แพลนเที่ยวฮอกไกโด พิมพ์นิยม 7 วัน 6 คืน เน้นที่ฮิต เที่ยว กิน ช้อป ครบๆ
Photo by Lionel Leong from flickr.com/photos/lionel-arts/26380528716/ [CC by-sa 2.0]
ด้วยความที่ปัจจุบันนี้ มีคนไทยเดินทางไปเที่ยวฮอกไกโดแบบไม่ต้องง้อทัวร์กันจำนวนมาก บางคนก็อาศัยตามรีวิวแล้วไปลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง บางคนก็อาศัยการหาข้อมูลแล้วลองจัดทริปเอง ซึ่งก็อาจจะมีข้อผิดพลาดบ้างเล็กน้อย ในเรื่องของการวนไปวนมาระหว่างสถานที่ อาจจะทำให้เสียเงินและเวลาเดินทางมากกว่าที่ควรจะเป็น เราจึงขอแนะนำโปรแกรมตะลอนเที่ยวฮอกไกโด 7 วัน 6 คืน แบบเก็บให้ครบที่ฮิต แต่จะเน้นเฉพาะตอนใต้และตอนกลางของเกาะที่เดินทางได้ง่ายและสะดวกเท่านั้น เพื่อที่มือใหม่หรือคนที่เคยไปครั้งแรกจะได้ไม่ต้องปวดหัวเรื่องการเดินทางมากนัก รวมทั้งโปรแกรมนี้ก็จะไม่ได้จัดแบบแน่นมากนัก จะได้มีเวลาเที่ยวแบบช้าๆได้บ้าง หรือถ้าใครฟิตจัด จะอัดโปรแกรมเพิ่มจากนี้ก็ย่อมได้
ช่วงเช้า : เริ่มจากการเดินทางออกจากประเทศไทย โดยสายการบินที่ท่านจองไว้ (บางสายการบินอาจจะบินตรง แต่บางที่ก็อาจจะต้องไปต่อเครื่องอีก) คะเนว่าเครื่องบินน่าจะถึงสนามบิน New Chitose ช่วงเช้า เวลา 07.00 – 09.30 น. จากนั้นนั่งรถไฟ JR ไปเปลี่ยนสายที่สถานี Minami-Chitose เพื่อไปลงที่สถานี Hakodate ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง จะถึง Hakodate ประมาณ 12.00 – 13.00 น. เพิ่งมาถึงวันแรกกำลังฟิต ต้องเที่ยวหนักหน่อย
ช่วงบ่าย : ชมป้อมโงเรียวกาคุ หรือ ป้อมดาว 5 แฉก ป้อมปราการสมัยเอโดะที่ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมในโซนที่ทำการผู้สำเร็จราชการที่อยู่ใจกลางป้อม และหอคอยที่จะทำให้เห็นทัศนียภาพรูปดาว 5 แฉกของป้อมอย่างชัดเจน โดยการนั่งรถรางสาย 2 หรือ สาย 5 ไปลงที่ Goryokaku Koen Mae แล้วเดินต่อไปทางทิศเหนืออีก 750 เมตร พอบ่ายแก่ๆหรือเย็นๆ ให้ไปชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ หนึ่งในสามจุดชมวิวกลางคืนที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยการนั่งรถประจำทางจากสถานี Hakodate ไปที่ยอดเขาได้เลย (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที)เมื่อเดินชมป้อมโงเรียวกาคุ และชมวิวที่ภูเขาฮาโกะดาเตะเรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นเวลาเย็นพอดี ขอแนะนำให้มาช้อปปิ้ง และทานอาหารเย็นที่โกดังอิฐแดงคาเนะโมริ จะให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในยุคดั้งเดิมของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก อิ่มหนำสำราญจนหมดแรงก็กลับเข้าที่พักใน Hakodate ค้าง 1 คืน ก่อนที่จะตะลุยวันต่อไปได้เลย
