานีโตเกียวไปยังสถานีนาโกย่า (Nagoya) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที
  • จากสถานีนาโกย่า ให้เปลี่ยนเป็นรถไฟ JR Wide View Hida Limited Express ไปยังสถานีทาคายาม่า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที
  • รวมเวลาการเดินทางทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมง

จากนาโกย่า (Nagoya)

นาโกย่าเป็นเมืองหลักที่อยู่ใกล้ทาคายาม่าที่สุด ทำให้การเดินทางสะดวกมาก ด้วย รถไฟ JR Wide View Hida Limited Express:

  • ขึ้นรถไฟจากสถานี JR Nagoya ตรงไปยังสถานีทาคายาม่า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที
  • รถไฟนี้มีวิวที่สวยงามตลอดเส้นทาง ทำให้การเดินทางเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ

จากเกียวโต (Kyoto) และโอซาก้า (Osaka)

จากเกียวโตและโอซาก้า เดินทางไปทาคายาม่าโดยใช้รถไฟชินคันเซ็นและรถไฟด่วนพิเศษ:

  1. จากเกียวโต:
    • ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นสายโทไคโด (Tokaido Shinkansen) จากสถานีเกียวโตไปยังสถานีนาโกย่า ใช้เวลาประมาณ 35 นาที
    • จากสถานีนาโกย่า ให้เปลี่ยนเป็นรถไฟ JR Wide View Hida Limited Express ไปยังสถานีทาคายาม่า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที
    • รวมเวลาการเดินทางทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง
  2. จากโอซาก้า:
    • ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นสายโทไคโด (Tokaido Shinkansen) จากสถานี Shin-Osaka ไปยังสถานีนาโกย่า ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
    • จากสถานีนาโกย่า ให้เปลี่ยนเป็นรถไฟ JR Wide View Hida Limited Express ไปยังสถานีทาคายาม่า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที
    • รวมเวลาการเดินทางทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที

จากคานาซาว่า (Kanazawa)

การเดินทางจากคานาซาว่าถือว่าสะดวกสบายและมีเส้นทางที่สวยงาม ด้วย รถไฟ JR Limited Express:

  • ขึ้นรถไฟจากสถานี JR Kanazawa ไปยังสถานีทาคายาม่า โดยผ่านทางสถานี Toyama ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
  • เส้นทางนี้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาและธรรมชาติ

 

 

เรื่องชวน ว้าว ของเมือง Takayama

  • ทากายามะ จินยะ: ทากายามะ จินยะเป็นสำนักงานรัฐบาลที่เหลือรอดมาเพียงแห่งเดียวจากยุคเอโดะในญี่ปุ่น มันทำหน้าที่เป็นสำนักงานรัฐบาลท้องถิ่นมากกว่า 300 ปีและปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์
  • หมู่บ้านพื้นเมืองฮิดะ: พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งนี้นำเสนอบ้านไร่แบบดั้งเดิมจากภูมิภาคฮิดะ ซึ่งบางหลังมีอายุกว่า 500 ปี ที่นี่มีบ้านกัสโชซึคุริที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น
  • เทศกาลซันโนะและฮะชิมัน: เทศกาลทั้งสองนี้จัดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงตามลำดับ เป็นหนึ่งในสามเทศกาลที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น เทศกาลนี้มีขบวนแห่ที่ประณีตซึ่งถือเป็นสมบัติของชาติ
  • ตลาดเช้ามิยะกาวะ: หนึ่งในสามตลาดเช้าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตลาดเช้ามิยะกาวะมีมาแล้วกว่า 300 ปี โดยมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น หัตถกรรม และอาหารริมถนน
  • เนื้อฮิดะ: ทากายามะมีชื่อเสียงในเรื่องเนื้อฮิดะ ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์วากิวสามอันดับแรกของญี่ปุ่น เนื้อชนิดนี้มีลายหินอ่อนที่เข้มข้นและมีเนื้อสัมผัสที่ละลายในปาก

Exit mobile version