ค้นหาคูปองและบทความ

Close
สมัครสมาชิก
季節の画像
季節の画像
季節の画像
季節の画像

🍁 ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นเป็นฤดูใบไม้ร่วง

คูปองคุ้ม แพลนเที่ยวครบ จบในที่เดียว

เว็บไซต์รวมทุกเรื่องเกี่ยวกับเที่ยวญี่ปุ่น ทำให้การเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองของคุณเป็นเรื่องง่าย ได้ที่ Talon Japan

แพลนเที่ยวแนะนำในฤดูใบไม้ร่วง

leafบทความแนะนำ

leafแพลนเที่ยวแนะนำ

Talon Japan ขอแนะนำแผนการเดินทางที่จะทำให้คุณได้สัมผัสเสน่ห์ของญี่ปุ่น!

leafกิจกรรม

leafเคล็ดลับเที่ยวญี่ปุ่น

クーポンคูปองส่วนลด

รายการคูปอง

leafบทความใหม่

กรุณาเข้าสู่ระบบ

หน้าร้อนญี่ปุ่น ทำไมถึงต้องใส่ชุด ยูกาตะ ?

เมื่อพูดถึงฤดูร้อนในญี่ปุ่น ภาพหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายคนคือภาพผู้คนในชุด ยูกาตะ เดินทอดน่องท่ามกลางบรรยากาศของเทศกาลดอกไม้ไฟยามค่ำคืน ไฟประดับที่ส่องแสงระยิบระยับ และเสียงหัวเราะของผู้คนที่ลอยคลอไปกับกลิ่นหอมของขนมญี่ปุ่นจากร้านแผงลอย บรรยากาศเช่นนี้อาจดูเรียบง่าย แต่กลับอบอวลด้วยความอบอุ่นและความเป็นญี่ปุ่นในทุกอณู ชุดยูกาตะ คือหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของฤดูร้อนในญี่ปุ่น ที่ไม่เพียงสร้างเสน่ห์ให้กับผู้สวมใส่ แต่ยังสะท้อนถึงรากวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงวัย ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ทุกคนสามารถใส่ชุดยูกาตะเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของฤดูกาลแห่งการเฉลิมฉลองนี้ได้อย่างเท่าเทียม เบื้องหลังผืนผ้าที่ดูพริ้วไหวและสดใส ยังซ่อนเรื่องราวของความเรียบง่าย ความเคารพต่อธรรมชาติ และการใช้ชีวิตอย่างพอดีในฤดูที่ร้อนอบอ้าว ชุดยูกาตะจึงไม่ได้เป็นเพียงเสื้อผ้า แต่ยังเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณฤดูร้อนของญี่ปุ่น ที่เชื้อเชิญให้เราชะลอจังหวะชีวิต หายใจลึก ๆ และดื่มด่ำไปกับเสน่ห์อันไม่เหมือนใครของฤดูกาลนี้ บทความนี้จะพาไปสำรวจโลกของ “ชุดยูกาตะ” ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา ความแตกต่างจากกิโมโน เหตุผลที่คนญี่ปุ่นนิยมใส่ในหน้าร้อน ไปจนถึงวิธีการใส่ให้ดูดี และการเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตร่วมสมัย เพื่อให้เข้าใจว่า ทำไมผืนผ้าธรรมดาผืนหนึ่ง จึงกลายเป็นหัวใจของฤดูร้อนญี่ปุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ความเป็นมาของชุด ยูกาตะ คำว่า ” ยูกาตะ ” (浴衣) มีรากศัพท์จากภาษาญี่ปุ่นดั้งเดิม โดยมาจากคำว่า “ยุ” (湯) หมายถึงน้ำร้อน หรือการอาบน้ำ และ “คาตะ” (衣) ซึ่งหมายถึงเสื้อผ้า เมื่อรวมกันแล้วหมายถึง “เสื้อผ้าที่ใส่ตอนอาบน้ำ” ซึ่งสื่อถึงจุดประสงค์ดั้งเดิมของยูกาตะในฐานะเสื้อคลุมที่ใช้หลังจากอาบน้ำร้อนในโรงอาบน้ำสาธารณะหรือบ่อออนเซ็นในยุคโบราณ…