ช่วงเย็น : เมื่อเดินเล่นหรือแช่ตัวจนสบายตัวแล้ว ก็กลับมาพักผ่อนที่ซัปโปโรโดยการนั่งรถประจำทางกลับมาเช่นเดิม แล้วไปช้อปปิ้งที่ ย่านทานูคิโคจิ ด้วยการนั่งรถไฟใต้ดินสาย Namboku มาลงที่สถานี Susukino เดินออกไปทางออก 1 จนกว่าจะเจอซุ้มประตูรูปนกเพนกวิน เมื่อเดินจนเหนื่อยแล้ว ก็มาทานราเม็งที่ ซูซูกิโนะ ที่อยู่ไม่ไกลจากทานูคิโคจิมากนัก อิ่มแล้วก็ค้างคืนที่ซัปโปโร 1 คืน
[wp_ad_camp_1]
ช่วงเย็น : เดินทางกลับมาที่ซัปโปโร ค้าง 1 คืน ถ้ายังมีเวลาว่างพอก็แนะนำให้มาเดินเล่นที่ ย่านสถานีรถไฟ JR Sapporo เพื่อซื้อของเล็กน้อยจากห้างสรรพสินค้าชื่อดังในย่านนี้
วันนี้มี Option ให้เลือกคือ ถ้าไปช่วงหน้าร้อนที่มีดอกไม้บานเต็มที่ก็แนะนำให้ไปที่เมือง Furano – Biei แต่ถ้าไม่ใช่ แนะนำไปที่ เมืองออนเซน Noboribetsu
เที่ยวช่วงดอกไม้บาน เที่ยว Furano-Biei:
ช่วงเช้า : เดินทางไปที่เมืองฟูราโน่ เพื่อชมทุ่งดอกไม้ ด้วยการนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Kimifurano แล้วเดินต่อขึ้นไปบนเนินเขา หากไม่สะดวกจริง ๆ สามารถนั่งแท็กซี่ต่อขึ้นไปได้ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก็จะเจอทุ่งดอกไม้ที่มีความสวยงามสุดลูกหูลูกตา มีฉากหลังเป็นเทือกเขาโทชิ จะเดินเล่น หรือจะนั่งรถแทร็กเตอร์ไปตามทุ่งเพื่อชื่นชมความงามก็แล้วแต่ความชื่นชอบ ช่วงบ่าย : เดินทางต่อไปที่สระอะโออิเคะ หรือสระน้ำสีฟ้า ด้วยการนั่งรถไฟจากสถานี Kimifurano ไปยังสถานี Biei แล้วโดยสารรถบัสไปลง Shirogane Aoiike Iriguchi ก็จะพบสระน้ำสีฟ้าสว่างสดใสที่เกิดจากแร่ธาตุบางชนิดจากภูเขาไฟ (โปรแกรมนี้สามารถตัดออกได้ หากรู้สึกว่าเหนื่อยหรือเพลียมากแล้ว) เมื่อเที่ยวครบ ก็เดินทางกลับมาซัปโปโร ค้างอีก 1 คืน
ถ้าไปช่วงอื่นๆ เที่ยวเมืองออนเซน Noboribetsu:
ช่วงเช้า – บ่าย : เดินทางไปเที่ยวชมย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ ที่ว่ากันว่าเป็นบ่อน้ำร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดในฮอกไกโด เนื่องจากมีบ่อน้ำร้อนที่มีแร่ธาตุต่างกันถึง 11 ชนิด โดยการนั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี Noboribetsu แล้วต่อด้วยรถบัสประจำทางมาลงที่ Noboribetsu Onsen จะลงแช่ออนเซ็นสักพัก หรือจะเดินถ่ายรูปเล่นอย่างเดียวก็ได้ตามความต้องการ จากนั้นให้เดินต่อไปทางทิศเหนือ ก็จะเจอหุบเขานรกจิโงคุดานิ หุบเขาสุดงมงามตามธรรมชาติ ที่เป็นแหล่งต้นน้ำของบ่อนำร้อนโนโบริเบทสึ บริเวณหุบเขาแห่งนี้ เคยถูกใช้เป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” อีกด้วย
ช่วงเย็น-ค่ำ : ให้เลือกกลับไปย่านที่เราชอบของซัปโปโรอีกทีได้ เช่น ย่าน Susukino, Odori, Tanuki, หรือ สถานี Sapporo เพราะเชื่อว่าน่าจะยังเดินกันไม่ครบ