    อ่านต่อ

    กรุณาเข้าสู่ระบบ

    ฮอกไกโด ใน ฤดูร้อน เสน่ห์ธรรมชาติที่สดใสเหนือเกาะญี่ปุ่น

    เมื่อพูดถึง ฤดูร้อน ในญี่ปุ่น หลายคนอาจนึกถึงความร้อนอบอ้าว ความชื้นสูง และความวุ่นวายในเมืองใหญ่ แต่ที่ ฮอกไกโด ฤดูร้อนกลับมอบประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยอุณหภูมิที่เย็นสบายแม้ในช่วงกลางวัน ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆปกคลุม และธรรมชาติที่ผลิบานอย่างเต็มที่ ทำให้ฮอกไกโดกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการหลีกหนีจากความร้อน และเปิดรับความสดชื่นจากธรรมชาติ อุณหภูมิในฤดูร้อนของฮอกไกโดอยู่ในช่วงประมาณ 20–26 องศาเซลเซียส ซึ่งเหมาะแก่การทำกิจกรรมกลางแจ้งแบบไม่เหนื่อยล้า ต่างจากภูมิภาคอื่นที่มักร้อนอบอ้าว การได้สูดอากาศบริสุทธิ์และลมเย็นในพื้นที่ธรรมชาติอันกว้างใหญ่ช่วยเพิ่มพลังชีวิต และทำให้การเดินทางเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย นักท่องเที่ยวสามารถเลือกพักในเมืองหลักอย่างซัปโปโร หรือออกไปสำรวจพื้นที่ชนบทที่อุดมสมบูรณ์อย่างบิเอะ ฟุราโนะ หรืออาซาฮิคาวะ ช่วงฤดูร้อนของฮอกไกโดเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ธรรมชาติบนเกาะแห่งนี้งดงามที่สุด ทุ่งหญ้าเขียวขจี ป่าไม้หนาแน่น และดอกไม้หลากสีบานสะพรั่ง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้ง เทศกาลท้องถิ่น และอาหารสดใหม่ที่มีเฉพาะในฤดูนี้เท่านั้น ฮอกไกโดยังเป็นจุดหมายยอดนิยมของช่างภาพและผู้รักธรรมชาติ เพราะแสงในฤดูร้อนของที่นี่นุ่มนวลเหมาะกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ และสีเขียวของภูเขา ดอกไม้ และท้องฟ้าที่สดใส ทำให้การเก็บภาพความประทับใจกลายเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งการเดินทางในช่วงนี้ยังสะดวก ทั้งระบบขนส่งสาธารณะ รถไฟท่องเที่ยว และบริการรถเช่า ที่ช่วยให้นักเดินทางวางแผนได้อย่างอิสระ ทุ่งดอกไม้บานสะพรั่ง: เสน่ห์ ฤดูร้อน ของ ฮอกไกโด หนึ่งในภาพจำที่สวยงามที่สุดของ ฮอกไกโด ใน ฤดูร้อน คือ “ทุ่งดอกไม้หลากสี”…

    • สถานที่ท่องเที่ยว
    • ฮอกไกโด

    อ่านต่อ

    กรุณาเข้าสู่ระบบ

    ทานาบาตะ เทศกาลแห่งคำอธิษฐานและสายลมฤดูร้อนของญี่ปุ่น

    ทานาบาตะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เทศกาลแห่งดวงดาว” (Star Festival) เป็นหนึ่งในเทศกาลญี่ปุ่นที่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายโรแมนติก ความฝัน และความหวัง เทศกาลนี้เป็นการผสมผสานระหว่างตำนานรักของโอริฮิเมะกับฮิโกโบชิ และความเชื่อพื้นบ้านที่สืบทอดมายาวนาน ทำให้กลายเป็นหนึ่งในเทศกาลที่มีเอกลักษณ์และเป็นที่รักของชาวญี่ปุ่นมาโดยตลอด โดยทั่วไป ทานาบาตะมักจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม ขึ้นอยู่กับภูมิภาคของญี่ปุ่น บางพื้นที่ยึดตามปฏิทินจันทรคติ เช่น วันที่ 7 เดือน 7 ขณะที่บางเมืองเลือกจัดในเดือนสิงหาคมเพื่อให้ตรงกับช่วงที่มีอากาศดี เหมาะแก่การชมดาวและการจัดกิจกรรมกลางแจ้ง โดยบรรยากาศของงานมักจะอบอวลไปด้วยความสงบ ความเชื่อ และความงดงามทางสายตาจากการประดับตกแต่งหลากสีสันที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณของเทศกาล ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ ทานาบาตะ เทศกาลทานาบาตะมีต้นกำเนิดจากประเทศจีน โดยมีชื่อเดิมว่า “ฉีซีเจี๋ย” ซึ่งมีความหมายว่า เทศกาลแห่งความรักของคู่รักบนสวรรค์ โดยเป็นตำนานที่เล่าถึงการพบกันปีละครั้งของหญิงทอผ้าโอริฮิเมะและชายเลี้ยงวัวฮิโกโบชิบนทางช้างเผือก เมื่อเทศกาลนี้เข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 8 ได้ถูกนำมาผสมผสานกับแนวคิดแบบชินโต ความเชื่อพื้นบ้านของญี่ปุ่น และอิทธิพลจากศาสนาพุทธ จนกลายมาเป็นเทศกาลที่ไม่เพียงแต่มีความศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยความโรแมนติก จินตนาการ และความหวังที่สะท้อนผ่านสัญลักษณ์ต่าง ๆ ภายในงาน ความพิเศษของทานาบาตะยังอยู่ที่ช่วงเวลาที่จัดขึ้น คือในฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คนในญี่ปุ่นมักออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว และเฉลิมฉลองกับชุมชน เทศกาลนี้จึงเปรียบเสมือนช่วงเวลาแห่งการพักใจ ทบทวนความฝัน และสร้างความทรงจำร่วมกันกับคนรอบข้าง ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ แสงไฟ และสายลมอ่อนที่พัดผ่านใบไผ่ที่แขวนคำอธิษฐานไว้…

    • วากายามะ
    • ไอจิ
    • มิยากิ
    • คานากาวะ
    • โอซาก้า
    • โตเกียว

    อ่านต่อ

    กรุณาเข้าสู่ระบบ

    เทศกาล กระดิ่งลม เสียงแห่งฤดูร้อนที่ไม่ควรพลาดของ ญี่ปุ่น

    เสียง กระดิ่งลม ที่ดังแว่วเบา ๆ ท่ามกลางสายลมในช่วงฤดูร้อน กลายเป็นหนึ่งในเสียงที่สะกดหัวใจของผู้คนที่ได้มีโอกาสสัมผัส เทศกาล ญี่ปุ่น อย่างแท้จริง เสียง “กิ๋ง ๆ” ที่เกิดจากการกระทบกันของโลหะหรือแก้วอันบางเบา กับลมที่พัดผ่านนั้น ไม่เพียงแต่สร้างความรู้สึกเย็นสบายในทางกายเท่านั้น แต่ยังปลุกความรู้สึกสงบลึกในจิตใจ เป็นเสียงที่เหมือนปลอบโยนในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว เติมความรื่นรมย์ในทุกช่วงก้าวของฤดูร้อนญี่ปุ่น เสียงกระดิ่งลมไม่ได้เป็นแค่เครื่องประดับของบ้านหรือวัดวาอาราม แต่คือองค์ประกอบสำคัญของเทศกาลญี่ปุ่นที่แฝงความหมายและเรื่องราวมากมาย ในหลายพื้นที่ กระดิ่งลมถูกแขวนเรียงรายตามทางเดิน ศาลเจ้า หรือวัด ซึ่งไม่เพียงเป็นเครื่องตกแต่ง แต่ยังเปรียบเสมือนเสียงแห่งความหวังและคำอธิษฐานที่ส่งผ่านไปกับสายลม ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงกระดิ่ง ผู้คนจะรู้สึกเชื่อมโยงกับบางสิ่งบางอย่างที่ลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำในวัยเด็ก หรือความรู้สึกผูกพันกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ในเทศกาลญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับฤดูร้อน กระดิ่งลมกลายเป็นศูนย์กลางของบรรยากาศ มีทั้งงานแสดงกระดิ่งลมจากทั่วประเทศ กิจกรรมเขียนคำขอพร และนิทรรศการศิลปะที่เชื่อมโยงกับเสียงและสัญลักษณ์ของกระดิ่ง ภายในบรรยากาศที่ประดับด้วยสีสันของฤดูร้อน ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟไม้ไผ่ การแสดงดนตรีพื้นบ้าน หรือแม้แต่กลิ่นอาหารจากร้านแผงลอย เสียงกระดิ่งลมก็ยังคงโดดเด่น และทำหน้าที่สื่อสารอารมณ์ความรู้สึกได้ลึกซึ้งที่สุด นี่คือมนต์เสน่ห์เฉพาะของ เทศกาล ญี่ปุ่น ที่ไม่มีวันเลือนหายไปตามกาลเวลา ความหมายของ กระดิ่งลม ในเทศกาล ญี่ปุ่น กระดิ่งลมไม่ได้เป็นเพียงของตกแต่งฤดูร้อนที่ให้เสียงกังวานไพเราะเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรม เทศกาล ญี่ปุ่น มาอย่างยาวนาน ทุกครั้งที่เสียงกระดิ่งดังขึ้น…

    • ไซตามะ
    • ฟุกุโอกะ

    อ่านต่อ

    กรุณาเข้าสู่ระบบ

    5 อิซากายะ ระดับพรีเมียมใน โตเกียว พร้อมพิกัดจองสะดวกสุดๆ

    ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอยากสัมผัสวัฒนธรรมการกินดื่มแบบคนท้องถิ่น ลองแวะเข้า “ร้านอิซากายะ” กันดู หลังเลิกงานคนญี่ปุ่นเขาจะชอบมานั่งแฮงก์เอาท์ จิบเครื่องดื่ม ในร้านเหล่านี้กัน เพราะมีบรรยากาศเป็นกันเองกว่าร้านอาหารทั่วไป สนุกเฮฮาได้ อาหารหลากหลาย แถมราคาไม่แพงด้วย แต่บางร้านก็ฮอตมาก คนแน่นตลอด หาก Walk-in เข้าไปเลยก็อาจจะไม่มีที่ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำพิกัดร้านอิซากายะระดับพรีเมียมในโตเกียว พร้อมวิธีจองแบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องรู้ภาษาญี่ปุ่นก็จองได้  อิซากายะ คืออะไร ? ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักร้านอาหารที่เรียกว่าอิซากายะกันสักหน่อย เพราะคนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดคิดว่าอิซากายะคือร้านที่ขายเมนูเสียบไม้ย่าง แต่จริงๆ แล้วคำว่า “อิซากายะ” มาจากอักษร 3 ตัว คือ อิ (居) แปลว่าอยู่, ซะเกะ (酒)  แปลว่าเหล้า และยะ (屋) ที่แปลว่าร้านค้า ร้านอาหารประเภทนี้จึงมีบรรยากาศสบายๆ เป็นที่นิยมของคนที่มาผ่อนคลาย พบปะพูดคุย สังสรรค์กับเพื่อนฝูงหลังเลิกงาน สมัยก่อนจะเป็นแค่แผงขายอาหารเล็กๆ แบบยืนกิน ไม่มีที่นั่ง แต่เมื่อความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลายร้านก็เริ่มปรับตัวให้ลูกค้านั่งทานได้สบายขึ้น และบางแห่งก็พัฒนาไปสู่การเป็นร้านอิซากายะระดับพรีเมียม ที่ทั้งบรรยากาศดีและใส่ใจในคุณภาพอาหารมากขึ้น จุดเด่นคือมีเครื่องดื่มและอาหารให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีทั้งเหล้า, เบียร์, วิสกี้,…

    • โตเกียว

    อ่านต่อ

    กรุณาเข้าสู่ระบบ

    พิกัด 5 ร้านเช่า กิโมโน ยูกาตะ ใน เกียวโต

    กิโมโน เป็นชุดประจำชาติของญี่ปุ่นที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยเฮอัง และยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังหยิบกิโมโนมาใส่ในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น วันบรรลุนิติภาวะ พิธีรับปริญญา งานแต่งงาน งานศพ หรือพิธีกรรมทางศาสนา หนุ่มสาวรุ่นใหม่ก็ยังใส่ยูกาตะไปเดินเที่ยวเทศกาล ชมดอกไม้ไฟ ในหน้าร้อนกัน สำหรับใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอยากใส่กิโมโนถ่ายรูปสวยๆ ได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ก็สามารถเช่ามาสวมกันได้ เพราะที่ญี่ปุ่นมีร้านให้เช่ากิโมโนและยูกาตะเยอะมาก โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง เกียวโต และหลายร้านยังสามารถสื่อสารกับลูกค้าเป็นภาษาอังกฤษได้ด้วย เตรียมปักหมุดพิกัดร้านแล้วไปเช่าชุดมาถ่ายรูปกัน ! กิโมโน VS ยูกาตะ เลือกยังไงให้เข้ากับฤดูกาล สำหรับคนไทย มองเผินๆ เราอาจจะรู้สึกว่า กิโมโน แบบต่างๆ หรือชุดยูกาตะ ก็ดูเหมือนกันไปหมด แต่จริงๆ แล้วคนญี่ปุ่นเขาใส่ใจรายละเอียดพวกนี้มาก และมีการแยกประเภทชุดที่ใส่ในแต่ละฤดูเอาไว้ด้วย เช่น อะวาเสะ (Awase) : ตุลาคม – พฤษภาคม อะวาเสะ เป็นกิโมโนที่นิยมใส่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง – ฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนตุลาคม ไปจนถึงพฤษภาคมของทุกปี เพราะจะมีซับในด้วย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความอบอุ่น ก็ยังช่วยปกป้องกิโมโนไม่ให้เกิดความเสียหาย เวลาเดินก็จะเห็นซับในเล็กน้อย ทำให้ชุดดูมีลูกเล่น น่าสนใจมากขึ้น…

    • เกียวโต

    อ่านต่อ

    ดูบทความทั้งหมด

    กดบันทึกคูปองและบทความไว้เพื่อทำให้การเดินทางไปญี่ปุ่นของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น!

    ถ้ากดบันทึกคูปองหรือบทความที่ชอบเอาไว้ ก็จะสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายจาก "My Page" ในระหว่างการเดินทาง ลองใช้กันดูนะ!

    สมัครสมาชิก

    ロンタ

    บันทึกแล้ว!