วันนี้เราจะไปเที่ยวสกีรีสอร์ทกันบ้าง มาฮอกไกโดทั้งทีก็ต้องได้เห็นวิวลานหิมะแบบเต็มตาๆกันหน่อย ซึ่งฮอกไกโดเองก็มีชื่อเสียงด้านสกีรีสอร์ทมากในระดับโลกด้วย เห็นได้จากตามเมืองสกีต่างๆจะมีชาวต่างชาติมากมายไม่ต่างจากตามชายหาดต่างๆของบ้านเรา สกีรีสอร์ทที่เราจะแนะนำก็คงต้องเป็น คิโรโระ(Kiroro Ski Resort) สกีรีสอร์ทชื่อดังไม่ไกลจากเมืองซัปโปโรที่มีเจ้าของเป็นคนไทย จึงมีครูฝึกชาวไทยอยู่ด้วย อีกทั้งยังดังมาจากการเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ดังเรื่องหนึ่งของ GTH ที่ชื่อว่า “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” ด้วย วิธีการเดินทางไปก็ไม่ยากให้ จากซัปโปโร โดยสารรถไฟ JR สาย Rapid Airport ไปลงที่ JR Otaru Chikko(S13) ใช้เวลา 13 นาที จากสถานีจะมีรถบัสรับส่งฟรีของทางโรงแรม น่าจะใช้เวลาเที่ยวอยู่ที่นี่ได้ซักครึ่งวันสำหรับคนไม่ได้เล่นสกี
ช่วงบ่ายกลับเข้าเมืองซัปโปโร แล้วเดินทางไปชม Sapporo Beer Museum พิพิธภัณฑ์เบียร์ที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น (และเบียร์ก็ขายดีที่สุดในญี่ปุ่นด้วย) ภายในมีประวัติความเป็นมาของเบียร์ยี่ห้อนี้ ขั้นตอนการผลิตเบียร์ และพิเศษสุดคือแจกเบียร์ให้ชิมฟรี ใครที่ชอบแนวนี้ สามารถเดินทางด้วยการนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Odori แล้วต่อรถบัส Loop 88 Factory ก็จะถึงพิพิธภัณฑ์เลย พอตกเย็นเริ่มมืด ก็ให้แวะเที่ยวที่ Sapporo TV Tower หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ของเมืองซัปโปโร ที่มีความสูง 142.7 เมตร เพื่อชมวิวเมืองซัปโปโรในระดับความสูง 90 เมตร และถ้าโชคดีไปเจอช่วงที่มีการจัดเทศกาลอยู่พอดี ก็จะพบความคึกคักจากนักท่องเที่ยวและขบวนแห่ของงาน รวมทั้งเดินเล่นที่สวนสาธารณะด้านล่างของหอคอยนี้ด้วยเลย สามารถเดินทางได้ โดยนั่งรถไปมาลงที่สถานี Odori ทางออกหมายเลข 27 ใช้เวลาเดินต่อ 5 นาที
เมื่อเที่ยวจนครบ ก็ค้างที่ซัปโปโร อีก 1 คืน ก่อนที่จะเตรียมตัวเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้
หากเดินทางกลับในเที่ยวบินรอบบ่าย ก็ขอแนะนำให้แวะไปเดินเล่นฆ่าเวลาที่ Rera Outlet Mall เอาท์เล็ทที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยการนั่ง Shuttle Bus จากสนามบินไป ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 10 นาทีเท่านั้น ก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทยอย่างสวัสดิภาพ
และนี่ก็คือแพลนการเดินทางท่องเที่ยวฮอกไกโด 7 วัน 6 คืนนั่นเอง อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแพลนที่วางไว้คร่าวๆ เท่านั้น โดยคุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ซึ่งก็รับรองเลยว่าการเดินทางไปเที่ยวฮอกไกโดของคุณในครั้งนี้ จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน